ลูกเขยมังกร – บทที่ 928 อันธพาน

บทที่ 928 อันธพาน

เฉินเฟิงสามารถมองออกถึงความคิดของโจวจื่อเอ๋อ และไม่แม้แต่จะติดกับเลยสักนิด ซึ่งสิ่งนี้ทำให้โจวจื่อเอ๋อรู้สึกใจห่อเหี่ยวอย่างมาก แต่เชียนเฉินที่ถูกเหยียบไว้ใต้เท้าอยู่ตรงนั้นดูเหมือนจะเจ็บปวดอย่างมาก

โจวจื่อเอ๋อพูดออกไปอย่างตระหนกใจ: “คุณชายเฉิน ในเมื่อคุณไม่ยอมเข้าไป อย่างนั้นฉันก็คงต้องพึ่งตัวเองเข้าไปช่วยพวกเขาแล้ว ถ้าเกิดว่าคุณชายเฉินได้เห็นโจวจื่อเอ๋อที่ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บแล้ว ตอนนั้นคุณชายเฉินอย่าได้เห็นใจเด็ดขาด”

ทว่าเฉินเฟิงไม่เชื่อว่าเธอจะเดินเข้าไปช่วยจริงๆ ดังนั้นจึงได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้นจ้องมองเธอแทน ราวกับกำลังพูดออกมาว่า ‘งั้นเธอก็ลองเข้าไปให้ฉันดูหน่อยสิ’

และโจวจื่อเอ๋อเพียงแค่มองพริบตาเดียวก็เข้าใจความคิดในใจของเฉินเฟิงทันที เธอเองอยากที่จะกระตุ้นเฉินเฟิงอีกสักหน่อย แต่เฉินเฟิงกลับดูเหมือนจะมีทิฐิสูงใช่ย่อย

โจวจื่อเอ๋อถึงกับกระทืบเท้าอย่างไร้หนทาง ก่อนจะเดินเข้าไปจริงๆ

เฉินเฟิงที่เห็นอย่างนั้น ก็ดึงตัวโจวจื่อเอ๋อเอาไว้ทันที

“นี่คุณจะเข้าไปเองจริงๆ เลยหรอ! คุณไม่กลัวว่าจะโดนทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บงั้นหรอ?”

โจวจื่อเอ๋อกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะยิ้มออกมา: “แต่ว่าฉันไม่มีทางเลือกนี่คะ คุณชายเฉินไม่ยอมเข้าไป ฉันก็ต้องพึ่งตัวเองเข้าไปช่วยเหลือพวกเขา”

เฉินเฟิงรู้ตัวทันทีเลยว่าวันนี้เขาไม่มีทางหนีพ้นแผนการของหญิงสาวเจ้าเล่ห์คนนี้เสียแล้ว

“ก็ได้ คุณชนะแล้ว ผมเข้าไปช่วยพวกเขาเอง”

เมื่อพูดจบ เขาก็เดินเข้าไปทันที

ตอนนี้คนที่โดนอีกฝ่ายกำลังเหยียบอยู่ตรงหน้าอกอย่างเชียนเฉินไม่ว่าจะพยายามดิ้นรนยังไง อีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีจะขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย เขาคนนั้นยิ้มเยาะขึ้นมา : “กูจะรอดูสิว่ามึงจะยังกล้าดีกับกูอีกหรือไม่ ครั้งหน้ามาอีกมึงก็คงจะรู้แล้วสินะว่าควรทำตัวยังไง”

เชียนเฉินพูดขึ้นอย่างเกลียดชัง: “ทางที่ดีคุณควรปล่อยผมจะดีกว่า ไม่อย่างนั้น คุณจะไม่ได้ตายดีแน่”

แต่เมื่อได้ยินประโยคนี้ อีกฝ่ายกลับยิ่งเดือดดาลมากขึ้น จนแรงกดใต้เท้านั้นยิ่งเพิ่มแรงเข้าไปอีก ซึ่งนั่นทำให้เฉินเฟิงยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก พร้อมกับกุมเท้าของชายคนนั้นอย่างแน่น แต่นั่นกลับเป็นเหมือนดังหินก้อนใหญ่อันหนักอึ้ง

“ปล่อยเขาไปเถอะครับ” เฉินเฟิงเดินมาตรงหน้าชายคนนั้น แล้วพูดออกมาอย่างพยายามเลี่ยงปัญหามากที่สุด

ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามอง ก็เห็นว่าเฉินเฟิงเองก็ไม่ได้มีความแข็งแกร่งอะไร ทั้งยังรู้สีกว่าเขาดูจะอ่อนแอยิ่งกว่าพวกเขาเหล่านี้อีก แต่ดันกล้ามาพูดลองดีแบบนี้ยิ่งกว่าคนอื่นๆซะงั้น

เขาทำเหมือนตัวเองกำลังถูกเฉินเฟิงเล่นตลกด้วย ดังนั้นจึงหัวเราะ “ฮ่าๆ” ออกมาเสียง : “ตอนแรกก็คิดว่าเจ้าพวกนี้นั้นประสาทมากพอแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะมีคนที่สมองยิ่งมีปัญหาเข้ามาอีก นี่มึงอยากให้กูช่วยล้างสมองมึงงั้นหรือไง!”

แต่ทว่าเฉินเฟิงกลับยิ้มขึ้นมา ซึ่งสิ่งนี้ก็ทำให้ชายคนนั้นยิ่งมีความสุขมากยิ่งขึ้น

“แกคงจะไม่ได้ตกใจจนบ้าไปแล้วหรอกใช่ไหม ถึงได้มายืนยิ้มอยู่ตรงนี้” เขาปล่อยเชียนเฉินที่อยู่ใต้เท้า แล้วเข้าไปหาเฉินเฟิงแทน

ทางด้านเฉินเฟิงเพียงแค่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น รอให้เขาเดินเข้ามาหา

ชายคนนั้นเดินหัวเราะคิกคักพร้อมกำหมัดเข้าไป ทั้งยังจงใจลองตวาดหมัดไปตรงหน้าของเฉินเฟิง แต่เมื่อเห็นว่าเฉินเฟิงไม่ได้การตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้น เขาจึงยิ่งโมโห

“แม่งเอ๊ย มึงรนหาที่ตายเอง อย่าได้โทษกูแล้วกัน”

เมื่อพูดจบ หมัดหนึ่งก็พุ่งเข้าไปใส่หน้าของเฉินเฟิงทันที

เดิมทีตามการคาดการณ์ของเขาแล้ว เฉินเฟิงก็คงจะเป็นอีกคนที่ได้ลงไปนอนกับพื้นแล้ว

แต่แล้วหมัดนั้นกลับหยุดอยู่เพียงตรงนั้น ไม่มีทางเคลื่อนไหวไปมากกว่านั้นได้อีก

เขาจ้องมองไปยังเฉินเฟิงอย่างประหลาดใจ เพราะหมัดของเขานั้นถูกเฉินเฟิงกุมเอาไว้ได้ ถึงขนาดที่เขาอยากจะชักหมัดของตัวเองกลับมา ยังถือเป็นเรื่องที่ยากอย่างมาก

เขามองไปที่เฉินเฟิงด้วยความตื่นตระหนก: “มึงเป็นใครกันแน่?”

เฉินเฟิงไม่ตอบแต่ถามกลับแทน: “ใครที่ส่งคุณมาจัดการพวกเขา”

เฉินเฟิงชี้ไปยังเชียนเฉิน เขาไม่มีทางเชื่อแน่ว่าจะมีคนมาหาเรื่องคนอื่นเพียงเพราะเรื่องการตกปลาจริงๆ ทั้งยังไม่พูดไม่จาให้ชัดเจนก็ใช้กำลังเสียแล้ว

ชายคนนั้นเจ็บปวดจนหน้าแทบจะบิดเบี้ยว แต่กลับยิ่งมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากขึ้น เมื่อเฉินเฟิงพูดจี้ถูกจุดพอดี

ทว่าเขากลับปฏิเสธ: “กูไม่รู้ว่ามึงกำลังพูดอะไร กูเองก็ไม่รู้ว่าเขาคือใครด้วย”

เฉินเฟิงฉีกยิ้มออกมา: “ปากแข็งจริงๆ แต่ผมก็อยากเห็นเหมือนกันว่าตกลงแล้วปากของคุณจะแข็งหรือมือจะแข็งกว่ากัน”

เขาบีบแรงลงไปบนหมัดที่อยู่ในฝ่ามือของตัวเอง จนทำให้หมัดนั้นแทบจะเปลี่ยนรูปทรงไปหมดแล้ว แม้แต่กระดูกก็ดูเหมือนจะหักแล้วด้วย

“ตอนนี้จะพูดได้หรือยัง?” เฉินเฟิงถาม

“ผมไม่รู้ มีคนเอาเงินให้ผมหลายพัน แล้วบอกให้ผมเข้ามาสร้างเรื่องกับเจ้าคนพวกนี้” เขาตอบกลับอย่างอ้อนวอน

“คุณคงไม่ได้โกหกผมใช่ไหม?” เฉินเฟิงยิ่งเพิ่มแรงบีบในมือขึ้นไปอีก จนชายคนนั้นร้องคร่ำครวญออกมา

ตอนนี้คำพูดของเขาแทบจะไม่สามารถพูดออกมาได้ชัดเจนอีกแล้ว : “ผม……ผมไม่กล้าแน่นอน……”

“ถ้างั้นคุณรู้ว่าเขาคนนั้นคือใครหรือเปล่า ?”

“ผม……ผมไม่รู้”

ดูจากสีหน้าของเขาแล้วดูเหมือนจะไม่กล้าพูดโกหกอะไรอีก ดังนั้นเฉินเฟิงจึงยอมปล่อยมือเขา

“ไสหัวไปซะ!”

ชายคนนั้นกุมมือข้างนั้นที่เจ็บจนแทบทนไม่ไหวของตัวเอง ไม่กล้าพูดอะไรทั้งสิ้น แม้แต่จะมองไปยังเฉินเฟิงก็ยังไม่กล้าเลย ก่อนจะรีบก้มหน้าสาวเท้าวิ่งหนีไป เพราะหวาดเกรงว่าเฉินเฟิงจะเปลี่ยนใจ

เหล่าคนที่อยู่บนพื้นพากันลุกขึ้นยืน แล้วมองไปยังเฉินเฟิง ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ

ส่วนเฉินเฟิงก็เข้าไปดึงตัวเชียนเฉินให้ลุกขึ้นยืน พร้อมกล่าว: “คำพูดเมื่อกี้นี้ คุณก็ได้ยินหมดแล้วสินะครับ”

เชียนเฉินพยักหน้า: “ผมพอจะเดาได้แล้วว่าเป็นใครแล้วล่ะครับ ขอบคุณสหายเฉินมากๆ ”

เฉินเฟิงส่ายหน้า: “ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ ถ้าจะขอบคุณก็ไปขอบคุณโจวจื่อเอ๋อเถอะครับ”

เชียนเฉินไม่เข้าใจ แต่ก็หันไปมองยังโจวจื่อเอ๋อ ซึ่งเธอกำลังส่งยิ้มจางๆ มาให้เขา

เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พวกเขาทั้งหลายจึงไม่คิดที่จะอยู่ที่นี่ต่อ

“เป็นเพราะว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมคงไม่สามารถที่จะอยู่ต่อกับทั้งสองได้แล้ว ถ้าเกิดทั้งสองคนมีเวลาเมื่อไหร่ก็สามารถไปหาผมที่สำนักเฉินเฟิงได้นะครับ ผมจะรอต้อนรับทั้งสองอย่างดีเลย”

เขาพูดจบ ก็พลางพาเหล่าเพื่อนๆกลับไป ส่วนทางด้านเฉินเฟิงและโจวจื่อเอ๋อเองก็ไม่ดีความจำเป็นอะไรที่จะต้องอยู่ที่นี่ต่อ จึงเดินทางกลับไปยังบ้านตระกูลโจว

และในที่สุดการหายตัวไปของโจวฟ่างก็ได้ดึงดูดความสนใจของคนตระกูลโจวขึ้นมาจนได้

แต่สาเหตุการเกิดเรื่องกลับไม่มีเบาะแสใดๆ เลย แม้กระทั่งว่าสถานที่สุดท้ายที่โจวฟ่างอยู่คือที่ไหนก็ไม่มีใครรู้ด้วย และไม่รู้ว่าเขาหายตัวไปเมื่อไหร่อีก

ทางฝั่งโจวสุนได้ส่งคนให้มาเรียกตัวโจวจื่อเอ๋อ เลยทำให้เฉินเฟิงต้องอยู่ที่นี่ต่ออย่างเบื่อหน่าย

เขาหาหนังสือนิยายเล่มหนึ่งในห้องของโจวจื่อเอ๋อออกมาใช้คั่นเวลาไปก่อน พอผ่านไปเพียงไม่นาน โจวจื่อเอ๋อก็กลับมา

“เป็นไงบ้าง เขาว่าอย่างไร?” เฉินเฟิงที่เห็นโจวจื่อเอ๋อกลับมาก็ถามออกไปทันที

แต่แล้วโจวจื่อเอ๋อกลับแสดงสีหน้าที่อ่อนล้าออกมา :พวกเขาเหมือนกำลังสงสัยฉันอยู่”

เฉินเฟิงวางหนังสือในมือลง แล้วมองไปยังโจวจื่อเอ๋ออย่างแปลกใจ : “ทำไม?นี่พวกเขาเห็นแล้วงั้นหรอ?”

โจวจื่อเอ๋อเดินตรงไปยังเก้าอี้โยกภายในห้อง แล้วนั่งลงไปก่อนจะตอบกลับ : “มีคนเห็นว่าฉันเป็นคนสุดท้ายที่ได้เจอกับคุณลุงสี่ และหลังจากนั้น ก็ไม่เจอตัวของคุณลุงสี่อีกเลย เมื่อคิดอย่างนี้การจะไม่สงสัยในตัวฉันคงจะเป็นเรื่องยาก”

ด้านเฉินเฟิงที่ถึงแม้จะไม่ทราบรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ขอเพียงหาศพของโจวฟ่างไม่เจอ ความที่โจวจื่อเอ๋อก็เป็นเพียงผู้หญิงเปราะบางคนหนึ่งซึ่งไม่มีทางที่จะสามารถจัดการกับโจวฟ่างได้ สิ่งนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาหมดหนทางพิสูจน์ว่าโจวจื่อเอ๋อเป็นฆาตกรได้แล้ว

“ไม่อย่างงั้นลองให้เบาะแสพวกเขาสักหน่อยไหม ทำให้พวกเขาเจอโจวฟ่างที่อยู่ในห้องลับนั่น แบบนี้พวกเขาก็จะได้มีผู้ต้องสงสัยขึ้นมา แล้วความสงสัยในตัวคุณก็จะได้น้อยลงไป”

โจวจื่อเอ๋อคิดไตร่ตรอง จากนั้นจึงพยักหน้าเห็นด้วย : “ดูแล้วมีแต่ต้องทำแบบนี้เท่านั้น ฉันจะลองคิดหาวิธีเอาสิ่งของของลุงสี่ไปไว้ที่ห้องหนังสือ แบบนี้คุณลุงใหญ่จะได้เกิดความสงสัยขึ้น และเพื่อที่จะปกป้องความลับเรื่องข่าวของห้องลับนั้น เขาคงต้องเลือกตรวจสอบห้องลับนั้นแน่นอน ”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท