สายเปย์เบอร์หนึ่ง – ตอนที่ 30

ตอนที่ 30

บทที่ 30 เรื่องสนุกกำลังจะแสดงแล้ว

“ชิงเยียน ” หลีหยางที่อยู่อีกด้าน ขมวดคิ้วแน่น คำพูดของหลีชิงเยียนเมื่อครู่นี้ ไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของเฉินเป่ยเลย

“นั่งเถอะ นี่เป็นชาที่ผมได้มาใหม่ ทุกท่านลองชิมดู” ไต้ห้าวหนานยิ้มบางๆ

หลังจากที่ทั้งสามนั่งลง หลีหยางจิบชาอึกหนึ่ง เอ่ยอย่างแปลกใจว่า “ห้าวหนาน ชาของคุณรสชาติไม่เลว เป็นชาดี”

หลีชิงเยียนไม่ชอบดื่มชา ดื่มไปอึกหนึ่ง ก็แสดงความคิดเห็นเรียบๆว่า “ใช้ได้”

ส่วนซูเหลย ก้มหน้าลองดม แววตาฉายความแปลกประหลาดใจ

กลิ่นหอมแบบนี้ ซูเหลยรู้สึกคุ้นเคยมาก กลิ่นหอมของชาแบบนี้ เมื่อก่อนตอนที่ซูเหลยยังอยู่ในหน่วยสงครามพิเศษ ก็เคยทำความดีความชอบ ได้รับการเชื้อเชิญจากผู้บัญชาการระดับสูงไปดื่มชาเช่นกัน

ตอนนั้นซูเหลยก็ไม่ชอบดื่มชานัก ไม่มีความสนใจในเรื่องชาสักเท่าใด แต่รสของชานี้ช่างเยี่ยมยอดมากจริงๆ ทำให้ซูเหลย หยุดที่จิบมันไม่ได้ จิบเดียว ก็จำได้ขึ้นใจ ยากจะลืมเลือน

หล่อนจำได้ว่า ผู้บังคับบัญชาผู้นั้นบอกหล่อนถึงความเป็นมาของชานี้ ชานี้มีรสชาติพิเศษเฉพาะตัว เป็นราชาแห่งชา หาได้ยากยิ่ง ผลผลิตที่ได้ในแต่ละปีน้อยกว่าที่คิดไว้มาก แม้ว่าจะเป็นบุคคลที่มีอำนาจมากมายก็ยากที่จะได้มาซึ่งใบชาแบบนี้ ปกติทั่วไปคนที่จะได้สัมผัสรสชาติชานี้ ไม่ใช่เพียงบุคคลผู้มีอำนาจมากมายของหัวเซี่ย

ครั้งนั้น ผู้บังคับบัญชาท่านนั้นโชคดีได้รับรางวัลมา เป็นชานี้ จึงพูดได้ว่า ครั้งนั้นที่ซูเหลยได้ดื่มชานี้ เป็นโชคดีอย่างมาก

แต่เธอคิดไม่ถึงว่า จะได้มีโอกาส ดื่มชานี้อีกครั้ง ทั้งยังเป็นเมืองเล็กๆอย่างเมืองหู้ไห่……

ซูเหลยมองไปยังไต้ห้าวหนานสายตาคู่นั้นมีความดุดัน เธอมีความรู้สึกว่า ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ ไม่ธรรมดาแน่นอน

เฉินเป่ยจิบชาอึกหนึ่ง แล้วก็วางลง นัยน์ตาลึกล้ำ ซับซ้อนแฝงด้วยความน่ากลัว

หลีหยางหันมา มองไปที่เฉินเป่ย ถามว่า ”เจ้าเฉิน คุณคิดว่าชานี้เป็นอย่างไรบ้าง“

เฉินเป่ยวางแก้วชาลง ลิ้นแตะที่เพดานปากแล้วพูดว่า“ชารสชาติดีมาก ชานี้ คงจะถือเป็นของล้ำค่าหายาก”

“ถูกต้อง”ไต้ห้าวหนานปรบมือ มองมายังเฉินเป่ยด้วยสีหน้าชื่นชม “คุณเฉินสายตาแหลมคมนัก ชานี้ แม้แต่ผม ก็ยังได้มาไม่มาก”

“โอ้ ชานี้มีความเป็นมาด้วยหรือ”หลีหยางตื่นตะลึง ตกใจเล็กน้อย เห็นชัดว่าสนใจอย่างมาก

“แน่นอนครับ เคยได้ยินชาต้าหงเผามั้ยครับ” ไต้ห้าวหนานยิ้มบางๆ

“ชาต้าหงเผาหรือ ก็คือต้นชาโบราณสองต้นนั้น ได้รับสมญานามว่าเป็นเพชรเหลว” หลีหยางตื่นตะลึง สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

“แค่ชาแก้วเดียวเท่านั้น ถึงกับเรียกว่าเป็นเพชรเหลว” หลีชิงเยียนทำเสียงขึ้นจมูก สำหรับเธอแล้ว ก็คือเรื่องที่แต่งขึ้นมาหลอกลวง

“ไม่ ” หลีหยางสีหน้าดุดัน มองไปยังน้ำชาในถ้วย น้ำเสียงเคร่งขรึมขึ้นมา “ชาต้าหงเผาเป็นชาล้ำค่า ต้นชาทุกต้น แต่ละปีมีผลผลิตออกมาน้อยมาก หลายปีมานี้ต้นชาหลายต้นตายแล้ว ดังนั้นก็ยิ่งเป็นที่ต้องการ ที่สำคัญที่สุดก็คือ……” หลีหยางชะงักไปชั่วครู่ สีหน้าเปลี่ยนเป็นแปลกพิสดารขึ้นมา

“ปีที่แล้วเกิดแผ่นดินไหวที่แหล่งปลูกชา มีต้นชาโบราณต้นหนึ่ง ถูกขโมยหายสาบสูญไป……ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด ผู้คนมากมายต่างพากันตามหา ก็ไร้ซึ่งเบาะแส ” ไต้ห้าวหนานเอ่ยเบาๆ

หลีหยางถอนหายใจ“ก็ไม่รู้ว่าใครทีมีความอดทนขนาดนั้น ถึงขั้นขุดเอาต้นชาโบราณต้นใหญ่โตขนาดนั้นไป ได้ยินว่าที่เกิดเหตุมีเหลือเพียงแค่หลุมขนาดมหึมาเอาไว้……”

เฉินเป่ยที่อยู่ด้านสีหน้าเรียบเฉย หลีหยางและไต้ห้าวหนานแทบไม่รู้เลยว่า เรื่องนี้……ที่แท้ก็เป็นฝีมือของเฉินเป่ย เอง!

ต้นชาโบราณต้นนั้น ตอนนี้ถูกปลูกเอาไว้ที่สวนหลังคฤหาสน์ในโคลัมเบีย ช่วงนั้น เฉินเป่ยยังใช้ชาต้าหงเผาที่ผู้คนมากมายตามหามาบ้วนปาก ล้างเท้าและอาบน้ำ……

โชคดีที่ไม่มีใครรู้ว่าเฉินเป่ยทำแบบนี้……มิเช่นนั้นผู้ที่รักชาเป็นชีวิตจิตใจเหล่านั้น คงต้องอยากฆ่าเขาแน่!

“ชาต้าหงเผาเป็นของที่ดีมาก ไม่เพียงทำให้อายุยืนยาว ยังมีผลดีต่อร่างกายมาก หลังจากดื่มแล้ว ต่อไปหากดื่มชาอื่น ก็จะรู้สึกไม่มีรสชาติ ลืมรสชาติของมันไม่ได้” หลีหยางอธิบาย จิบอย่างระวังอีก จากนั้นก็วางลงเบาๆ

ไต้ห้าวหนานยิ้มอ่อนๆ ความจริงแล้วชาต้าหงเผาเหล่านี้ เป็นหนึ่งในของที่ไต้ห้าวหนานเตรียมนำมาแสดงความเคารพต่อเฉินเป่ยก่อนหน้านั้น ตอนนี้ถูกเขาแบ่งเอามา ใช้หลอกล่อเฉินเป่ยและหลีชิงเยียนให้ตกหลุมพราง

“หากท่านอยากได้ ผมพอจะมีเก็บไว้อยู่บ้าง ผมเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องชามากมายนัก ถึงเวลาจะให้ท่านทั้งหมดเลย” ไต้ห้าวหนานพูด

หลีหยางสีหน้าตื่นตกใจ รีบโบกไม้โบกมือชาต้าหงเผาเหล่านี้นั้นราคาประเมินค่าไม่ได้ มีค่ามากกว่าเงินทองเพชรพลอยเสียอีก แน่นอนว่าเป็นของขวัญที่ยากจะคาดเดาได้!

หลีหยางและไต้ห้าวหนานพูดคุยกันต่ออีกชั่วครู่ หลีชิงเยียนที่อยู่ข้างๆเห็นเฉินเป่ยกรอกชาต้าหงเผาลงไปแก้วแล้วแก้วเล่า แววตาประหลาดใจ

ผู้ชายคนนี้เดิม ถ้าไม่กินก็คือไม่กิน ชาที่ล้ำค่าแบบนี้ กลับเอามาดื่มแทนน้ำเปล่าอย่างบ้าคลั่ง!

“รีบออกไปเลย อย่ามาอยู่ตรงนี้ให้ขายหน้า!” หลีชิงเยียนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน มองไปยังเฉินเป่ย เข้มงวดกับคนๆนั้น เพื่อหวังว่าคนๆนั้น จะได้ดิบได้ดี มีการพัฒนาที่ดีขึ้น! ช่างน่าเสียใจ ตนเองทำไมถึงมีสามี ที่ทำให้ขายหน้าแบบนี้นะ!

หลีชิงเยียนนิ้วเรียวยาวหยิกไปที่เอวของเฉินเป่ยแรงๆ ทำให้เฉินเป่ยสีหน้าค่อยๆเปลี่ยนไป ได้แต่ยิ้มสะกดกลั้นความเจ็บเอาไว้ ผลักประตูออกไปจากห้องรับแขก

เฉินเป่ยยืนอยู่หน้าห้องรับแขกครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งสวมหมวกแก็ป ก้มหน้าก้มตาเดินเข้าไปในห้องทำงานท่านประธานของหลีชิงเยียน

เฉินเป่ยจ้องร่างนั้นอย่างนึกสนุก ในใจเดาออกทันที่ว่ามีอะไร

ชายลึกลับปลอมตัว เดินเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธาน มองไปรอบๆอย่างระแวดระวัง ไม่นานก็เดินมาถึงข้างโต๊ะทำงานของหลีชิงเยียน ดึงลิ้นชักออก ควักถุงพลาสติกที่ใส่ของจนเต็มถุงออกมาจากหน้าอก ใส่เข้าไป

ทันใดนั้น ภายในห้องทำงานที่เงียบสงบไร้ผู้คน จู่ๆก็มีเสียงปรบมือดังขึ้น

ผู้ชายลึกลับคนนั้นสั่นไปทั้งตัว เขาหมุนตัว มือจับปืนพกที่เหน็บอยู่ที่เอว!

เขาถูกจับได้แล้ว!

เห็นเพียงเฉินเป่ยที่ไม่รู้ว่าปรากฏตัวอยู่ข้างเขาตั้งแต่ตอนไหน มองเขาอย่างเงียบๆ นัยน์ตาเย็นยะเยือกดำดิ่ง

“ไต้ห้าวหนานวางแผนเก่งจริงๆ พูดได้ว่าช่างไม่รู้ผิดชอบชั่วดีอะไรเลย”ในมือของเฉินเป่ยถือปืนพกอยู่ ทำให้ดวงตาคู่นั้นของชายลึกลับหรี่ตา จ้องปืนในมือของเฉินเป่ยเขม็ง!

นั่นมันปืนพกของเขานี่ แต่กลับไม่รู้ตัวเลยว่าไปอยู่ในมือเฉินเป่ยตอนไหนกัน ตั้งแต่แรกเริ่ม เขาไม่รู้สึกอะไรเลย!

”ตายซะเถอะ!” ดวงตาคู่นั้นของชายลึกลับเปล่งประกายการเข่นฆ่าที่รุนแรง กำหมัดแน่น หมัดนั้นพุ่งมายังเฉินเป่ย!

“เพล้ง!”เฉินเป่ยเตะขาออกไป ชายลึกลับนั้นลอยออกไป กระแทกพื้นสลบไป

หลังจากรอให้ชายลึกลับฟื้นขึ้นมา ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาเฉินเป่ย เขารีบเปิดลิ้นชักดู พบว่าของชิ้นนั้นถูกวางในลิ้นชักเรียบร้อย จึงพอจะเบาใจขึ้นมาบ้างรีบลุกอย่างตื่นตกใจ หนีจากอาคารตระกูลหลีอย่างตระหนกตกใจ

แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ในรถมายบัคซีรี่ย์เอสที่ตอนจอดอยู่ตรงหน้าประตูของอาคารตระกูลหลีนั้น มีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ รอยยิ้มลึกซึ้ง ค่อยๆเริ่มขยับ

จนกระทั่งชายลึกลับคนนั้นขึ้นรถแท็กซี่ รถมายบัคก็ตามไปด้านหลัง ขับตามออกไปข้างนอก……

รถแท็กซี่จอดตรงหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ชายลึกลับคนนั้นลงจากรถ เดินเข้าไปในห้องๆหนึ่ง เอ่ยกับลูกน้องคนหนึ่งของไต้ห้าวหนาน ว่า “ของผมเอาไปวางไว้ในลิ้นชักในห้องทำงานของหลีชิงเยียนแล้ว ภารกิจสำเร็จลุล่วง”

“ดีมาก เงินจะถูกโอนเข้าบัญชี หลังจากจบเรื่องแล้วคุณไต้ ยังตบรางวัลให้อีก” ลูกน้องคนนั้นแทบไม่รู้ตัวเลยว่าภายในห้องนอนข้างๆ ตอนนี้มีเงาดำตะคุ่มเข้ามาจากนอกหน้าต่าง

เงาดำนั้นมองไปรอบๆ สายตาจับจ้องไปที่ตู้เซฟ รอยยิ้มลึกล้ำ

หลังจากที่รอให้ชายลึกลับนั้นไปแล้ว ลูกน้องของไต้ห้าวหนานคนนั้นไม่ได้เคลือบแคลงสงสัยอะไร ควักโทรศัพท์มือถือออกมา โทรแจ้งตำรวจทันที!

…………

สถานีตำรวจเมืองเมืองหู้ไห่ ภายในห้องทำงานห้องหนึ่ง วิทยุสื่อสารเครื่องหนึ่งจู่ก็ดังขึ้นมา เย่ชวงรับสาย สีหน้าเย็นยะเยือกนั้นค่อยๆเปลี่ยนเป็นดุดันขึ้นมา “ค่ะ!”

ต่อมา เย่ชวงก็ตัดสายไป พุ่งตัวออกจากห้องทำงาน ตะโกนเสียงดังว่า “เจ้าหน้าที่ทุกคนฟังคำสั่ง เตรียมกำลังทันที มีรายงานว่า บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปซ่อนยาเสพติดเอาไว้ อาจจะเกี่ยวพันกับคดียาเสพติดครั้งก่อน”

“ครับ!”

ไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายก็ออกมา แสงไฟจากรถตำรวจนับคันไม่ถ้วน ดังระงม!มุ่งหน้าไปยังบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป!

……

ห้องรับแขก ที่ตึกอาคารตระกูลหลี

ไต้ห้าวหนานชำเลืองมองที่นั่งที่ว่างอยู่นั้น ขมวดคิ้ว “คุณเฉินไปไหนเหรอครับ เข้าห้องน้ำหรือ ก็ไม่น่าจะเข้านานขนาดนี้นะครับ”

“ฉันให้เขาออกไปรอด้านนอกก่อนนะค่ะ” หลีชิงเยียนส่งสายตาให้ซูเหลย ซูเหลยเข้าใจความหมาย เปิดประตูห้องทำงาน ให้เฉินเป่ยเดินเข้ามา

“คุณเฉินกับชิงเยียนแต่งงานกันนานขนาดนี้แล้ว คงจะใช้ชีวิตแต่งงานกันอย่างมีความสุขดีนะครับ” จู่ๆไต้ห้าวหนานก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา มองไปยังเฉินเป่ยและหลีชิงเยียน น้ำเสียงเฉือดเฉือน

หลีชิงเยียนสีหน้าตกตะลึง พยักหน้า

“หวังว่าต่อไปสามีภรรยาอย่างพวกคุณ จะสามารถร่วมกันเผชิญหน้าได้” ไต้ห้าวหนานหัวเราะร่า

“ห้าวหนาน นี่คุณหมายความว่ายังไง” หลีชิงเยียนขมวดคิ้ว สีหน้าสงสัย

ตอนนั้นเอง เลขาหลินเฉว่วิ่งพรวดพราดหน้าตาตื่นเข้ามา พูดว่า“ประธานหลี ท่านประธานกรรมการหลี เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ เจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีตำรวจเมืองหู้ไห่มาค่ะ”

“เกิดเรื่องอะไร” หลีหยางสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ที่ผ่านบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปซื่อตรงเปิดเผยมาตลอด ไม่เคยทำเรื่องผิดกฎหมายมาก่อน สถานีตำรวจเมืองหู้ไห่ ทำไมจู่ๆตำรวจถึงมาที่นี่

รีบร้อน บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมา!

ไต้ห้าวหนานจู่ๆก็ยืนขึ้นมา หัวเราะเบาๆ “เรื่องสนุก เริ่มขึ้นแล้ว”

ปฏิกิริยานี้ของไต้ห้าวหนาน ทำให้หลีหยางและหลีชิงเยียนล้วนไม่เข้าใจ นี่มันสถานการณ์อะไรกัน

ส่วนซูเหลยนั้น รู้สึกหวั่นใจ มองไต้ห้าวหนานอย่างสงสัย ในใจมีความรู้สึกเหมือนมีลางบอกเหตุ

เฉินเป่ยที่อยู่อีกด้าน รอยยิ้มยิ่งเจิดจรัสมากขึ้น พูดขึ้นว่า “ใช่แล้ว เรื่องสนุก กำลังจะเริ่มแล้ว”

หลีชิงเยียนมองเฉินเป่ยอย่างไม่พอใจ แววตาดูถูก ผู้ชายคนนี้ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เอาแต่ประจบสอพลออยู่ตรงนี้

ไต้ห้าวหนานมองไปยังหลีชิงเยียนและเฉินเป่ยรอยยิ้ม ยิ่งเยือกเย็นขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับเขาแล้ว สามีไร้ประโยชน์แบบนี้ กับนางตัวดีนี่ รวมทั้งตระกูลหลี ใกล้จะถึงหายนะ เข้ามาทุกทีแล้ว

เขาวางแผนทุกอย่างไว้หมดแล้ว รอเก็บเกี่ยวผล ใช้สถานีตำรวจเมืองหู้ไห่เป็นเครื่องมือ รอดูเรื่องสนุก

สายเปย์เบอร์หนึ่ง

สายเปย์เบอร์หนึ่ง

Status: Ongoing

เขาเป็นคนที่ทำให้คนอื่นกลัวและเคารพ แต่กลับกลายเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง ต่ำต้อยเหมือนฝุ่น ไม่เอาไหนเหมือนขยะ ราวกับว่าใครๆก็สามารถเหยียบย่ำเขาไว้ใต้เท้าแต่ ในใจเขามีความทะเยอทะยาน…….จะมีสักวันหนึ่ง เขาจะจับมือเธอ มอบโลกทั้งใบให้เธอ!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท