Complete Martial Arts Attributes – คุณสมบัติแห่งนักสู้ – ตอนที่ 106

ตอนที่ 106

บทที่ 106: หลายปีต่อมา…

ก่อนที่หวังเต็งจะตัดสินใจ ครูจากมหาวิทยาลัยทั้งห้าก็เริ่มทะเลาะกัน

ผู้อํานวยการหยยิ้มขณะที่มองจากด้านข้าง เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

เขาเป็นผู้อํานวยการมาหลายปีแล้ว เมื่อก่อนนั้นมีผู้มีพรสวรรค์มากมายปรากฏขึ้นในโรงเรียน แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่มีมหาวิทยาลัยชั้นนําในประเทศมาแย่งชิงนักเรียนของเขากันอย่างดุเดือดเช่นนี้

ฟานเว่ยหมิงเองก็แอบดูอยู่ที่มุมๆหนึ่ง เขารู้สึกประหลาดใจ

ครูเหล่านี้มาจากมหาวิทยาลัยชั้นนําทั้งหมดในประเทศ แต่พวกเขากลับกําลังทะเลาะกันเรื่องนักเรียนคนหนึ่ง

ศักยภาพของหวังเต็งมันน่ากลัวขนาดนั้นเลยอย่างงั้นหรอ?

 อะแฮ่มๆ  หวังเต็งไออย่างเชื่องช้า เขากล่าวว่า  หยุดทะเลาะกันได้แล้ว ผมมีคําถามจะถาม 

 ว่ามา! 

ครูทั้งห้าตอบเกือบพร้อมกัน

หวังเต็งรู้สึกกลัวเล็กน้อยเมื่อสายตาทั้งห้าคู่จ้องมาที่เขา เขาถามอย่างระมัดระวังว่า  คุณฉิน คุณโจว ผมได้ยินมาว่าโรงเรียนทหารนั้นมีข้อจํากัดที่เข้มงวดเกี่ยวกับเสรีภาพของนักเรียนใช่หรือไม่? 

ครูทั้งสองสบตากันและพยักหน้า  เรากําลังเตรียมผู้มีพรสวรรค์สําหรับกองทัพ ดังนั้นเราจึงต้องเข้มงวดเป็นอย่างมาก และเธอเองก็ต้องปฏิบัติตามกําหนดการและกฎของเรา หากเธอฝ่าฝืนมัน เธอก็จะถูกลงโทษ อย่างไรก็ตาม… 

พวกเขาไม่ได้ปิดบังจุดนี้ พวกเขาไม่สามารถซ่อนมันได้ตลอดไปอยู่ดี

แต่มันก็มีจุดเปลี่ยน

 อย่างไรก็ตาม เสรีภาพก็เป็นสิ่งที่สัมพันธ์กัน มันเหมือนกับอิสรภาพทางการเงินที่เราพูดถึงอยู่เสมอ ด้วยการที่มีเงินมากขึ้น เธอก็จะสามารถมีอิสระทางการเงินได้มากขึ้นตาม ในทํานองเดียวกัน ด้วยการที่เธอมีอํานาจมากขึ้นเธอก็จะสามารถมีอิสระได้มากขึ้นเช่นกัน ในยุคแห่งศิลปะการต่อสู้ เธอจะได้รับอิสรภาพจํานวนหนึ่งไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนก็ตาม ตราบเท่าที่เธอมีความสามารถ

 กฎมักใช้เพื่อยับยั้งผู้อ่อนแอ แต่หากเธอแข็งแกร่งพอ เธอก็จะสามารถแหกกฎเล่านั้นได้ 

 ศิษย์เก่าที่มีความสามารถล้วนแต่เป็นเช่นนี้ทุกคน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเธอ ว่าเธอนั้นมีความสามารถหรือไม่ 

 ถ้าคุณพูดอย่างนั้น!  หวังเต็งยิ้มอย่างช่วยไม่ได้

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคุณฉัน อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้ตอบหวังเต็ง

หวังเต็งมองไปที่ครูอีกสามคนจากมหาวิทยาลัย เขาพูดอย่างจริงใจว่า  ขอบคุณที่คาดหวังไว้สูงสําหรับผม อย่างไรก็ตาม ผมก็คิดว่าผมได้ตัดสินใจไปแล้ว 

ครูทั้งสามพยายามฝืนยิ้มอย่างเต็มที่  จะไม่ใช้เวลาคิดทบทวนให้มากกว่านี้หน่อยหรอ? 

หวังเต็งส่ายหัว ครูทั้งสามหยุดพูด

ทุกคนมีเส้นทางของตัวเอง พวกเขาจึงต้องตัดสินใจด้วยตัวเองและเลือกว่าจะเดินอย่างไร

หวังเต็งยืนขึ้นและพูดกับครูจากโรงเรียนทหารและโรงเรียนทหารฮวงไห่ว่า  ผมจะไปกรอกใบสมัครเดี๋ยวนี้ 

จากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องทํางานของผู้อํานวยการไป

ตอนแรกคุณฉินและคุณโจวต่างก็รู้สึกยินดี อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเห็นหวังเต็งเดินออกไป พวกเขาก็ไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

พวกเขารู้สึกกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก

ราวกับว่าแมวกําลังจักจี้หัวใจ พวกเขาไม่รู้ว่าหวังเต็งนั้นจะเลือกโรงเรียนไหน

ผู้อํานวยการหยูมองไปที่ฟานเว่นหมิง ฟานเว่ยหมิงเข้าใจได้ทันทีว่าผู้อํานวยการต้องการจะสื่ออะไร ดังนั้น เขาจึงตามหวังเต็งออกจากห้องทํางานไปอย่างรวดเร็ว

หวังเต็งยังนับเป็นสมบัติของโรงเรียนมัธยมตงไห่อยู่ในขณะนี้ ดังนั้นแม้ว่าเขาจะสามารถเลือกสถานที่เรียนที่ต้องการได้แล้ว แต่มันก็ยังดีกว่าถ้าจะมีผู้ดูแลขั้นตอนการสมัครของเขาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดหรืออุบัติเหตุ

หวังเต็งกรอกแบบฟอร์มใบสมัครภายใต้การดูแลของฟานเว่ยหมิง จากนั้นเขาก็กลับไปที่ห้องเรียน

 หวังเต็ง นายจะสมัครเข้ามหาวิทยาลัยไหน?  หลินซัวหานอดไม่ได้ที่จะกระซิบกับหวังเต็งเมื่อเห็นเขานั่งลงข้างๆเธอ

 อ้าว หายโกรธฉันแล้วหรอ?  หวังเต็งล้อเธอ

 จะบอกไหม?  หลินซัวหานจ้องไปที่เขาอย่างโกรธเคือง

 ก็ได้ ก็ได้ ฉันจะบอกเธอ ฉันสมัครเข้าเรียนที่โรงรียนทหารฮวงไห่  หวังเต็งกล่าวอย่างช่วยไม่ได้

คุณไม่ควรยั่วยุผู้หญิง!

 โรงเรียนทหารฮวงไห่!  หลินซัวหานตกใจ เธอไม่คิดว่าหวังเต็งจะสมัครเข้าโรงเรียนทหาร

หยางเจี้ยนซึ่งอยู่ข้างหน้าพวกเขาก็หันกลับมา  หวังเต็ง คุณจะสมัครเข้าโรงเรียนทหารหรอ? ฉันคิดว่าคุณจะไปมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งซะอีก 

 ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลยอันดับหนึ่งหรือโรงเรียนทหารฮวงไห่ ทรัพยากรและครูของพวกเขาก็ล้วนมีคุณภาพใกล้เคียงกัน ดังนั้นการเข้าโรงเรียนทหารจึงเป็นเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดสําหรับฉัน  หวังเต็งตอบ

 เฮ้อ ทําไมฉันถึงคิดว่าคุณกําลังโอ้อวดเมื่อได้ยินเรื่องนี้นะ  หยางเจี้ยนถอนหายใจ

 ไสหัวไปเลย!  หวังเต็งหัวเราะและตับหัวเขา จากนั้นก็ถามว่า  แล้วนายสมัครเข้ามหาวิทยาลัยไหน? 

 มหาวิทยาลัยในตงไหนี่แหละ  หยางเจี้ยนตอบ  ฉันไม่อยากไปต่างเมือง และเมื่อดูจากผลการเรียนของฉัน นี่ก็เป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวที่ฉันเลือกได้ 

หวังเด็งพยักหน้า เขาสังเกตเห็นว่าใบสมัครของหลินซัวหานนั้นยังว่างเปล่า ดังนั้นเขาจึงถามออกไปว่า  หลินซัวหาน แล้วเธอล่ะ? เธอวางแผนที่จะสมัครเข้ามหาวิทยาลัยไหน? 

หลินซัวหานขมวดคิ้วและลังเลก่อนจะพูดว่า  ฉันต้องการสมัครเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยตงไห้ 

 มหาวิทยาลัยตงไห้!  หวังเต็งมองมาที่เธอและถามว่า  ฉันจําได้ว่าเกณฑ์ต่ําสุดสําหรับการประเมินการต่อสู้ จริงของมหาวิทยาลัยตงไห่คือ 85 ไม่ใช่หรอ? เธอได้แค่ 80 คะแนนเองนี่ นอกจากนี้เธอก็ยังต้องเป็นศิษย์นักสู้ขั้นสูงด้วยนะ 

 นายอ่านเกณฑ์ครบถ้วนแล้วรึยัง? มันมีความต้องการขั้นต่ําสุดเขียนอยู่ในตอนท้าย  หลินซัวหานกล่าวต่อว่า  ตราบใดที่การสอบทั่วไปของนายมีคะแนนมากกว่า 135 และการประเมินการต่อสู้จริงของนายนั้นสูงกว่า 80 พวกเขาก็จะเลือกรับไปเป็นรายๆ 

 อย่างไรก็ตาม มันก็ยังอันตรายอยู่เล็กน้อย นั่นเป็นเหตุผลที่ทําไมฉันถึงวางแผนที่จะให้มหาวิทยาลัยตงไห่ เป็นตัวเลือกที่สองของฉัน แม้ว่าฉันจะเข้ามหาวิทยาลัยตงไห้ไม่ได้ แต่ฉันก็จะสามารถเข้ามหาวิทยาลัย เทคโนโลยีได้โดยไม่มีปัญหา 

 จะไม่เสียใจแน่หรอ? ที่จริงแล้ว ด้วยผลการเรียนของเธอ ถ้าเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยแบบปกติ เธอก็จะสามารถเข้ามหาวิทยาลัยตงไห้ได้อย่างง่ายดายเลยนะ  หวังเต็งกล่าว

 มีอะไรต้องเสียใจ? นายก็รู้สภาพครอบครัวของฉัน  หลินซัวหานตอบกลับ

 เอาล่ะ ดีแล้วที่เธอสมัครเข้ามหาวิทยาลัยตงไห่ อย่างน้อยเราทุกคนก็อยู่ในตงไห้ หวังเต็งกล่าว

 ใช่ 

หลินซัวหานพยักหน้า อย่างไรก็ตาม มันก็มีความเศร้าในใจของเธอ

การจากลาเป็นเรื่องน่าเศร้าเสมอ

 นายน้อยหวัง หลังจากที่คุณจบการศึกษาจากโรงเรียนทหารและเป็นนายพลแล้ว คุณก็จะต้องไม่ลืมเพื่อนร่วมชั้นเก่าของคุณนะ!  หยางเจี้ยนยิ้มและพูด

 เอาล่ะ นายพลหวังเต็งจะดูแลพวกนายเอง!  หวังเต็งยิ้ม

นอกห้องเรียน ครูใหญ่สามคนจากห้องเรียนอื่นๆก็กําลังรวมตัวกันอยู่ที่นั่น พวกเขากําลังพูดถึงผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีนี้

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าห้อง 8 นั้นเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในครั้งนี้

ปราชญ์ชั้นยอดแห่งการสอบศิลปะการต่อสู้นั้นอยู่ที่ห้องของพวกเขา และนักเรียนอีกห้าคนก็สามารถเข้าเรียนหลักสูตรศิลปะการต่อสู้ของมหาวิทยาลัยอื่นๆได้

ตามการคาดการณ์ของพวกเขาในตอนแรก พวกเขาก็รู้สึกว่ามันมีเพียงห้าศิษย์นักสู้ขั้นสูงในโรงเรียนมัธยมตงไห่เท่านั้นที่จะมีโอกาสได้เข้าสู่หลักสูตรศิลปะการต่อสู้

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้จํานวนนักเรียนจากห้องแปดที่เข้าเรียนในหลักสูตรศิลปะการป้องกันตัวได้นั้น ก็เกินกว่าที่พวกเขาคาดการณ์ไว้

มันไม่มีศิษย์ที่มีพรสวรรค์ปรากฏขึ้นในห้องเรียนอื่น แต่โดยเฉลี่ยแล้วมันก็มีนักเรียนสองถึงสามคนจากแต่ละชั้นเรียนที่สามารถเข้าสู่หลักสูตรนี้ได้

อย่างไรก็ตาม ครูใหญ่คนหนึ่งก็รู้สึกท้อแท้

 หลี่หรงเฉิงไม่ผ่านในปีนี้ เขาจะต้องซ้ําอีกปี  เขากล่าว

 หลี่หรงเฉิง? เขาเป็นศิษย์นักสู้ขั้นสูงไม่ใช่หรอ? เขาล้มเหลวได้ยังไงกัน?  ครูคนอื่นตกใจ

 ใครจะไปรู้? ฉันได้ยินมาว่ามันมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างการประเมินการต่อสู้จริง อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีใครเล่ารายละเอียดให้ฉันฟัง  ครูใหญ่ของหลี่หรงเฉิงส่ายหัว

 ช่างน่าเสียดาย  ครคนอื่นๆแสดงความเห็นอกเห็นใจ

ฟานเว่ยหมิงได้รับความชื่นชมจากครูคนอื่นๆ เขากลับมาที่ห้องเรียนของเขาอย่างภาคภูมิใจ

เขายืนบนแท่นและมองดูนักเรียนที่อยู่ด้านล่างเขา ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย

เขาส่งอีกชุดออกไปอีกแล้ว!

สามปีก็เหมือนวัฏจักร!

ในที่สุด เด็กๆเหล่านี้ก็ก้าวไปยังโลกที่แตกต่าง เขาสามารถพาพวกเขามาถึงได้เพียงเท่านี้เท่านั้น เขาไม่สามารถมรีส่วนร่วมในความพยายามของพวกเขาในอนาคตได้เล้ว

บางที อีกครั้งหน่งที่เขาจะได้ข่าวเกี่ยวกับพวกเขานั้นก็อาจจะเป็นหลายปีต่อมา…

 

Complete Martial Arts Attributes – คุณสมบัติแห่งนักสู้

Complete Martial Arts Attributes – คุณสมบัติแห่งนักสู้

Status: Ongoing

รอยแยกมิติได้เชื่อมโยงโลกเข้ากับทวีปซินหวู่ และนี่คือจุดเริ่มต้นของยุคแห่งศิลปะการต่อสู้! ฉันจะไร้ประโยชน์ถ้าฉันไม่ได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างงั้นหรอ? ไม่เป็นไร เพราะฉันมีระบบที่สามารถช่วยให้ฉันสามารถเก็บค่าคุณสมบัติต่างๆได้ยังไงล่ะ! ในขณะที่คนอื่นๆกำลังดรอปค่าคุณสมบัติเหล่านั้นออกมา ฉันก็จะเก็บมันขึ้นมาอย่างเงียบๆ ห้ะ? นี่จะบอกว่าการดวลกับผู้อื่นก็สามารถดรอปค่าคุณสมบัติได้ด้วยอย่างงั้นหรอ? ถ้าอย่างงั้น… “ คุณได้เอาชนะอัจฉริยะทักษะดาบ ดรอป ความรู้แจ้ง×2, ทักษะดาบ×1…” คุณเก็บมันขึ้นมาแล้ว ค่าสถานะของคุณได้รับการปรับปรุงแล้ว คุณได้รับทักษะดาบขั้นพื้นฐาน! “ คุณได้เอาชนะอัจฉริยะทักษะมีด ดรอป เทคนิคมีดสงคราม×1, เจตจำนงมีดสังหาร×1…” คุณเก็บมันขึ้นมาแล้ว เรียนรู้เทคนิคการต่อสู้มีดระดับหายาก! คุณค้นพบเจตจำนงมีดสังหารและได้กลายเป็นความชั่วร้ายที่บ้าคลั่ง! “ คุณได้เอาชนะความสามารถทางร่างกาย ดรอป คัมภีร์กายา×1, กายาโลหิตศักดิ์สิทธิ์×1…” คุณเก็บมันขึ้นมาแล้ว เรียนรู้คัมภีร์ขั้นสูง! คุณโชคดีมากที่ได้รับกายาเลือดศักดิ์สิทธิ์ มันสามารถเปลี่ยนร่างกายของคุณได้อย่างสมบูรณ์และมันก็ทำให้คุณได้รับฉายาระดับพระเจ้า ‘กายาไร้จุดจบ‘ มีคนฆ่าสัตว์อสูรดาราที่ทรงพลังและดรอป สายตาแห่งจิตวิญญาณ×1 และคาคุณสมบัติเปล่า×60… คุณได้เก็บมันขึ้นมาอย่างลับๆ และได้รับพรสวรรค์สายตาแห่งจิตวิญญาณ และคะแนนค่าคุณสมบัติอีก 60 แต้มเพื่อเพิ่มในค่าคุณสมบัติที่คุณต้องการ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน