บทที่ 42 คนขับรถอย่างงั้นหรือ
บอดี้การ์ดสองคนหน้าซีด สายตาของพวกเขากวาดไปที่กลุ่มคุณชายเหล่านั้น พวกเขาจำได้แค่บางคน แต่ส่วนใหญ่พวกเขากลับไม่เคยเจอมาก่อน
คุณชายเหล่านั้นล้วนมีภูมิหลังไม่ธรรมดา มาจากตระกูลดัง ไม่ว่าจะเป็นลูกชายของนักธุรกิจใหญ่ หรือเป็นข้าราชการการเมืองระดับสูง ไม่มีใครมีความเป็นมาที่ธรรมดาเลยสักคน
กลุ่มคุณชายพวกนี้มีอิทธิพลมากพอที่จะพาดหัวข้อข่าวลงหน้าหนังสือพิมพ์ของเมืองเมืองหู้ไห่ในวันรุ่งขึ้น
และตอนนี้พวกเขาทั้งหมดมารวมตัวกัน…ในขณะเดียวกันก็กำลังต้อนรับผู้ชายคนหนึ่งอยู่งั้นหรือ?
นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? นี่เป็นครั้งแรกที่ปรากฏในประวัติศาสตร์เมืองเมืองหู้ไห่!
บอดี้การ์ดจ้องมองไปที่รถ BMW สีดำด้วยใจที่เต้นแรง พวกเขาอยากรู้เป็นพิเศษว่าใครคือคนที่อยู่ในรถ เขาคนนั้นเป็นใครกันแน่?
นี่มันน่าตกใจเกินไปสำหรับบอดี้การ์ดสองคน พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลย
“พรึบ!”
ทันใดนั้นรองเท้าหนังก็ก้าวลงจากรถและเหยียบลงบนพื้นพร้อมกับเสียงดังฟังชัด
จากนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งลงมาจากรถ รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาพอที่จะทำให้สาวๆหลายคนคลั่งไคล้
เขาก็คือคุณชายหลี คุณชายหลีที่ทำให้คุณชายทุกคนออกมาต้อนรับเขา!
คุณชายเหล่านั้นไม่ได้ยิ้มรักษาภาพพจน์หรือยโสโอหังเหมือนในอดีต และในขณะนี้พวกเขาก็หันไปทางคุณชายหลี ด้วยความเคารพและแสดงความประจบสอพลอ
เนื่องจากพ่อของพวกเขาตลอดไปจนผู้อาวุโสต่างบอกเล่าต่อกันมาว่า คุณชายหลีคนนี้…มาจากเยี่ยนจิง
หากได้รับความโปรดปรานจากคุณชายหลี ธุรกิจในตระกูลก็จะได้ผงาดกลายเป็นมังกร มีแต่ได้กับได้
หลังจากได้รับการเตือนจากผู้อาวุโสของตระกูล ในเวลานี้แม้แต่คุณชายที่ดื้อรั้นก็รู้ถึงความสำคัญของเรื่องนี้และต้องหาวิธีที่จะได้ใกล้ชิดกับคุณชายหลี
พวกเขาได้แต่คาดเดาถึงสถานะของคุณชายหลีโดยไม่กล้าพูดออกมา เนื่องจากเมืองเมืองหู้ไห่…อาจจะไม่สามารถอยู่อย่างสงบสุขอีกต่อไป
“เชิญ คุณชายหลี” คุณชายฉินเดินนำหน้าสุดเพื่อนำทางคุณชายหลี
“คุณชายหลี โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดและหรูหราที่สุดของเมืองเมืองหู้ไห่ต้อนรับเฉพาะผู้นำระดับสูงของรัฐและบุคลากรคนสำคัญเท่านั้น ไม่เปิดให้เช่าในวันธรรมดา ผมจัดการเล็กๆน้อยๆ คืนนี้จึงกลายเป็นงานเลี้ยงของพวกเรา” คุณชายฉินยิ้มเล็กน้อย
คุณชายหลีพยักหน้า “ลำบากคุณชายฉินแล้ว”
“ไม่หรอกครับ คุณอุตส่าห์เดินทางไกลมาจากเยี่ยนจิง เพราะฉะนั้นก็ควรได้พักผ่อนถึงจะถูก ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนไปงานเลี้ยงคืนนี้” คุณชายฉินให้ความเคารพเขาอย่างมาก โชคดีที่เขามีไหวพริบ หลังจากเข้ามาในโรงแรมแห่งนี้เขาเป็นคนแรกที่ได้ใกล้ชิดกับคุณชายหลี ไม่อย่างนั้นเขาคงกลายเป็นคนตามตูดคุณชายหลีเหมือนคุณชายพวกนั้นไปนานแล้ว
“ผมมาที่นี่เพื่อมาหาคนคนหนึ่ง” คุณชายหลีกวาดสายตาไปในห้องจัดงานเลี้ยง
“ไม่ต้องรีบร้อนหาคนหรอกครับ เชิญคุณชายหลีไปพักผ่อนที่ห้องสวีทของโรงแรมก่อนดีกว่า” คุณชายฉินยิ้ม
และไม่นานหลังจากที่คุณชายหลีมาถึง ก็มีรถไมบัค S-Class เเล่นเข้ามาอย่างรวดเร็วท่ามกลางแสงไฟที่อยู่ล้อมรอบริมถนน เฉินเป่ยขับรถเข้ามาอย่างระมัดระวังและแอบมองกระจกมองหลังเป็นระยะๆ หลีชิงเยียนนั่งไขว่ห้างอยู่เบาะหลัง ดวงตาคู่สวยปิดลงเพื่อพักผ่อน ผมดำเรียบพาดไหล่ของเธอไว้ข้างหลังเหมือนน้ำตก ใบหน้ารูปไข่บอบบางดูอย่างไรก็ไม่มันเยิ้มเลย
เฉินเป่ยสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกจากการแสดงออกผ่านใบหน้าของหลีชิงเยียน ตอนนี้ภายในใจของหลีชิงเยียนเป็นกังวลอย่างมาก สามเดือนที่ผ่านมานี่เป็นครั้งแรกที่เห็นหลีชิงเยียนมีสีหน้าเคร่งเครียดขนาดนี้
เฉินเป่ยมองเเล้วมองอีก สายตาของเขาเลื่อนลงอย่างไม่ได้ตั้งใจ เรียวขาที่สวยงามเหล่านั้นน่าดึงดูดเกินไปโดยเฉพาะต้นขา ทั้งเนียนละเอียดและเรียวยาว ดูอย่างไรก็ไม่เบื่อ…
“ขับรถดีดี ถ้ามองอีกฉันจะควักลูกตานาย” ทันใดนั้นน้ำเสียงอันเยือกเย็นดังทะลุหูเฉินเป่ยราวกับใบมีดที่แหลมคมทำให้เฉินเป่ยรู้สึกตื่นตัว เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นหลีชิงเยียนเอามือกอดหน้าอกจ้องมาที่เขาอย่างเย็นชา
ดวงตาที่สวยงามราวกับจะทุบร่างของเฉินเป่ยเป็นชิ้นๆ
“อื้อ” เฉินเป่ยยิ้มและรีบมองตรงไปข้างหน้า
หลังจากถึงหน้าประตูโรงแรม รถไมบัคก็จอดอย่างช้าๆ ประตูรถเปิดออก หลีชิงเยียนเหยียบรองเท้าส้นสูงลงจากรถอย่างช้าๆ และหายเข้าไปโรงแรมอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เฉินเป่ยจอดรถ เขาก็อยากเดินตามเข้าไปข้างในด้วย แต่กลับโดนบอดี้การ์ดขวางทางไว้
“คุณเป็นใคร?” บอดี้การ์ดทั้งสองกวาดสายตามองเฉินเป่ย
“เป็นคนขับรถของหลีชิงเยียน” เฉินเป่ยพูด
“คนขับรถ? คนขับรถเดินไปทางประตูหลัง” บอดี้การ์ดทั้งสองสบตา
เฉินเป่ยนิ่งสักพัก “ทำไมต้องเดินไปทางประตูหลัง?”
“คนขับรถทุกคนก็เดินไปทางประตูหลังกันทั้งนั้น หรือว่านายอยากจะเข้าทางประตูหลักล่ะ?” หนึ่งในบอดี้การ์ดยิ้มเยาะ “นายยังมีคุณสมบัติไม่พอ”
เฉินเป่ยหรี่ตาและกวาดสายตามองบอดี้การ์ดทั้งสอง “ถ้าฉันจะเดินเข้าทางประตูหลักล่ะ?”
“ขาของนายก็จะถูกตัด” บอดี้การ์ดอีกคนลอบมองเฉินเป่ยด้วยสายตาเหยียดหยาม เขาไม่คิดเลยว่าคนขับรถของประธานหลีจะมีสภาพแบบนี้ เสื้อเชิ้ตสีขาวเหมือนไม่ได้ซักมานาน
เฉินเป่ยผู้รุงรังคู่ควรที่จะอยู่ในสถานที่ที่สูงส่งและหรูหราเช่นนี้?
“ยังไม่ไปอีก?”บอดี้การ์ดพูด
เฉินเป่ยรู้สึกเย็นวูบวาบไปทั่วใบหน้า เขาพูดว่า “ถ้าเสร็จธุระแล้ว ฉันจะมาคุยกับพวกนาย”
บอดี้การ์ดทั้งสองหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยาม รูปร่างเล็กๆแบบเฉินเป่ยเนี่ยนะจะทำอะไรพวกเขาได้? ออกแรงเป่าแค่ทีเดียวก็ปลิวไปไกลแล้ว
เฉินเป่ยเดินเข้าไปจากทางประตูหลัง ผ่านห้องครัวและรีบเดินเข้าไปในห้องที่อยู่ด้านใน ผู้ชายที่อยู่ภายในห้องต่างก็สวมชุดสูทสีดำกันทั้งนั้น บรรยากาศครึกครื้น
คนเหล่านี้ก็คือคนขับรถส่วนตัวของแขกที่มางานเลี้ยง เนื่องจากแขกที่มาร่วมงานล้วนเป็นคนใหญ่คนโต คนขับรถเหล่านี้จึงต้องสวมชุดเป็นทางการ
เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว เสื้อเชิ้ตสีขาวของเฉินเป่ยที่เต็มไปด้วยรูกระสุนนั้นเหมือนกับเพิ่งปีนขึ้นมาจากหลุม
“เอ๋ ใครมาอีกล่ะ?” ชายที่ดูหยิ่งผยองยืนขึ้นถือแก้วไวน์มองไปที่เฉินเป่ย
“นายทำงานให้ใคร?” ชายคนนั้นถามเฉินเป่ยเหมือนเป็นการตรวจสอบ
“หลีชิงเยียน…ประธานหลี” เฉินเป่ยตอบ
“ประธานหลี” ชายคนนั้นตกใจ พร้อมทั้งหัวเราะออกมา “หลีชิงเยียน? นายเนี่ยนะ? สภาพอย่างนายเนี่ยนะที่เป็นคนขับรถของประธานหลี ไม่ตักน้ำชะโงกดูเงาตัวเองบ้างเลย สภาพแบบนี้ดูได้ซะที่ไหน?
คนที่อยู่ภายในห้องก็ระเบิดหัวเราะออกมา มีบรรยากาศที่สนุกสนานอยู่ทุกหนทุกแห่ง
“ได้ยินมาว่าประธานหลีเป็นคนรักความสะอาด แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นคนขับรถให้ประธานหลี เชื่อกับผีน่ะสิ!”
“อย่าแสร้งไปหน่อยเลย คิดว่าคงแอบเดินมาจากทางประตูหลังแน่ๆ ถ้าบอกว่ามาขอกินข้าวก็พอจะเชื่อได้อยู่…”
“เร็วเข้า ในนี้ฉันใหญ่สุด มารินเหล้าคารวะพี่ใหญ่สักแก้วแล้วรีบไสหัวไป!” ผู้ชายคนนั้นเมาไม่รู้เรื่องรู้ราว ร่างกายเต็มไปด้วยแอลกอฮอล์ พูดด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง
เฉินเป่ยจ้องไปที่ชายคนนั้นครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มอย่างโมโหและชกกระหน่ำไปที่ขากรรไกรของชายคนนั้นอย่างสวยงาม
“ปัก”
ชายคนนั้นทรุดตัวลงบนโต๊ะเหล้า สีหน้าของเขาดูเจ็บปวดและประหลาดใจ ไม่คาดคิดว่าเขาจะเป็นคนขับรถของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของศาลากลางเมืองนี้ เขามีสถานะสูงที่สุดในบรรดาคนขับรถพวกนี้ ผู้ชายคนนี้กล้าทำกับเขาถึงขนาดนี้!
“แกตายแน่!” ชายคนนั้นลุกขึ้นมาด้วยความโมโห
“คนขับรถงั้นหรือ? ในสายตาพวกเขา แม้แต่หมาก็ไม่ใช่ แล้วยังคิดจะหาเรื่องใส่ตัวอีก” เฉินเป่ยถอนหายใจ พูดประชดประชัน
“สมควรตาย!” ชายคนนั้นพุ่งเข้าหาเฉินเป่ย แต่กลับโดนเฉินเป่ยเตะอย่างรวดเร็ว
ภายในห้องเงียบสงัด เมื่อคนขับรถเหล่านั้นเห็นเฉินเป่ยลงมือ หัวใจก็สั่นระริก
เด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนขับรถจริงๆงั้นหรือ?
ผู้ชายที่วางศีรษะสูงกว่าตัวเองหนึ่งหัวอย่างสบายๆ มักจะง่ายต่อการจัดการ
ในขณะที่เป็นคนขับเหมือนกัน พวกเขายังทำไม่ได้เลย
เฉินเป่ยกวาดตามองแล้วเอามือไคว่หลัง จากนั้นเดินออกจากห้องอย่างสบายๆและมุ่งไปยังห้องจัดเลี้ยง
หลีชิงเยียนอยู่ตรงกลางห้องจัดเลี้ยงพอดี แม้ว่าจะมีแขกมาร่วมงานมากมาย แต่การปรากฏตัวของเธอก็กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนในงานได้ทันที
ในตอนนี้ใบหน้าที่บอบบางและสวยงามของเธอดูสงบ แต่หัวใจของเธอเต้นตลอดเวลาและยากที่จะสงบลง
ทันใดนั้นมือหยาบขนาดใหญ่คว้ามือหยกที่อ่อนนุ่มของเธอ หลีชิงเยียนหันไปมองก็เห็นเฉินเป่ยอยู่ในท่าทีสงบเสงี่ยม
ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้มาปรากฏตัวอยู่ข้างๆเธอตั้งแต่เมื่อไหร่
“มีผมอยู่ คุณวางใจเถอะ”เฉินเป่ยพูด มันเหมือนกับเข็มเทพใต้ทะเลที่ทำให้หินที่อยู่ภายในใจของหลีชิงเยียนผ่อนคลายลงได้
อยู่ๆกลุ่มคนเหล่านั้นก็ส่งเสียงจอแจ หลีชิงเยียนหันหลังไปมองกลุ่มคนเหล่านั้น
ใบหน้าหลีชิงเยียนก็เริ่มแสดงออกถึงความรู้สึกซับซ้อน
เขามาแล้ว