บทที่73 ขอโทษ!!
ถังเต๋อขมวดคิ้วมองทางเฉินเป่ย เห็นได้ชัดมากว่าเขาจะต้องพูดอธิบายสักอย่าง
ใบหน้างดงามของหลีชิงเยียนเย็นเฉียบ หลีหงอยากให้หลีเช่าเทียนกับพวกเขาคืนดีกัน แต่หลีเช่าเทียนยินยอมหรือไม่?
ในโถงงานเลี้ยงที่เงียบเหงา……ในอากาศมีบรรยากาศที่หนาวเหน็บกดดันอย่างยิ่งกำลังก่อหวอด ทำให้แม้แต่คนยังหายใจลำบาก
เฉินเป่ยกวาดตามองหลีเช่าเทียนและผู้เชี่ยวชาญแพทย์จีนหลายคนด้านหลัง ก่อนจะเบ้ๆ ปาก “นี่คุณกำลัง……สงสัยใบสั่งยา?”
ถังเต๋อไม่ได้พูดอะไร ถึงแม้เฉินเป่ยจะรักษาโรคของเขาให้หายดี แต่ถ้าเทียบกับผู้เชี่ยวชาญการแพทย์จีนแบบนั้น เดิมทีเขาไม่รู้จักสถานะของเฉินเป่ย ดูขึ้นมาก็ไม่เหมือนกับหมอ
ถังเต๋อสีหน้าเรียบนิ่ง เฉินเป่ยค่อยๆ ลุกขึ้น ทันใดนั้นก็หัวเราะ
“คุณเฉิน นี่ตลกมากเหรอ?” หลีเช่าเทียนยิ้มถาม
“เช่าเทียน เสียเวลาพูดกับเขาทำไม เขาเป็นพวกโกหกเร่ร่อน เที่ยวหลอกลวงต้มตุ๋น ไม่รู้ว่าใช้วิธีไหนหลอกลวงคุณท่านถัง ตอนนี้หมดคำจะพูดแล้ว” มือทั้งคู่ของป้าใหญ่เท้าสะเอวไว้ ถลึงตาใส่หลีชิงเยียนอย่างโหดร้าย “เธอก็ด้วย พวกเขาทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกันแน่”
ป้าสองพยักหน้า “เขาใจฝ่อแล้วล่ะ กล้าใช้ใบสั่งยาธรรมดามาหลอกคุณท่านถัง เป็นพวกไม่เข้าท่าเอาเสียจริงๆ”
“พวกxโง่!” ทันใดนั้นเฉินเป่ยก็พ่นเสียงหนึ่งออกมา เสียงของเฉินเป่ยไม่ดังนัก แต่คำพูดประโยคนี้กลับกลิ้งราวกับฟ้าผ่า สะท้อนกลับเต็มที่ในโถงงานเลี้ยง
หลีเช่าเทียนสีหน้าแข็งทื่อ เฉินเป่ยจิบเหล้าไปอึกหนึ่ง หัวเราะอย่างเหยียดหยาม “กลลวงเล็กๆ แบบนี้ เล่นให้พวกคุณหัวหมุนกันได้เหรอ?”
หลีเช่าเทียนสีหน้าเย็นชา ก้าวเท้าออกมาพูดเสียงดุ “มีอะไรก็รีบพูดมา ทำหน้าลิงหลอกเจ้า ถ้านายไม่ได้ผวาแล้วคืออะไร!”
“ผมผวา?” เฉินเป่ยกวาดตามองหลีเช่าเทียน ตาทั้งคู่เปิดปิด แสงเย็นที่น่าสะพรึงกลัวยิงออกมา! นั่นคือสายตาที่ทำให้คนกลัวจนใจสั่น! โหดร้ายสยองขวัญ! ราวกับการจ้องของอสูร!
เฉินเป่ยก้าวเท้าออกมาเช่นกัน ชั่วขณะนั้นทั้งตัวมีท่าทีน่ากลัวใหญ่โตฟุ้งตลบออกมา
อุณหภูมิทั้งในโถงงานเลี้ยงส่วนตัวลดลงอย่างฉับพลัน เฉินเป่ยกวาดตาผ่านหลีเช่าเทียนและผู้เชี่ยวชาญการแพทย์จีนเหล่านั้นอย่างนิ่งๆ สายตาแหลมคมราวกับดาบ
หลีเช่าเทียนยืนแบบนี้อยู่ตรงนั้น สายตาจ้องมองเฉินเป่ยไว้ยิ่งหนาวเย็นเพิ่มขึ้น การตอบสนองกะทันหันของเฉินเป่ยทำให้ภายในใจเขาเกินความคาดหมายอยู่บ้าง ไม่เปิดไพ่ตามแบบทั่วไปตั้งแต่แรก
ป้าใหญ่กับป้าสองสั่นเทาทั้งตัว จากในสายตาของเฉินเป่ย พวกเธอรู้สึกได้ถึงแรงอาฆาตนิดๆ ชัดเจนอย่างยิ่ง!
เฉินเป่ยควักมือถือออก ต่อสายโทรศัพท์สายหนึ่ง พูดง่ายๆ ไม่กี่ประโยค จากนั้นค่อยๆ วางลง สายตาจ้องมองไปที่หลีเช่าเทียนตรงๆ “อีกห้านาที จะได้เห็นชัดๆ ด้วยตัวเอง”
“ได้” หลีเช่าเทียนเป็นคนที่หยิ่งยโส จะยอมทนการยั่วเย้าแบบนี้ของเฉินเป่ยได้อย่างไรกัน ตอบรับปากไปอย่างไม่ลังเลนิด
เวลาผ่านไปแต่ละนาทีแต่ละวินาที หลีชิงเยียนจ้องเฉินเป่ยไว้ ถึงแม้สีหน้าจะนิ่งสงบ แต่ในดวงตางดงามกลับเป็นความกังวลสับสนที่ปิดซ่อนไม่มิด
เธอไม่รู้ว่าเฉินเป่ยอยากทำอะไร แต่ว่าเธอเป็นห่วงเฉินเป่ยมาก เพราะเฉินเป่ยเวลานี้กำลังเป็นปรปักษ์กับหลีเช่าเทียน
หลีเช่าเทียนเป็นใคร? คุณชายสองของตระกูหลีแห่งเยี่ยนจิง แต่ไหนแต่ไรความคิดรอบคอบ ไม่เคยทำเรื่องที่ไม่มั่นใจ
เรื่องนี้ หลีเช่าเทียนยึดครองความได้เปรียบแน่นอน ไม่ว่าเฉินเป่ยจะพูดอย่างไรก็ตาม ล้วนหนีไม่พ้นข้อครหาที่ไม่กระจ่าง
หลีเช่าเทียน……อยากจะขุดรากถอนโคนเฉินเป่ยทุกเวลานาที!
เกรงว่าหลีชิงเยียนเองก็ไม่ได้รู้เลยว่าตนเองนั้นไม่รู้สึกตัว เริ่มเป็นห่วงความปลอดภัยของเฉินเป่ยขึ้นมาแล้ว
หลังจากต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กันมาหลายนาที ในที่สุดป้าใหญ่ของหลีเช่าเทียนก็เสียความอดทน พูดด้วยน้ำเสียงโมโห “คุณท่านถังคุณยังรออะไรอีก เห็นชัดๆ ว่าเจ้าคนนี้กำลังยื้อเวลา เอาเขาใส่กระสอบจับถ่วงแม่น้ำให้เต่ากินเลย”
“โวยวาย” เฉินเป่ยกวาดตามองป้าใหญ่อย่างเมินเฉย ตำหนิเสียงเย็น
“นายไม่ใช่ที่เขากันลือว่าเป็นฮัวโต๋น้อยแห่งหู้ไห่เหรอ?” ทันใดนั้นผู้อาวุโสท่านหนึ่งก็ยืนออกมา จ้องไปที่เฉินเป่ยอย่างเย็นชา “ฉันเคยเจอผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่หมอมือหนึ่งในวงการแพทย์จีนของเมืองหู้ไห่มาหมด แต่ฉันไม่เคยเจอนายมาก่อน?”
“ได้ยินว่าแม้แต่สิทธิ์เป็นหมอ นายยังไม่มี ยังกล้าเรียกตัวเองว่าฮัวโต๋น้อยแห่งหู้ไห่ ใครให้ความกล้านี้กับนายกัน?”
ผู้อาวุโสหัวเราะเยาะ “เอาใบสั่งยาธรรมดามาหลอกลวงฉัน พวกเสเพลพเนจรคนหนึ่ง ยังกล้าร้องโวยวายต่อหน้าฉันอีก!”
“นายมันเป็นพวกถ่อยสถุลในวงการแพทย์ของพวกเรา” ผู้อาวุโสตวาดเสียงดุ ทำให้สายตาของถังเต๋อเปลี่ยนมากลัดกลุ้ม
“ใครเป็นพวกถ่อยสถุล ในใจตัวเองไม่ชัดเจนรึไง?”
ในเวลานี้ เสียงที่เกรี้ยวกราดลอยมาจากประตูใหญ่ทองแท้ ทำให้ผู้อาวุโสสีหน้าแข็งทื่อ
ผู้อาวุโสหันหน้ามา มองเห็นผู้เฒ่าท่านหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก สีหน้าหนาวเหน็บราวกับเกล็ดน้ำแข็ง
“คุณเป็นใครกัน คุณรู้หรือเปล่าว่าผมเป็นใคร?” ผู้อาวุโสเงยหน้าอย่างลำพอง ถามขึ้นด้วยการมองจากบนลงล่าง
“ฉันต้องสนใจว่านายเป็นใครด้วยเหรอ ใครใช้ให้นายมารังแกเพื่อนของฉัน?” ผู้เฒ่ากวาดตามองทางหมอผู้ชำนาญการที่ยืนอยู่หลายคนนั้น “ฉันได้ยินว่าผู้เชี่ยวชาญในวงการแพทย์จีนที่เมืองหู้ไห่หลายท่านก็มาร่วมสนุกกันที่นี่ด้วย”
“สำหรับฉันเป็นใครนั้น?” ผู้เฒ่ามองทุกคนทีหนึ่ง ยิ้มเยาะ “ฉันเป็นประธานสมาคมการแพทย์แห่งหู้ไห่!”
ซู่!
บรรยากาศเงียบเหงา!!
พอผู้เฒ่าพูดคำนี้ออกมา ทั่วทุกด้านล้วนเงียบไปหมด แม้แต่เข็มหล่นยังได้ยิน!
หลีชิงเยียนจ้องมองผู้เฒ่าไปตรงๆ ในดวงตาคู่งามมีความตกใจเสมือนเดินโผล่ออกมาจากภาพวาด
สถานะของผู้เฒ่าถูกเปิดเผย ทำให้ทั้งโถงงานเลี้ยงเต็มไปด้วยความตกตะลึง
หลีเช่าเทียนสีหน้าเปลี่ยนชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาทั้งคู่หดฉับพลัน เผยสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อออกมา
และแพทย์ชำนาญการเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยน ถลึงตาใส่ผู้เฒ่าอย่างเขม็ง ส่งเสียงตกใจ “เป็นไปไม่ได้ ที่คุณจะเป็นประธานสมาคมการแพทย์? แล้วมาถึงที่นี่ได้อย่างไร?”
“คุณมีสิทธิ์อะไรพูดว่าคุณเป็นประธานสมาคมการแพทย์? เอาอะไรมาพิสูจน์?” หลีเช่าเทียนบีบแก้วเหล้าไว้ ในที่สุดมีความไม่สงบนิดๆ
ผู้เฒ่ากวาดตามองหลีเช่าเทียนอย่างประหลาด แล้วพูดว่า “นายเป็นคนโง่เหรอ? ไม่รู้จักหาในเน็ตเหรอ?”
“คุณ……” หลีเช่าเทียนสีหน้าเย็นเฉียบเฉยเมยทันใด จ้องผู้เฒ่าตรงๆ สายตาล้ำลึกมีแสงเย็นกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เดิมทีผู้เฒ่าไม่รู้จักสถานะของหลีเช่าเทียน ย่อมไม่ได้สนใจชายหนุ่มหล่อเหลาคนนี้ในสายตา!
ส่วนหลีเช่าเทียนราวกับได้รับการเหยียดหยาม……หลังจากที่เขามาถึงเมืองหู้ไห่ ถูกคนเย้ยหยันอย่างไม่ขาดสาย สำหรับความยโสภายในใจของเขาแล้ว นี่เป็นการทำลายอย่างหนึ่ง
เขาเป็นคุณชายรองของตระกูลหลีแห่งเยี่ยนจิงผู้น่าเกรงขาม ผลลัพธ์ตรงนี้ ถูกคนแต่ละคนซึ่งไม่รู้ที่ต่ำที่สูงดูถูก
ลูกเขยแต่งเข้าตระกูลหลีกระจอกๆ คนหนึ่งไม่สนใจเขาอยู่ในสายตา……ตอนนี้แม้แต่ประธานสมาคมเปื่อยๆ คนหนึ่ง ล้วนกล้าเย้ยหยันเขาหมด!
ส่วนร่างงามของหลีชิงเยียนก็สั่นเทา ดวงตางามของเธอมองทางเฉินเป่ย บนใบหน้างดงามมีเสน่ห์ประกายสีอันซับซ้อน จากนั้นเธอจึงเข้าใจ ทำไมเฉินเป่ยถึงสงบนิ่งมีสติ ประธานสมาคมการแพทย์ท่านนี้คือผู้เฒ่าที่ฝึกไทเก๊กท่านนั้นที่เฉินเป่ยพูดถึงก่อนหน้านี้
ผู้เฒ่ามองทางถังเต๋อแล้วยิ้ม “คุณท่านถัง ช่วงนี้ร่างกายฟื้นฟูเป็นยังไงบ้าง?”
ถังเต๋อพยักหน้า “ฟื้นตัวดีมาก เพียงแต่คุณชายหลีสงสัยความจริงของใบสั่งยานี้ บอกว่าผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ยืนยันว่าใบสั่งยานี้เป็นของปลอม และไม่สามารถรักษาอาการป่วยของฉันได้”
“ถูกต้อง เห็นได้ชัดว่าใบสั่งยานี้เป็นของปลอม ตัวยาล้วนเป็นยาที่ธรรมดาที่สุด จะรักษาโรคที่รักษาไม่หายของคุณท่านถังได้อย่างไรกัน!” ผู้อาวุโสท่านนั้นร่างกายสั่นเทา สีหน้าซีดขาว ในเมื่อก็ทำเรื่องราวลงไปแล้ว ไม่สู้ทนกัดฟันแน่น เพียงแต่เขาจะนึกถึงได้อย่างไรว่าจะทำให้ประธานสมาคมการแพทย์แห่งเมืองหู้ไห่มางานเลี้ยงส่วนตัววันนี้ด้วยตนเอง!
“สารเลว! พวกหมอกำมะลอ!” ผู้เฒ่าโมโหเดือดดาล ยิ้มพูดอย่างเสียดสี “สรุปพวกนายเข้าใจว่าอะไรคือวิชาแพทย์?”
“แพทย์แผนจีนของหัวเซี่ย ลึกซึ้งกว้างขวาง แม้กระทั่งยังวินิจฉัยได้ละเอียดกว่าแพทย์ตะวันตก ยาจีนทุกอย่างล้วนหลีกไม่พ้นที่จะเกี่ยวพันกับตัวยาจีนทั่วไป……” ผู้เฒ่ายืนมือไพล่หลัง รอยยิ้มเย็นเฉียบเสียดสี “แค่อ้างอิงจากการที่หลายท่านวินิจฉัยว่าตัวยาจีนในใบสั่งยาเป็นของปลอม……พวกคุณคู่ควรกับผู้เชี่ยวชาญได้ด้วยรึไง?”
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนนั้นตัวสั่นสะท้าน ส่วนสีหน้าของหลีเช่าเทียนยิ่งมืดครึ้มราวกับน้ำ
“คุณท่านถัง” ผู้เฒ่าหมุนตัว นำใบสั่งยานี้ยื่นให้ “ไม่สู้ให้ผมพูดความจริงเถอะครับ ก่อนใบสั่งยานี้จะถูกคุณเฉินทำให้สมบูรณ์แบบ ความจริงเป็นเพียงใบสั่งยาทั่วไป ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อผมถึงบอกว่าสามารถรักษาโรคที่รักษาไม่หายได้ แต่หลังจากที่คุณเฉินบอกผมว่าเพิ่มยาช่วยที่จำเป็นเข้าไป ระหว่างตัวยาประกอบเสริมซึ่งกันและกัน ถึงสามารถสำแดงฤทธิ์ยาที่เป็นผลยิ่งใหญ่ออกมาครับ”
ผู้เฒ่ามองทางเฉินเป่ย เอ่ยปากเรียบๆ “ความสำคัญของยาเสริมนี้ ห่างไกลกับยาหลัก ทั้งชีวิตผมก็ไม่มีวิธีครุ่นคิดใบสั่งยานี้ออกมาได้ สุดท้ายคาดไม่ถึงว่าจะถูกเพื่อนรุ่นเด็กทำให้สมบูรณ์แล้ว” ผู้เฒ่ากวาดตามองผู้เชี่ยวชาญหลายคนนั้นด้วยสายตาดูถูก “ความจริงตัวยาจีนในใบนี้มักจะใช้รักษากับระบบย่อย แต่ไม่ได้หมายความว่านี่คือยารักษาระบบย่อยอาหาร……เหมือนกับการใช้ตัวยาที่มีส่วนประกอบทำให้จิตใจสงบ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นยากล่อมประสาทเหรอ?”
“แม้แต่ความรู้ทั่วไปยังไม่รู้ พวกนายเป็นผู้เชี่ยวชาญ……หรือว่าช่างอิฐ?”
“พอแล้ว” ทันใดนั้นหลีเช่าเทียนก็ส่งเสียงขัดคำพูดของผู้อาวุโส เห็นเพียงหลีเช่าเทียนเอ่ยปากอย่างเย็นชา “เป็นผมสะเพร่าเอง เอาหมอกำมะลอมาวินิจฉัย คุณท่านถัง ขอโทษครับ รบกวนความสนุกของท่านแล้ว”
“ผมไม่รบกวนเวลาสนุกของท่านแล้ว ผมขอตัวไปก่อนนะครับ”
หลีเช่าเทียนพูดจบ หมุนตัว เดินไปทางหน้าประตูใหญ่ทองแท้ ไม่ได้หยุดชะงักสักนิด
ถังเต๋อนั่งอยู่บนเก้าอี้ สีหน้าล้ำลึก ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้พูดอะไรสักคำ
“ไป” หลีเช่าเทียนเอ่ยปาก ป้าใหญ่ป้าสองถลึงตาใส่เฉินเป่ยกับหลีชิงเยียนอย่างแรง จากนั้นรีบตามออกไปอย่างรวดเร็ว
“ช้าก่อน” ในเวลานี้ มีเสียงหนึ่งดังขึ้น!
หลีเช่าเทียนชะงักฝีเท้าลง หันตัวมา ระหว่างที่เฉินเป่ยพิงพนักเก้าอี้ พูดนิ่งๆ “สมกับเป็นคุณชายหลี หลังทรมานเรื่องพวกนี้จบ ยังอยากหนีไปอย่างไม่เสียหาย……โถๆ ช่างน่าดูถูก……”
หลีเช่าเทียนจ้องเขาแบบตรงๆ พ่นเสียงออกมา “เอ๋อตงเฉิน……นายหมายความว่าอะไร?”
“ไม่ได้หมายความว่าอะไร เพียงแค่วันนี้คุณทำให้บรรยากาศงานเลี้ยงส่วนตัวของคุณท่านถังมัวหมอง คุณอยากจะไปแบบนี้เหรอ?” เฉินเป่ยฉีกรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก
“วันหลังฉันจะจัดงานเลี้ยงให้ทุกคนด้วยตัวเอง” สายตาหลีเช่าเทียนเย็นยะเยือกล้ำลึก
“ไม่พอ” เฉินเป่ยเอ่ยปากปฏิเสธ
“พรุ่งนี้ ฉันจะส่งของขวัญไปชดเชย”
“ไม่พอ” เฉินเป่ยปฏิเสธอย่างไม่ลังเลสักนิด
หลีเช่าเทียนสายตาเย็นเฉียบ กุมหมัดทั้งคู่ไว้ ถ้าไม่ใช่วันนี้ถังเต๋ออยู่ที่นี่ แล้วเขาเป็นห่วงว่าตนเองจะทำให้ทั้งตระกูลหลีติดร่างแหไปด้วย จะยอมให้เฉินเป่ยบงการแบบตอนนี้ได้อย่างไร
เจ้าหมอนี้เป็นพวกข้อเรียกร้องสูงมาก
“นายต้องการอะไร ฉันจะให้อันนั้น ได้รึยัง” หลีเช่าเทียนจ้องเฉินเป่ยไปตรงๆ ในสายตามีความแค้นนิดๆ
เฉินเป่ยชี้ไปทางป้าใหญ่ป้าสอง “คุกเข่า ขอโทษ”
ชั่วขณะนั้นป้าใหญ่ป้าสองสีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว ตะโกนเสียงแหลม “ตระกูลหลีมีลูกเขยแบบนายตั้งแต่เมื่อไรกัน กล้ามาสั่งให้คุกเข่า”
“เธอดูไว้นะ หลีชิงเยียน ดูว่าสามีตัวดีของเธอคนนี้หางจะสะบัดขึ้นฟ้าแล้ว กล้ามาชี้ไม้ชี้มือกับฉัน!” ป้าสองที่เดิมโดนทำให้อับอายจนไม่มีที่หลบ เวลานี้ยิ่งสีหน้าดูแย่!
“ขอโทษ ผมไม่อยากพูดแบบเดียวกันสามรอบ” เฉินเป่ยเอ่ยปากเสียงดุ ดวงตาเปลี่ยนฉับพลัน ความดุเดือดยิงออกมา