ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 890

ตอนที่ 890

แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

ถึงแม้ว่าเชียนสวนยี่จะพูดอย่างนั้น แต่หลงหลินก็ยังคงส่ายหน้ากล่าวปฏิเสธดังเดิม : “สิ่งของเหล่านี้ยังไงก็ยังคงรบกวนให้ เจ้าตระกูลเชียนนำกลับไป อาจารย์เคยสอนพวกเราเอาไว้ว่าเรื่องบางอย่างก็อย่าได้ทำเด็ดขาด ถ้าหากว่าคุณยังยืนยันที่จะให้พวกเรารับของเหล่านี้เอาไว้ เช่นนั้นพวกเราคงจะไม่มีหน้าที่จะไปพบกับอาจารย์ได้อีก และทำได้เพียงขับไล่ตัวเองจากการเป็นศิษย์เท่านั้น ”

“คือ…… ” เมื่อถูกพูดมาถึงขั้นนี้ เชียนสวนยี่ก็หาเหตุผลใดมาหักหลังต่อไม่ได้จริงๆ เพราะเขาไม่มีทางยอมให้หลงหลินต้องขับไล่ตัวเองอยู่แล้ว

แต่หากจะให้เชียนสวนยี่ลองเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง แน่นอนว่าเขานั้นได้เตรียมเหตุผลนั้นไว้แล้วนั่นก็คือเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของตระกูลเชียน เพราะหากมีข่าวลือแพร่สะพัดออกไป สำหรับเรื่องที่ว่าสองพี่น้องตระกูลเชียนจะรับไว้หรือไม่นั้นพวกเขาไม่ใส่ใจมากนัก แต่พวกเขาเพียงแค่สนใจว่าตระกูลเชียนอาจจะถูกตำหนิเพราะของขวัญตอบแทนแค่นี้ยังไม่สามารถมอบให้ผู้มีพระคุณได้

แต่เมื่อเห็นความแน่วแน่ของหลงหลินแล้ว เขาเองก็หมดปัญญาเช่นกัน

จนในท้ายที่สุดจึงทำได้เพียงต้องพาคนเหล่านั้นออกจากที่นี่ไป ทว่าก่อนที่จะจากไปเขาก็ยังคงหันมากล่าวกับทั้งสองด้วยความเกรงใจอีกว่า : “ถึงแม้ว่าทั้งสองจะไม่ยินยอมรับของเหล่านี้เอาไว้ แต่ยังไงผมก็ยังต้องกล่าวขอบคุณทั้งสองเป็นอย่างมากจริงๆ ถ้าหากไม่ได้พวกคุณสองคน คุณพ่อก็คงจะไม่ฟื้นขึ้นมา”

หลงหลินพยักหน้ารับคำขอบคุณ ก่อนจะยืนเฝ้าส่งพวกเชียนสวนยี่ออกจากลานบ้านนี้ไป

เฟิ่งซีเดินไปยังข้างกายหลงหลินแล้วถามด้วยเสียงเบาๆ : “พี่ ในเมื่ออาการป่วยของนายท่านดีขึ้นแล้ว อย่างนั้นพวกเรากลับกันได้แล้วสิ ”

หลงหลินมองไปยังประตูลานบ้านอันว่างเปล่า ก่อนจะครุ่นคิดสักพักแล้วตอบกลับ : “พี่ตั้งใจจะรอสังเกตอาการอีกสักพักก่อน ตอนนี้นายท่านเชียนเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา และพวกเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลังจากนี้จะมีอาการกำเริบด้วยหรือเปล่า ”

“แต่ว่าพี่……” เฟิ่งซีร้อนใจอยากจะทักท้วงหลงหลิน

แต่หลงหลินกลับกล่าวปลอบใจเธอ: “เธอไม่ต้องร้อนใจ ฉันรู้ว่าเธอคิดยังไง ฉันเองก็กังวลว่าคนเหล่านั้นจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของพวกเราเหมือนกัน ดังนั้นหลังจากที่ฉันคิดวิเคราะห์แล้ว ยังไงพวกเราก็รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าก่อน แล้วพวกเราค่อยไปกล่าวลากับเจ้าตระกูลเชียนคนนั้น ”

เมื่อได้ยินการตัดสินใจของหลงหลิงที่จะไปจากที่นี่ เฟิ่งซีก็กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขพร้อมกับเข้าไปกอดร่างหลงหลินเอาไว้แล้วเขย่าตัวเธออย่างไม่ยอมหยุด

“รู้อยู่แล้วว่าพี่ไม่มีทางทนปล่อยให้ฉันต้องคอยอกสั่นขวัญแขวนอยู่ที่นี่แน่นอน พรุ่งนี้พวกเรากลับกันเถอะ กลับไปยังบ้านหลังเล็กๆ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องของตระกูลเชียนอีก จากนั้นก็อยู่ด้วยกันอย่างเงียบๆ และทำในสิ่งที่พวกเราสบายใจดีกว่า”

เมื่อเห็นเธอมีความสุขขึ้นมาจริงๆ เฉินเฟิงก็อดที่จะดีใจแทนเธอด้วยไม่ได้

เมื่อถึงเวลาเช้าตรู่ในวันถัดมา หลงหลินก็พาทั้งสองคนไปกล่าวลา แต่เชียนสวนยี่กลับกล่าวรั้งพวกเขาเอาไว้

“ตอนนี้ร่างกายของคุณพ่อเพิ่งจะกลับมาดีขึ้น ยังไงก็ยังคงต้องการให้ทั้งสองคอยดูแลมากขึ้น หวังว่าพวกคุณจะอยู่ที่นี่ต่ออีกสักสองสามวัน รอให้ร่างกายของคุณพ่อดีขึ้นมากกว่านี้อีกหน่อย ค่อยไปก็ยังไม่สาย ”

หลงหลินตอบกลับ: “อาการป่วยของนายท่านในตอนนี้ได้พ้นช่วงวิกฤตมาแล้ว จากนี้ขอเพียงแค่พักฟื้นและทานยาตามใบสั่งของพวกเราให้ตรงตามเวลา แค่นั้นก็สามารถยับยั้งการกำเริบของพิษหนาวได้แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าพวกเราสองพี่น้องก็ไม่มีความจำเป็นแล้ว ฉะนั้นท่านเจ้าบ้านไม่ต้องกังวลใจ ”

เชียนสวนยี่ได้เพียงยิ้มฝืน: “ผมเข้าใจถึงความคิดที่จะไปจากที่นี่ของพวกคุณ เป็นเพราะว่าตระกูลเชียนไร้ความสามารถถึงได้ปล่อยให้พวกคุณต้องได้รับความหวาดกลัว หากพวกคุณยินยอมที่จะอยู่ต่อ ตระกูลเชียนขอรับรองในความปลอดภัยของพวกคุณได้เลย แต่หากว่าพวกคุณต้องการที่จะไปจริงๆ อย่างนั้นพวกเราก็คงไม่มีหน้าที่จะรั้งพวกคุณเอาไว้และในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ผมจะจัดเตรียมคนส่งพวกคุณกลับไปแล้วกันครับ”

เมื่อเห็นว่าหมดหนทางที่จะเกลี้ยกล่อมได้ เชียนสวนยี่เองก็ยอมตัดใจ เพราะไม่ต้องการที่จะไปสร้างความบาดหมางให้กับสองพี่น้องตระกูลฉาง ดังนั้นน้ำเสียงของเขาจึงมีความสุภาพอย่างมาก

และคนที่ส่งพวกเขากลับไปก็ยังคงเป็นชายคนที่ไปรับพวกเขามาในตอนนั้นตามเดิม เขาเป็นยังคนไม่พูดอะไรมาก พร้อมกับท่าทีนิ่งขรึม ซึ่งตลอดทางเขาเพียงถามแค่สิ่งที่ต้องถามเท่านั้น นอกจากนั้นเขาก็นิ่งเงียบตามเดิม

เนินเขาที่ยังคงเขียวขจี ภายใต้แสงแดดในยามเช้านั้นยิ่งทำให้พวกมันดูมีพลังมากยิ่งขึ้น เพียงแค่ทอดสายตามองออกไปไกลๆ ภายในจิตใจก็เกิดความโล่งอกขึ้นมาไม่น้อย

ตอนที่ไป ไปอย่างไร ในตอนที่ที่กลับมาก็เป็นเช่นนั้น เฉินเฟิงยังคงคอยแบกกล่องยาเดินตามหลังพวกเธอสองคน ในขณะที่ชายจากตระกูลเชียนคนนั้นก็คอยช่วยพวกเขาลากกระเป๋า และเพียงไม่นานพวกเขาก็มองเห็นประตูบ้านที่อยู่ตรงเนินเขา

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะคนจำนวนหนึ่งมายืนอยู่บริเวณหน้าประตู และในตอนที่พวกเฉินเฟิงเดินเข้าไป คนเหล่านั้นต่างพากันเหลียวหันมามองพวกเขา

ซึ่งพวกเขาเจ็ดแปดคนล้วนเป็นผู้ชายหมดเลย นอกจากมีชายหลังค่อมที่เป็นชายชราแล้ว คนอื่นๆ ดูอายุยังน้อยกันหมดเลย โดยพวกเขายืนเรียงกันอยู่ข้างๆ ชายชราคนนั้น และในขณะที่คนอื่นๆ ต่างสวมชุดสีดำกันหมด กลับมีชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะมีอายุน้อยที่สุดในนั้นสวมเสื้อเชิ้ตลำลองและกางเกงยีนแฟชั่น

แต่การแต่งตัวของคนเหล่านั้นถือว่ายังธรรมดาและสามารถพบเห็นได้ทั่วไป ทว่าชายชรากลับเป็นคนเดียวที่สวมใส่ชุดฉางเผาสีเหลืองซีดสุดหลวมพร้อมคาดด้วยสายรัดเอว และเกล้าผมมวยไว้กลางหัวปักด้วยปิ่นปักผม ดูแล้วให้ความรู้สึกเหมือนนักพรตโบราณอะไรอย่างนั้น

โดยตอนนี้ชายชรากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ และคนกลุ่มนี้ดูเหมือนว่าตั้งใจมาเฝ้ารอสองพี่น้องตระกูลฉางโดยเฉพาะเลย

ทางด้านเฉินเฟิงเริ่มมีความกังวลขึ้นมา แต่ก็มองไม่เห็นความประสงค์ร้ายใดๆ จากอีกฝ่ายเลย ดังนั้นจึงได้เพียงซุ่มดูอยู่ด้านหลัง คอยรอดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกที

แต่เพียงเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เมื่อเห็นว่าสองพี่น้องตระกูลฉางกลับมา ชายชราก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ ทั้งที่คนอื่นๆ ในกลุ่มต่างทำหน้าเคร่งครึม แต่ชายสวมเสื้อเชิ้ตเขาคนนั้นกลับทำเป็นไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

“ขอโทษนะครับ พวกคุณใช่ลูกศิษย์สองคนนั้นของท่านปูถูหรือเปล่า?”

ชายชราที่แม้จะลุกขึ้นยืน แต่ร่างกายของเขากลับไม่ได้มีเรี่ยวแรงมากนัก และด้วยความที่เขาหลังค่อมจึงทำให้ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าเขาได้ชัดเจนมากนัก เขาเดินมายังด้านหน้าสุดของคนกลุ่มนั้นแล้วกล่าวถามกับพี่น้องตระกูลฉาง

หลงหลินเดินหน้าเข้าไปพร้อมตอบกลับ: “ที่นี่เป็นที่พักอาศัยของอาจารย์ก็จริงอยู่ค่ะ แต่ว่าอาจารย์ของเราได้จากไปได้สองปีกว่าแล้ว ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายท่านนี้มาที่นี่ด้วยเหตุอะไรคะ ?”

เมื่อได้ยินว่าท่านปูถูเสียชีวิตไปแล้ว ร่างกายของชายชราก็สั่นสะท้านไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน จากนั้นเขาจึงตอบกลับด้วยความเสียดาย : “เป็นถึงหมอยอดฝีมือ แต่กลับจากไปเสียแล้ว ช่างน่าเสียดายจริงๆ ”

แล้วชายไม่กี่คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็แสดงสีหน้าที่หดหู่ไม่ต่างกัน

หลงหลินกล่าวปลอบ: “นายท่านโปรดอย่าได้เศร้าใจเลยค่ะ ในตอนที่อาจารย์จากไปนั้นไม่ได้ทุกข์ทรมานอะไร นับว่าเป็นการจากไปอย่างสงบ ที่นายท่านมาถึงที่นี่เพราะมาร้องขอการรักษาหรอคะ ?”

ชายชราเก็บอาการโศกเศร้าลงไป พร้อมตอบกลับหลงหลินอีกครั้ง : “เข้าใจผิดแล้วหล่ะ ตัวผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อขอการรักษา แต่มาเพื่อตามหาของชิ้นหนึ่ง ของชิ้นหนึ่งซึ่งมีความล้ำค่ามากๆ ”

ตอนนี้หลงหลินประหลาดใจอย่างมาก คงเป็นเพราะว่าท่านปูถูไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเธอมาก่อน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่สามารถไปปฏิเสธอีกฝ่ายเพราะเหตุผลนี้ จึงได้เพียงแค่ตอบกลับไป: “ เรื่องนี้ อาจารย์ไม่เคยได้บอกกับฉันเอาไว้ แต่นั่นคงเป็นเพราะความชราภาพจึงทำให้หลงลืมไป เอาเป็นว่านายท่านเข้าไปด้านในก่อนแล้วค่อยพูดคุยรายละเอียดกันดีกว่าค่ะ ถ้าหากว่ามีของอย่างว่าจริงๆ พวกเราเต็มใจที่จะคืนให้คุณแน่นอน ”

ชายชราพยักหน้า: “อย่างนั้นก็ได้ ต้องรบกวนแล้ว”

หลงหลินเปิดประตูลานบ้านออก แต่คนกลุ่มนั้นกลับเหมือนจะไม่เข้ามาด้านใน มีก็เพียงแค่ชายชราและเด็กหนุ่มคนนั้นที่เดินตามหลังไปเท่านั้น

เฉินเฟิงที่เดินผ่านพวกเขาก็แอบสังเกตรูปร่างของพวกเขา ซึ่งดูแล้วแต่ละคนน่าจะผ่านการฝึกฝนวิชาการต่อสู้มาหมดแล้ว และเมื่อวิเคราะห์ดูแล้วพวกเขาคงจะเป็นบอดี้การ์ดของตาหลานสองคนนั้น

แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่เดินถือของตามหลังเข้าไป

เมื่อนำกระเป๋าสัมภาระของพวกเขามาวางไว้หน้าประตูหมดแล้ว เฉินเฟิงจึงให้ชายจากตระกูลเชียนคนนั้นกลับไป ในขณะที่สองตาหลานถูกพาเข้าไปในห้องโถงใหญ่แล้ว

โดยที่หลงหลินคอยอยู่กับทั้งสอง ส่วนเฟิ่งซีน่าจะไปช่วยต้มชาให้กับพวกเขาสองคนที่เป็นแขก

ตอนนี้ไม่มีน้ำร้อน ฉะนั้นจะต้มชาคงต้องใช้เวลาสักระยะ ทางด้านเฉินเฟิงนั้นเดินมายังห้องโถงเพื่อฟังบทสนทนาของพวกเขาอย่างระมัดระวัง

ซึ่งในตอนที่เดินเข้าไปเฉินเฟิงก็สังเกตเห็นสายตาของชายชราที่มองมายังเขาเหมือนจะสนใจแต่ก็ไม่ได้สนใจอย่างนั้น จึงทำให้เฉินเฟิงเริ่มรู้สึกสงสัยขึ้นมา

และในช่วงแรกเริ่มชายชราเพียงแค่กล่าวคำทักทายเล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่จะเล่าถึงความชิดเชื้อของตนและท่านปูถู พร้อมกับย้อนอดีตอีกครั้ง

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท