ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 876

ตอนที่ 876

น้ำเสียงที่เย็นชานั้นดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง “หรือว่าพวกเรายังต้องคอยดูแลเขาไปตลอดชีวิต เหรอ คนอย่างเขา ถึงแม้วันนี้ยังไม่เกิดเรื่อง วันหลังเขาก็คงไม่ตายดีอย่างแน่นอน”

เฉินเฟิงได้ยินแล้วก็แปลกใจมาก นี่มันเหมือนกับเป็นการสาปแช่งตัวเขาเลย

เฟิ่งซีพูดว่า “งั้นถ้าพี่ไม่อยากให้เขาอยู่ที่นี้ต่อไป พี่ก็ไปไล่เขาเองแล้วกัน ฉันไม่ไปแล้วนะ”

“ฉันต้องไปแน่ อึม เขาคงตื่นแล้วใช่ไหม? เมื่อกี้ก็พูดคุยกับแกมาแล้วสิ” หญิงสาวคนนั้นทายถูกว่าเฉินเฟิงตื่นขึ้นมาแล้ว

ส่วนเฉินเฟิงรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรจะหลบต่อไปอีก จึงจงใจเดินด้วยฝีเท้าที่เสียงดังขึ้น เดินไปยังห้องของพี่น้องสองสาว แต่เมื่อหันกลับไปมองพวกเธอแล้ว เฉินเฟิงถึงกับอึ้งไปเลย

นั่นเป็นฝาแฝดคู่หนึ่งที่กำลังนั่งบดยาสมุนไพรอยู่ด้วยกัน หากแค่มองหน้าสองคนนี้ แม้แต่เฉินเฟิงก็ยังแยกแยะไม่ออกเลย แต่ว่าเพียงแค่ชั่วครู่ เขาก็เดาออกแล้วว่าคนไหนเป็นพี่สาวคนไหนเป็นน้องสาว

คนนั้นที่สีหน้าดูเหมือนเต็มไปด้วยความหวัง สายตาขี้เล่นเล็กน้อยต้องเป็นเฟิ่งซีแน่นอน ส่วนสำหรับอีกคนหนึ่งที่หน้าตาเย็นชา อีกทั้งยังมองด้วยสายตาที่ดุดันเล็กน้อยคนนั้นน่าจะเป็นพี่สาวของเฟิ่งซี

“เออ คือว่าฉันอยู่ในห้องคนเดียวรู้สึกเซ็งๆ ก็เลยออกมาเดินเล่น?” เฉินเฟิงก็พูดอธิบายด้วยสีหน้าเคอะเขิน

แต่ว่าหญิงสาวที่สีหน้าเย็นชากลับพูดเสียงเข้มว่า “คุณมายืนแอบฟังอยู่ตรงนั้นเหรอ?”

เฉินเฟิงนึกไม่ถึงว่าจะถูกจับได้ ท่าทียิ่งดูแปลกประหลาดมากขึ้น แต่ก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่า “ไม่ใช่! แค่ได้ยินตอนเข้ามาใกล้เพียงไม่กี่คำเท่านั้นเอง”

เฉินเฟิงถูกพี่สาวจ้องหน้าอยู่ สีหน้าเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนเลย ส่วนพี่สาวจับพิรุธไม่ได้จึงเลิกรากันไป

“ถ้าเช่นนั้นก็ดีที่สุดแล้ว ในเมื่อคุณมาแล้ว งั้นฉันก็ขอพูดกับคุณตรงๆเลย” แต่ว่ากำลังพูดอยู่นั้น เธอก็หยุดชะงักชั่วคราว ดูเหมือนว่าจะเห็นเสื้อผ้าที่แปลกประหลาดในตัวของเฉินเฟิงที่ใส่มา แต่ว่าเพียงแค่มองแป๊บเดียวก็ไม่ว่าอะไร จากนั้นก็พูดต่อไปว่า

“บาดแผลในร่างกายของคุณก็ดีขึ้นแล้ว สารพิษที่ตกค้างก็ถูกขับออกไปเรียบร้อยแล้ว คุณก็ควรจะไปได้แล้ว”

พูดกันตรงๆเช่นนี้ ไม่มีความเกรงใจแม้แต่นิดเดียว

เฉินเฟิงมองดูพี่สาว แล้วย้อนกลับไปมองน้องสาวอีกที ดูเหมือนว่าเฟิ่งซีก็จนปัญญา สายตาเธอบอกกับเฉินเฟิงว่า เธอก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว

เฉินเฟิงพูดว่า “ฉันก็ย่อมไม่สะดวกที่จะรบกวนต่อไปอีกเป็นธรรมดา แต่นี่ก็ถือว่าเป็นบุญคุณที่ได้ช่วยชีวิตแล้ว ฉันเป็นคนที่ไม่เคยลืมบุญคุณคนอื่น ขอให้คุณหนูให้โอกาสฉันได้ตอบแทนบ้างเล็กน้อย ไม่เช่นนั้นแล้ว ฉันก็คงไม่สบายใจ”

แต่ว่าพี่สาวก็ยังคงปฏิเสธตรงๆว่า “คุณไม่ต้องมาตอบแทนพวกเราหรอก พวกเราก็ไม่เคยคิดหวังที่จะให้คุณมาตอบแทน คุณก็จากไปได้เลย ต่อไปก็ไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก”

ไร้เยื่อใยขนาดนี้แล้ว เฉินเฟิงยังจะพูดอะไรได้อีก เหลือบมองไปยังเฟิ่งซี แล้วหันไปพูดกับพี่สาวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็ขอลาแล้วกัน สำหรับบุญคุณของทั้งสองท่านที่ได้ช่วยชีวิตไว้ หากมีโอกาส พวกคุณสามารถไปหาฉันได้ที่ยันเจียง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ฉันก็จะตอบแทนอย่างเต็มที่”

เขากำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่ว่าพี่สาวพูดขึ้นกะทันหันว่า “รอเดี๋ยว!”

เฉินเฟิงหันหลังกลับไปมองอย่างสงสัย พี่สาวดูเหมือนกำลังมองสำรวจตัวเขาอย่างละเอียด แล้วพูดว่า “คุณคือเฉินเฟิงเหรอ?”

เฉินเฟิงคิดว่าเธอก็คงเหมือนเฟิ่งซีเช่นนั้น รู้สึกตกใจช็อกเรื่องที่เขาถูกสำนักเทียนซานตามไล่ฆ่า กำลังคิดจะพยักหน้า แต่ว่าพี่สาวกลับพูดว่า “หลินชีงตี้ คุณรู้จักใช่ไหม?”

เฉินเฟิงหยุดชะงัก หลินชีงตี้เขาย่อมต้องรู้จักดี อีกทั้งคนที่รู้จักเขาก็ต้องมีอีกมากมาย เพราะเขาเป็นถึงปรมาจารย์ท่านหนึ่งเลยทีเดียว

เฉินเฟิงพยักหน้าแล้วพูดว่า “เคยคบหาอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงรู้จักกันธรรมดาเท่านั้นเอง”

“งั้นลูกสาวของเขา หลินหวั่นชีวคุณรู้จักด้วยรึเปล่า?”

เฉินเฟิงรู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้น จึงพูดว่า “รู้จักสิ อีกทั้งยังคุ้นเคยกันดีด้วย”

“คุณก็รู้จักน้องหวั่นชีวด้วยเหรอ?” คราวนี้ถึงตาเฟิ่งซีเซอร์ไพรส์บ้างแล้ว

“รู้จักกันจริงๆ หากพูดไปแล้วระหว่างพวกเรา ก็ยังเป็นความสัมพันธ์แบบหนุ่มสาวบ้างเล็กน้อย เพียงแต่ไม่ทราบว่าทั้งสองท่านทำไมถึงรู้จักกับหวั่นชีวด้วยล่ะ หรือว่ามีเรื่องอะไรจะหาเธอหรือเปล่า? ถ้าหากเป็นเช่นนั้นละก็ รอให้ฉันกลับไปยันเจียงก่อน แล้วฉันจะเล่าเรื่องให้หวั่นชีวฟังทั้งหมด”

แต่นึกไม่ถึงพี่สาวจะพูดเยาะเย้ยว่า “สภาพคุณตอนนี้ คุณยังสามารถกลับไปยันเจียงอีกเหรอ?”

เฉินเฟิงรู้สึกเคอะเขิน ถ้าหากปรมาจารย์ทั้งสองท่านของสำนักเทียนซานยังมีชีวิตอยู่ละก็ เขาแทบจะไม่มีทางที่จะกลับไปยันเจียงได้อีกเลย

“มันต้องมีสักวัน ที่จะต้องกลับไปจนได้ เพียงแต่ไม่ใช่ตอนนี้เท่านั้นเอง” เฉินเฟิงพูดอย่างจริงจัง

สีหน้าของพี่สาวก็เริ่มเป็นมิตรขึ้น เฉินเฟิงรู้สึกดูเหมือนว่าสายตาที่เธอมองตัวเองก็ไม่เย็นชาเหมือนตอนแรก เพียงแต่ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจผิดไปเองหรือไม่

พี่สาวก็เริ่มใช้ที่บดยามาบดสมุนไพรพวกนั้น ปากก็พูดอย่างเรียบเฉยว่า “หากพูดตามหลักการแล้ว ในเมื่อคุณก็หายดีแล้ว คุณก็ไม่สมควรที่จะอยู่ต่อไปอีก แต่ว่าพวกเราสนิทสนมกับน้องหวั่นชีว ดังนั้นถ้าหากคุณยังอยากจะอยู่รักษาต่อไปแล้วละก็ ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้หรอกนะ”

เฉินเฟิงก็นึกไม่ถึงว่ายังมีโอกาสที่จะหวนกลับคืนมาได้อีก แม้แต่เฟิ่งซีเองก็ยังแสดงท่าทางดีใจออกมาเหมือนกัน

“แน่นอนฉันก็ย่อมอยากจะอยู่ที่นี่เพื่อรักษาอาการให้ดีขึ้นก่อนแล้วจึงจะจากไป” เฉินเฟิงรีบพูด

แต่พี่สาวก็พูดต่อไปอีกว่า “ในเมื่อคุณคิดจะอยู่ต่อไป งั้นคุณก็ต้องยึดถือปฏิบัติตามกฎกติกามารยาทที่นี่ด้วย”

เฉินเฟิงไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาอะไร ก็พยักหน้าตกลงไป

“ทุกวันต้องตามพวกเราขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพร กลับมาแล้วก็ต้องเอายาไปตาก ยังต้องบดยาด้วย เรื่องพวกนี้คุณจะต้องเป็นคนทำ”

แต่ยังไม่ทันรอให้เฉินเฟิงตกลงเลย เฟิ่งซีก็พูดอย่างปกป้องว่า “พี่ ร่างกายของเขายังไม่ดีขึ้นเลย? พี่จะให้เขาไปทำงานพวกนี้เลยเหรอ?”

เฉินเฟิงกลับพูดว่า “ไม่เป็นไร บาดแผลฉันเกือบจะไม่มีปัญหาแล้ว”

แต่เพิ่งจะพูดจบ เฟิ่งซีก็ทำตาค้อนใส่

เฉินเฟิงก็ได้แต่ทำเป็นมองไม่เห็น ยังดีที่พี่สาวหันหน้าไปมองเฟิ่งซี จึงทำให้เธอต้องรีบแกล้งทำท่าทางบดยาอย่างตั้งอกตั้งใจ

“จิตใจแกเกิดหวั่นไหวขึ้นมาแล้วเหรอไง? ทำไมไปช่วยพูดเข้าข้างเขา ที่สำคัญคือเขายังไม่ยอมรับความหวังดีอีกต่างหาก”

เฟิ่งซีรีบพูดเถียงย้อนว่า “พี่พูดบ้าบออะไร ถ้าพี่ยังขืนพูดอย่างงี้อีก ฉันจะไม่สนใจพี่อีกเลย”

พี่สาวไม่สนใจ เพียงแต่หันไปมองเฉินเฟิงต่อไป

“ในเมื่อคุณรู้สึกไม่มีปัญหาแล้ว งั้นก็พักอยู่ที่นี่ชั่วคราวไปก่อน อีกสองวัน หากคุณหายดีเรียบร้อยแล้วค่อยไปก็ได้”

เฉินเฟิงก็พยักหน้า

ด้วยเหตุนี้เฉินเฟิงจึงได้พักอยู่ที่ลานบ้านอันสงบเงียบแห่งนี้ เขาพักอยู่ห้องทางด้านตะวันตกของสวน ส่วนพี่น้องสองสาวพักอยู่ห้องทางด้านตะวันออก

ที่นี่ถึงแม้ว่าเงียบสงบก็ตาม แต่ห่างจากหมู่บ้านชุมชนก็ไม่ไกลมากนัก อีกทั้งถ้าเดินข้ามไปอีกนิดเดียว ก็ถึงตัวเมืองแล้ว

ปัญหาที่เฉินเฟิงไม่มีเสื้อผ้าใส่นั้น วันรุ่งขึ้นเฟิ่งซีก็ได้ไปตลาดซื้อมาให้เขาแล้วสองชุด

“เป็นยังไงบ้าง พอดีตัวเลยใช่ไหม?”

พอซื้อกลับมา เฟิ่งซีก็รีบที่จะให้เฉินเฟิงลองใส่ดูทันที เป็นเสื้อชุดแขนยาวธรรมดา มีลายการ์ตูนลูกหมูตัวเล็กๆน่าเกลียดน่าชังสีอ่อนๆปักอยู่ ทำให้เฉินเฟิงรู้สึกว่าเฟิ่งซีกำลังแอบด่าเขานั่นเอง

แต่ว่าเสื้อผ้าทั้งชุดก็ใส่พอดีตัวพอดี ราวกับว่าเฟิ่งซีได้วัดตัวเฉินเฟิงไปอย่างดีแล้ว

“ฉันขอเปลี่ยนชุดนึงได้มั๊ย เอาแบบที่เรียบง่ายกว่านี้หน่อย” เฉินเฟิงปรึกษากับเฟิ่งซี

แต่ว่าผลสุดท้ายก็ถูกเฟิ่งซีปฏิเสธไป เป็นเพราะเธอรู้สึกว่าดูดีก็ใช้ได้แล้ว

ใส่ไปได้สองวัน เสื้อผ้าที่เฉินเฟิงไม่ค่อยถูกใจชุดนี้ก็มีเพียงแต่พี่น้องสองสาวตระกูลฉางที่ได้เห็นเท่านั้น เฉินเฟิงเองก็ไม่ติดใจอะไรอีกแล้ว

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท