ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 899

ตอนที่ 899

ใบหน้าของเฉินเฟิงแสดงออกถึงความเจ็บปวดรวดร้าว แต่ไป๋ซูกลับไม่คิดที่จะหยุดยั้งเลย

“ความจริงฉันก็ไม่มีอะไรมากหรอก เพียงแต่อยากจะเป็นเพื่อนกับพี่น้องสองสาวนั้น แต่เสียดายที่ว่า พวกเธอกลับรู้จักกับแกมาก่อนหน้าแล้ว นี่ทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากเลย ดังนั้นถ้าเป็นไปได้…….”

ยังไม่ทันรอให้เขาพูดจบ เฉินเฟิงก็พูดว่า “แกก็เลยอยากให้ฉันไปจากพวกเธอ”

ไป๋ซูหัวเราะ “ช่างเป็นคนฉลาดเสียจริงเชียว ถ้าแกตกลงละก็ ฉันก็จะรีบช่วยแกออกไปทันทีเลย”

เฉินเฟิงมองหน้าเขาด้วยความเย็นชา กลับไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว นั่นก็คือการแสดงคำตอบออกมาแล้ว

รอยยิ้มของไป๋ซูก็เยือกเย็นทันที ตบหน้าเฉินเฟิงไปหนึ่งฉาก แล้วตะโกนด้วยความโกรธว่า “ไอ้เศษสวะ งั้นแกก็จมอยู่แต่ในกองขยะตรงนี้ต่อไปก็แล้วกัน”

ดูเหมือนเป็นเพราะว่าไม่ได้รับสิ่งที่อยากได้มากที่สุดจากตัวของเฉินเฟิงแล้ว ไป๋ซูก็ยิ่งไม่มีความอดทนที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว หันไปพูดกับอะซานสองสามคำ จากนั้นทั้งสองคนก็ปิดประตูแล้วเดินออกไปจากที่นี่

ภายในห้องใต้ดินที่มืดมิดนั้นก็เหลือแต่เฉินเฟิงอยู่เพียงคนเดียว

ภายในห้องนอนของหลงหลิน เฟิ่งซีและหลงหลินสองคนก็นอนอยู่บนเตียงด้วยกัน ท่าทางดูเหมือนกับว่าจะอ่อนล้ามาก

เฟิ่งซีเอาหน้าไปแนบใกล้กับซอกคอของหลงหลิน แล้วค่อยๆสูดดมกลิ่นอายจากร่างของหลงหลินกลิ่นคล้ายกับดอกกล้วยไม้จางๆโชยมา ทำให้ในใจเฟิ่งซีรู้สึกสงบนิ่งลงมาก

ต่อให้ในเวลาอันใกล้นี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายก็ตาม เธอก็ยังสามารถลืมมันไปแล้วนอนหลับอย่างเงียบสงบได้

หลงหลินดูเหมือนก็สัมผัสได้ว่าในใจของเฟิ่งซีรู้สึกไม่สบายใจ จึงยื่นมือไปกอดเธอไว้เบาๆ ก้มหัวลงไป ปลายคางก็ไปจรดกับผมที่นุ่มสลวยของเฟิ่งซีพอดี กลับทำให้รู้สึกว่าเธอไม่ได้กอดกับเฟิ่งซีอย่างใกล้ชิดเช่นนี้มาเป็นเวลานานแล้ว

หลงหลินพูดด้วยเสียงเบาๆว่า “เฟิ่งซี ดูเหมือนว่าพวกเราไม่ได้กอดกันอย่างนี้มานานแล้วนะ”

เฟิ่งซีตอบด้วยเสียงเบาๆว่า “อึม เป็นเวลานานมากแล้วจริงๆ ขอเพียงแต่มีพี่อยู่ข้างกายทุกครั้ง ฉันก็จะรู้สึกสบายใจเป็นพิเศษแล้ว”

หลงหลินพูดว่า “มีแกอยู่ข้างกายฉัน ฉันก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นเหมือนกัน หลังจากที่อาจารย์จากไปแล้ว ก็เหลือแต่พวกเราสองคนพี่น้องอยู่พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมาตลอด”

เฟิ่งซีเงยหน้าขึ้นมา มองหน้าของหลงหลิน ทั้งสองคนเหมือนกำลังส่องดูกระจกอยู่ เพียงแต่เห็นใบหน้าที่เหมือนกัน แต่กลับมีสีหน้าที่ไม่เหมือนกัน

สีหน้าของหลงหลินนั้น มักจะแฝงด้วยความเยือกเย็นเล็กน้อย แต่ตอนนี้ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

สีหน้าของเฟิ่งซีก็ยังคงเหมือนเช่นปกติ มีความใสซื่อบริสุทธิ์แฝงอยู่ เธอยื่นมือข้างหนึ่งมากอดเอวของหลงหลินไว้ พูดด้วยเสียงเบาว่า “ฉันก็คิดถึงอาจารย์เหมือนกันนะ แต่ฉันรู้ว่าพี่จะคอยอยู่เป็นเพื่อนฉันตลอดเวลา ฉันก็รู้สึกไม่ค่อยเสียใจอะไรมากเท่าไหร่แล้ว”

หลงหลินพยักหน้า แล้วค่อยๆจุมพิตลงบนหน้าผากของเฟิ่งซี

พี่น้องสองสาวต่างก็ปลอบใจซึ่งกันและกัน ต่างก็รู้ว่าสำหรับเรื่องของเฉินเฟิงนั้นเป็นเรื่องที่พวกเธอเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้

เฟิ่งซีถามขึ้นมาว่า “ไป๋ซูคนนั้นคิดอยากจะช่วยพวกเราพาเฉินเฟิงออกมาจริงหรือเปล่า?”

หลงหลินก็พูดอย่างไม่มั่นใจว่า “ไป๋ซูคนนั้น ดูไปแล้วเหมือนคนที่อ่อนโยนมาก แต่มักจะทำให้รู้สึกว่าภายในจิตใจของเขาแอบซ่อนอะไรเอาไว้ เลยทำให้มองไม่ออกว่าเขาเป็นคนยังไงกันแน่”

ฉันคิดว่าเขาไม่ใช่เป็นคนที่ใสซื่อบริสุทธิ์ และก็ไม่ใช่อย่างที่พวกเราเห็นอย่างนั้นแน่นอน”

เฟิ่งซีพูดเห็นด้วยว่า “ทุกครั้งเวลาที่เขาพูดกับฉัน นัยน์ตาดูเหมือนว่าใสสะอาด แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ฉันมักจะรู้สึกว่าเขาอยากจะทำอะไรสักอย่าง ถึงแม้จะพูดไม่ถูก แต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดมาก”

หลงหลินหัวเราะเบาๆแล้วพูดว่า “งั้นก็ไม่ต้องไปสนใจเขา อยู่ห่างเขาให้มากๆก็แล้วกัน”

ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“พวกคุณทั้งสองนอนหลับแล้วหรือยัง?” เสียงของไป๋ซูดังแว่วมาจากนอกประตู

เพิ่งจะพูดถึงเขากับอยู่พอดี กลับนึกไม่ถึงว่าเขาก็มาเคาะประตูแล้ว ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่ากำลังแอบฟังอยู่หรือไม่

พี่น้องสองสาวก็รู้สึกร้อนรนบ้างเล็กน้อย ก็ยังเป็นหลงหลินที่ตอบว่า “คุณไป๋มีธุระอะไรเหรอ? พวกเรากำลังนอนแล้ว มีธุระเรื่องอะไรรอพรุ่งนี้ค่อยว่ากันดีกว่า”

“ถ้าเป็นเช่นนี้ละก็ งั้นฉันก็ไม่รบกวนแล้ว เดิมทีอยากจะมาคุยกับพวกคุณทั้งสองเกี่ยวกับเรื่องของเฉินเฟิงหน่อย ฉันเพิ่งจะไปพบเขามา” เสียงที่อยู่นอกประตูพูดดังขึ้น

เมื่อได้ยินไป๋ซูพูดว่าได้เห็นเฉินเฟิงแล้ว พี่น้องสองสาวก็รีบพูดขึ้นว่า “คุณไป๋โปรดรอสักครู่”

สองสาวพี่น้องก็รีบแต่งตัวให้เรียบร้อย จากนั้นเฟิ่งซีก็เดินออกไปเปิดประตูให้ไป๋ซู

เธอทั้งสองใส่เสื้อผ้าที่ทางคฤหาสน์จัดส่งมาให้ ก็เป็นเพียงชุดแบบเรียบง่าย เสื้อยืดสีขาวและกางเกงสีดำ แต่ว่าเมื่อใส่อยู่บนเรือนร่างของสองสาวพี่น้องแล้ว แลดูคล้ายกับตุ๊กตาที่แกะสลักสองตัว มองไปแล้วใครเห็นใครก็ชอบทั้งนั้น

เฟิ่งซีพาไป๋ซูเข้ามา ก็ให้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องนั้น ส่วนเธอก็กลับไปนั่งกับหลงหลิน

หลงหลินก็ไม่มีพิธีรีตองอะไรกับไป๋ซูแล้ว ถามตรงๆเลยว่า “คุณไป๋บอกว่าได้เห็นเฉินเฟิงแล้ว ไม่รู้ว่าเขาตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว? คุณไป๋จะพาพวกเราไปพบเขาได้ไหม?”

ถามติดต่อกันสองคำถาม สีหน้าของหลงหลินก็เต็มไปด้วยความกังวลใจ

ไป๋ซูยิ้มแล้วพูดว่า “รู้สึกว่าคุณหลงหลินเป็นห่วงคนที่ชื่อเฉินเฟิงนั่นเป็นพิเศษเลยนะ! แต่ว่าคุณก็รู้อยู่แล้วว่าเขาทำอะไรไว้ คุณปู่เฉียนยังไงก็ไม่มีทางที่จะปล่อยเขาออกมาได้ง่ายๆหรอก”

ในใจหลงหลินก็ย่อมจะรู้ดีอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยก็อยากรู้ว่าเฉินเฟิงตอนนี้เป็นตายร้ายดียังไงแล้ว

ไป๋ซูก็ดูออกสีหน้าของสองสาวพี่น้องที่แสดงถึงความกังวลใจ จึงรีบปลอบโยนว่า “ถึงแม้ว่าเฉินเฟิงตอนนี้ได้รับบาดเจ็บก็จริงอยู่ แต่โดยรวมแล้วก็ยังไม่มีอันตรายถึงชีวิต คุณทั้งสองก็ไม่ต้องเป็นห่วงมากนัก ฉันก็ได้พูดกับคุณปู่เฉียนแล้ว รอให้เขาปล่อยเฉินเฟิงออกมา ด้วยฝีมือการแพทย์ของคุณทั้งสอง รับรองว่าจะช่วยรักษาเขาให้หายได้”

เฟิ่งซีรู้สึกใจร้อนขึ้นมาเล็กน้อย มองไปยังไป๋ซูด้วยความหวัง แล้วพูดว่า “หรือว่าคุณไม่สามารถพาพวกเราไปเยี่ยมเขาบ้างเลยเหรอ? ฉันอยากจะรู้ว่าตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้างแล้ว?”

แต่ว่าไป๋ซูกลับแสดงท่าทีลำบากใจ “ไม่ใช่ว่าฉันไม่ยอมพาพวกคุณไปหาเขาจริงๆ ต่อให้ฉันสามารถขอให้คุณปู่เฉียนปล่อยเขา แต่อย่างน้อยตอนนี้คุณปู่เฉียนก็ยังไม่ได้ตอบตกลงเลย ฉันจึงไม่สามารถที่จะไปก้าวก่ายมากจนเกินไป”

เฟิ่งซีคิดอยากจะพูดอะไรต่อไปอีก แต่ถูกหลงหลินห้ามเอาไว้ เฟิ่งซีคิดดูแล้ว ก็รู้ว่าข้อเรียกร้องนี้มันก็ยุ่งยากมากเกินไป

เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแล้วกลับไปนั่งที่เดิม ส่วนหลงหลินตอนนี้ก็ถามไป๋ซูว่า “คุณไป๋เข้ามาดึกดื่นขนาดนี้ น่าจะไม่เพียงแค่อยากจะพูดกับพวกเราเรื่องนี้เท่านั้นใช่ไหม?”

ไป๋ซูมองหลงหลินด้วยสายตาที่ชื่นชม แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะพูดกับคุณทั้งสองจริงๆ”

หลงหลินพูดว่า “งั้นคุณไป๋ก็พูดมาได้เลย”

ไป๋ซูพูดว่า “ในเมื่อคุณหลงหลินพูดจาตรงไปตรงมาเช่นนี้ งั้นฉันก็ไม่พูดอ้อมค้อมแล้วนะ เพียงแต่ว่าที่ฉันช่วยพวกคุณทั้งสองอย่างนี้ ก็ยังมีจุดประสงค์อื่นเหมือนกัน”

หลงหลินก็ย่อมคิดไว้ก่อนแล้วว่าไป๋ซูจะต้องมีความคิดอะไรอื่นอีกแน่นอน แต่เธอก็ถามอย่างไม่กระโตกกระตากว่า “คุณไป๋อยากได้อะไรล่ะ เงินทองเหรอ? พวกเราสองคนพี่น้องนอกจากความรู้ทางการแพทย์ที่ติดตัวแล้ว ก็แทบจะไม่มีอะไรที่สามารถช่วยคุณไป๋ได้เลย?”

ไป๋ซูส่ายหน้าแล้วพูดว่า “พวกคุณคิดว่าฉันขัดสนเรื่องเงินเหรอ? ส่วนคุณทั้งสองมีฝีมือการแพทย์ติดตัวมานั้น ถึงแม้ฉันก็เคยได้ยินมาบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ต้องการอะไรแบบนั้น”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท