ลูกเขยมังกร – บทที่ 905 มีคนต้องการจัดการฉัน

บทที่ 905 มีคนต้องการจัดการฉัน

ส่วนตอนนี้เขาก็ต้องการที่จะทำความรู้จักกับผู้หญิงที่จะมาดูแลเขาในอนาคตสักนิดก่อน

เฉินเฟิงก็ได้พบเสี่ยวเย่ในห้องครัว เธอกำลังนั่งยองๆอยู่ที่นั่นจัดเตรียมเสบียงที่จะทำอาหารมื้อเย็น

ดูเหมือนไม่ได้สังเกตเห็นเฉินเฟิงเข้ามา ดังนั้นเมื่อเฉินเฟิงเรียกเธอ เธอก็สะดุ้งตกใจบ้างเล็กน้อย

“คุณก็คือเสี่ยวเย่!” เฉินเฟิงตะโกนพูด

เสี่ยวเย่ตั้งสติกลับมาได้ เมื่อเห็นว่าเป็นเฉินเฟิง จึงค่อยๆตบหน้าอกตัวเองเบาๆตรงหัวใจที่เต้นแรงผิดปกติ

“อึม คุณเรียกฉันว่าเสี่ยวเย่ก็ได้ค่ะ แต่ว่าคุณชายไป๋ไม่ได้บอกฉันให้เรียกคุณว่าอะไร” เสี่ยวเย่พูด

เฉินเฟิงพูดอย่างเป็นกันเองว่า “คุณก็เรียกฉันว่าเฉินเฟิงก็ได้นะ”

ดูเหมือนเสี่ยวเย่ยอมรับไม่ได้ “นี่คงไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง คุณเป็นคนร่ำรวยขนาดนี้ ฉันเรียกชื่อคุณโดยตรงเลย คุณจะไม่รู้สึกหรือว่าฉันไม่นับถือคุณน่ะ ฉันดูเหมือนได้ยินไอ้หนุ่มคนนั้นเรียกคุณว่าคุณชายเฉิน ถ้างั้นฉันก็เรียกคุณว่าคุณชายเฉินก็แล้วกันค่ะ”

เฉินเฟิงมองไปยังเสี่ยวเย่ด้วยความจนใจเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นท่าทีของเสี่ยวเย่แล้ว ดูเหมือนจะไม่มีทางที่จะทำให้เธอเรียกเขาว่าเฉินเฟิงได้อย่างแน่นอน

จึงได้แต่พูดว่า “งั้นก็แล้วแต่คุณแล้วกัน คุณอยากจะเรียกอะไรก็เรียกอย่างนั้นแหละ”

เสี่ยวเย่จึงยิ้มแล้วพูดว่า “คุณชายเฉิน ฉันจะทำงานให้ดีที่สุด คุณชายไป๋ให้เงินฉันมากเลย คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”

หน้าตาเสี่ยวเย่ก็นับว่าดูสะสวยดี แต่ขาดการแต่งหน้าทาปากไปหน่อย ดูไปแล้วก็ให้ความรู้สึกเหมือนแค่เป็นเด็กสาวข้างบ้านที่ให้ความกันเองเท่านั้น

เฉินเฟิงจึงนึกสนุกขึ้นมาทันทีแล้วถามอย่างทะเล้นว่า “ถ้าให้คุณทำเรื่องบางอย่างที่ต้องฝืนใจตัวเองล่ะ?”

เสี่ยวเย่ก็งงไปสักครู่ ดูเหมือนว่ายังนึกไม่ออกว่าจะมีเรื่องอะไรที่เธอจะต้องฝืดใจทำบ้าง “คุณชายเฉินคะ คุณวางใจเถอะ ไม่มีอะไรที่ฉันทำไม่ได้หรอก ฉันก็รับประกันกับคุณชายไป๋แล้วไง”

เฉินเฟิงก็ไม่รู้แล้วว่าเด็กสาวคนนี้ใสซื่อบริสุทธิ์จริง หรือว่าแกล้งทำกันแน่ แต่ก็หมดสนุกไปเสียแล้วล่ะ

จึงได้แต่พูดว่า “งั้นคุณก็ขยันหน่อยแล้วกัน ถ้าหากทำได้ไม่เลวละก็ ฉันก็จะเพิ่มเงินให้คุณอีก”

เมื่อได้ยินว่าจะเพิ่มเงินให้ เสี่ยวเย่ก็พูดด้วยความดีใจว่า “จริงเหรอคะ คุณชายเฉิน งั้นฉันก็จะต้องขยันให้มากเลยล่ะ”

เฉินเฟิงรู้สึกไม่สนุกกับเด็กสาวแล้ว ก็เตรียมตัวเดินจากไป แต่เมื่อนึกถึงสาวสวยคนนั้นขึ้นมา จึงหันหน้าไปถามอีกว่า “เสี่ยวเย่ คุณอยู่ที่นี่เคยเห็นคนอื่นอีกหรือเปล่า?”

เสี่ยวเย่มองดูเขาอย่างแปลกใจ แล้วพูดว่า “ไม่มีเลย! คุณชายเฉิน คุณหมายความว่าอะไร หรือว่าที่นี่มีของอะไรอย่างอื่นอยู่อีกหรือ?”

เสี่ยวเย่ดูเหมือนตกใจอะไรบางอย่างขึ้นมาทันที มองไปยังเฉินเฟิงด้วยความหวาดกลัว “คุณชายเฉิน คุณอย่ามาหลอกฉันนะ ฉันยิ่งกลัวของพวกนั้นอยู่ด้วย ที่นี่ก็เป็นที่ที่รกร้างว่างเปล่าอย่างนี้ หรือจะมีพวกภูตผีปีศาจอะไรอยู่ด้วย!”

เฉินเฟิงรู้สึกขำที่เห็นท่าทางของเสี่ยวเย่อ เขาก็คิดไม่ถึงเลยว่าเด็กสาวคนนี้จะใสซื่อบริสุทธิ์ได้ถึงเพียงนี้

จึงรีบพูดปลอบโยนว่า “ไม่ใช่ ไม่มีของพวกนั้นหรอก ฉันเพียงแต่อยากถามให้แน่ใจว่าที่นี่มีแค่พวกเราสองคนเท่านั้นใช่หรือเปล่า”

หลังจากเดินจากไปแล้ว เฉินเฟิงกลับรู้สึกว่าผู้หญิงคนที่ได้พบเห็นนั้นดูไม่เหมือนเป็นเรื่องโกหกแน่ อีกทั้งเขายังได้ยินเสียงปิดประตู มันก็ชัดเจนขนาดนั้น

ในเมื่อทั้งสองคนนั้นบอกว่าไม่มีคนอื่นอีกแล้ว ถ้าเช่นนั้นเฉินเฟิงก็ได้แต่ไปค้นหาด้วยตัวเองต่อไป

แต่ว่าเดินพลิกแผ่นดินหาไปทั่วแล้ว เฉินเฟิงก็ยังไม่พบร่องรอยอะไรของผู้หญิงคนนั้นเลย ราวกับว่าทุกสิ่งที่ดูเหมือนจริงนั้นมันเป็นเพียงแค่ความเพ้อฝันในจินตนาการของเขาเท่านั้นเอง

ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว เฉินเฟิงจึงได้แต่ปล่อยวางไปอย่างหมดหนทาง

พักอยู่ที่นี่ได้สองวันแล้ว ทุกวันก็ได้แต่เดินเล่นอยู่รอบบริเวณนั้น ทุกครั้งที่พูดคุยกับเสี่ยวเย่นั้น เธอก็มักจะตามไม่ค่อยจะทัน

แต่ก็รู้ว่าเด็กสาวคนนี้เป็นลูกสาวของชาวบ้านครอบครัวหนึ่งที่อยู่ตรงเชิงเขา ไป๋ซิงได้มาพบเจอแล้วถูกใจ ถึงได้จ้างเธอในราคาที่สูงมากเพื่อจะให้มาช่วยดูแลเฉินเฟิงโดยเฉพาะ

เด็กสาวก็รู้สึกว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร จึงได้ตกลงตามขึ้นมา

ก็ยังโชคดีที่ได้มาเจอกับเฉินเฟิง ไม่เช่นนั้นละก็ ชายหญิงอยู่กันตามลำพังสองต่อสองในสถานที่เช่นนี้ แล้วยังมีเรื่องอะไรที่ไม่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกบ้างล่ะ

แต่ว่าสุดท้ายแล้วเฉินเฟิงก็พบว่า เสี่ยวเย่ใสซื่อบริสุทธิ์จริงๆ แค่คำพูดหยอกล้อที่แฝงมุกทะลึ่งเล็กน้อยพวกนั้น เธอก็ยังยืนฟังแล้วงงเป็นไก่ตาแตก ถ้าหากจะไปเล่าเรื่องตลกลามกให้ฟังละก็ เฉินเฟิงก็รู้สึกว่าตัวเองจะลามกเกินไป ไม่ค่อยเหมาะสมที่จะไปพูดกับเด็กสาวที่ใสซื่อเช่นนี้

เมื่อถึงวันที่สามแล้ว ชายร่างใหญ่ก็ขึ้นมาบนเขาอีกครั้ง

แต่ว่าคราวนี้ สีหน้าของเขาดูเหมือนจะไม่ค่อยสู้ดีนัก

เฉินเฟิงถามว่า “แกเป็นอะไรไปเนี่ย? ดูหน้านิ่วคิ้วขมวดไปหมด”

ชายร่างใหญ่เดิมทีก็ไม่อยากจะพูด แต่เมื่อคิดดูแล้วก็พูดว่า “คุณชายเฉิน คนตระกูลไป๋มีคนรู้ว่าคุณชายไป๋มาติดต่อกับคุณอยู่”

เฉินเฟิงก็ฉงนไปสักครู่ เขาไม่รู้สึกว่านี่จะเป็นปัญหาอะไรเลย

เขาถามอย่างแปลกใจว่า “หรือว่าตระกูลไป๋ไม่พอใจอะไรฉันเหรอ?”

ชายร่างใหญ่อธิบายว่า “มีคนมาหาที่บ้านตระกูลไป๋ ดูเหมือนว่าอยากจะร่วมมือกับตระกูลไป๋มาจัดการกับคุณ คนในบ้านตระกูลนี้บางคนก็เห็นด้วย แต่ก็ยังมีบางคนที่เขาคัดค้านอยู่ ดังนั้นตอนนี้พวกเขากำลังถกเถียงกันยังหาข้อยุติไม่ได้เลย”

เฉินเฟิงก็ยังมีข้อสงสัยอยู่บ้าง “มีคนต้องการจะจัดการฉัน แล้วยังร่วมมือกับตระกูลไป๋อีกด้วย ดูเหมือนในเขตทะเลทรายนี้ฉันก็ไม่ได้ลงทุนทำธุรกิจอะไรไว้เลยนะ?”

ชายร่างใหญ่พูดว่า “แผนการของพวกเขาก็คือมุ่งเป้าไปยังธุรกิจของท่านที่ยันเจียงต่างหาก”

เฉินเฟิงก็มองเขาด้วยความสงสัยแล้วพูดว่า “แกแน่ใจเหรอ?”

แต่ชายร่างใหญ่ก็ไม่สามารถจะยืนยันชัดเจนได้ “เท่าที่ฉันรู้มาก็ไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก เพียงแต่อยากจะแจ้งข่าวให้คุณชายเฉินรู้ตัวไว้ก่อน หวังว่าคุณชายเฉินจะได้เตรียมตัวรับมือไว้ให้ดี”

เฉินเฟิงก็ได้แต่ถือว่าเขาก็แค่มาแจ้งเตือนตัวเองเท่านั้น

เมื่อคิดดูแล้ว เฉินเฟิงจึงตัดสินใจโทรศัพท์กลับไปที่ยันเจียง

“ฮัลโหล โพ่จุนเหรอ? นี่ฉันเองนะ”

สือโพ่จุนนั้นยังไงก็นึกไม่ถึงว่าเฉินเฟิงจะโทรศัพท์กลับมาหาเขาได้ ดังนั้นจึงถามอย่างเป็นห่วงมากว่า “คุณชายเฉิน ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนแล้วล่ะ ทำไมคุณตั้งนานไม่ส่งข่าวคราวกลับมาเลย พวกเราทางนี้ก็เป็นห่วงแทบแย่อยู่แล้ว”

เฉินเฟิงก็ไม่อยากจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้เขาฟังอย่างละเอียดได้ แต่ก็ฝืนพูดไปว่า “ไม่เป็นไร ฉันก็แค่ออกมาสำรวจดูรอบๆเท่านั้นเอง เดี๋ยวสักพักหนึ่งฉันก็จะกลับไปเอง พวกแกไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”

แต่ว่าสือโพ่จุนก็ยังไม่วางใจเท่าไหร่นัก เฉินเฟิงจึงพูดปลอบโยนไปอีก จนในที่สุดเขาจึงล้มเลิกความคิดที่จะตามมาถึงที่นี่ด้วย

จากนั้น เฉินเฟิงก็ถามว่า “ยันเจียงทางนั้นมีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”

สือโพ่จุนพูดว่า “ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นปกติดี ก็มีเพียงแต่พวกพนักงานปลายแถว บางคนของบริษัทที่รวมตัวก่อม็อบเล็กๆขึ้นเท่านั้น ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”

หลังจากที่ได้ฟังแล้ว เฉินเฟิงค่อยสบายใจขึ้นบ้างแล้ว แต่ว่าก็ยังแจ้งเตือนไปว่า “อาจจะมี พวกตระกูลใหญ่ทางทะเลทรายแถวนี้จะเข้ามาบุกถล่มยันเจียง แกก็เตรียมตัวรับมือไว้ให้ดีก็แล้วกัน ถึงแม้รากฐานธุรกิจของพวกเราที่ยันเจียงมั่นคงมากก็จริงอยู่ แต่ว่าก็ยังต้องระวังสถานการณ์ที่อาจเกิดพลิกผันขึ้นได้ตลอดเวลา”

สือโพ่จุนจึงได้ตกปากรับคำ

หลังจากวางสายไปแล้ว เฉินเฟิงก็วางใจได้อย่างไร้กังวลแล้ว สำหรับเรื่องราวที่ชายร่างใหญ่คนนั้นพูดว่าตระกูลไป๋ต้องการจะจัดการกับเขานั้น ก็ไม่เอามาใส่ใจอีกแล้ว

ความจริงแล้วเรื่องที่เขาเป็นห่วงที่สุดก็ยังเป็นเรื่องจริงที่เหมือนฝันนั้นมากกว่า

หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ในที่สุดไป๋ซิงก็ขึ้นมาบนเขา

ก็เหมือนครั้งแรกที่ได้เห็นเขา หนวดที่หนาเข้มทำให้คนรู้สึกอยากจะไปลูบไล้สักครั้ง แต่ว่าสีหน้าเขากลับดูเหมือนอิดโรยไปบ้างเล็กน้อย

นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่นั้น เฉินเฟิงก็ยื่นน้ำแก้วหนึ่งให้กับไป๋ซิง เขาพูดว่า “เรื่องคราวที่แล้วฉันจะจำใส่ใจไว้ ถ้าแกคิดว่ามีเรื่องอะไรที่ต้องการให้ฉันช่วยเหลือก็บอกมาตามตรงได้เลย”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน