ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 893

ตอนที่ 893

แต่ยังดีที่ว่าผ่านไปสักครู่หนึ่ง เฉินเฟิงก็พบว่าฝ่ายตรงข้ามคงเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งเช่นกัน อย่างน้อยในด้านการควบคุมรถนั้นก็ไม่ได้ด้อยกว่าตัวเองเลย

ดูราวกับเหมือนดาวตกสองดวงกำลังวิ่งพุ่งข้ามขอบฟ้าที่มืดมิดไป เหลือไว้แต่เพียงลำแสงไฟท้ายรถที่วิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถนนสายนี้ไม่มีรถราวิ่งผ่านเลย มีเพียงรถยนต์สองคันที่วิ่งผ่านมาด้วยความเร็วสูงที่บ้าระห่ำ

ความมืดก็กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างไปอย่างรวดเร็ว รถทั้งสองคันก็วิ่งไปยังที่ที่ห่างไกลออกไปมากขึ้น

สี่แยกไฟแดงตรงข้างหน้า ไฟเขียวที่สว่างอยู่จวนจะเริ่มเปลี่ยนเป็นไฟแดงแล้ว ส่วนรถคันนั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดความเร็วลงเลย

แน่นอนว่าในเวลานี้ ไฟแดงก็เป็นเพียงแค่สิ่งประดับชิ้นหนึ่งเท่านั้น ความเร็วรถของเฉินเฟิงก็ย่อมไม่ได้ลดลงไปเช่นกัน

แต่ว่าก่อนที่จะถึงทางแยกนั้น ฝ่ายตรงข้ามถึงกับเหยียบเบรกขึ้นมาอย่างกะทันหัน แล้วรีบหันหน้ารถหักมุม90องศา ยางล้อรถลากเป็นรอยทางยาวไปตามพื้นถนน พร้อมกับเกิดเสียงเสียดสีที่ดังแสบแก้วหูขึ้น จากนั้นก็หักเลี้ยวซ้ายวิ่งเข้าไปตามถนนทางด้านซ้ายอย่างรวดเร็ว

เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นเฉินเฟิงก็รีบตอบโต้ทันที เขาเหยียบเบรกจนมิด ดูเหมือนกับกำลังเรียนแบบรถคันหน้าคันนั้น วิ่งเหยียบซ้ำไปตามรอยเดิมทำให้เกิดรอยลากเป็นทางยาวขึ้นมาเหมือนกัน

เพียงแต่ห่างกันแค่นิดเดียว เฉินเฟิงก็ได้เลี้ยวซ้ายตามเข้าไปทางถนนด้านซ้ายเช่นกัน ไม่ได้ถูกสลัดให้ทิ้งห่างออกไปเลย

แต่ว่าถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม เฉินเฟิงก็ยังรู้สึกตกใจ ฝ่ายตรงข้ามกำลังคิดวางแผนที่จะ สลัดเขาให้ทิ้งห่างออกไป

เฟิ่งซีตกใจหน้าขาวซีดเมื่อเห็นฉากนี้แล้ว หนำซ้ำยังรู้สึกอยากจะอาเจียน ขณะที่กำลังคิดอยู่นั่นเอง เธอก็อาเจียนออกมาแล้ว

ผ่านไปสักพักหนึ่ง เธอจึงเอาศีรษะที่ยื่นออกนอกหน้าต่างกลับเข้ามาในรถ

“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม” ถึงแม้เฉินเฟิงไม่สามารถหันไปมองเฟิ่งซีได้ แต่ก็ได้ยินเสียงดังนั้นจึงถามด้วยความเป็นห่วง

หลังจากอาเจียนเสร็จแล้ว เฟิ่งซีรู้สึกอึดอัดมาก จึงได้แต่พยักหน้าแล้วพูดว่า “ฉันไม่เป็นไร! คุณจะต้องช่วยพี่สาวออกมาให้ได้นะ”

เฉินเฟิงตอบรับว่า “แน่นอน ฉันรับปากกับคุณไว้แล้ว ว่าจะต้องปกป้องพวกคุณสองคนพี่น้อง”

คำพูดนี้เฉินเฟิงพูดมาหลายครั้งแล้ว เฟิ่งซีก็ยิ่งเชื่อใจมากขึ้นว่าเฉินเฟิงสามารถทำได้แน่นอน ฟังแล้วก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น

การขับไล่บี้กันของรถทั้งสองคันนั้นก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง มีการหักเลี้ยวโค้งไปหลายครั้งติดต่อกัน แต่สุดท้ายยังก็ไม่สามารถที่จะสลัดรถของเฉินเฟิงให้ทิ้งห่างออกไปได้ ฝ่ายตรงข้ามดูเหมือนจะรู้แล้วว่าไม่มีทางที่จะทำสำเร็จ จึงเลิกล้มความตั้งใจไป

เกือบจะมาถึงจุดเป้าหมายของฝ่ายตรงข้ามแล้ว หรืออาจจะเป็นเพราะว่าน้ำมันรถหมดถังแล้ว ในที่สุดรถคันที่อยู่ข้างหน้าก็ได้ลดความเร็วลงมา

เฉินเฟิงเดิมทีก็น่าจะลดความเร็วตามไปด้วย แต่ว่าในใจก็ยังไม่ไว้วางใจ ได้แต่รักษาความเร็วไว้แล้ววิ่งตามขึ้นไปเรื่อยๆ

ฝ่ายตรงข้ามกำลังลดความเร็วทั้งหมดลงแล้วจริงๆ ขณะที่เฉินเฟิงกำลังจะแซงหน้าไปนั้น เขาจึงรีบหยุดลงทันที จอดขวางตรงหน้ารถของฝ่ายตรงข้ามพอดี

ด้วยฝีมือการขับที่พลิ้วไหว ทำให้หน้ารถของเฉินเฟิงหันหัวกลับมาเผชิญกับหน้ารถของฝ่ายตรงข้ามอย่างจัง

ในที่สุดท้องฟ้าก็เริ่มทอแสงขึ้นแล้ว แสงแรกยามเช้าพร้อมที่ส่องสว่างขึ้นได้ตลอดเวลา ความมืดมิดก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสลัวและค่อยๆจางหายไป ทิวทัศน์ที่อยู่ห่างไกลออกไปนั้นก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

เมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามเดินลงมาจากรถ เฉินเฟิงให้เฟิ่งซีรออยู่ในรถ แล้วเขาก็เดินออกไป

เพิ่งจะได้สังเกตเห็นรูปร่างหน้าตาของฝ่ายตรงข้าม ด้วยใบหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยม ผิวหน้าขาวมีหนวดเล็กน้อย ความสูงเมื่อเทียบกับเฉินเฟิงแล้วดูเหมือนจะสูงกว่าบ้างเล็กน้อย แต่ที่สำคัญก็คือเฉินเฟิงเคยเห็นหน้าเขาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

เขาก็คือหนึ่งในจำนวนหลายคนที่ชายชราคนนั้นพามาด้วย แต่งตัวอย่างเป็นทางการเหมือนตอนนี้เลย

“ปล่อยหญิงสาวบนรถออกมา” เฉินเฟิงตะโกนด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ไอ้หมอนั่นหัวเราะแล้วพูดว่า “ฝีมือขับรถของแกนี่สุดยอดเลย เป็นคนที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา”

เฉินเฟิงไม่ได้รู้สึกดีใจกับคำชมเชยของเขาเลย เพียงแต่แอบชำเลืองมองไปในรถ ดูเหมือนว่ายังมีไอ้ตัวแสบอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ในรถ คนที่นอนอยู่เบาะหลังก็น่าจะเป็นหลงหลิน

แต่สิ่งที่ได้เห็นตามมา ก็คือท่าเตะขาหน้าที่เฉี่ยวผ่านศีรษะเขาไป

เพราะมัวแต่คิดเรื่องอื่น ทำให้เขาเกือบจะพลาดท่าเสียทีแล้ว ดีที่ด้วยความว่องไวของร่างกายสามารถต้านรับไว้ได้ จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ว่าพลังแรงที่ส่งผ่านมายังมือนั้น ทำให้เขามีความรู้สึกชาไปทั้งแขนทันที

“ไม่ควรที่จะเสียสมาธินะ” ชายรูปร่างกำยำคนนั้นหัวเราะเยาะ

เฉินเฟิงจึงรีบรวบรวมสมาธิ มองไปยังไอ้ตัวแสบนั่น ไม่กล้าที่จะไปสนใจอย่างอื่นอีกแล้ว เพราะว่าพละกำลังของผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าคนนี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเลย

การจู่โจมครั้งต่อไปก็ตามมาอย่างรวดเร็ว ฝ่ายตรงข้ามกระโดดเตะกลางอากาศมาหลายที ด้วยพลังแรงมหาศาล แม้แต่เฉินเฟิงก็ไม่กล้าที่จะไปปะทะต้านแรงโดยตรง ได้แต่ถอยหลังหลบไปตามแรงที่พุ่งเข้ามา

ไอ้หมอนี่ทำไมถึงได้ดุดันเช่นนี้ ขณะที่ใช้พลังแรงมหาศาลออกมาแม้แต่ความเร็วก็ยังไม่ลดลงเลย นี่ไม่เหมือนกับพวกที่ฝึกวิชาการต่อสู้ประเภทสายแข็งเลย

แต่ว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ให้เวลาเฉินเฟิงหยุดคิดแม้แต่นิดเดียว ได้แต่เตะฟาดแข้งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่าจะถนัดแต่ด้านการใช้ท่าเตะ ความเร็วที่ใช้ต่อเนื่องกันนั้นกลับยิ่งเร็วขึ้นจนน่าตกใจ

เฉินเฟิงเริ่มรับมือด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก็ยังคงเฝ้าระวังไว้ได้ ไม่ได้ทำให้ตัวเองเสียเปรียบ

ในที่สุดก็ผ่านไปแล้วกว่าครึ่งชั่วโมง ผู้ชายที่อยู่บนรถคันนั้นก็เดินลงมา แล้วตะโกนให้สองคนนั้นหยุด

เฉินเฟิงกลับรู้สึกว่าแขนทั้งสองข้างไม่เหมือนเป็นของตัวเองแล้ว ถ้าหากยังเป็นเช่นนี้อีกต่อไป เขาอาจจะต้องตัดสินใจใช้วิธีย้อนพลังเพื่อเสริมกำลังแล้ว

แต่ว่าในใจเขายังรู้สึกกังวล นั่นก็คือคนที่นั่งอยู่ในรถนั้นเมื่อเห็นชายร่างใหญ่คนนี้พ่ายแพ้แล้ว เขาจะทำอะไรหลงหลินหรือไม่

อีกทั้งสถานการณ์เช่นนั้นก็ไม่แน่นอน เขาก็กลัวว่าสุดท้ายแล้วอาจจะเป็นการทำร้ายพี่น้องสองสาวก็ได้

ไอ้ตัวแสบที่เดินออกมานั้น หลังจากที่เฉินเฟิงได้เห็นหน้าแล้ว ก็ไม่รู้สึกแปลกใจอะไรมากนัก เมื่อครู่ถูกบังตาไว้จึงมองหน้าเขาไม่ชัด ตอนนี้ได้เห็นหน้าตาท่าทางที่ดูเหมือนชอบเหยียดหยาบผู้อื่นเช่นนี้ ทำให้เฉินเฟิงเห็นแล้วคิดอยากจะตรงเข้าไปตะบันหน้าสักที แล้วเหยียบกระทืบลงไปจนเขาจำหน้าใครไม่ได้อีกเลย

เสียดายที่ว่านี่เป็นเพียงจินตนาการที่เขามโนขึ้นมาเอง

“ท่านปู่ไม่อยากให้ฉันแตะต้องแก แต่ว่าแกกลับไม่รู้จักแยกแยะชั่วดี ดันทุรังวิ่งเข้ามารนหาที่เอง” ชายหนุ่มคนนั้นพูดอย่างเยาะเย้ย

เฉินเฟิงไม่ได้พูดอะไร เขาคอยระวังชายร่างกำยำคนนี้ พลางคิดว่าจะจัดการกับชายหนุ่มคนนี้อย่างไรดี

ขอเพียงแค่จับตัวเขาไว้ได้ เฉินเฟิงเชื่อว่าชายร่างกำยำคนนี้ก็ต้องเชื่อฟังเขาอย่างแน่นอน

แต่เสียดายที่ว่าความคิดเช่นนี้มันง่ายดายเกินไป ชายร่างกำยำก็จ้องมองเขาอย่างไม่ละสายตา แทบจะรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร จึงได้เตรียมตัวล่วงหน้าไว้แล้ว

“ฉันคิดว่าแกจะเก่งกาจมาก แต่ว่าสุดท้ายแล้ว แม้แต่อะสี่ยังสู้ไม่ได้เลย ท่านปู่แก่แล้วจริงๆ ถึงกับเกรงกลัวคนห่วยแตกอย่างแก”

ความตื้นลึกหนาบางของชายชราคนนั้น เฉินเฟิงก็ยังมองไม่ออกเลย อีกทั้งก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วย แต่ว่าลูกน้องของเขานั้น ถ้ามือปืนพวกนั้นฝีมือต่างก็เหมือนกับอะสี่คนนี้แล้วละก็ งั้นชายชราคนนั้นก็ยิ่งดูน่าสะพรึงกลัวมากทีเดียว

“ของที่พวกแกอยากได้เธอก็ไม่รู้เรื่องเลย แกจับเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ ปล่อยเธอไปเถอะ” เฉินเฟิงพูด

แต่ว่าฝ่ายตรงข้ามยิ้มแล้วพูดว่า “จะรู้หรือไม่รู้กันแน่ ก็ย่อมต้องถามให้ละเอียดถ่องแท้เสียก่อนถึงจะรู้ ภายในบ้านนั้นฉันก็ต้องไปค้นหาอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ถ้าหาไม่เจอจริงๆละก็ คงต้องลำบากสาวน้อยสุดสวยคนนี้แล้วแหละ”

เมื่อพูดถึงจะจัดการกับหลงหลินนั้น สีหน้าของไอ้หมอนี่ถึงกับแสดงท่าทางหื่นกามออกมา ในใจเฉินเฟิงก็รู้สึกขยะแขยง กำลังจะบุกเข้าไป แต่กลับถูกอะสี่ขวางไว้อีกครั้งหนึ่ง

ชายหนุ่มคนนั้นมองดูเฉินเฟิง เพียงแต่พูดว่า “แกรู้หรือเปล่า? อะสี่ไม่ชอบผู้หญิง ฉันคิดว่าอีกประเดี๋ยวรอให้แกล้มลงก่อน รับรองว่าจะต้องสนุกกันแน่ อะสี่จะทำให้แกมีความสุข ราวกับขึ้นสวรรค์เลยทีเดียว”

พูดพลางเขาก็หันไปทางอะสี่ “ใช่ไหม อะสี่”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน