ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 867

ตอนที่ 867

เชียนสวนยี่สายตาเต็มไปด้วยความยินดีปรีดา ราวกับว่ารอคอยงานแต่งงานครั้งนี้มานานแล้ว เขาชี้ไปยังผู้คนที่กำลังทำงานวุ่นวายอยู่ แล้วพูดว่า “ถึงแม้ตระกูลเชียนเราแต่งลูกสาว แต่ว่า การจัดงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ก็ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยมากนัก เพียงแค่แก้วแหวนเงินทองที่ใช้เป็นเครื่องประดับ ก็เป็นทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลเชียนเราที่ได้สะสมมาแล้ว

สำหรับเรื่องอื่นๆ เช่นว่าอาหารงานเลี้ยง ผ้าไหมผ้าแพร ดวงไฟประดับ ทั้งหมดทุกอย่างนี้ก็ล้วนแต่ใช้ของราคาแพงที่มาตรฐานสูงทั้งนั้น แม้แต่ผมเองดูแล้วก็ยังรู้สึกเสียดาย นี่มันเป็นเงินก้อนใหญ่โตมากทีเดียวเลยล่ะ”

เฉินเฟิงฟังแล้วยิ่งรู้สึกอยากรู้ เมื่อครู่มองด้วยสายตาผ่านๆไป ไม่ทันได้สังเกต หลังจากที่ได้ฟังการแนะนำของเชียนสวนยี่แล้ว จึงมองไปยังพวกเครื่องประดับตกแต่งภายในงาน ไม่ว่าทั้งดอกไม้ แจกันดอกไม้มูลค่าไม่ใช่น้อยทั้งนั้นเลย

สามารถที่จะทำให้ตระกูลเชียนเห็นความสำคัญเช่นนี้ได้ ฝ่ายชายก็จะต้องเป็นตระกูลใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน อีกทั้งยังต้องคู่ควรกับตระกูลใหญ่อย่างตระกูลเชียนด้วย ในสมองของเฉินเฟิงก็ปรากฏตัวเลือกขึ้นมาหลายตระกูลแล้ว แต่ว่าก็ยังไม่ค่อยแน่ใจนัก

“งั้นคิดว่าทางฝ่ายชายก็คงมีฐานะสูงส่งอย่างแน่นอน เพียงแต่ไม่รู้ว่า…….?” เฉินเฟิงถาม

“ก็เป็นลูกหลานตระกูลสูงศักดิ์จริง พูดขึ้นมาแล้วตระกูลเขากับตระกูลเชียนเราก็มีความสัมพันธ์ติดต่อกันมานานหลายปีแล้ว การแต่งงานครั้งนี้นับได้ว่าเป็นการกระชับความผูกพันให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ถ้าหากคุณท่านเคยไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ก็อาจจะเคยติดต่อกับพวกเขาบ้างก็ได้นะ” เชียนสวนยี่พูด

“หรือว่าจะเป็นตระกูลอู๋แห่งภาคตะวันตกเฉียงใต้” เฉินเฟิงอุทานขึ้นด้วยความตกตะลึงว่า “งั้นก็วิเศษสุดๆไปเลย! ตระกูลอู๋อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลเชียนที่อยู่ฝั่งทะเลทรายนี้เลย เท่าที่ผมรู้มา ไม่กี่ปีนี้เองกิจการตระกูลอู๋ก็เจริญรุ่งเรืองดี อีกทั้งยังมีแนวโน้มคิดที่จะขยายกิจการไปยังทางเมืองหลวงด้วย”

เชียนสวนยี่ยิ้มแล้วพูดว่า “นี่พวกเราก็ไม่ได้ใส่ใจมากหรอก เพียงแต่ว่าลูกชายคนเล็กของหัวหน้าครอบครัวตระกูลอู๋ก็ถึงวัยที่ควรแต่งงานมีครอบครัวได้แล้ว นายท่านของบ้านนี้กับหัวหน้าครอบครัวบ้านตระกูลอู๋ได้พูดคุยเจรจากันแล้ว จึงตกลงให้สองฝ่ายแต่งงานกัน ทั้งสองตระกูลต่างก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ก็มีความรู้สึกว่าในเมื่อทั้งสองตระกูลนี้จัดงานแต่งงานทั้งที งานเลี้ยงนี้จึงไม่ควรจัดแบบเรียบง่ายแล้ว ดังนั้นจึงต้องจัดงานเลี้ยงที่หรูหราอลังการใหญ่โตขนาดนี้ขึ้นมา

ถึงแม้ว่าเห็นแล้วจะเจ็บใจบ้าง แต่ก็เป็นเพียงแค่นี้ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะทำให้คนใต้หล้านี้หัวเราะเยาะว่าพวกเราทั้งสองตระกูลใหญ่นี้ตระหนี่มากเกินไป ก็จะทำให้ผู้คนดูถูกดูแคลนได้”

เฉินเฟิงรู้สึกถอดถอนใจ ยังไงก็ยังคงเป็นบ้านตระกูลใหญ่

จึงหันไปกล่าวคำอวยพรที่เป็นมงคลกับเชียนสวนยี่ และเขาก็ยังมีเรื่องราวอื่นที่จะต้องไปดูแลอีกมากมาย จึงไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนเฉินเฟิง

เฉินเฟิงจึงเดินสำรวจไปรอบๆบริเวณ ขณะที่เดินผ่านห้องรับแขกนั้น นึกไม่ถึงว่าจะได้เห็นเชียนหนิงนั่งอยู่ริมหน้าต่าง เช้าตรู่เช่นนี้ ขวดเหล้าขวดหนึ่งวางอยู่ตรงหน้าเขา อีกทั้งก็ยังดื่มไปแล้วครึ่งขวดแล้วด้วย

เฉินเฟิงคิดดูแล้ว ก็เดินเข้าไปหา เพิ่งจะนั่งลงก็ได้กลิ่นเหล้าที่ฉุนรุนแรง แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเเชียนหนิง ดูท่าทางแล้วเขาคงไม่ใช่ดื่มไปเพียงเค่นี้

“หรือว่ายังคิดไม่ออกว่าจะเอายังไงดีเหรอ?” เฉินเฟิงก็เดินตรงเข้าไปใกล้เชียนหนิง

เชียนหนิงหันหน้าที่เมาสะลึมสะลือมามอง ดวงตาทั้งสองมีแต่ความว่างเปล่า นิ่งเฉยไม่มีแววความมีชีวิตชีวาเลย เขาเพ่งมองไปสองครั้งจึงจำเฉินเฟิงได้ แต่กลับไม่อยากไปสนใจ หันหน้ากลับไปรินเหล้าและดื่มให้กับตัวเองต่อไป

เฉินเฟิงส่งยิ้มให้ ในเมื่อเชียนหนิงไม่ยอมสนใจ เขาก็เตรียมตัวที่จะเดินไปชมดูที่อื่นต่อไป การจัดงานใหญ่โตเช่นนี้เขาก็ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยครั้งนัก

“แกรู้ไหมว่าเจ้าสาววันนี้เป็นใคร?”

เฉินเฟิงฉงนไปสักครู่ “ไม่ใช่เป็นลูกสาวคนเล็กของหัวหน้าครอบครัวเหรอ? แล้วยังไงล่ะ? เกี่ยวข้องอะไรกับแกเหรอ?”

เชียนหนิงส่ายหน้า พูดอย่างมั่นใจว่า “ไม่มี ไม่ได้เกี่ยวข้องกันแม้แต่นิดเดียว ฉันจะไปเกี่ยวข้องอะไรกับเธอได้ยังไงกันล่ะ?”

เขาฟุบศีรษะลงบนโต๊ะ พยายามที่จะส่ายหัว ดูเหมือนว่าความมึนเมาทำให้เขาแม้จะทำท่าทางเช่นนี้ก็ยังลำบาก

เฉินเฟิงหัวเราะแล้วพูดว่า “แต่ว่าฉันดูแล้วนะว่าเหล้านี้ แกก็คงดื่มเพราะว่าเธอแหละ เธอคงไม่ใช่คนสำคัญที่สุดคนนั้นของแกสินะ”

เพิ่งจะพูดจบ ร่างของเชียนหนิงก็เซเข้าไปใกล้ตรงหน้าเฉินเฟิง กลิ่นเหล้าที่รุนแรงทำให้เฉินเฟิงต้องขมวดคิ้ว เขามองดูเชียนหนิงอย่างน่ารังเกียจ แต่ก็แค่ใช้มือปิดจมูกตัวเองไว้ ไม่ได้ผลักไสเชียนหนิงออกไป

“แกก็รู้อีกแล้วนะ!” เขากำลังยิ้มเจื่อนๆ

เฉินเฟิงก็แค่เดาส่งเดช แต่ก็เดาถูกแล้ว เขาถามอย่างประหลาดใจว่า “ฉันได้ยินว่าคนที่เธอแต่งงานด้วยเป็นถึงคุณชายตระกูลอู๋แห่งภาคตะวันตกเฉียงใต้เชียวนะ เป็นที่ไฝฝันของผู้คนจำนวนมากเลยทีเดียวล่ะ คนสำคัญของแกคนนั้น ก็นับว่ามีบุญวาสนาดีจริงเลย”

เชียนหนิงส่ายหน้า เขายังสามารถฟังคำพูดของเฉินเฟิงได้อย่างชัดเจน ก็ไม่รู้ว่าเขาเมาจริงหรือไม่

“ตระกูลอู๋ ตระกูลอู๋เฮงซวย” เขาร้องตะโกนออกมากะทันหัน

ทันใดนั้นก็มีสายตามองมายังพวกเขา แม้แต่เฉินเฟิงก็รู้สึกเคอะเขินไปด้วย แต่ยังดีที่ทุกคนต่างก็รู้จักเชียนหนิง จึงไม่มีใครเดินเข้ามา “ฉันน่าจะอยู่ห่างแกหน่อยจะดีกว่านะ ไม่งั้นถูกไล่ออกจากตระกูลเชียน ฉันก็จะไม่แปลกใจเลย”

ถึงแม้จะพูดเช่นนั้นก็ตาม แต่ว่าเฉินเฟิงก็ยังคงนั่งอยู่ที่นั่นเช่นเดิม

“ฮึ่ม พวกแกมองเห็นแต่ความยิ่งใหญ่ของตระกูลอู๋ มองว่าพวกเขาเป็นตระกูลใหญ่ แต่ว่าเรื่องราวบัดซบสกปรกที่อยู่เบื้องหลัง พวกแกกลับไม่มีใครพูดถึงเลย”

เชียนหนิงยิ้มอย่างเยาะเย้ย แต่ว่ายิ้มไปสักครู่กลับร้องไห้โฮออกมา เด็กหนุ่มอายุเพียงแค่สิบแปดเช่นนี้ก็ต่างจากเด็กน้อยเพียงนิดเดียว เวลาร้องไห้ก็เหมือนกับเด็กน้อยจริงๆ

แต่พอร้องสะอึกสะอื้นได้ไม่กี่วินาที เขาก็เช็ดน้ำตาออกจนแห้ง

“ฉันเห็นแกแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดแทน หรือไม่แกก็พาคนสำคัญคนนั้นของแกหนีไปเลย หนีออกไปจากที่นี่ตลอดไป”

เฉินเฟิงก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ตัวเองไปพูดเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร

แต่พูดออกไปแล้ว เขากลับหวังอยากจะให้เชียนหนิงตอบโต้กลับมา

เชียนหนิงหลับตาแล้วก้มหน้าลง ก็ไม่รู้คิดอะไรอยู่

“ฉันจะพาเธอหนีไป” เชียนหนิงพูดพึมพำ

เฉินเฟิงฟังไม่ชัดเจนว่าเขากำลังพูดอะไรอยู่ จึงถามว่า “แกจะทำอะไรนะ?”

“แกพูดถูกแล้ว ฉันจะต้องพาเธอหนีไป ฉันไม่อยากให้เธอแต่งงานกับคนแซ่อู๋ ไม่อยากให้เธอตกนรกทั้งเป็น ฉันจะไปช่วยเธอ”

คราวนี้เฉินเฟิงได้ยินชัดเจนแล้ว แต่กลับตกใจขวัญกระเจิงไปเลย

งานเลี้ยงวันหมั้นที่ตระกูลเชียนตระกูลอู๋ทั้งสองฝ่ายต่างรอคอยนั้น ถ้าหากเจ้าสาวเกิดหายไปอย่างกะทันหัน ท่ามกลางสายตาแขกเหรื่อที่มาร่วมงามเต็มไปหมด ตระกูลเชียนตระกูลอู๋ที่ยืนรับหน้าอยู่ตรงหน้าเวทีพวกเขาจะจัดการอย่างไร แล้วพวกเขาจะพูดอะไรได้บ้าง

เฉินเฟิงนึกภาพไม่ออกเลย อีกทั้งยังไม่นึกไม่ออกเลยว่าคนทั้งโลกจะหัวเราะเยาะสองตระกูลนี้อย่างไร

“แกอย่าคิดทำเรื่องโง่ๆนะ!” เฉินเฟิงรีบเตือนสติ

เชียนหนิงส่ายหน้า “นี่ไม่ใช่เรื่องโง่ นี่เป็นเรื่องที่ฉันควรจะทำ และเป็นเรื่องที่ฉันจำเป็นต้องทำด้วย”

เขาดูเป็นเหมือนว่าจะสร่างเมาแล้ว แต่ว่าเฉินเฟิงยังหวังลึกๆว่าคำพูดของเขาตอนนี้ก็เพียงพูดเพ้อเจ้อไปเท่านั้น หลังจากนอนหลับตื่นขึ้นมา ก็คงลืมไปหมดแล้ว

“แกชี้ทางสว่างให้ฉัน ฉันจะพาเธอหนีไป”

พูดพลาง เชียนหนิงก็ลุกขึ้นยืน

แต่ว่าเฉินเฟิงลากเขากลับมานั่งที่เดิม แล้วพูดว่า “แกอยากตายก็แล้วไป แต่อยากบอกว่าฉันเป็นคนพูดก็แล้วกัน”

เชียนหนิงก็ยังยืนอยู่เหมือนเดิม แต่ไม่ได้ตอบตกลงกับเฉินเฟิง ก็ดูเหมือนไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน

แต่ว่ายิ่งเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ยิ่งทำให้น่าเป็นห่วงมากขึ้น

เฉินเฟิงรีบตามเข้าไป เขาบอกว่า “ต่อให้แกอยากจะพาคนหนีไป แต่ว่าแกเดินเข้าไปแบบนี้ ก็ทำอะไรไม่ได้หรอก”

เดิมทีเขาคิดที่จะถ่วงเวลาเชียนหนิงไว้ และหวังว่าให้เขาล้มเลิกความตั้งใจนี้ก็ยิ่งดีที่สุด

เชียนหนิงก็หยุดลงมาจริงๆ ยืนอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนว่ากำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรดี

“ที่นี่เป็นบ้านตระกูลเชียน คิดว่าแกคงจะคุ้นเคยมากกว่าฉัน ที่นี่ยังมียอดฝีมือจำนวนมากมาย ส่วนแกจะสามารถรับมือได้สักเท่าไหร่เชียว อีกทั้งแกแค่อยากจะได้เห็นหน้าเจ้าสาว ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายอย่างที่คิดแล้ว” เฉินเฟิงพูดต่อไปอีก

เชียนหนิงดูเหมือนฟังเข้าหูบ้างแล้ว เพียงแต่ว่าในใจของเขาร้อนรนมากเกินไป ไม่ใช่ขาดสติสัมปชัญญะไปเสียหมด

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท