ลูกเขยมังกร – บทที่ 930 ส่งมอบหยก

บทที่ 930 ส่งมอบหยก

กระทั่งทั้งสองพูดคุยกันจนจบ ในที่สุดเสี่ยวเย่จึงค่อยถือน้ำชาออกมาเสียที

แต่ทางด้านไป๋จิ้งเฟิงดูเหมือนว่าเขาจะใช้สติทั้งหมดไปกับแผนการอันบ้าคลั่งนี้ไปแล้ว จนเขาไม่เหลือความคิดที่เกี่ยวข้องกับน้ำชานั่นอีกเลย

ในขณะที่เฉินเฟิงดื่มชาเข้าไปได้สองอึก เขาก็ไม่สามารถที่จะนั่งนิ่งอยู่ที่นี่ได้อีกแล้ว

“คุณชายเฉิน สำหรับเรื่องนี้ผมคงต้องไตร่ตรองอีกสักหน่อย เพราะเดิมทีการกำจัดหมาป่าทะเลทราย สำหรับตระกูลเชียนแล้วผมไม่เคยคิดถึงเลย”

เฉินเฟิงรู้ว่าเป็นการนี้นั้นสำหรับไป๋จิ้งเฟิงแล้วถือว่ามีความเสี่ยงเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่ได้บีบบังคับให้ไป๋จิ้งเฟิงรีบตอบตกลงกับตัวเองทันที

“นายท่านไป๋ หวังว่าคุณจะตัดสินใจอย่างชัดเจน เพราะการจะต่อกรกับหมาป่าทะเลทรายยังไงก็เป็นความปรารถนาสูงสุดของคุณ” เฉินเฟิงกล่าวแนะ

ไป๋จิ้งเฟิงพยักหน้า ก่อนจะลุกขึ้นยืนเดนมุ่งหน้าไปยังรถคันนั้น

กระทั่งรอจนไป๋จิ้งเฟิงจากไป เสี่ยวเย่ถึงค่อยปลดปล่อยความกล้ามานั่งลงข้างๆ เฉินเฟิง

“คุณชายเฉิน ทำไมคุณถึงเพิ่งกลับมาเอาตอนนี้ล่ะคะ” เสี่ยวเย่กล่าวถามอย่างเรื่อยเปื่อย

เธอนั่งอยู่ตรงนั้นพร้อมกับดึงหญ้าฟางในมือเล่น ดวงตาไม่ได้จ้องมองยังเฉินเฟิง ราวกับไม่ได้สนใจในตัวเฉินเฟิงเลย

แต่เพียงแค่ภาพเหตุการณ์ที่ได้เห็นตรงหน้าประตูเมื่อสักครู่นี้ ตอนนี้เสี่ยวเย่กลายเป็นคนที่โดนมองออกจนหมดเปลือกเลย

ต่อให้เธอจะเสแสร้งสักแค่ไหน ความตื่นเต้นภายในใจนั้นก็ไม่สามารถปิดบังเอาไว้อยู่ดี

“เสี่ยวเย่กำลังตำหนิว่าผมกลับมาช้าอย่างนั้นหรอ?” เฉินเฟิงหัวเราะออกมาเบาๆ

เสี่ยวเย่ส่ายหน้า: “ฉันเปล่าสักหน่อยค่ะ ก็แค่นี่ไม่เหมือนกับที่คุณชายเฉินเคยบอกเอาไว้เท่านั้น คุณเคยบอกว่าไปไม่นานเดี๋ยวก็กลับมานี่คะ”

เฉินเฟิงถาม: “แต่ว่าตอนนี้ผมก็กลับมาเร็วมากแล้วนะ เสี่ยวเย่ยังอยากให้ผมเร็วกว่านี้อีกหรอ ?อย่างนั้นผมก็จนปัญญาเกินไปแล้ว”

เมื่อถูกเฉินเฟิงพูดใส่อย่างนี้ เสี่ยวเย่จึงไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับอย่างไร เพราะแค่รู้สึกว่ามันไม่เหมือนกับที่เธอคิดเอาไว้

“ฉันก็แค่รู้สึกสงสัยเองค่ะ ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณชายเฉินรีบกลับมาสักหน่อย ฉันอยู่ที่นี่คนเดี๋ยวเป็นอิสระจะตายไปค่ะ อยากทำอะไรก็ทำอย่างนั้น”

เฉินเฟิงที่มองดูเสี่ยวเย่แสร้งทำเป็นดีใจที่ได้รับอิสระ เขาก็หยิบเอาหยกชิ้นหนึ่งในกระเป๋ากางเกงออกมา

ในขณะที่เสี่ยวเย่กำลังอยู่ตรงนั้นแสดงท่าทีที่ตัวเองได้ทำเรื่องสนุกมากมายตัวคนเดียว จู่ๆ ก็หันไปเห็นของที่อยู่ในมือของเฉินเฟิง เธอถึงกับชะงักนิ่ง

“อันนี้คือ?”

เธอจ้องมองไปยังหยกอันคุ้นตาชิ้นนั้นด้วยความตกตะลึง ซึ่งก็คือจี้หยกขาวแกะสลักรูปกระต่ายชิ้นนั้นที่เธอได้เห็นในร้านขายหยกวันนั้นนั่นเอง

เฉินเฟิงปลดด้ายสีแดงของหยกนั้น เตรียมจะสวมใส่ให้กับเสี่ยวเย่

แต่เสี่ยวเย่กลับเขยิบตัวถอยหลังไปแทน: “คุณชายเฉิน ฉันรับของชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ คุณเคยสัญญากับเสี่ยวเย่แล้วว่าจะไม่มอบสิ่งของราคาแพงขนาดนี้ให้กับเสี่ยวเย่ แต่ว่าหยกชิ้นนี้มันแพงมากจริงๆ นะคะ”

เฉินเฟิงพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม: “เสี่ยวเย่ นี่ไม่ใช่หยกชิ้นนั้นที่คุณเจอหรอกนะ อันนี้คือตอนที่ผมไปบ้านตระกูลไป๋ แล้วได้เห็นตรงริมถนนซึ่งมันเหมือนชิ้นนั้นต่างหากล่ะ เมื่อคิดแล้วก็เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่ทำให้ผมได้เผอิญเจอเข้าพอดี ดังนั้นผมก็เลยซื้อมันมาให้คุณซะเลย”

ตอนแรกเฉินเฟิงคิดว่าเสี่ยวเย่จะเป็นคนที่หลอกได้ง่ายๆ แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่าที่จริงแล้วเสี่ยวเย่นั้นจดจำรายละเอียดของหยกชิ้นนั้นได้อย่างชัดเจน เธอพูดแย้ง: “คุณชายเฉิน คุณกำลังโกหกฉัน ตอนที่ฉันได้เห็นหยกชิ้นนั้น ลวดลายข้างล่างของมันฉันได้ดูอย่างละเอียดหมดแล้วแล้ว ซึ่งมีความเหมือนกับชิ้นนี้ไม่มีผิดเลย นี่ไม่ใช่ของที่ซื้อมาจากริมถนนหรอกค่ะ”

เฉินเฟิงถึงกับตกตะลึง เจ้าเด็กคนนี้ยังมีวันที่จะฉลาดได้ขนาดนี้ด้วย

“คุณต้องจำผิดไปแล้วแน่นอน ชิ้นนี้เป็นของเหมือนที่ผมซื้อมาจากริมถนนจริงๆ ผมจำได้ว่าเสี่ยวเย่ชอบ ดังนั้นเลยตั้งใจซื้อมาให้ ราคาแค่ไม่กี่ร้อยเอง” เฉินเฟิงยังคงแถต่อไป

แต่เสี่ยวเย่ยังคงแสดงท่าทีแน่วแน่ดังเดิม: “คุณชายเฉิน ฉันรับเอาไว้ไม่ได้จริงๆ ค่ะ”

เมื่อเธอพูดจบ ก็หวังจะลุกขึ้นเพื่อหนีออกไป

แต่ด้วยความมือไวของเฉินเฟิง จึงรีบดึงตัวเธอกลับมาทันที

“คุณไม่เอาจริงๆ หรอ?”

ถึงจะถูกดึงตัวกลับมา แต่เสี่ยวเย่ยังคงไม่เปลี่ยนความคิด เธอพยักหน้า : “ฉันไม่เอาค่ะ”

เฉินเฟิงถึงกับหมดคำพูด เพราะในตอนที่เตรียมจะมอบหยกชิ้นนี้ออกไป เขาเอาแต่คิดว่าข้ออ้างเมื่อสักครู่นี้สามารถทำให้เสี่ยวเย่เชื่อแน่นอน แต่ไม่คิดเลยว่าถ้าหากล้มเหลวควรจะพูดอะไรดี

แต่ว่าตอนนี้ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถที่จะเก็บหยกชิ้นนี้เอาไว้ เขาจึงพูด : “ถ้าหากว่าคุณไม่ต้องการ ผมก็จะโยนทิ้งไปแล้วกัน ยังไงซะผมก็ไม่ได้ชอบ”

เมื่อได้ยินเฉินเฟิงพูดแบบนี้ เสี่ยวเย่ถึงกับลังเลใจขึ้นมา แต่ว่าเธอสับสนอย่างมาก

“คุณชายเฉิน คุณไม่ต้องบังคับฉันจะได้ไหมคะ หากฉันรับของขวัญชิ้นใหญ่ขนาดนี้จากคุณ ฉันไม่รู้เลยว่าควรจะตอบแทนคุณคืนอย่างไรดี”

เฉินเฟิงตอบ: “แต่สำหรับผมแล้ว มันไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลยเมื่อเทียบกับความสุขของเสี่ยวเย่ คุณก็รู้ว่าคุณชายเฉินนั้นมีเงินตั้งมากมาย ของพวกนี้อยากได้เท่าไหร่ คุณชายเฉินก็สามารถซื้อได้ทั้งนั้น แต่การจะได้เห็นเสี่ยวเย่มีความสุขนั้น กลับเป็นสิ่งที่พบเห็นได้น้อยมาก”

“แต่ว่าคุณชายเฉิน……” เสี่ยวเย่ยังคงดึงดัน

เฉินเฟิงที่เห็นอย่างนั้นจึงแสร้งทำเป็นจะโยนหยกนั้นลงเขาไป เสี่ยวเย่ที่กังวลจึงเอื้อมมือออกไปห้ามเฉินเฟิงเอาไว้

เฉินเฟิงพูดแนะ: “ถ้าหากว่าเสี่ยวเย่รู้สึกติดหนี้ผม อย่างนั้นก็มอบของขวัญชิ้นหนึ่งที่เป็นสิ่งของที่มีเพียงเสี่ยวเย่สามารถทำได้เพียงคนเดียวให้กับผมแทน แบบนี้มันก็จะกลายเป็นของที่ล้ำค่ายิ่งกว่าหยกชิ้นนี้แล้ว”

เสี่ยวเย่ได้แต่ยึกยักอยู่นาน และในที่สุดก็ไม่กล้าที่จะยืนกรานอีกต่อไป เพราะเธอกลัวว่าเฉินเฟิงจะโยนหยกนั้นทิ้งไปจริงๆ

“อย่างนั้นฉันก็จะทำของขวัญที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกให้คุณชายเฉินแล้วกันค่ะ” เธอกดเสียงพูดออกมา

ภายในน้ำเสียงนั้นสามารถรับรู้ได้ถึงความเขินอาย

ดังนั้นเฉินเฟิงจึงสวมใส่จี้หยกนั้นไปที่คอของเสี่ยวด้วยความพึงพอใจอย่างมาก

เมื่อสีหยกประดับอยู่บนคออันขาวเนียนของเสี่ยวเย่ก็กลายเป็นความสวยงามที่ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้เลย และกลับยิ่งทำให้รู้สึกอยากมองลงไปยังเนื้อผิวบริเวณกระดูกไหปลาร้าและเนินอกนั้นอีกด้วย

“สวยไหมคะ?” เมื่อเห็นว่าเฉินเฟิงกำลังจ้องมองไปตรงนั้น เสี่ยวเย่จึงกล่าวถาม

เฉินเฟิงพยักหน้าอย่างเหม่อลอย: “สวย”

แต่แท้จริงแล้วเป็นเพราะเสี่ยวเย่สวย หรือจี้หยกนั้นสวยก็ไม่สามารถรู้ได้

เดิมทีเฉินเฟิงคิดว่าไป๋จิ้งเฟิงคงจะใช้เวลาสักสองสามวันก็จะมอบคำตอบให้กับตัวเอง แต่กระทั่งรอจนถึงวันที่สี่แล้ว เขาก็ไม่มีเงาโผล่มาเลย และก็ไม่มีใครมาที่นี่เพื่อส่งข่าวสารเลยด้วยเช่นกัน

แต่แล้วเฉินเฟิงกลับได้พบกับแขกอีกคนแทน

ในตอนที่เขาคนนั้นมาที่นี่ เป็นช่วงเวลาที่เฉินเฟิงกับเสี่ยวเย่กำลังเล่นหมากรุกกันอยู่พอดี ซึ่งนี่เป็นของที่เสี่ยวเย่เอามาจากเนินเขา รถเมอร์เซเดสสีดำขับเข้ามาจอดยังลานหน้าประตูของพวกเขา

เมื่อแหงนหน้าขึ้นไปดู ก็พบว่าคนที่เดินลงมาจากรถนั้นกลับเป็นโจวสุน

จากนั้นก็มีร่างสีขาวเดินตามลงมาจากที่นั่งเบาะหลัง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นคนที่เฉินเฟิงไม่มีวันลืมได้ลง นั่นคือโจวจื่อเอ๋อ

เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คน เธอมักจะเผยท่าทีที่สง่าผ่าเผยอยู่ตลอด และเมื่อได้เห็นเฉินเฟิงกับเสี่ยวเย่ที่กำลังเล่นหมากรุกอยู่ตรงนั้น เธอก็หันไปยิ้มให้กับเฉินเฟิงคนเดียว

“คุณชายเฉิน” โจวสุนกล่าวเรียกทันทีที่เดินมาถึงหน้าของเฉินเฟิง

เฉินเฟิงกล่าวถามอย่างแปลกใจ: “ไม่ทราบว่าทำไมหัวหน้าครอบครัวตระกูลโจวถึงมาหาผมที่นี่ครับ ?มีเรื่องอะไรงั้นหรอครับ?”

เฉินเฟิงเพิ่งนึกถึงเรื่องของโจวฟ่างขึ้นมาได้ แต่เมื่อหันไปมองยังโจวจื่อเอ๋อกลับไม่มีคำใบ้ใดๆ เลย เขาจึงได้ปฏิเสธความคิดนี้ออกไป

แต่โจวสุนดูเหมือนว่าจะมีความสับสนเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมพูดออกมา : “คุณชายเฉิน เรื่องน้องชายของผม ต้องอภัยด้วยจริงๆ ”

เฉินเฟิงถึงกับชะงัก เป็นเรื่องของโจวฟ่างจริงๆ ด้วย

แต่เมื่อเขาหันไปมองโจวจื่อเอ๋อ เธอกลับยังคงยิ้มอ่อนๆ โดยไม่ยอมบอกอะไรกับเฉินเฟิงเลย

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท