ลูกเขยมังกร – บทที่ 906 นักธุรกิจคนหนึ่ง

บทที่ 906 นักธุรกิจคนหนึ่ง

ไป๋ซิงรับแก้วน้ำจากมือของเขามา แต่กลับถือไว้ในมือ

เขาก้มศีรษะลงอยู่ที่นั่น ดูเหมือนว่าเกิดปัญหาเรื่องราวที่กลุ้มใจมากเป็นพิเศษ เฉินเฟิงก็นั่งลงไปข้างตัวเขา แล้วถามว่า “สีหน้าท่าทางแกทำไมเป็นอย่างงี้ล่ะ หรือว่าพวกแกแต่ละคนมาที่นี่ก็เอาแต่ทำสีหน้าให้ฉันดูทุกคนเลยเหรอ?”

เมื่อได้ยินที่ฉันพูดเช่นนั้นแล้ว ไป๋ซิงก็ค่อยๆปรับสีหน้าท่าทางของตัวเอง เขาพูดว่า “ที่จริงก็มีเรื่องกลุ้มใจบ้างนิดหน่อย แต่ก็คิดว่าไม่ได้มาเยี่ยมแกนานแล้ว ก็เลยรู้สึกว่ามาถามไถ่อาการของแกดีกว่า”

เฉินเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า “แกเป็นห่วงฉันขนาดนี้ รู้สึกว่าแกเหมือนถูกบีบบังคับยังไงไม่รู้ ไม่ได้มาด้วยความเต็มใจเลย”

ไป๋ซิงก็ฝืนหัวเราะขึ้นมา “ถ้าแกคิดอย่างที่พูดจริงละก็ งั้นก็ไม่มาเสียดีกว่า ประเดี๋ยวจะทำให้แกเข้าใจความหมายของฉันผิดไป กลับจะทำให้แกเกลียดชังฉันอีก”

เฉินเฟิงดื่มน้ำไปหนึ่งคำ แล้วพูดว่า “พูดมาเลยว่าแกมีเรื่องอะไรกันแน่ ดูจากท่าทางแกแล้วฉันก็รู้ว่าแกจะต้องมีอะไรมาขอร้องฉันแน่นอน”

ส่วนเฉินเฟิงก็เอ่ยปากพูดถึงขนาดนี้แล้ว ไป๋ซิงก็ไม่มีอะไรที่จะต้องลังเลอีกแล้ว เขาก็ดื่มน้ำตามไปหนึ่งคำเช่นกัน จากนั้นก็พูดว่า “ที่จริงแล้วฉันก็มีบางเรื่องที่อยากจะไหว้วานแกหน่อย แต่ก็กลัวเสียหน้าเลยไม่กล้าพูดออกมา”

เฉินเฟิงมองไปยังไป๋ซิงอย่างจริงจังแล้วพูดว่า “ฉันบอกแล้วไงว่า แกเคยช่วยชีวิตฉันไว้ ถ้ามีปัญหาเรื่องอะไรละก็ บุญคุณนี้ฉันก็ย่อมต้องทดแทนให้แน่”

ไป๋ซิงถูกสายตานั้นจ้องมา ในที่สุดก็ไม่ลังเลอีกต่อไป “ฉันคิดว่าแกก็น่าจะรู้ว่าช่วงนี้บ้านตระกูลไป๋พวกเราเกิดเรื่องขึ้น เดิมทีฉันคิดว่าเรื่องนี้จะสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ แต่ว่า…….”

สีหน้าของไป๋ซิงแสดงออกถึงความสับสนบ้างเล็กน้อย ดูเหมือนทำใจยอมรับไม่ได้กับความพ่ายแพ้ของตัวเองอย่างมากทีเดียว

ถึงแม้พอจะรู้เรื่องบ้างก็ตาม แต่รายละเอียดเกิดเรื่องอะไรขึ้นนั้นเขาก็ยังรู้ไม่ชัดเจนมากนัก ดังนั้นจึงได้แต่ถามว่า “แกอยากให้ฉันช่วยยังไงล่ะ?”

ไป๋ซิงคิดดูแล้วก็พูดว่า “คุณชายเฉิน ขอเพียงให้คุณช่วยฉันจัดการกับคนคนหนึ่งก็พอแล้ว”

เฉินเฟิงถามด้วยความสงสัยว่า “คนคนหนึ่งเหรอ? เป็นใครกัน?”

“เป็นนักธุรกิจมีชื่อเสียงคนหนึ่ง ช่วงนี้เขามาถึงแถบทะเลทรายนี้แล้วเตรียมจะเปิดโครงการหนึ่ง ส่วนโครงการนี้ก็เกี่ยวโยงกับตระกูลไป๋เรา ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้ไป๋ซูเข้าไปเกี่ยวข้องกับเขาด้วย ถ้าโครงการนี้สามารถทำสำเร็จละก็ อย่างน้อยตระกูลไป๋ก็จะสามารถพลิกฟื้นขึ้นมาอยู่ในเกรดที่สูงขึ้นอีกขั้นหนึ่งได้”

เฉินเฟิงครุนคิดสักครู่ ยิ้มแล้วพูดว่า “แกคิดอยากจะขัดขวางการค้าระหว่างไป๋ซูกับเขา จากนั้นก็ทำให้เขาหมดหนทางที่จะแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวตระกูลไป๋กับแกใช่ไหมล่ะ?”

ไป๋ซิงก็พยักหน้าอย่างเปิดเผย

“งั้นนักธุรกิจคนนี้เป็นใครกันแน่ อาศัยโครงการนี้โครงการเดียวถึงกับทำให้ตระกูลไป๋สามารถอัพเกรดให้สูงขึ้นอีกขั้นหนึ่งได้ ฉันคิดว่าเขาน่าจะเป็นนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งเลย ใช่หรือเปล่าล่ะ?” เฉินเฟิงถามด้วยความอยากรู้

ไป๋ซิงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ผู้อำนวยการใหญ่ของสมาคมหลิวซิง ชื่อ Southco ”

เฉินเฟิงก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มาก “เป็นตาเฒ่าคนนั้นเชียวเหรอ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาลงทุนที่ทะเลทรายแห่งนี้ ฉันจำได้ว่าคราวที่แล้วตอนเขามาลงทุนก็เป็นเวลาตั้งแต่ 20 ปีที่ผ่านมาแล้ว อยู่ฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงใต้ ลงทุนก่อตั้งโรงงานอุปกรณ์การผลิตระดับไมโครที่ใหญ่ที่สุดในโลก”

ไป๋ซิงก็ได้แต่ถอนหายใจ “ไอ้หมอนั่นเป็นนักลงทุนที่มีพรสวรรค์คนหนึ่งจริงๆ ทุกครั้งที่ลงทุนก็คาดคะเนได้แม่นยำว่าเป็นธุรกิจที่จะต้องร้อนแรงในอีก10ปีข้างหน้า ทำให้เขา สามารถทำกำไรมหาศาลเป็นกอบเป็นกำจากการลงทุนเพียงครั้งเดียว”

เฉินเฟิงมองดูท่าทางของไป๋ซิงที่หมดกำลังใจ จึงพูดปลอบโยนว่า “ในเมื่อแกมาหาฉันถึงที่แล้ว งั้นฉันก็จะต้องช่วยเหลือแกอย่างแน่นอน แล้วก็พอดีเลย ที่ฉันพอสนิทสนมกับ Southcoคนนี้บ้าง”

ไป๋ซิงมองไปยังเฉินเฟิงด้วยความประหลาดใจ “แกก็รู้จักเขาด้วยเหรอ? เดิมทีฉันเพียงแต่อยากจะให้แกช่วยฉันขัดขวางไม่ให้เขามาลงทุนที่ทะเลทรายนี้เท่านั้น ขอเพียงแต่ให้เขาออกไปจากทางตะวันตกเฉียงเหนือได้ งั้นเขาจะไปลงทุนที่ไหนฉันก็ไม่สนใจอะไรหรอก แต่ถ้าแกรู้จักเขาล่ะก็ งั้นคุณชายเฉินคุณก็กรุณาช่วยเป็นสะพานทอดให้ฉันข้ามไปด้วยจะได้ไหม?”

ถึงแม้ไป๋ซิงจะขอร้องเช่นนี้ แต่ว่าเฉินเฟิงก็ไม่สามารถที่จะตกลงกับเขาได้ทันที ก็ยังพูดอย่างสงวนท่าทีว่า “นี่ฉันก็รับปากอะไรไม่ได้แน่นอนหรอกนะ ถึงแม้ฉันจะรู้จักกับเจ้าผู้เฒ่าคนนั้นก็จริง แต่เขาจะเห็นแก่หน้าฉันหรือเปล่า ฉันก็ยังไม่แน่ใจเลย”

ไป๋ซิงกลับไม่รู้สึกว่ามีปัญหาอะไร พูดอย่างดีใจว่า “ขอเพียงคุณชายเฉินช่วยพาฉันไปพบกับSouthco ฉันก็มีความมั่นใจที่จะทำให้เขาตกลงร่วมมือกับฉันได้”

เฉินเฟิงก็ไม่รู้ว่าเขาทำไมถึงได้มีความมั่นใจขนาดนี้ แต่คิดดูแล้วก็พูดตอบตกลงว่า “ได้ ฉันจะช่วยแกติดต่อกับตาแก่นั่นให้ สำหรับเรื่องต่อจากนั้น ฉันก็แค่ช่วยแกได้เท่านี้ แต่สำคัญที่สุดก็ต้องดูที่ตัวแกเองนั่นแหละ”

แต่ว่าเพียงแค่นี้ไป๋ซิงก็ดีใจมากแล้ว

ตอนเวลาที่เขาเข้ามาก็แลดูหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่ตอนที่จากไปกลับเปลี่ยนเป็นหน้าระรื่นสดใส

แต่ว่าเฉินเฟิงก็ไม่มีเบอร์โทรศัพท์โดยตรงของSouthco ดังนั้นเขาจึงติดต่อให้สือโพ่จุน ทางนั้นส่งหมายเลขโทรศัพท์มาให้

หลังจากที่เฉินเฟิงโทรไปแล้ว ผ่านไปสักครู่ก็มีคนรับสาย

“คุณคือใครครับ?” อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้น ดังนั้นSouthco จึงถามขึ้น

เฉินเฟิงตอบว่า “ฉันเอง เฉินเฟิงไง”

“เฉินเฟิง ไอ้หมอนี่นายทำไมจู่ๆก็โทรมาหาฉันกะทันหันอย่างนี้ล่ะ หรือว่านายคิดอยากจะมายืมเงินฉันเหรอ? ฉันจะบอกให้นะ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว”

เฉินเฟิงขมวดคิ้ว เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไอ้หมอนี่ถึงได้พูดแบบนี้ เขาจึงรีบปฏิเสธไปว่า “ทำไมถึงคิดว่าฉันจะยืมเงินนายล่ะ ตอนนี้เงินนายมีมากกว่าฉันแล้วเหรอ? ถ้านายไม่มีเงินละก็ จำไว้นะมาหาฉันได้ ฉันจะให้เงินนายก้อนหนึ่งไปลงทุนต่อเลย”

Southco หัวเราะแล้วพูดว่า “ฮ่าๆ นายก็ยังตลกอย่างนั้นเหมือนเดิม แต่ว่า เร็วๆนี้ฉันก็สนใจโครงการใหญ่อยู่โครงการหนึ่งนะ โครงการใช้แร่แรร์เอิร์ธ เป็นไงล่ะ นายสนใจบ้างไหม ถ้านายจะมาร่วมลงทุนด้วยละก็ ฉันบอกนายได้เลยว่ารับรองนายจะได้เงินกำไรมหาศาลเลยทีเดียว”

เฉินเฟิงคิดแล้วก็พูดปฏิเสธไปว่า “นี่ฉันคงไม่ไปแย่งกับนายหรอกนะ ฉันคิดว่าลำพังนายคนเดียวคงไม่ขาดเงินลงทุนหรอก ถ้าถึงเวลาเข้าตลาดเมื่อไหร่ ฉันอาจจะคิดพิจารณาดูอีกทีก็ได้”

Southcoพูดด้วยความเสียดายว่า “งั้นมันน่าเสียดายจริงๆเลยนะ ที่จริงเรื่องเงินทองก็น่าจะ ร่วมมือช่วยกันหาด้วยกัน ดูไปแล้วนายคงต้องมีแหล่งที่หาเงินอะไรที่ไหนอีกล่ะสิ”

เฉินเฟิงก็ไม่ถกเถียงอะไรกับเขาในปัญหาเรื่องนี้ จึงถามเรื่องของไป๋ซิงขึ้นมา

“โครงการใหม่ของนายตอนนี้อยู่แถบทะเลทรายใช่หรือเปล่า?”

Southco พูดอย่างประหลาดใจว่า “เฉินเฟิง นายรู้ได้ยังไงล่ะ? นายแอบสอดแนมฉันเหรอ ถ้านายคิดอยากจะเข้ามาร่วมทุนด้วยละก็ ฉันย่อมต้องดีใจเป็นธรรมดา แต่นายก็ไม่น่ามาสะกดรอยตามฉันอย่างนี้เลยนะ……”

เฉินเฟิงฟังแล้ว นี่มันเป็นการคิดแบบมโนอะไรได้ถึงเพียงนี้ จึงรีบพูดตัดตอนเขาว่า “ฉันคงไม่คิดจะไปสอดแนมนายหรอกนะ พอดีฉันก็มาอยู่ทะเลทรายที่นี่ ดังนั้นจึงได้รู้เรื่องนี้ ตอนนี้ตัวนายอยู่ที่ไหนล่ะ?”

Southcoได้ฟังแล้วก็รู้ว่าเป็นเช่นนี้นี่เอง จึงพูดอย่างสำนึกผิดว่า “ขอโทษนะ เฉินเฟิง ฉันเข้าใจนายผิดเอง ตอนนี้นายยังอยู่ที่ทะเลทรายเหรอ? ช่วงนี้ฉันก็จะเข้าไปเหมือนกัน รอให้มาถึงทะเลทรายเมื่อไหร่ แล้วฉันจะไปหานายดีไหม?”

เฉินเฟิงยังไม่ทันพูดอะไรเลย Southcoกลับเสนอตัวมาเอง นี่ก็พอดีเลยไม่ต้องให้เฉินเฟิงเอ่ยปากพูดอีก

“ได้เลย แต่ว่าฉันจะพาอีกคนหนึ่งไปด้วยนะ เขาบอกว่าอยากจะมารู้จักกับนาย”

“งั้นไม่มีปัญหา”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท