ตอนที่ 127 รายงาน
กลางคืน
โจชั่วอยู่ในรถม้าเพื่อกลับไปที่โรงเตี้ยมใจหิน ซิริห้ามตัวเองไม่ให้หลับไม่ได้ นางกําลังหลับพิงไหล่ของโจชั่ว
โจชั่วพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อไม่เกร็งไหล่เพื่อที่ผู้วิเศษหญิงที่เคยเตือนเขาว่าอย่าแตะต้องตัวนางจะสามารถนอนหลับสบายขึ้น ขณะทําเช่นนั้นเขาสัมผัสผมสีเทาเงินยาวของซิริอย่างนุ่มนวล
หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ ดาร์คเอลฟ์แจ้งข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับศาลนอกรีตให้โจชั่วทราบ
ด้วยข้อมูลที่นางเปิดเผยแก่เขาและการคาดเดาของเขาเอง โจชัวจึงค่อนข้างมั่นใจว่าศาลนอกรีตนี้เชื่อในเทพชั่วร้าย
แม้ว่าโจชัวจะหลีกเลี่ยง “การต่อสู้อย่างเปิดเผย” กับศาสนจักรได้โดยการเปิดโรงเตี้ยมใจหิน แต่ต่อจากนี้ไปจะมี ‘การต่อสู้ในที่ลับ’ อีกมากมาย
ตอนนี้ผู้สอบสวนของศาสนจักรถูกเขากําจัดไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาจะส่งทีมอื่นออกมาจัดการเขาอย่างแน่นอน
โชคดีที่โจชั่วได้รู้จากดาร์คเอลฟ์ว่าผู้สอบสวนของศาลนอกรีตอันตรายตรงที่พวกเขาสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้กลายเป็นมนุษย์ได้ นอกจากนี้ยังมีการโจมตีที่สามารถทําลายจิตใจของคู่ต่อสู้
สําหรับอย่างแรก โจชั่วมี ‘เรดาร์มนุษย์’ ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงของหัวหน้าผู้สอบสวนคือพันหน้า เหมือนเช่นดาร์คเอลฟ์ ผู้ไม่มีประสิทธิภาพต่อหน้าโจชัว โจชัวยังมั่นใจว่าเขาจะสามารถระบุผู้สอบสวนธรรมดาคนอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว
สิ่งเดียวที่น่ากังวลก็คือการโจมตีพิเศษของพวกเขา
‘เมื่อเจ้าได้สัมผัสด้วยตัวเอง เจ้าจะรู้ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน มันเหมือนกับว่ามีสัตว์ประหลาดบ้าๆ หลายล้านตัวมาพึมพําอยู่ในหูของเจ้า การพึมพําของพวกมันจะทําให้เจ้ารู้สึกเหมือนมันค่อยๆ ผ่าหัวของเจ้าออกด้วยมีดหั่นเนื้อ’
โจชัวหวนนึกถึงคําเตือนและคําอธิบายของดาร์คเอลฟ์
ดาร์คเอลฟ์ดูเหมือนจะมีพรสวรรค์ในการเล่าเรื่อง ในระหว่างการบรรยายของนาง นางพูดด้วยน้ําเสียงที่น่าขนลุก
เมื่อได้ยินคําอธิบายของนาง ลูกครึ่งมังกรและลูกอสูรแมวเทาก็เริ่มกอดกันด้วยความหวาดกลัว แม้แต่หางก็ยังขดไปมา
แม้ว่าดาร์คเอลฟ์จะเน้นย้ําว่าการโจมตีทางจิตของผู้สอบสวนนั้นอันตรายเพียงใด แต่โจชัวไม่ได้หยุด
เหตุผลก็คือเพราะว่าเสียงพึมพําเหล่านั้นอาจกระจัดกระจายไปตามสภาวะทางอารมณ์ของคนๆ หนึ่ง
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถ้าผู้สอบสวนตัดสินใจโจมตีเจ้าด้วยการโจมตีทางจิต และพยายามทําให้สภาวะจิตใจของเจ้าวุ่นวาย สิ่งที่เจ้าต้องทําคือนําเครื่องเล่น MP3 ของเจ้าออกมาสวมหูฟังและเริ่ม เล่น ‘Gokuraku Judo 1’ เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น การพูดพึมพําทั้งหมดจะหยุดลง จากนั้นเจ้าสามารถตอกหน้าผู้ที่เชื่อในเทพชั่วร้ายเหล่านั้นได้
นั่นเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของสิ่งที่สามารถทําได้เกี่ยวกับเสียงพึมพํา อย่างไรก็ตามโจชัวได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถทําได้ในโรงแรมนกพิราบดํา
ผู้สอบสวนของศาลนอกรีตคือไพ่ยิปซีของโบสถ์ศาสนจักร เหล่านักรบเทมพลาร์ไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มเดียวในสนามรบหรือพวกทําสงครามกับปีศาจ
บางที…โจชัวควรหาคนมาประจําการอยู่ที่ชายแดนของอาณาจักรปีศาจ และส่งเสริมเครื่องเล่น MP3 หรือซีดี? เฮ้ เขาสามารถตั้งดีเจสําหรับสนามรบได้
นั่นจะสามารถต้านทานอันตรายที่ผู้สอบสวนของศาลนอกรีตนํามา
นอกจากนี้โจชัวจําเป็นต้องเปลี่ยนเอลฟ์น้ําแข็งให้กลายเป็นดาวเด่นเพื่อที่เมล็ดพันธุ์ต้นไม้โลกจะงอกขึ้นอย่างรวดเร็ว
หากเอลฟ์น้ําแข็งตัดสินใจที่จะเดินบนเส้นทางนักร้องไอดอล โจชัวสามารถโปรโมตอัลบั้มเพลงให้กับโลกนี้ได้
อย่างไรก็ตามปัจจุบันโจชั่วไม่มีเวลาทําอย่างนั้น เขาต้องรีบถ่ายทําภาพยนตร์เรื่อง ‘ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ’ ให้เสร็จโดยเร็ว
หลังจากที่โจชั่วออกจากโรงแรม ดาร์คเอลฟ์ก็มาถึงห้องใต้หลังคาซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดในโรงแรม
ในห้องใต้หลังคาไม่มีหน้าต่างหรือขยะกองพะเนิน มันกว้างขวางและว่างเปล่ามาก แทนที่จะเรียกว่าห้องใต้หลังคา เรียกมันว่าห้องลับน่าจะดีกว่า
ดาร์คเอลฟ์เดินเข้าไปในห้องใต้หลังคา ด้วยการโบกมือของนาง ฝุ่นบนพื้นก็กระจายด้วยเวทมนตร์ วงเวทย์เปิดเผยตัวเมื่อฝนหายไป
ดาร์คเอลฟ์นําผลึกออริจินั่มจํานวนมากที่มีพลังเวทย์มนตร์ออกมาแล้ววางไว้บนมุมทั้งสี่ของวงเวทย์ จากนั้นนางก็เริ่มคุกเข่าลงในวงเวทย์
ออร่าสีดําเริ่มเล็ดลอดออกมาจากวงเวทย์ ดาร์คเอลฟ์สามารถสัมผัสได้ถึงรอยประทับนกพิราบดําบนคอของนางที่กําลังค่อยๆ ร้อนขึ้น พลังเวทย์ไหลออกมาจากรอยประทับและเข้าสู่วงเวทย์ จากนั้นภาพของร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเหนือวงเวทย์
“มันเกิดขึ้นได้ยังไง?”
เสียงที่ไม่มีตัวตนดังขึ้นในหูของดาร์คเอลฟ์ นางไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงนั้น นางทําตามความปรารถนาของเจ้าของเสียงนั้น และรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นในนอร์แลนด์เมื่อเร็วๆ นี้
“แล้วเขายังไม่เต็มใจที่จะกลับไปที่เมืองหลักอีกเหรอ?”
“ข้าพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแจ้งท่านโจชัวว่าศาลนอกรีตนั้นอันตรายแค่ไหน”
ต่อหน้าภาพร่างนี้ ดาร์คเอลฟ์ไม่กล้าเรียกโจชัวด้วยคําว่า ‘เจ้า’ หรือชื่ออีกต่อไป นางเพิ่มคําว่า ‘ท่าน’ เข้าไปในชื่อของเขาแทน
“แต่ท่านโจชัวยืนกรานอย่างดื้อรั้นที่จะผลิตสิ่งที่เขาเรียกว่าภาพยนตร์ต่อไป ถ้าเขายังคงอยู่ในนอร์แลนด์ต่อไป ข้าคงจะไม่สามารถปกป้องเขาได้อีก” ดาร์คเอลฟ์กล่าว
“เจ้าคิดว่าสิ่งที่เรียกว่าภาพยนตร์น่าสนใจไหม?”
ประโยคต่อมาที่เจ้าของเสียงพูดทําให้ดาร์คเอลฟ์ประหลาดใจ
ภาพยนตร์? น่าสนใจ?
ถ้า ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ เป็นภาพยนตร์แค่เรื่องเดียว ดาร์คเอลฟ์คงส่ายหัวเพื่อบอกว่ามันไม่จริง
นางรู้ว่าสิ่งที่ถูกถามถึงคือภาพยนตร์เรื่อง ‘ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ’
แม้ว่าดาร์คเอลฟ์ไม่ต้องการที่จะยอมรับ แต่นางก็ยังต้องการตอบกลับด้วยว่า ‘ไม่ใช่แค่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังน่าสนใจอย่างมาก’
เนื่องจากเอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีอายุยืนยาว นางจึงมีอายุยืนยาวกว่ามนุษย์ทั่วไปมาก ตลอดหลายปีที่นางมีชีวิตอยู่ นางต้องพบกับความเจ็บปวดมากมาย สิ่งที่นางไม่สามารถลืมได้มากที่สุดคือความเจ็บปวดจากการถูกกวาดล้างเผ่าพันธุ์ของนาง
หลังจากประสบเหตุการณ์ทั้งหมดนั้น ดาร์คเอลฟ์ก็คิดว่าตัวเองเป็นนักฆ่าที่เลือดเย็นและโหดเหี้ยม
ทว่าเรื่องราว ‘ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ’ ก็สามารถสัมผัสได้ถึงจุดที่นุ่มนวลที่สุดในหัวใจของนาง
โชคดีที่นางได้พบกับเด็กสาวที่ชื่อมาทิลด้าเหมือนกันกับลีอองแล้ว
“ข้าปฏิเสธไม่ได้ มันช่างน่าหลงใหลจริงๆ”
นางพูดความจริงในสิ่งที่นางรู้สึก
“น่าหลงใหล พันหน้าครั้งสุดท้ายที่เจ้าชมเชยแบบนั้นคือตอนที่ข้าช่วยเจ้าเมื่อหลายปีก่อนข้าเริ่มรู้สึกสนใจภาพยนตร์ที่สามารถทําให้เจ้าประทับใจ ข้าสงสัยว่ามันเป็นภาพยนตร์ประเภทไหนกันแน่”
ดาร์คเอลฟ์สามารถได้ยินความคาดหวังบางอย่างในน้ําเสียงนั้น สิ่งนี้ทําให้นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองดูเงาที่เลือนลางในวงเวทย์
“ภาพยนตร์เรื่องนั้น ยังไม่เสร็จ”
เมื่อนางนึกถึงส่วนของภาพยนตร์ที่นางดูในวันนี้ ดาร์คเอลฟ์รู้สึกไม่สบายใจอย่างมากนางต้องการดูมากกว่านี้ แต่เมื่อพิจารณาถึงตัวตน ตําแหน่ง และชื่อเสียงของนางแล้ว นางไม่ทําเรื่องน่า ละอาย และขอบทภาพยนตร์ได้
ด้วยเหตุนี้นางจึงทําได้เพียงรออย่างเงียบๆ จนกว่าการถ่ายทําจะเสร็จสิ้น
“ไม่เป็นไร ข้าชินกับการรอคอยแล้ว”
“แต่…เจ้าบังคับให้เขากลับไปไม่ได้เหรอ?”
ดาร์คเอลฟ์กําลังรายงานพร้อมกับเตรียมบังคับโจชัวกลับเข้าไปในอาณาจักรปีศาจ แม้ว่าโจชัว จะไม่ได้มีชื่อเสียงและไม่มีอํานาจมากมายในอาณาจักรปีศาจ แต่เขายังคงเป็นเจ้าชายปีศาจ
หากเจ้าชายปีศาจถูกศัตรูลอบสังหารตอนที่เขาอาศัยอยู่ในต่างแดน ราชวงศ์คนอื่นจะไม่ยอม