ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 888

ตอนที่ 888

หลังจากที่เฟิ่งซีดื่มน้ำเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าร่างกายจะไม่ได้ฟื้นสภาพในทันที แต่ริมฝีปากนั้นดูมีน้ำมีนวลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดพร้อมกับมีหยดน้ำที่ติดอยู่ตรงมุมปาก ราวกับหยดน้ำที่กำลังหยดลงมาใบบัวเลยก็ว่าได้

“มองอะไร?”

เฉินเฟิงรีบส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นเฟิ่งซีก็เหมือนจะนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ ใบหน้าของเธอแดงก่ำขึ้นมาก่อนจะมองไปยังเฉินเฟิงด้วยความตะลึง

เฉินเฟิงที่ยังเฉื่อยชา เลยไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทั้งยังเตรียมที่จะสอบถามด้วยความเป็นห่วง แต่กลับพบว่าสายตาของเฟิ่งซีกำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยความโกรธเคือง : “คุณเป็นคนทำงั้นหรอ?”

เฉินเฟิงไม่เข้าใจ จึงมองเฟิ่งซีด้วยความสงสัยพร้อมกล่าวถาม : “อะไร?”

“เสื้อผ้าของฉัน!” เฟิ่งซีอุทาน

เฉินเฟิงรู้ได้ทันทีเลยว่าเธอต้องกำลังเข้าใจผิด จึงรีบอธิบายทันที : “เสื้อผ้าของคุณเปียกหมดแล้ว ถ้าปล่อยให้คุณนอนไปทั้งอย่างนั้นจะต้องเป็นไข้แน่ๆ ดังนั้น ……。”

“คุณออกไปให้พ้นหน้าฉันเลยนะ!”

ยังไม่ทันที่เฉินเฟิงจะอธิบายจบ เฟิ่งซีก็ถลึงตาโตใส่เฉินเฟิงพร้อมกับตะคอกด้วยความโมโหเสียแล้ว

เฉินเฟิงได้เพียงต้องยอมออกมาด้วยความขุ่นมัวเท่านั้น เพราะเดิมทีกลัวว่าเฟิ่งซีจะเข้าใจผิดจริงๆ เขาเลยอยากจะอธิบายให้กับเธอ แต่ดูจากสายตาของเฟิ่งซีแล้ว หากยังรั้งอยู่ต่อเธอคงจะต้องอาละวาดขับไล่เขาออกมาแน่ๆ

เมื่อเดินออกมาจากห้อง เขาก็เดินไปเยี่ยมดูอาการของหลงหลิน ตอนนี้อาการบาดเจ็บของเธอดีขึ้นมาก เพียงแต่ยังไม่สามารถลงจากเตียงเท่านั้น และเพราะว่าตัวเองเป็นหมออยู่แล้วดังนั้นพวกเธอจึงเข้าใจสภาพร่างกายของตัวเองอย่างดี

เมื่อเห็นว่าเฉินเฟิงเดินเข้ามาคนเดียว เธอก็ถามด้วยความแปลกใจทันที: “เฟิ่งซีล่ะ?”

“เมื่อวานนี้เธอฝังเข็มให้กับนายท่านเชียนด้วยตัวเอง เลยเหนื่อยจนเป็นลมไป ” เฉินเฟิงกล่าวอธิบาย

เดิมทีเฉินเฟิงก็คิดว่าหลงหลินจะเป็นกังวลและอาจจะถามอะไรเพิ่มเติม แต่กลับไม่คิดว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วเพียงแค่พยักหน้าเข้าใจเท่านั้น

แล้วเป็นฝ่ายเฉินเฟิงเองที่ต้องถามกลับด้วยความแปลกใจ: “ทำไมคุณถึงไม่เป็นห่วงถามเรื่องของเธอสักหน่อยล่ะ?”

หลงหลินเพียงแต่ตอบกลับอย่างเรียบนิ่ง: “เฟิ่งซีรู้อยู่แล้วว่าตัวเองสามารถทำถึงขั้นนั้นได้ ดังนั้นเรื่องที่เป็นลมไปเธอเองก็คงจะคิดไว้แล้ว เพราะฉะนั้นสำหรับเธอแล้วเรื่องแบบนี้ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง ”

เฉินเฟิงตอบกลับ: “คุณดูเชื่อมั่นในตัวเธอมากเลย”

หลงหลินพยักหน้า: “ฉันเป็นแบบนี้มาตลอดนั่นแหละ”

ทั้งสองมีรูปลักษณ์ที่คล้ายคลึงกันมาก แม้ว่าจะมีนิสัยที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ในแง่ของความรู้สึกของทั้งสองที่มีต่ออีกฝ่ายนั้นกลับมีความเชื่อมั่นและความห่วงใยซึ่งกันและกันอย่างมาก และสิ่งนี้ทำให้เฉินเฟิงอดประทับใจไม่ได้เลย

“พี่ ร่างกายดีขึ้นหรือยัง?”

ในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น เสียงของเฟิ่งซีก็ดังแทรกเข้ามา

ทั้งสองพากันหันไปมองยังประตู ตอนนี้เฟิ่งซีได้เปลี่ยนไปใส่เสื้อคลุมสีเหลืองแอปริคอทพร้อมกับกางเกงขาบาน ซึ่งดูแล้วมีชีวิตชีวามากกว่าเมื่อก่อนหลายเท่าเลยทีเดียว

“คุณไม่เป็นอะไรแล้วหรอ?” เฉินเฟิงถามด้วยความเป็นห่วง

แต่กลับได้รับเพียงสายตาที่ดุร้ายจากเฟิ่งซีกลับมาแทน เฉินเฟิงจึงต้องรีบหุบปากเงียบทันที

หลงหลินพูด: “คิดยังไงถึงได้ใส่ชุดนี้ล่ะ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ค่อยชอบหรอกหรอ ?”

เฟิ่งซีตอบกลับ: “เมื่อวานนี้เสื้อผ้าชุ่มเหงื่อหมดแล้ว และพอดีกับหลายวันมานี้เจอเรื่องมากมายด้วยเลยอยากจะเปลี่ยนอารมณ์บ้างก็เลยใส่ ถ้าหากพี่คิดว่ามันดูดี พี่ก็ลองใส่บ้างสิ ”

เฉินเฟิงที่ฟังอยู่ข้างๆ ก็ลองจินตนาการว่าถ้าหากหลงหลินสวมชุดแบบเดียวกันนี้ขึ้นมาจริงๆ และไปยืนข้างเฟิ่งซี แล้วจะเป็นภาพแบบไหนกัน

แต่หลงหลินกลับส่ายหน้าปฏิเสธ: “ชุดนี้ไม่ค่อยเหมาะกับฉัน ฉันไม่เอาดีกว่า ”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นบนใบหน้าของเฉินเฟิงก็ฉายแววผิดหวังที่ยากจะสังเกตเห็นขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่าจะถูกเฟิ่งซีจับได้ซะงั้น เธอจึงมองเฉินเฟิงด้วยสายตาที่ต่อว่า

จากนั้นพวกเธอสองพี่น้องก็พูดคุยถึงเรื่องการฝังเข็มเมื่อวานนี้ขึ้นมา

“ถ้าเธอตั้งใจฝึกฝนมากกว่านี้เสียหน่อย ก็คงจะไม่ลำบากขนาดนี้ ”

แต่เฟิ่งซีเพียงแค่พยักหน้าด้วยรอยยิ้มเท่านั้น โดยไม่ได้บอกว่าวันข้างหน้าจะพยายามมากกว่านี้ เพราะทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเรื่องของอนาคต

และสองวันจากนั้น หลังจากที่หลงหลินได้พักผ่อนไปหนึ่งวันจึงทำให้ร่างกายค่อยๆ ดีขึ้น เธอจึงไปช่วยเฟิ่งซีทำการฝังเข็มด้วย และเพราะสาเหตุนี้จึงไม่ได้มีเรื่องที่เฟิ่งซีเป็นลมเกิดขึ้นอีก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความเหนื่อยล้าอยู่ดี และในทุกครั้งเฉินเฟิงก็ต้องคอยช่วยประคองเธอถึงจะออกมาได้

ถึงแม้เฟิ่งซีจะไม่ค่อยยินยอมมากนัก แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก เพราะเธอไม่สามารถปล่อยให้หลงหลินหรือคนตระกูลเชียนมาช่วยพยุงเธอ

และดูเหมือนว่าเป็นเพราะเรื่องนี้ จึงทำให้เฟิ่งซีตั้งใจหลบหน้าเฉินเฟิงอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังไม่ยอมพูดคุยกับเขาอีก เวลาที่เฉินเฟิงเป็นฝ่ายเข้าไปพูดคุยกับเธอ เธอก็มักจะมองเฉินเฟิงด้วยสายตาที่โกรธเคือง ทำเอาเฉินเฟิงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

เพียงไม่นานเวลาเจ็ดวันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลงหลินเคยบอกเอาไว้ว่าหลังจากเจ็ดวันแล้วหากนายท่านเชียนยังไม่สามารถฟื้นขึ้นมา แบบนั้นโอกาสของพวกเขาก็จะริบหรี่ทันที แต่ถ้าฟื้นขึ้นมาได้การรับมือหลังจากนั้นก็จะไม่เป็นปัญหาอะไรมาก

ดังนั้นเมื่อวันที่เจ็ดมาถึง คนในตระกูลเชียนต่างพากันอกสั่นขวัญแขวนไปหมด เพราะกลัวว่านายท่านเชียนจะไม่ฟื้นขึ้นมา

วันนี้พวกเขายังคงต้องให้ฝังเข็มดังเดิม แต่ด้านนอกห้องผู้ป่วยกลับมีคนตระกูลเชียนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ทว่าเป็นเพราะพวกเขาเข้าใจกฎระเบียบ พร้อมกับกลัวว่าจะไปรบกวนสองพี่น้องตระกูลฉาง พวกเขาจึงขยับตัวออกห่างจากตรงนั้นมาช่วงระยะหนึ่ง

โดยมีเชียนสวนยี่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด

“ท่านเจ้าบ้าน ถ้าเกิดว่านายท่านไม่ฟื้นขึ้นมาจริงๆ ……。” อยู่ๆ ก็มีใครบางคนพูดขึ้นมาด้วยความกังวล

เชียนสวนยี่ตอบกลับอย่างเย็นชา: “อย่าเพิ่งคิดมาก รอให้ผลสรุปออกมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน พี่น้องตระกูลฉางไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป พวกเธอได้รับการสั่งสอนมาจากท่านปูถูอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเธอนับเป็นหมอยอดฝีมือ พวกเราจะต้องเชื่อมั่นในตัวของพวกเธอ ”

เขาคนนั้นพยักหน้ารับ: “ครับ!”

ถึงแม้ว่าจะพูดออกไปแบบนี้ แต่จะไม่ให้เชียนสวนยี่กังวลใจเลยก็คงไม่ใช่

ช่วงนี้ตระกูลเผชิญกับเหตุการณ์มากมายขนาดนั้น จนทำให้เกิดการแตกแยกภายในตระกูลเชียน ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้รุนแรงอะไร แต่หากนายท่านเชียนตายไปจริงๆ อย่างนั้นรอยร้าวนั้นก็จะยิ่งทวีคูณมากขึ้นไปอีก

และเป็นเพราะความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในช่วงนี้จึงทำให้เขาต้องตามแก้ปัญหาแทบจะไม่รามือเลย

ดังนั้นดีที่สุดคือหวังให้นายท่านเชียนฟื้นขึ้นมา เขาจะได้รู้สึกสบายใจขึ้นมาได้บ้าง

เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ในตระกูลเชียนแล้วเขาเป็นคนที่อยากให้นายท่านเชียนฟื้นคืนสติมากที่สุดเลยก็ว่าได้

และในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ในที่สุดประตูห้องผู้ป่วยก็เปิดออกมาเสียที

เชียนสวนยี่ที่เห็นก็เดินเข้าไปทันที: “ต้องลำบากพวกคุณแล้ว ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง ”

หลงหลินตอบกลับ: “ฟื้นแล้วค่ะ”

ใบหน้าของเชียนสวนยี่ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาทันที นี่ถือเป็นข่าวดีที่สุดที่เขาได้ยินในช่วงหลายวันมานี้เลย

“ขอบคุณสำหรับปาฏิหาริย์ของพวกคุณ พวกเราตระกูลเชียนจะตอบแทนพวกคุณอย่างดีที่สุด”

แต่หลงหลินกลับตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เสียดสี: “พวกคุณไม่ต้องยืนเฝ้าพวกเราอยู่ตรงนี้แล้ว รีบเข้าไปดูเขาเถอะ ”

เมื่อได้ยินคำสั่งของหลงหลิน เขาจึงหยุดกล่าวเยินยอ ก่อนจะรีบพาคนตระกูลเชียนเข้าไปในห้องผู้ป่วยทันที เพียงครู่เดียวภายในห้องก็แออัดไปด้วยคน

ส่วนพวกเขาจะพูดคุยอะไรกันนั้น เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่เฉินเฟิงพวกเขาจะต้องไปสนใจแล้ว

และเหมือนว่าเพราะนายท่านเชียนฟื้นขึ้นมาแล้ว จึงทำให้ตระกูลเชียนยิ่งยุ่งมากขึ้น หลังจากที่ทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้วพวกเขาก็ไม่เห็นมีคนตระกูลเชียนคนไหนมาหาเลยสักคน ยิ่งอย่าพูดถึงการตอบแทนเลย เพราะแม้แต่คำกล่าวขอบคุณยังไม่มีเลย

ตอนนี้เฟิ่งซีกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หินอ่อนบริเวณลานบ้านด้วยสีหน้าที่หดหู่ไม่ค่อยมีความสุขมากนัก เฉินเฟิงที่เห็นจึงคิดว่าเธอคงจะหงุดหงิดใจเพราะเรื่องนี้ ดังนั้นเลยเดินเข้าไปหาเธอ

“คนตระกูลเชียนไม่ได้เรื่องเลยสักคน” เฉินเฟิงสบถคำหยาบออกมา

เฟิ่งซีที่เหมือนจะไม่ได้สังเกตเห็นเขาถึงกับสะดุ้ง

เมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ข้างๆ คือเฉินเฟิง เฟิ่งซีจึงถามออกมาอย่างไม่สบอามรณ์ : “คุณมาได้ยังไง คนโรคจิต ”

เฉินเฟิงที่ถูกด่าอย่างนั้นก็คิดว่าเธอไม่มีเหตุผลเสียเลย จึงได้กล่าวถามไปตามตรง: “ทำไมคุณถึงยังโกรธผมอยู่อีก ผมก็บอกแล้วไงว่าเรื่องวันนั้นผมไม่ได้ตั้งใจ ”

แต่ดูเหมือนว่ายิ่งเฉินเฟิงพูดแบบนี้ เฟิ่งซีก็ยิ่งไม่พอใจมากกว่าเดิม

“คุณบอกว่าคุณไม่ได้ตั้งใจ ใครจะไปเชื่อได้ล่ะ คนต่ำช้า น่ารังเกียจ ” เธอด่าเขาอีกครั้ง

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท