สายเปย์เบอร์หนึ่ง – ตอนที่ 10

ตอนที่ 10

บทที่10 ผู้หญิงอยู่กำกับภายนอก ผู้ชายอยู่กำกับภายใน

หลีชิงเยียนค่อยๆเดินไปข้างหน้า เฉินเป่ยตามอยู่ข้างหลัง แม้ว่าจะสวมชุดสูทราคาแพงนั่น แต่คนที่ไม่รู้ เห็นเฉินเป่ย ที่หน้าตากะล่อนเจ้าเล่ห์ คงจะนึกว่า เป็นผู้ตามจีบ หลีชิงเยียน กำลังถือโอกาสแอบดู!

เมื่อเดินเข้าในคฤหาสน์ ชายวัยกลางคนในชุดสูทเรียบร้อย เดินออกมาต้อนรับอย่างกระตือรือร้น

“เสี่ยวเยียน ไม่ง่ายที่เธอจะกลับมากินข้าวที่บ้านครั้ง แม่เธอคิดถึงเธอมากเลยนะ” ชายวัยกลางคนพูดทักทายอย่างอบอุ่น

ชายวัยกลางคนตัวสูงใหญ่มาก วันเวลาไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้บนใบหน้าของเขา กลับยิ่งทำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่และสุขุมมากขึ้น มีบารมีที่ยิ่งใหญ่ แค่ดูก็รู้ว่า เป็นบุคคลสำคัญมาก

เฉินเป่ยเดาตัวตนของชายวัยกลางคนออกในทันที หลีหยาง พ่อของ หลีชิงเยียน ผู้บริหารของ บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ในฐานะผู้ก่อตั้ง บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป หลีหยาง มีมูลค่าหลายหมื่นล้าน คือยักษ์ใหญ่ที่สำคัญในวงการธุรกิจเมืองหู้ไห่

เมื่อ สายตาของหลีหยางเหลือบมองไปที่ เฉินเป่ย เห็นว่าได้อยู่ข้างหลังของ หลีชิงเยียน ผอมแห้งแรงน้อย เฉินเป่ย ที่มีรอยยิ้มประจบ หลีหยางชะงักเล็กน้อยก่อน จากนั้นก็จำขึ้นมาได้ หัวเราะอย่างกระตือรือร้น ทักทายว่า “คุณเฉิน!”

“ประธานหลี” พยักหน้าเล็กน้อย ยิ้มจางๆ

“คุณเฉินไม่ได้เจอมาหลายเดือนแล้ว ในช่วงนี้ได้ใช้ชีวิตกับลูกสาวฉันดีบ้างหรือเปล่า?ลูกสาวของฉันดื้อรั้นเอาแต่ใจ น่าจะทำให้คุณเหนื่อยใจไม่น้อย” หลีหยางพูดขึ้น

หลีชิงเยียน ที่อยู่ด้านข้าง ได้ยินคำพูดของ หลีหยาง ใบหน้าที่งดงามนิ่งอึ้งเล็กน้อย หลังจากนั้นก็กระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ ตะโกนขึ้น “พ่อ!”

หลีชิงเยียนไม่สามารถรับได้จริงๆ พ่อของตัวเองถึงกับเกรงใจมีมารยาทกับเฉินเป่ยมากขนาดนี้ ยังบอกว่าตัวเองดื้อรั้นเอาแต่ใจอีก! ทั้งๆที่ไอ้หมอนี่รักตัวกลัวตาย ตอแยรังควานไม่หยุดหย่อน หัวของตัวเอง กำลังจะระเบิดแล้ว!

“เข้าไปพูดข้างใน” หลีหยาง พา หลีชิงเยียนและเฉินเป่ยเข้าไปในคฤหาสน์อย่างกระตือรือร้น

หลังจากที่เข้าไปในคฤหาสน์ หลีชิงเยียน ไม่อยากเห็นหน้า เฉินเป่ย แม้แต่สักวินาทีเดียว จึงขึ้นไปชั้นบนด้วยความโกรธในทันที ขังตัวเองอยู่ในห้องนอน

หลังจากที่ หลีหยางพา เฉินเป่ย เข้าไปในห้องนั่งเล่น สตรีที่ท่าทีสง่างามก็เดินออกมา ชงชาให้ทั้งสองคน

หญิงวัยกลางคนได้รับการดูแลอย่างดี บุคลิกอ่อนโยนสง่างาม แค่ดูก็รู้ว่าเกิดจากตระกูลที่มีความรู้และวัฒนธรรมอันดีงาม ใบหน้างดงาม และยังมีความคล้ายกับ หลีชิงเยียน เล็กน้อย เฉินเป่ยเคยได้พบกับผู้หญิงคนนี้เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เธอน่าจะเป็นหลีเซียงหาน แม่ของ หลีชิงเยียน

“คุณเฉิน การออกแบบของคฤหาสน์หลังนี้ นายมีความคิดเห็นอะไรไหม?”หลีหยางพูดขึ้น

“ออกแบบได้ดีมาก ฉันไม่มีความเห็นอะไร” เฉินเป่ย ยิ้มเล็กน้อย

“เมื่อกี้ ฉันเห็นนายตอนเดินเข้ามาในคฤหาสน์ ดูเหมือนนายจะคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างดี หรือว่าการออกแบบที่นี่ นายก็เคยเห็นที่อื่นมาก่อน?” หลีหยาง ค่อยๆพูดขึ้น ส่วนลึกในแววตามีการหยั่งเชิงที่ลึกล้ำ

เมื่อกี้เขาได้สังเกต เฉินเป่ย ตลอดเวลา พบว่า เฉินเป่ยไม่ได้มีท่าทีดูตกตะลึงเหมือนกับคนทั่วไป เมื่อได้เห็นคฤหาสน์เลย กลับสงบอย่างน่าประหลาดใจ แม้ว่าจะเห็นการรวบรวมของสไตล์สถาปัตยกรรมมากมาย ก็ยังคงสงบเหมือนเดิม

หลีหยาง เคยตรวจสอบ เฉินเป่ย เฉินเป่ยเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ที่ไม่มีภูมิหลังฐานะใดๆเลย แต่ความสงบที่ เฉินเป่ยแสดงออกมานั้น เกินจินตนาการของเขาอย่างสิ้นเชิง

ในความเป็นจริง ตัวเลือกลูกเขยของตระกูลหลี หลีหยางมีอยู่ในใจหลายคน แต่สุดท้ายแล้ว กับเป็นคุณปู่ของหลีชิงเยียน ซึ่งมีตำแหน่งสูงศักดิ์ ที่อยู่ห่างไกลถึงเยี่ยนจิง แนะนำ เฉินเป่ย อย่างกะทันหัน

หลีหยางเคารพคุณปู่ของ หลีชิงเยียนมาก ประการแรก เพราะเป็นพ่อของตัวเอง ประการที่สองก็คือ ทุกสิ่งที่คุณปู่ของ หลีชิงเยียน พูดนั้น ล้วนไม่ใช่ว่าจะไร้เหตุผล

เดิมที หลีหยาง นึกว่า เฉินเป่ยมีภูมิหลังอะไร แต่หลังจากที่เขาส่งคนไปตรวจสอบแล้ว ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจ เฉินเป่ย มีประวัติที่ธรรมดา เขาเหมือนกับ หลีชิงเยียน ยังไม่เข้าใจเจตนาของคุณปู่

แต่สิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อความเคารพของ หลีหยาง ที่มีต่อ เฉินเป่ย ถ้าหาก เฉินเป่ย เป็นคนธรรมดาจริงๆ แต่เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณปู่ของ หลีชิงเยียน นั้นก็ต้องมีความสามารถพิเศษกว่าคนทั่วไป

หลีหยาง จ้องมองเฉินเป่ย ด้วยรอยยิ้ม เขาอยู่ในวางการธุรกิจมานานหลายสิบปี ได้ฝึกสายตาหลักแหลมตั้งนานแล้ว มองคนได้แม่นยำมาก แต่เขากลับไม่สามารถมอง เฉินเป่ย ออก

“คุณเฉิน สูบบุหรี่ไหม?” หลีหยางถามขึ้น

“สูบ แต่ตอนนี้เลิกสูบแล้ว” เฉินเป่ยยิ้มอ่อนๆ

“เลิกแล้ว เป็นเพราะว่า เสี่ยวเยียน ไม่ชอบกลิ่นควันบุหรี่ใช่ไหม?” หลีหยาง

หัวเราะเบาๆ

“ตอนนี้เสี่ยวเยียนขึ้นไปชั้นบนแล้ว เราสูบหน่อย เธอไม่รู้เหรอ” หลีหยางพูดขึ้น

เฉินเป่ยพยักหน้า หลีหยางซองบุหรี่ออกจากอก หยิบซิการ์คิวบาCohiba ล้ำค่า ที่เก็บสะสมไว้เป็นเวลานานออกมา จุดไฟให้เฉินเป่ย ด้วยตัวเอง

ในไม่ช้า กลิ่นหมอก็ลอยกระจายไปทั่วห้อง

เฉินเป่ย ค่อยๆพ่นควันออกมา เม้มปากไว้ เหมือนครุ่นคิดบางอย่าง แล้วพูดว่า“ประธานหลี ซิการ์ของคุณน่าจะราคาแพงไม่น้อยสินะ ซิการ์คิวบาCohiba รสชาติถือว่าเข้มข้น”

ดวงตาของ หลีหยางนิ่งชะงักเบาๆ ประหลาดใจเล็กน้อย “นายรู้จักซิการ์นี้ด้วยหรือ?”

เฉินเป่ย ยิ้มอ่อนๆ “เมื่อก่อนโชคดี เคยได้สูบมวนหนึ่ง”

หลีหยางพยักหน้า นี่คือซิการ์สะสม ที่ฉันฝากคนประมูลจากคิวบาด้วยความยากลำบาก คอลเลคชั่นนี้วางจำหน่ายในตลาด มีราคาล้ำค่า แต่ขาดตลาดแล้ว ฉันยังสะสมไว้นิดหน่อย คุณเฉิน วันนี้นายถือว่ามีลาภปากแล้ว!”

เฉินเป่ย ยิ้มอ่อนๆหลีหยาง ไม่ได้พูดผิดเลยสักนิด คอลเลคชั่นนี้ วางจำหน่ายในตลาด ราคาได้สูงเท่าฟ้าแล้ว ผู้คนมากมายปรารถนา แต่ไม่สามารถได้มันมา…… แต่ว่า ในคฤหาสน์โคลอมเบียของ เฉินเป่ย ก็ยังมี ซิการ์คอลเลคชั่นเก็บไว้หลายลัง!

“วันนี้ ประธานหลีให้ฉันกับ หลีชิงเยียน เข้ามา คือจะทำอะไร?” เฉินเป่ยถาม

“ไม่ได้เจอกันหลายเดือนแล้ว อยู่ด้วยกันสังสรรค์ คุยเล่นกันหน่อย” หลีหยาง หัวเราะเบาๆ

“วันนี้ฉันเชิญทีมเชฟจากร้านอาหารสามดาวมิชลินมาโดยเฉพาะ เดี๋ยวคุณเฉิน ก็ชิมอาหารอย่างเพลิดเพลินได้เลย!”

หลังจากที่คุยกับ เฉินเป่ยสักพัก ก็ถึงเวลาทานอาหารอย่างรวดเร็ว อาหารค่ำเรียกได้ว่าหรูหราสุดขีด เมื่อเฉินเป่ยได้เห็นอาหารมื้อค่ำที่ทำขึ้นอย่างประณีตและหรูหรา น้ำลายก็แทบจะไหลออกมา

หลีหยางไม่เห็นท่าทางของ เฉินเป่ย แบบนี้ ในที่สุดก็รู้สึกโล่งใจแล้ว แบบนี้ถึงจะเป็นปฏิกิริยาที่คนธรรมดาควรจะเป็น

หลังจากที่ เฉินเป่ยนั่งลงไม่นาน บันไดด้านข้าง ก็ส่งเสียง “ตึกๆๆ” ตามมา ไม่ช้า หลีชิงเยียน สวมรองเท้าแตะ ค่อยๆเดินลงมา ดันมานั่งลงข้างๆ เฉินเป่ย

เมื่อเห็น เฉินเป่ย หลีชิงเยียน จ้องเขม็งอย่างดุเดือด เห็นได้ชัดว่า ยังคงใส่ใจกับเรื่องในตอนกลางวัน

“คุณพ่อ คุณแม่ จะกินได้เมื่อไหร่ ฉันหิวมากแล้ว” หลีชิงเยียน เอ่ยถามขึ้น

“เดี๋ยวก่อน ฉันยังมีเพื่อนคนหนึ่งจะมา” หลีหยาง ยิ้มอย่างมีเลศนัย

“เพื่อน? พ่อไม่เคยชวนคนอื่นมากินข้าวที่บ้านเลยนะ” หลีชิงเยียนสองมือกอดอก ขมวดคิ้วเล็กน้อย

“เดี๋ยวคนมาถึง เธอก็จะรู้เอง คนคนนี้ น่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเธอ” หลีหยางพูดขึ้น

ในที่สุดคำพูดของ หลีหยาง ก็กระตุ้นความสนใจของ หลีชิงเยียน คนที่สามารถเข้ากันได้ดีกับ หลีชิงเยียน น้อยมาก แต่สามารถได้รับการเชิญจาก หลีหยาง เฉินเป่ยยิ่งคิดไม่ออกว่ายังจะมีใคร

เฉินเป่ยที่อยู่ด้านข้าง กินอย่างตะกละตะกลามตั้งนานแล้ว ไม่มีท่าทางการกินที่ดูดีเลย ทำให้ หลีชิงเยียน แอบดูถูก ไอ้หมอนี่ กำลังจะทำที่นี่เหมือนบ้านตัวเองหรือ ช่างไร้ยางอายสิ้นดี!

อาหารรสเลิศที่ปรุงโดยเชฟระดับมิชลินสามดาว ปริมาณไม่มาก โดยเฉินเป่ย กวาดล้างทานไปไม่น้อย อย่างรวดเร็ว

ฉากนี้ ทำให้ หลีหยางดูจนหัวเราะออกมา “คุณเฉินเป็นคนไม่ถือตัวอยู่ในกฎเกณฑ์ เป็นคนที่ตรงๆไม่อ้อมค้อม”

เฉินเป่ย หัวเราะเบาๆ อาหารมื้อใหญ่ของฟรี ไม่กินก็ไม่กินเสียเปล่า เขาจะปฏิเสธได้อย่างไร

แม้ว่าอาหารในต่างประเทศ เฉินเป่ยอาจไม่มองอยู่ในสายตา แต่กลับมาที่หัวเซี่ยเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว อาหารเลิศรสเช่นนี้ เฉินเป่ย แทบจะไม่ได้เจอเลย ตอนนี้เลยอยากอาหารโดยธรรมดา

หลีชิงเยียนนั่งอยู่ข้างๆเฉินเป่ย เห็น เฉินเป่ยกินอย่างบ้าคลั่ง อย่างไร้ยางอาย ยิ่งไม่พอใจด้วยความรังเกียจ

“หน้าด้าน……” หลีชิงเยียนเบะปากใส่ นี่มันพวกนักเลงหัวไม้ชัดๆ เธอกำลังคิดอยู่ว่า เดี๋ยวหลังจากทานข้าวเสร็จ จะคุยกับ หลีหยาง ยังไงดี ให้ เฉินเป่ย ย้ายออกไปอยู่ข้างนอก เธอไม่อยากเห็นหน้าเขาแม้แต่เสี้ยววินาทีแล้ว!

ทันใดนั้น คนรับใช้คนหนึ่ง ได้เดินเข้ามาจากข้างนอก และพูดกับหลีหยาง

ว่า “ประธานหลี แขกมาแล้ว”

“เร็ว รีบเชิญเขาเข้ามาเร็ว” รอยยิ้มบนใบหน้าของหลีหยางมากขึ้นอีก

ในไม่ช้า ชายคนหนึ่งในชุดสูทลิมิเต็ดอิดิชั่นของหลุยส์วิตตอง ก็เดินเข้ามาจากด้านนอก พร้อมกับถือกล่องของขวัญขนาดใหญ่ในมือ ใบหน้ายิ้มแย้มสดใส

“คุณอาหลี ระหว่างทางมีเรื่องนิดหน่อย มาสายแล้ว ขออภัยๆ” บุคลิกของชายหนุ่มมีสง่าราศี รูปร่างใหญ่โต ระหว่างยกมือขึ้น แสดงนาฬิกาโรเล็กซ์ออกมาโดยไม่ตั้งใจ ส่องแสงประกายแวววาว

“เจ้าหลุน รีบนั่งลง เรารอแค่นายแล้ว” หลีหยาง กระตือรือร้นยิ่งนัก ทักทายให้ชายหนุ่มนั่งลง

“เติ้งหลุน?” หลีชิงเยียน ขมวดคิ้วเบาๆ มองไปที่ชายหนุ่มคนนี้ ด้วยท่าทีประหลาดใจ

“เจ้าหลุน พวกเรา นายก็รู้จักหมดก แนะนำให้นายหน่อย นี่คือลูกเขยของฉัน เฉินเป่ย” หลีหยาง พูดแนะนำ

เฉินเป่ย ในขณะนี้ กำลังถือน่องไก่ไว้แทะอย่างดุเดือด กินอย่างตะกละตะกลาม มือเยิ้มน้ำมันไปหมด

หลีชิงเยียนที่อยู่ด้านข้างได้เห็นฉากนี้ มือกุมหน้าผาก……ไอ้หมอนี่…… ทำให้ตัวเองอับอายขายหน้าจริงๆเลย!

“ได้ยินชื่อเสียงของ คุณเฉินมานานแล้ว เมื่อก่อนมักจะได้ยิน ชิงเยียน พูดถึงคุณมาตลอด แต่ไม่เคยมีโอกาสได้เจอกันเลย ชิงเยียนบอกกับฉันว่า คุณชอบที่จะเป็นพ่อบ้านอยู่ในบ้าน?” เติ้งหลุนมองไปที่ เฉินเป่ย หัวเราะเบาๆ ส่วนลึกในแววตา พาดผ่านการดูถูกเหยียดหยามที่รุนแรง

เฉินเป่ยเงยหน้าขึ้น เช็ดมือแล้วยิ้มจางๆ “ชิงเยียน ชอบกำกับภายนอก ฉันไม่สามารถแย่งกับเธอได้ ก็ต้องกำกับภายในแน่นอน”

เติ้งหลุนมองไปที่ เฉินเป่ย ความดูถูกที่เผยออกมาจากแววตา ยิ่งมากขึ้น “แต่ฉันก็ยังคงคิดว่า ผู้ชายก็ควรจะทำงานต่อสู้ข้างนอก คนที่ฉลาดและสวยงามอย่าง ชิงเยียน ก็ควรถูกคนปกป้องดูแล อย่างไรก็ตาม ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกิน ก็ไม่ต่างอะไรกับของไร้ค่าเลย”

สายเปย์เบอร์หนึ่ง

สายเปย์เบอร์หนึ่ง

Status: Ongoing

เขาเป็นคนที่ทำให้คนอื่นกลัวและเคารพ แต่กลับกลายเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง ต่ำต้อยเหมือนฝุ่น ไม่เอาไหนเหมือนขยะ ราวกับว่าใครๆก็สามารถเหยียบย่ำเขาไว้ใต้เท้าแต่ ในใจเขามีความทะเยอทะยาน…….จะมีสักวันหนึ่ง เขาจะจับมือเธอ มอบโลกทั้งใบให้เธอ!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท