บทที่ 41 คุณชายหลี
“เยี่ยนจิง?” หลีชิงเยียนนิ่งไปสักพัก ร่างกายที่บอบบางของเธอสั่นเล็กน้อย
จุดหักระหว่างหลีชิงเยียนและเยี่ยนจิงนั้นนอกจากตระกูลหลีแห่งเยี่ยนจิง อย่างอื่นก็ไม่มีแล้ว
เฉินเป่ยนั่งบนเก้าอี้ทำงาน แววตาที่เป็นประกายของเขาฉายแววสงบนิ่ง
“ฉันรู้แล้ว” การแสดงออกของหลีชิงเยียนทั้งสงบและหนักแน่น ทว่าภายในใจกลับร้อนรน การต่อสู้ปรากฏผ่านแววตาของเธอ
เธอต้องไปไหมนะ?
“เสี่ยวเยียน นี่เป็นงานเลี้ยงล่อเป้า เธออย่าไปเลย” ซูเสี่ยวหยุนขมวดคิ้ว เธอรู้สึกลางๆว่าตระกูลหลีแห่งเยี่ยนจิงจัดงานเลี้ยงที่เมืองเมืองหู้ไห่ต้องมีจุดประสงค์บางอย่างเกี่ยวกับหลีชิงเยียน
“ฉันจะไปดีไหม?” อยู่ๆหลีชิงเยียนก็หันไปถามเฉินเป่ย
เฉินเป่ยผงะไปชั่วขณะด้วยความประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คาดคิดว่าอยู่ๆหลีชิงเยียนจะหันมาถามความเห็นจากเขา เขาคิดอยู่สักพักก็พูดว่า “ไปหรือไม่ไป ต่างกันตรงไหน?”
ในเมื่อควรไปก็ต้องไป หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่เเล้ว
“อืม” หลีชิงเยียนพยักหน้า ดวงตางดงามตัดสินใจเเน่วแน่ “ไป”
…………
ในขณะนี้มีรถBMWสีดำกำลังเร่งความเร็วบนถนนในเมืองเมืองหู้ไห่และมีรถสีดำอีกหลายคันขับล้อมรอบรถBMWสีดำคันนั้นโดยมีคนชุดดำหลายคนนั่งอยู่ เพื่อคุ้มกันรถBMWสีดำคันนั้น
ยากที่จะจินตนาการได้ว่าเป็นคนแบบไหนที่เดินทางในเมืองเมืองหู้ไห่ด้วยระบบคุ้มกันที่แข็งแกร่งขนาดนี้ แม้จะเป็นคนใหญ่คนโตของเมืองเมืองหู้ไห่ก็ไม่มีกำลังมากแบบนี้
ภายในรถBMW ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลานั่งอยู่ในพื้นที่ภายในรถที่ออกแบบหรูหรา เขาค่อยๆจุดซิการ์คิวบาในมือ และกลิ่นแปลกๆก็ลอยคละคลุ้งในรถ
นอกจากนี้ยังมีชายคนหนึ่งเปิดแชมเปญให้ชายหนุ่มด้วยความเคารพ แชมเปญก็ค่อยๆรินลงในแก้ว ชายคนนั้นไม่กล้าทำเลอะเทอะและทุกการเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วยความระมัดระวัง
มันยากที่จะจินตนาการว่าเสือตัวนี้ซึ่งมักจะครองตัวอยู่ต่างแดน แต่ในขณะนี้กลับมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม อีกทั้งยังทำตัวเชื่องเหมือนลูกแมว
แน่นอนว่าผู้ชายคนนี้ เฉินเป่ยและหลีชิงเยียนรู้ดีว่าเป็น ไต้ห้าวหนาน ที่พยายามวางแผนร้ายพวกเขา!
ตอนนี้เงินทุนของหยุนห้าวได้พังทลายลงอย่างสมบูรณ์แบบ ไต้ห้าวหนานสูญเสียที่พึ่งพิงที่ใหญ่ที่สุดของตัวเอง เขาจึงต้องการแก้แค้น และทำได้เพียงพึ่งพาชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า
“น่าสนใจ…น่าสนใจ…” หลังจากบรรยากาศพื้นที่ภายในที่หรูหราเปลี่ยนไป กลิ่นการเผาไหม้ระหว่างน้ำมันหอมระเหยผสมผสานกับกลิ่นซิการ์คิวบาทำให้คนดื่มด่ำไปกับมัน
เด็กหนุ่มเอ่ยปาก มีความสนใจผ่านเเววตานิ่งงัน
“ไต้ห้าวหนาน คุณบอกว่าก่อนหน้านี้หลีชิงเยียนแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว แล้วบอกว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นไอ้พวกขยะไร้ประโยชน์งั้นหรือ?”
“ใช่ครับ” ไต้ห้าวหนานพยักหน้า “สามเดือนก่อน ตระกูลหลีประกาศออกไปว่าหลีชิงเยียนแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่กลับไม่ได้จัดงานแต่งงาน แม้ว่าสื่อจะไล่ตามหาข่าวเหมือนพายุ แต่ก็ไม่ได้รับเบาะแสใดๆเกี่ยวกับงานแต่งงาน”
“ก่อนหน้านี้ผมเคยคุยกับคู่หมั้นของเธอไม่กี่ครั้ง แต่ก็ยังไม่มั่นใจกับสถานะของเขา”
ไต้ห้าวหนานค่อยๆพูดต่อไป ใบหน้ามีเพียงความสงบที่ลึกล้ำแวบเข้ามาในดวงตาของเขา
“ทำได้ดีมากไต้ห้าวหนาน คุณวางใจได้ รอผมจัดการผู้หญิงคนนั้นได้แล้ว ผมจะตอบรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากเล็กน้อย น้ำเสียงของเขาดูเย่อหยิ่ง
“ขอบคุณ คุณชายหลี” ไต้ห้าวหนานยิ้ม
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ผมเดินทางจากเยี่ยนจิงมาถึงที่นี่ก็เพื่อมาปราบเธอ” ชายหนุ่มพูด
“ผมรู้จักหลีชิงเยียนดี เธอเป็นคนอารมณ์ร้าย”
สีหน้าชายหนุ่มเงียบสงบ ผู้หญิงอารมณ์ร้าย เขาเจอมามากแล้ว ผู้หญิงพวกนั้นมักจะทำตัวไร้เดียงสาและเย็นชาอยู่ต่อหน้าเขา แต่ท้ายที่สุดก็โดนเขากระชากหน้ากากให้เห็นความน่าซื่อใจคดของพวกเธอ
ด้วยสถานะของเขาที่ทำให้พวกผู้หญิงอยากเกาะเขาไว้ แม้ว่าจะต้องสละร่างกายตัวเองก็พร้อมจะขึ้นเตียงกับเขา
ผู้หญิงหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นเด็กสาววัยเรียน ประธานสาว หรือลูกคุณหนู เขาล้วนเห็นมาหมดแล้ว ในสายตาของเขาผู้หญิงเหล่านี้ก็เหมือนกับของเล่นเท่านั้น
แม้จะเป็นผู้หญิงคนนั้นของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปก็เหมือนกัน
“ม้าพยศก็ต้องโดนปราบ จริงไหม?” ชายหนุ่มยิ้มอย่างแผ่วเบา ไต้ห้าวหนานสบตากับชายหนุ่มเป็นเวลานานและยิ้มมุมปากของเขาก็มีความหมายลึกซึ้งเช่นกัน
ใช่…แม้ว่าตัวตนของผู้ชายคนนั้นจะน่ากลัว แต่ถึงอย่างไรหลีชิงเยียนก็เป็นคนของตระกูลหลี เขาจะไปมีสิทธิ์อะไรในการแทรกแซงเรื่องภายในตระกูลหลี?
ไต้ห้าวหนานมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าโดยไม่กล้าดูหมิ่น เพราะเขามาจาก…เยี่ยนจิง!
เขาเรียกชายหนุ่มว่าคุณชายหลี นั่นก็เพราะว่าคุณชายหลีเดินทางมาเมืองหู้ไห่ก็เพื่อบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป!
“คุณชายหลี ผมขออวยพรให้คุณประสบความสำเร็จล่วงหน้า” ไต้ห้าวหนานยิ้มเล็กน้อยแล้วยกแก้วขึ้น
“หลังจากเสร็จเรื่อง ผมจะให้บริษัทการลงทุนหยุนเจี๋ยกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง” ชายหนุ่มยกแก้วขึ้นมาพร้อมกันแล้วจิบแชมเปญด้วยสีหน้าสงบ … ราวกับว่าเขาได้เห็นจุดจบแล้ว
ได้ยินมาว่าผู้หญิงคนนั้นรูปร่างหน้าตาไม่เลว คงเล่นคั่นเวลาได้ไปสักพัก
…………
เฉินเป่ยยืนอยู่หน้าประตูห้องทำงานพร้อมกับรอยตบที่ประทับอยู่บนใบหน้าของเขา เขาโดนหลีชิงเยียนตบก่อนหน้านั้นหนึ่งชั่วโมง
เนื่องจากหลังจากหลีชิงเยียนรู้สึกตัวก็พบว่าเฉินเป่ยกำลังสูบบุหรี่ในห้องทำงานของเธออย่างหน้าด้านๆ ไม่เห็นเธออยู่ในสายตา
ดังนั้นเฉินเป่ยจึงถูกไล่ออกมา
อย่างไรก็ตามเฉินเป่ยก็ไม่ได้สนใจว่าหลีชิงเยียนจะตบเขาได้โหดร้ายเพียงใด เขายืนอยู่ที่ประตูอย่างสงบทำให้เพื่อนร่วมงานหลายคนที่มาๆไปๆรู้สึกแปลกใจ
หลังจากนั้นไม่นานประตูห้องทำงานก็ค่อยๆเปิดออก หญิงสาวสวยคนหนึ่งก็เดินออกจากห้องทำงาน เฉินเป่ยเหลือบมองเล็กน้อยและมีรอยยิ้มที่มุมปากของเขา
“พี่ซู เป็นอย่างไรบ้าง?”เฉินเป่ยถาม
“คุยเรื่องบริษัทอยู่ข้างในสักพักแล้ว ช่วงนี้บริษัทเราไม่ได้มีเรื่องอะไร ฉันก็เลยค่อนข้างว่าง”ซูเสี่ยวหยุนพูด “ตอนเย็น นายวางแผนจะทำอะไรหรือเปล่า?”
“จะทำอะไรได้ล่ะ ภรรยาผมมีงานเลี้ยงตอนเย็น ผมก็ต้องไปกับเธออยู่แล้ว” เฉินเป่ยพูด
“นายไปด้วย?” ซูเสี่ยวหยุนหัวเราะ “ไม่พาฉันไปด้วยล่ะ”
“คุณจะไปทำอะไร? เรื่องแบบนี้คนยิ่งน้อยยิ่งดี”เฉินเป่ยส่ายหัว
ซูเสี่ยวหยุนเงยหน้ามองเฉินเป่ยอย่างมีความหมาย “ทำไมยิ่งน้อยยิ่งดีล่ะ ฉันได้ยินมาว่าห้องน้ำงานเลี้ยงนั่นใหญ่พอที่จะเข้ากันสองคนได้เลยนะ”
เฉินเป่ยสบตากับซูเสี่ยวหยุนพอดี
ซูเสี่ยวหยุนก้าวออกมาและเดินไปข้างหน้าเฉินเป่ย เธออยู่ใกล้เฉินเป่ยมาก ถึงขนาดที่ได้กลิ่นหอมอ่อนๆบนร่างกายของเธอ ทำให้หัวใจที่สงบของเฉินเป่ยเต้นเร็วขึ้นทันใด
เฉินเป่ยก้มหน้า ในขณะที่ซูเสี่ยวหยุนเงยหน้ามองเขาพอดี ใบหน้าที่สวยงามและมีเสน่ห์นั้น … รอยยิ้มจางๆที่มุมปาก ยากที่จะปฏิเสธ!
คำพูดของซูเสี่ยวหยุนชัดเจนเกินไป เกือบทุกคนที่เป็นผู้ชายเต็มตัวก็สามารถเข้าใจความหมายของเธอได้ทันทีโดยไม่ต้องอ้อมค้อม!
ซูเสี่ยวหยุนมีรูปร่างที่งดงามอยู่แล้ว และในตอนนี้เธอยังทำท่ายั่วแบบนี้ หากไม่ใช่เพราะเฉินเป่ยผ่านผู้หญิงมานับไม่ถ้วน ก็คงเป็นการยากที่จะควบคุม!
เฉินเป่ยกลืนน้ำลาย เป็นเพราะหลีชิงเยียน เขาถึงได้กลับตัวกลับใจมานานแล้ว แต่ซูเสี่ยวหยุนกลับกระตุ้นเปลวไฟในร่างกายของเขาได้โดยปริยาย
“ปัง”
ทันใดนั้นเองประตูห้องทำงานก็เปิดออก มีร่างสวยปรากฏขึ้นที่ประตู ดวงตาเย็นชาของเธอกวาดมองเหมือนอยากจะฆ่าคน
ทันใดนั้นซูเสี่ยวหยุนก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ เธอเดินไปข้างหลัง
เฉินเป่ยเป็นคนมือเร็วตาเร็ว เขาเอื้อมมือไปโอบเอวบางของซูเสี่ยวหยุน การร่วมมือที่นุ่มนวลทำให้หัวใจเฉินเป่ยสั่นไหว
ทันใดนั้นแผ่นหลังของเฉินเป่ยก็รู้สึกเย็นยะเยือก หลังจากที่เห็นว่าสายตางดงามของหลีชิงเยียนมองไปที่ตำแหน่งมือของเฉินเป่ยก็แผ่รังสีความเย็นออกมา
เฉินเป่ยกำลังงุนงง…เห็นได้ชัดว่าเมียเขาโมโหแล้ว!
เฉินเป่ยรีบปล่อยมือออก เขามองหลีชิงเยียนพลางยิ้ม “ประธานหลี ฟังผมอธิบายก่อน…”
“ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น นายมันคนบ้ากาม!” หลีชิงเยียนพูดตัดบทเขาอย่างเย็นชา พลางลากซูเสี่ยวหยุนเข้าไปในห้องทำงานแล้วปิดประตู!
เสียงปิดประตูห้องดังขึ้น เหลือเพียงเฉินเป่ยที่กำลังยืนงงอยู่หน้าประตู และไร้ซึ่งปฏิกิริยาใดๆอยู่เป็นเวลานาน…
บ้าเอ๊ย ก็เห็นๆอยู่ว่าซูเสี่ยวหยุนเป็นคนยั่วเขา เขายังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้เป็นผลทำให้เขากลายเป็นแพะรับบาปโดยไม่รู้ตัว
เฉินเป่ยนิ่งไปสักพัก นี่มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ทำไมเขาถึงกลายเป็นแพะรับบาปไปได้ แต่ซูเสี่ยวหยุนกลับไม่ได้โดนว่าอะไร ดูเหมือนว่าหลีชิงเยียนยังปกป้องเธออีก
…………
เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ท้องฟ้าก็ค่อยๆมืดลง เมืองเมืองหู้ไห่ที่แสนคึกคักแห่งนี้ เต็มไปด้วยแสงนีออน แสงไฟหลากสีสัน รถที่วิ่งเร็วบนท้องถนน
ในคฤหาสน์ เฉินเป่ยนั่งอยู่บนโซฟา หลังจากนั้นไม่นานหลีชิงเยียนก็เดินลงมาจากชั้นสอง เธอสวมชุดกระโปรงสีเงินมายืนอยู่ตรงหน้าเฉินเป่ย
เฉินเป่ยกวาดสายตามองไปทั่วร่าง ชุดกระโปรงสีเงินสวยมากเมื่อเปล่งประกายภายใต้แสงไฟ
รองเท้าส้นสูงสีน้ำเงินของท่านประธานหญิงนั้นดูบอบบางและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
“นายอยู่บ้านรอฉัน” หลีชิงเยียนพูด
“ประธานหลี คุณไปงานเลี้ยงแบบนี้จะต้องดื่มเหล้าแน่ๆ แล้วอีกอย่างคนก็เยอะ ถ้าหารถกลับไม่ได้จะทำอย่างไร?” อยู่ๆเฉินเป่ยก็พูดขึ้นมา
หลีชิงเยียนนิ่งไปสักพัก เธอมองเฉินเป่ยแล้วใช้ความคิด อันที่จริงที่เขาพูดมาก็มีเหตุผล
“ประธานหลี ให้ผมไปส่งคุณดีกว่า ผมเป็นคนขับรถให้คุณเอง” เฉินเป่ยถือโอกาส
หลีชิงเยียนตอบอย่างเย็นชา “ไม่ต้องหรอก ซูเหลยขับรถให้ฉันได้”
“ซูเหลยออกไปตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว เห็นบอกว่าจะไปซื้อพวกอาวุธป้องกันตัวให้บอดี้การ์ด จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับเลย” เฉินเป่ยอธิบาย
“นาย…ช่างเถอะ” หลีชิงเยียนสบตากับเฉินเป่ยแล้วพยักหน้า พลางพูดอย่างเย็นชา “ก็ได้ ไปเถอะ”
“อื้อ ประธานหลี เดินลงบันไดระวังด้วย”เฉินเป่ยยิ้มและโน้มตัวไปข้างหน้า
“ถอยไปหน่อย” หลีชิงเยียนเบิกตากว้าง
…………
ในเวลากลางคืนรถ BMW สีดำที่ล้อมรอบด้วยรถหรูหลายคันค่อยๆจอดที่หน้าประตูของโรงแรมห้าดาวหรูหรา
ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินลงจากรถและเดินไปที่ประตูของโรงแรม
บอดี้การ์ดสองคนที่หน้าประตูโรงแรมพูดด้วยความเคารพ “คุณชายฉิน”
คุณชายฉินเป็นลูกชายของท่านประธานบริษัทท่านหนึ่งที่ทำธุรกิจอยู่ในเมืองเมืองหู้ไห่เขาเป็นคุณชายทายาทเศรษฐีที่มีชื่อเสียงในเมืองเมืองหู้ไห่ปกติเขาจะใช้ชีวิตไปกับการกินดื่ม และเล่นการพนันซึ่งมักจะพบเห็นได้ในโรงแรมหลายแห่ง
เมื่อบอดี้การ์ดทั้งสองคนเห็นเขา จะกล้าดูหมิ่นได้อย่างไร
แต่คาดไม่ถึงว่าวันนี้คุณชายฉินไม่มีท่าทีเย่อหยิ่งและดูวางอำนาจเหมือนเมื่อก่อน วันนี้เขาผิดปกติอย่างมาก เขาเดินไปที่ด้านหลังรถ BMW และเปิดประตู
“คุณชายหลี เชิญครับ” คุณชายฉินก้มตัวเข้าไปในรถและพูดด้วยความเคารพ ทำให้บอดี้การ์ดทั้งสองมีสีหน้าตกใจอย่างมาก!
ไม่เพียงเท่านั้นบนรถหรูหลายคันก็มีพวกคุณหนู คุณชายหลายคนค่อยๆลงจากรถ ทั้งหมดล้วนเป็นทายาทเศรษฐีที่รู้จักกันดีแห่งเมืองเมืองหู้ไห่คนแล้วคนเล่า
บอดี้การ์ดทั้งสองสั่นสะท้านในใจเมื่อเห็นทายาทเศรษฐีเหล่านั้น
คุณหนูคุณชายมาทำอะไรกันเยอะขนาดนี้
ปกติแล้วอย่างมากที่สุดก็แค่สามหรือสี่คน แต่วันนี้เกรงว่าจะเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งในเมืองเมืองหู้ไห่
บอดี้การ์ดทั้งสองคนนี้รู้เพียงว่าจะมีการจัดงานเลี้ยงที่นี่ในวันนี้ แต่พวกเขาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
ไม่เพียงแค่นั้น พวกคุณชายเหล่านั้นก็ค่อยๆเดินไปที่รถBMWสีดำคันนั้น
พวกเขาจะทำอะไร?
กลุ่มคุณชายเดินไปข้างๆรถBMW และพูดอย่างเคารพว่า “คุณชายหลี ยินดีต้อนรับสู่เมืองเมืองหู้ไห่!”
ทุกคนพูดพร้อมเพรียงกันทำให้หัวใจของบอดี้การ์ดทั้งสองเต้นเร็วขึ้น นี่…เขาเป็นใครกัน ทำไมพวกคุณชายเหล่านั้นถึงได้ทำตัวเป็นฝุ่นเข้าไปต้อนรับด้วยตัวเอง