ลูกเขยมังกร – บทที่916 หญิงสาวตระกูลโจว

บทที่916 หญิงสาวตระกูลโจว

แต่โจวฟ่างกลับพูดดูถูก: “จื่อเอ๋อยังเด็กมากนัก หมาป่าทะเลทรายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปหรอกนะ”

โจวจื่อเอ๋อยิ้มจางๆ : “สิ่งที่ลุงสี่พูดนั้น จื่อเอ๋อเข้าใจเป็นอย่างดี แต่ว่าพวกเรายังมีตระกูลไป๋ด้วยไม่ใช่หรอคะ ?ซึ่งจื่อเอ๋อเองก็คิดว่าเรื่องนี้ตระกูลไป๋เองก็รู้ดีเหมือนกัน ถ้าหากพวกเขามาเพื่อแค่จะติดต่อกับพวกเราแค่นี้เท่านั้น อย่างนั้นก็คงจะข่มขู่อะไรหมาป่าทะเลทรายไม่ได้หรอกค่ะ ”

โจวสุนคิดตามคำพูดของโจวจื่อเอ๋อ พลางพูดต่อ : “จื่อเอ๋อคิดว่าตระกูลไป๋นั้นมีการวางแผนการใหญ่เอาไว้แล้ว แถมยังสามารถที่จะถอนรากถอนโคนหมาป่าทะเลทรายได้ด้วยงั้นสินะ ”

โจวจื่อเอ๋อพยักหน้ารับเบาๆ

แต่ลุงสามกลับขมวดคิ้วขึ้นมา: “ถ้าหากเป็นอย่างที่ว่า อย่างนั้นพวกเราก็ยิ่งต้องมีความรอบคอบมากยิ่งขึ้น ตระกูลไป๋ต้องการที่จะทำลายล้างหมาป่าทะเลทราย ซึ่งความแค้นของพวกเขาที่มีต่อหมาป่าทะเลทรายนั้นก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยด้วย และเพื่อเรื่องนี้แล้วพวกเขาอาจจะทำเรื่องบ้าคลั่งที่เกินจะรับมือได้แน่นอน”

ทางด้านโจวฟ่างที่กำลังคิดว่าสิ่งที่โจวจื่อเอ๋อพูดนั้นมีเหตุผลอย่างมาก เพราะถ้าหากสามารถทำลายล้างหมาป่าทะเลทรายได้ เช่นนั้นเขาก็เต็มใจอย่างมากที่จะทำ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของลุงสาม จากที่มีความเห็นต่างกับเขาอยู่แล้ว ตอนนี้เขาจึงยิ่งเกิดความไม่พอใจมากขึ้นไปอีก จึงพูดแทรกขึ้นมา: “ถ้าหากว่าตามความหมายของลุงสาม อย่างนั้นพวกเราก็ไม่ต้องเข้าร่วมแผนการนี้ แล้วไปหาที่หลบซ่อนตัวแทน แบบนั้นถึงจะเป็นการดี และพวกเราก็จะได้ไม่ต้องมีปัญหาอะไรอีกด้วย ”

“ผมไม่กล้าที่จะส่งตระกูลโจวไว้ในมือคนอย่างคุณหรอกนะ อย่างน้อยผมก็ทำเพื่อหาทางให้ตระกูลโจวของเรามีชีวิตต่อไปได้อย่างไร ในขณะที่ตัวคุณนั้นกำลังหาทางให้ตระกูลโจวไปตายอย่างไร ” ลุงสามกล่าวเยาะเย้ยกลับ

เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสทั้งสองคนกำลังทะเลาะกัน โจวจื่อเอ๋อจึงได้เพียงแค่นั่งอยู่เงียบๆ เธอรู้ตัวดีว่าเธอเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในการจัดการปัญหาของตระกูลโจวเท่านั้น ในขณะที่ผู้จัดการดูแลตระกูลโจวตัวจริงคือพวกเขาเหล่านี้

โจวสุนตะเบ็งเสียงขึ้นมา: “พอได้แล้ว”

เดิมทีโจวฟ่างกำลังคิดจะพูดแย้ง เมื่อได้ยินแบบนี้จึงได้เพียงขวางตามองไปยังลุงสามอย่างเดือดดาลเท่านั้น พร้อมกับหุบปากลง เพราะอย่างไรเสียตัวเขายังมีความนับถือในตัวผู้นำครอบครัวอยู่

“ผมเข้าใจดีว่าพวกคุณทั้งหลายมีความคิดกันอย่างไร แต่ครั้งนี้นับว่าเป็นโอกาสที่ดีทีเดียว ”

เขาหันไปมองลุงสาม: “ลุงสาม ตัวผมรู้ดีเช่นกันว่าคุณหวังดีกับตระกูลโจวของเรา แต่ถ้าอยากจะต่อกรกับหมาป่าทะเลทรายแต่ไม่ยอมเสียสละอะไรเลย อย่างนั้นคงจะไม่ได้ ”

“ผมไม่ได้……” ลุงสามที่อยากจะอธิบาย แต่กลับโดนโจวสุนขัดเอาไว้เสียก่อน

“ผมไม่ได้จะตำหนิอะไรกับความคิดของลุงสามหรอกครับ ขอเพียงพวกเรามีการเตรียมใจที่จะเสียสละ การบอกว่าตระกูลไป๋จะทำเรื่องบ้าคลั่ง ในขณะที่ความจริงพวกเราเองก็บ้าคลั่งไม่แพ้กันด้วยซ้ำ อีกอย่างทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่หมาป่าทะเลทรายมอบให้พวกเราเอง”

เมื่อเขาพูดจบ บรรยากาศรอบๆ ก็นิ่งเงียบลงทันที

“เดิมทีพวกเรามาที่นี่ก็เพียงแค่ลองปรึกษากันดูก่อนเท่านั้น อย่างไรเสียอีกไม่กี่วันตระกูลไป๋ก็จะมาที่นี่อยู่แล้ว ในส่วนที่ว่าพวกเขามีแผนการอะไรกันแน่นั้น พวกเราก็จะได้รู้เอง เพราะอย่างนั้นวันนี้ก็พอเท่านี้ก่อนแล้วกัน ”

ทันทีที่เขาพูดจบ ทั้งสี่คนที่นั่งอยู่นั้นก็พากันลุกขึ้น

แต่โจวสุนกลับเรียกโจวจื่อเอ๋อเอาไว้เสียก่อน: “จื่อเอ๋ออยู่ก่อนครู่หนึ่ง ลุงมีเรื่องที่จะคุยด้วย”

โจวจื่อเอ๋อจึงยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน กระโปรงยาวและพื้น เธอสวมชุดกระโปรงยาวคลุมข้อสีเหลืองอ่อนที่ประดับด้วยดอกไม้เล็กๆ สีขาว ดูแล้วมีความสง่าอย่างมาก

รอจนกระทั่งทั้งสามคนออกไป โจวสุนจึงค่อยเอ๋อปากพูดขึ้นมา : “จื่อเอ๋อ ปีนี้เธออายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้วสินะ ”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ โจวเอ๋อถึงกับตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เธอพยายามอย่างเต็มที่ในการแสดงศักยภาพของตัวเองให้ตระกูลโจวได้เห็นมาโดยตลอด ซึ่งทั้งหมดนั้นก็เพื่อที่เธอจะได้เป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายตัวเองจะต้องเจอเรื่องแบบนี้

ถึงแม้ภายในใจจะเต้นหนักแค่ไหน แต่ใบหน้ากลับยังแสดงท่าทีเรียบเฉยออกมา: “เรียนคุณลุง ปีนี้จื่อเอ๋ออายุยี่สิบสี่ปีแล้วค่ะ เดือนที่แล้วเพิ่งจะผ่านวันคล้ายวันเกิดมา ”

โจวสุนถอนหายใจออกมา: “ไม่คิดเลยว่าเจ้าเด็กเล็กในวันนั้นจะโตขนาดนี้แล้ว ”

โจวจื่อเอ๋อที่ได้ยินอย่างนั้นก็พยายามปั้นรอยยิ้มออกมา: “เป็นเพราะว่าคุณลุงงานยุ่งเกินไป ถึงจำอายุของจื่อเอ๋อไม่ได้ ”

โจวสุนพยักหน้า: “ก็จริงอยู่ที่งานยุ่งไปบ้าง เพราะหลายปีมานี้ตระกูลโจวของเราต้องคอยต่อสู้ดิ้นรนมาโดยตลอด แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องชื่นชมในความสามารถของจื่อเอ๋อ ถึงได้ทำให้ตระกูลโจวของเราสามารถฟื้นฟูกิจการใหญ่ขึ้นมาได้แบบนี้”

“จื่อเอ๋อไม่กล้ารับคำชมหรอกค่ะ ทุกอย่างเป็นเพราะว่าคนตระกูลโจวนั้นสามัคคีกันจึงทำให้สามารถผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากนั้นมาได้”

โจวสุนมองไปยังหลานสาวที่แสนเชื่อฟังว่าง่ายคนนี้ ในใจก็พลันคิดขึ้นมาว่าทำไม หลานสาวคนนี้ถึงไม่เป็นผู้ชายกันนะ ถ้าหากลูกชายของเขาที่ตายไปคนนั้นมีความสามารถและฉลาดหลักแหลมได้สักครึ่งหนึ่งของเธอ เขาก็คงจะพอใจมากแล้ว

แต่ในความเป็นจริงแล้วทุกอย่างนั้นไม่มีคำว่าถ้าหาก และตัวเขาเองก็รู้ดีว่าจื่อเอ๋อกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ว่าอย่างไรเสียหญิงสาวก็ต้องแต่งงานออกเรือน แล้วหลังจากที่แต่งงานไป ตอนนั้นการจะบอกว่าเธอยังเป็นคนตระกูลโจวนั้นคงจะเป็นเรื่องยากที่จะบอกให้ชัดเจนแล้ว

เขาคิดไปคิดมาพลันพูดว่า: “สัปดาห์นี้คุณชายสองของตระกูลไป๋ก็จะเดินทางมาที่นี่ด้วย จื่อเอ๋อจะไปพบเขาสักหน่อยไหม”

โจวสุนไม่ได้พูดดักทางอะไร เขารู้ว่าโจวจื่อเอ๋อไม่ต้องการที่จะเดินเข้าสู่เส้นทางนี้ถึงได้พยายามขนาดนี้ และเขาคิดว่าหากโจวจื่อเอ๋อไม่ยินยอมจนหัวชนฝา อย่างนั้นตัวเขาก็จะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก

แต่โจวจื่อเอ๋อกลับสะกดความทุกข์ไว้ในใจ แล้วยิ้มตอบออกมา : “ได้ค่ะ ถึงตอนนั้นจื่อเอ๋อจะปฏิบัติตัวให้ดีที่สุดค่ะ”

โจวสุนมองไปยังโจวจื่อเอ๋อด้วยความตะลึง สิ่งนี้ไม่เหมือนกับสิ่งที่เขาคิดเอาไว้เลยสักนิด แต่แล้วโจวจื่อเอ๋อก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาอีกครั้ง: “ถ้าหากคุณลุงไม่ได้มีเรื่องอะไรแล้ว จื่อเอ๋อขอตัวออกไปก่อนนะคะ ”

“อืม ได้!”

กระทั่งโจวจื่อเอ๋อเดินออกมาจากห้องหนังสือ น้ำตาที่เอ๋อล้นอยู่ตรงหางตาในที่สุดก็เอ่อล้นออกมาอย่างห้ามไม่ได้ พ่อแม่ของเธอตายไปเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้เธอจึงเป็นเพียงหญิงสาวที่ต้องพึ่งอาศัยตระกูลโจวในการมีชีวิตรอด และคนที่เธอไม่อาจจะทรยศมากที่สุดนั้นก็คือตระกูลโจว

ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่เธอเลือกจะตอบตกลงไป อีกอย่างการรวมเป็นปึกแผ่นกับตระกูลไป๋ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ก็ถือเป็นอำนาจที่เพียงพอให้ตระกูลโจวสามารถไขว่คว้ามาได้

แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องพวกนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอปรารถนาเลย

ในขณะที่ทางด้านเฉินเฟิงก็กำลังพาเสี่ยวเย่เดินทางมายังร้านขายหยกแล้ว

“หยกชิ้นนี้เป็นสินค้าที่ดีเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะพกติดตัวเอง ใช้สำหรับเสริมดวงบารมี มอบเป็นของขวัญให้ผู้อื่น หรือสำหรับเป็นสื่อแทนใจ ล้วนเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยนะคะ”

พนักงานสาวสวยคนหนึ่งกำลังกล่าวแนะนำให้กับเฉินเฟิง

เฉินเฟิงมองไปยังหยกสลักลายมังกรชิ้นนั้นก็รู้สึกว่ามันไม่เลวจึงพูดออกมาทันที : “อันนี้ห่อให้ผมเลยครับ”

ใบหน้าของพนักงานขายสาวเต็มไปด้วยความสุข พร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม : “คุณผู้ชายเป็นคนตาดีจริงๆ เลยค่ะ หยกนี้มีคนถูกใจเป็นจำนวนมากเลย แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะซื้อสักที ต่างก็บอกว่าราคาสูงเกินไป แต่พวกเขาเองต่างหากที่ไม่รู้ว่าหยกงามขนาดนี้ ย่อมมีราคาสูงเป็นเรื่องปกติ ”

เฉินเฟิงยิ้มรับ เขารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังยกย่องว่าเขานั้นร่ำรวย แต่เขากลับคิดว่าเรื่องแบบนี้มีอะไรให้ต้องยกย่องด้วย

“คุณชายเฉิน คุณรีบดูอันนี้เร็ว กระต่ายอันนี้ เหมือนมากๆ เลยค่ะ !” เสี่ยวเย่เกาะลงไปบนตู้โชว์มองด้วยความตื่นเต้น

เฉินเฟิงเดินเข้าไป แล้วมองไปยังหยกใสชิ้นนั้นที่ถูกแกะสลักให้เป็นรูปทรงเหมือนดั่งกระต่ายมีชีวิตตัวหนึ่ง ซึ่งดูแล้วมีความหรูหราอย่างมาก

ทางด้านพนักงานสาวคนนั้นก็ต้องการให้เฉินเฟิงซื้อเพิ่มอีกชิ้น จึงรีบแนะนำทันที: “ถ้าหากว่าคุณผู้ชายซื้อชิ้นนี้เพิ่มอีกอัน ฉันสามารถให้ส่วนลดพวกคุณได้นะคะ”

แต่เมื่อเธอพูดอย่างนั้นกลับทำให้เสี่ยวเย่ตกใจขึ้นมาทันที เธอรีบสะบัดมือ : “ฉันไม่ได้อยากได้หรอกค่ะ ฉันก็แค่ลองดูเท่านั้น ของแพงขนาดนี้ ฉันไม่กล้าพกติดตัวหรอกค่ะ ”

พนักงานสาวถึงกับตะลึงไม่ต่างกัน เธอนั้นพอจะมองออกว่าเสี่ยวเย่นั้นแต่งตัวธรรมดา ในขณะเดียวกันคนที่มาด้วยอย่างเฉินเฟิงกลับเป็นคนร่ำรวย และนั่นทำให้เธอคิดว่านี่คือสไตล์การจับคู่ที่คนกำลังนิยมในตอนนี้ แต่แล้วเธอก็มองไปยังเฉินเฟิง เพราะอย่างไรเสียคนที่จะตัดสินใจก็ยังคงเป็นเฉินเฟิง

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท