ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 902

ตอนที่ 902

ผู้ชายคนนี้ใส่เสื้อหนังสีดำ ทรงผมที่หวีเรียบแปล้ มีหนวดสองข้างตรงริมฝีปากที่ตกแต่งอย่างเป็นระเบียบ แลดูแล้วรู้สึกว่าเขาค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่หน่อย

ทันทีที่เฉินเฟิงลืมตาขึ้นมา ก็ได้เห็นไอ้หมอนี่ยืนอยู่ตรงหน้าแล้ว

แต่ว่าไอ้หมอนี่ก็ไม่ได้ทำอะไรเขาเหมือนหลายคนก่อนหน้านี้ เฉินเฟิงก็ถามอย่างแปลกใจว่า “แกเป็นใครอีกล่ะ?”

คนนั้นก็พูดเสียงเบาว่า “ฉันเป็นคนที่จะมาช่วยแก เรียกฉันว่าไป๋ซิงก็ได้”

เฉินเฟิงย่อมไม่เคยได้ยินชื่อนี้เป็นธรรมดา แต่เขาก็ไม่ใส่ใจ ได้แต่ถามว่า “แกจะช่วยฉันออกไปได้ยังไงล่ะ?”

ไป๋ซิงก็พูดว่า “ก็พาแกออกไปอย่างนี้ไง”

เฉินเฟิงพูดอย่างแปลกใจว่า “หรือว่าจะไม่มีใครขัดขวางแกเลยเหรอ ฉันเป็นคนที่ฆ่าหลานของตระกูลนี้เลยนะ พวกเขาคงไม่ปล่อยให้ฉันออกไปง่ายๆหรอก”

ไป๋ซิงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ฉันรู้ แต่ว่าแกตามฉันออกไปพวกเขาก็ไม่กล้าขัดขวางแล้ว”

เฉินเฟิงก็ได้แต่มองหน้าเขา ดูเหมือนว่าจะให้เขาพิสูจน์ว่าคำพูดของเขาเป็นจริงหรือไม่

ไป๋ซิงก็ไม่ได้พูดอะไรอีก หยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าหนึ่งดอก เดินมาถึงข้างตัวเฉินเฟิงแล้วใช้กุญแจไขโซ่ตรวนในมือและขาของเขาออกไปจนหมด

ร่างกายของเฉินเฟิงตอนนี้อ่อนแอมาก เมื่อไม่มีโซ่ตรวนช่วยยึดตัวเขาไว้แล้ว เขาจึงล้มลงไปกับพื้นทันที

“ตอนนี้เชื่อคำพูดฉันแล้วยังล่ะ?” ไป๋ซิงก็มองลงไปยังเฉินเฟิง

จากนั้นเขาก็นั่งยองๆลงไปใกล้ตัวเฉินเฟิง แล้วหยิบยาเม็ดหนึ่งออกมาจากกระเป๋า พูดกับเขาว่า “ยาเม็ดนี้จะช่วยกระตุ้นให้พละกำลังที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในร่างกายของแกออกมา ทำให้แกสามารถขยับตัวได้กระฉับกระเฉงอย่างน้อยก็สองชั่วโมง”

เขาหยิบยาเม็ดนั้นยื่นให้ตรงหน้าเฉินเฟิง เฉินเฟิงพูดว่า “มันคงไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้นล่ะมั้ง?”

“เกี่ยวกับผลข้างเคียงพวกนั้น สำหรับแกแล้วมันมีความจำเป็นด้วยเหรอ ขอเพียงไม่ตายไปเสียก่อน มันก็น่าจะดีกว่าตอนนี้มากแล้วนะ” ไป๋ซิงพูด

ดูเหมือนเฉินเฟิงก็คล้อยตามเขา จึงได้กลืนยาเม็ดนั้นลงไป

แล้วก็เป็นจริงอย่างที่พูด พละกำลังภายในตัวเขาก็เริ่มค่อยๆฟื้นขึ้นมา ร่างกายก็เริ่มเปลี่ยนเป็นร้อนผ่าว ราวกับเป็นอาการฮึกเหิมครั้งสุดท้ายของคนใกล้ตาย

ผ่านไปสักครู่ ในที่สุดเฉินเฟิงก็ลุกขึ้นมายืนได้แล้ว เขาพูดกับไป๋ซิงที่อยู่ข้างๆด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แกไม่กลัวเหรอว่าตอนนี้ฉันจะฆ่าแก”

ไป๋ซิงกลับไม่มีความกลัวอะไรเลย “แกคิดว่ามีความจำเป็นเหรอ? ต่อให้ฆ่าฉันตอนนี้ได้แล้ว แกก็ออกไปไม่ได้อยู่ดี”

ขณะที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่นั้น หน้าประตูคุกใต้ดินนี้ก็มีคนเดินเข้ามา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นคนของตระกูลเฉียน

หนึ่งในจำนวนนั้นตะโกนพูดกับไป๋ซิงว่า “คุณชายไป๋ ทำไมคุณถึงทำอย่างนี้ล่ะ นายท่านถึงแม้จะตกลงกับคุณไว้แล้ว แต่ก็ไม่ได้บอกว่าจะให้คุณพาตัวคนนี้ไปด้วยนะ”

ไป๋ซิงตอบอย่างเรียบเฉยว่า “ต่อให้ฉันคิดจะจัดการกับไอ้หมอนั่น มันก็เป็นเรื่องภายในของตระกูลไป๋ ไม่ต้องรอให้พวกแกมาชี้นิ้วสั่งการหรอก ไสหัวออกไปให้พ้น”

พูดจบเขาก็เดินนำหน้าไป เฉินเฟิงก็เดินตามหลังขึ้นไป

เมื่อเดินผ่านสองคนนั้น พวกเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะลงมือ หนำซ้ำยังคิดจะพูดอะไรอีก แต่กลับถูกไป๋ซิงมองตาขวาง จึงได้แต่หยุดพูดต่อไป

เมื่อมาถึงด้านบนสุดแล้ว ชายชราหลังค่อมก็ได้มายืนรออยู่ที่นี่แล้ว เขามองไปยังไป๋ซิงแล้วพูดตำหนิว่า “ถ้าแกคิดจะจัดการกับน้องชายแก ฉันก็ช่วยแกได้ แต่คนคนนี้ แกจะต้องทิ้งไว้ที่นี่”

ไป๋ซิงมองเขาอย่างเหยียดหยามแล้วพูดว่า “ตาแก่เฉียน แกนึกว่าฉันไม่รู้เหรอว่าแกกำลังคิดอะไรอยู่ ไอ้หมอนั่นอยากจะได้ผู้หญิงสองคนนั้น แต่ฉันจะไม่ให้เขาได้สมหวังดั่งใจหรอก ส่วนแกถ้าคิดจะจัดการกับเขา งั้นก็ทำต่อไปได้เลย สิ่งที่แกสมควรจะได้รับนั้น ฉันก็จะจัดให้แกไม่ขาดแม้แต่สตางค์แดงเดียว”

จากนั้นก็ไม่ไปสนใจอีกแล้ว เดินตรงไปยังประตูทางออก

เฉินเฟิงก็มองไปยังชายชราคนนั้นแวบเดียว ท่ากลางสายตาที่โกรธแค้นสุดขีดของฝ่ายตรงข้าม เฉินเฟิงก็เดินจากไปเช่นนี้เลย

ด้านนอกประตูก็มีรถมารอพวกเขาอยู่แล้ว ไป๋ซิงให้เฉินเฟิงขึ้นรถ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ไป๋ซิงก็อยู่ในท่าทีที่เงียบสงบมาโดยตลอด เฉินเฟิงจึงไม่ได้ถามอะไร

ในที่สุดเมื่อมาถึงหน้าโรงงานร้างแห่งหนึ่ง ไป๋ซิงจึงค่อยๆเปิดปากพูดว่า “ผู้หญิงสองคนที่ติดตามแกก็อยู่ข้างในนี้แล้ว ตอนนี้แกมีกำลังพอที่จะพาพวกเธอออกมาได้ แต่ว่าไอ้หมอนั่นที่แซ่ไป๋คนนั้น แกห้ามแตะต้องเขาเป็นอันขาด”

เฉินเฟิงถึงแม้ไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่เขาพูดเท่าไหร่นัก แต่ก็รู้ว่าผู้หญิงสองคนนั้นที่เขาพูดถึงก็หมายถึงหลงหลินสองพี่น้องนั่นเอง

ดังนั้นจึงถามด้วยความประหลาดใจว่า “พวกเธอทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”

“แกไม่ต้องไปสนใจหรอก ขอเพียงแค่พาพวกเธอออกไปได้ก็พอแล้ว จำไว้ด้วย อย่าแตะต้องไป๋ซูเด็ดขาด”

ไอ้พวกคนที่อยู่ในโรงงานนั้นก็ล้วนเป็นพวกจิ๊กโก๋ปากซอยทั้งนั้น หลังจากบุกเข้ามาแล้ว เฉินเฟิงก็จับคนหนึ่งไว้ได้แล้วถามว่า “ผู้หญิงสองคนนั้นอยู่ไหน?”

คนนั้นตกใจกลัวจึงชี้ทางไปให้กับเฉินเฟิง แต่ว่าเฉินเฟิงก็ยังซัดเขาจนสลบไป

ส่วนเขาก็บุกลุยเข้าไปตลอดทาง ไม่มีใครที่จะสามารถหยุดยั้งเข้าได้เลย

ขณะที่หลงหลินสองพี่น้องได้เห็นเฉินเฟิงยืนอยู่ตรงหน้าประตู ก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มาก

เฉินเฟิงบุกเข้าไปแกะที่ปิดปากของหลงหลินออก หลงหลินจึงพูดด้วยความแตกตื่นว่า “เฉินเฟิง เป็นคุณได้ยังไงกันเนี่ยะ”

เฉินเฟิงพลางแก้มัดให้กับเฟิ่งซี พลางตอบคำถามว่า “มีคนช่วยฉันไว้”

“แต่ว่าแล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าพวกเราอยู่ที่นี่?”

“ก็คนนั้นแหละเป็นคนบอกฉัน”

พูดพลาง เขาก็แก้เชือกที่มัดบนตัวเธอทั้งสองคนออกจนหมดแล้ว

เฟิ่งซีรู้สึกตื้นตันจนกอดเฉินเฟิงไว้ อดไม่ได้ที่ร้องไห้ออกมา

เฉินเฟิงก็ลูบหลังเธอแล้วพูดปลอบใจว่า “เอาล่ะ อย่าร้องไห้อีกเลย ฉันก็กลับมาแล้วนี่ไง”

แต่ว่าเฟิ่งซีกลับยิ่งกอดเขาไว้แน่นมากขึ้น

“รีบไปกันเถอะไม่มีเวลาแล้ว” เป็นเพราะสาเหตุทางร่างกาย เฉินเฟิงจึงไม่กล้าที่จะอยู่ที่นี่นานเกินไป

แต่หลงหลินกลับห้ามเขาไว้แล้วพูดว่า “พวกเรายังต้องช่วยไป๋ซูอีก เขาก็ถูกจับไปเหมือนกัน”

เฉินเฟิงกลับส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ต้องช่วยเขาหรอก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะว่าเขาเป็นผู้กำกับเองแสดงเองทั้งนั้น”

หลงหลินมองเฉินเฟิงอย่างตกตะลึงแล้วพูดว่า “นี่มันเป็นไปได้ยังไง ก็ฉันเห็นกับตาว่าเขาถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บนี่นา”

เฉินเฟิงพูดว่า “งั้นก็คงเป็นเรื่องโกหกอย่างแน่นอน พวกเรารีบไปกันเถอะ เดี๋ยวเวลาจะไม่ทันการแล้ว”

แต่หลงหลินกลับยังลังเลอยู่ ดูเหมือนเธอยังไม่ปักใจเชื่อว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น

หลังจากครุ่นคิดสักพักใหญ่ ก็ยังคงพูดว่า “ฉันรู้สึกว่าพวกเราควรจะไปช่วยเขาดีกว่านะ ต่อให้นั่นอาจจะเป็นเรื่องโกหกก็ตาม แต่ก็อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ เขาถูกจับก็เป็นเพราะพวกเรานะ”

ดูเหมือนเฟิ่งซีก็เห็นด้วยกับความคิดของหลงหลิน

เธอมองเฉินเฟิงด้วยสายตาว้าววอน เฉินเฟิงรู้สึกตัวว่าร่างกายยิ่งเข้าใกล้ขีดจำกัดมากขึ้นทุกทีแล้ว แต่หลงหลินสองพี่น้องต่างก็ยังขอร้องเช่นนี้อีก เขาจึงได้แต่พยักหน้าอย่างจนใจแล้วพูดว่า “งั้นก็ได้”

ทั้งสามคนก็เดินตรงไปยังที่คุมขังไป๋ซู แต่ว่ายังไม่ทันได้เข้าไปเลย ก็ได้ยินเสียงข้างในดังแว่วออกมา

“คุณชายไป๋ ฉันว่าเวลาก็พอประมาณแล้ว ถ้างั้นท่านก็ออกหน้าได้แล้วสิ”

ส่วนเสียงของอีกฝ่ายหนึ่งฟังดูแล้วนุ่มนวลสุภาพพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องรีบร้อน รอให้พวกเธอรู้สึกถึงความสิ้นหวังจริงๆเสียก่อน โดยเฉพาะอยู่ในสถานการณ์ที่ทั้งหิวโหยทั้งลำบากอย่างนั้น การปรากฏตัวของฉันก็จะยิ่งปลุกเร้าให้พวกเธอสร้างแรงศรัทธาในใจของขึ้นมาได้”

แต่เขาก็ไม่มีทางที่จะรู้ได้เลยว่า ถ้อยคำทุกคำที่เขากำลังพูดอยู่ในเวลานี้ ทั้งสองคนที่เดิมทีรอให้เขาไปช่วยเหลือนั้น ตอนนี้กลับยืนฟังอยู่ตรงหน้าประตูจนได้ยินชัดเจนกันหมดแล้ว

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน