สายเปย์เบอร์หนึ่ง – ตอนที่ 92

ตอนที่ 92

ตอนที่​92 ถูก​ลวนลาม​

ซูเสี่ยวหยุนตาปรือ​แทบควบคุม​สติ​ไว้ไม่อยู่​ มือที่ขาวเนียนของเธอ ยื่นออกไปทางเข็มขัด​ของ​เฉินเป่ยโดยไม่รู้ตัว

ตามคำที่บอกไว้ว่าผู้หญิง​ยิ่งอายุ​มากขึ้นยิ่งมีอารมณ์​ ถึงแม้​ซูเสี่ยวหยุนจะเป็นผู้หญิง​ที่​สวยมาแต่กำเนิด ปกติ​เธอก็บำรุงผิวขาว​ดีมากด้วย ทำให้​ดู​สวยกว่าผู้หญิง​ที่​อายุ​ยี่สิบกว่าซะอีก แต่ถึงยังไง​เธอก็เป็นคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่​คนหนึ่ง เรื่องแบบนี้ เธอก็ยังมีความต้องการ​เป็นธรรมดา

“อื้อ…”ซูเสี่ยวหยุนครางออกมา ดวงตา​แสนสวยปรากฏ​แววตา​ที่แสนมั่นคง​ เหมือนเตรียมพร้อม​แล้ว

“ก๊อกก๊อกก๊อก”

ทันใด​นั้น​เอง​ มีเสียงเคาะหน้าต่างรถดังขึ้นติดต่อ​กัน ทำให้​เฉินเป่ยกับซูเสี่ยวหยุนได้สติ​กลับมา

เฉินเป่ยหันไปมอง จึงเห็นว่ามีตำรวจจราจร​นายหนึ่งยืนอยู่นอกหน้าต่าง​รถ

เฉินเป่ยมึนงง จะบ้าตาย ทำไมถึงต้องมาขัดอารมณ์​กันตอนนี้ด้วย

แม้แต่​ซูเสี่ยวหยุนเองก็มองไปนอกหน้าต่าง​อย่างมึนงง สองมือปิดหน้าตัวเอง​ไว้ แล้ว​กัดฟัน​แน่น

เธอเองก็อารมณ์เสีย​เหมือนกัน​ ทั้งๆที่เธออุตส่าห์​เตรียมใจ​ไว้​แล้ว​ แต่กลับถูกคนเข้ามาขัดอารมณ์​ซะได้

นี่มันแกล้ง​กัน​ชัดๆเลย

เฉินเป่ยกัดฟัน​กรอด​ กดเปิดหน้าต่าง​ด้วยสีหน้า​ไม่พอใจ ตำรวจจราจร​ยกมือทำความเคารพ ก่อนจะ​พูด​ด้วยสีหน้า​เคร่งขรึม​ “คุณ​ครับ ที่นี่กำลังก่อสร้างอยู่ จอดรถไม่ได้ครับ รบกวน​ไปจอดข้างหน้า​นะครับ”

“ได้ครับ” เฉินเป่ยตอบ ก่อนจะพยักหน้า​ให้​

ตำรวจจราจรมองเข้าไปเห็นซูเสี่ยวหยุนที่เสื้อผ้ายุ่งเหยิง​และ​นั่งหน้าแดงก่ำจับเสื้อปกปิดเนื้อตัว​ไว้ ก็เข้าใจขึ้นมาทันที จึงพูด​ขึ้น​มา​ว่า “ขอโทษ​ด้วย​นะ​ครับ​ ที่เข้ามารบกวน​”

รอจนตำรวจจราจร​เดินจากไปแล้ว​ เฉินเป่ยก็มองไปทางซูเสี่ยวหยุนด้วยสีหน้าเก้ๆกังๆ “เอายังไง​ต่อ”

“คุณ​ถามฉันเนี่ยนะ”ซูเสี่ยวหยุนฮึดฮัด​ ก่อนจะรีบกลัดกระดุมเสื้อ แล้ว​พูด​ “ขับรถ​ เสี่ยวเยียนกลับไปที่บ้านของเธอแล้ว​”

เฉินเป่ยตะลึง​ “กลับบ้านพ่อ​เธอเหรอ”

ซูเสี่ยวหยุนพยักหน้า​ให้ หลีชิงเยียนบอกกับเธอว่าจะกลับบ้าน​ไปหาพ่อ และ​สงบสติอารมณ์​ตัวเองสักพัก​

เฉินเป่ยยิ้มแหย​ “ทำไมเธอถึงยังโกรธ​ผมอยู่อีกล่ะ นี่มันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด​เท่านั้น​เอง​”

“เธอได้รับรูปภาพ ในรูปภาพ​เห็นแค่ตอนที่คุณ​กับผู้หญิง​คน​นั้น​เข้าไปในห้องด้วยกัน ใครจะไปรู้ว่าพวกคุณ​เข้าไปทำอะไรกัน”

ซูเสี่ยวหยุนส่งเสียงอุทานออกมาอย่าง​ไม่พอใจ​ “ไม่แน่ว่าจะทำเรื่อง​ที่​ไม่ควรทำก็เป็นไปได้”

“แค่เล่น​ไพ่โป๊กเกอร์​กับเพื่อนจริงๆ​ ถ้าไม่เชื่อ​ ผมเรียกเธอกับเพื่อนผมมายืนยัน​ก็ได้”เฉินเป่ยพูดอธิบาย

“คุณ​ไม่ได้โกหกฉันแน่นะ” ซูเสี่ยวหยุนมองไปทางเฉิน​เป่ย​

“แล้วผมจะโกหกคุณ​ไปทำไม”เฉินเป่ยถามกลับ หลังจาก​ที่​ซูเสี่ยวหยุนนิ่งคิดไปสักพัก​ก็พูดขึ้น​มา​ “ดูท่าทาง มีคนต้องการ​จะ​ใส่ร้าย​คุณ​สินะ”

เฉินเป่ย​สีหน้าเคร่งเครียด​ ซูเสี่ยวหยุนจึงพูด​ต่อ “เสี่ยวเยียนบอกกับฉันว่า มีคนส่งจดหมาย​โดยไม่จ่าหน้าซอง​มาให้เธอฉบับหนึ่ง​”

“จดหมาย​ไม่จ่าหน้าซอง​อย่างนั้น​เหรอ​” เฉินเป่ยตาเป็นประกาย​ แววตา​ของ​เขาเยือกเย็น​มาก เขารู้แล้ว​ว่า​ใครเป็นคนใส่ร้าย​เขา

คนคนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่​หลีเช่าเทียนที่เจอกันในร้านเหล้า​เมื่อตอนกลางวัน

และ​มีแค่หลีเช่าเทียนเท่านั้น​ ที่คิดแผนบ้าๆแบบนี้ออกมาได้

“ผมรู้แล้ว​ว่า​เป็นฝีมือ​ใคร”แววตาของเฉินเป่ยวาวโรจน์​ ก่อนจะ​พูด​ออกมา

เจ้าบ้านั่น ดื้อด้าน​ไม่ยอมหยุดจริงๆ​

“ความหมาย​ของ​คุณ​คือ ตอนนี้ที่บ้านไม่มีคนใช่ไหม”เฉินเป่ยกระพริบตา​ปริบ​ๆ​ เหมือนเข้าใจความหมาย​ที่​ซูเสี่ยวหยุนกำลังบอกกับเขา

“คิดอะไรของคุณเนี่ย”ซูเสี่ยวหยุนกรอกตามองบน “ที่บ้านยังมีซูเหลยอยู่​อีกคนนะ”

“เธอร่างกาย​อ่อนแอ​ถึงขนาดนั้น”เฉินเป่ยเบ้ปาก

“แต่เธอเก่งมากเลยนะคะ ถ้าเกิดมีเสียงอะไรดังขึ้น​มา​เธอก็ได้ยิน​หมด”ซูเสี่ยวหยุนส่ายหน้า​ ซูเหลยเคยอยู่​ในกองทัพพิเศษ​ของ​ประเทศ​ ถึงแม้​จะ​ได้รับบาดเจ็บ​จนฝีมือ​ลดลงไป แต่​เรื่อง​การได้ยิน​ของเธอยังคงใช้งาน​ได้​ดีมาก

…………

ภายในบ้านพักสุดหรู​ของ​หลีหยาง หลีชิงเยียนนั่งอยู่บนเตียง สายตามองออกไปนอกหน้าต่าง​ที่ตอนนี้​มืดไม่หมดแล้ว​ ดวงตา​ของ​เธอเหม่อลอย​

“เกิดอะไรขึ้น​เหรอลูก”เสียงที่แสนอบอุ่นดังมาจากตรงประตู​ห้อง​ หลีชิงเยียนหันไปมอง จึงเห็นว่าหลีหยางกำลังถือแก้วนมร้อนปรากฏ​ตัวตรงประตู​ห้องนอน

“คุณ​พ่อ” หลีชิงเยียนเอ่ยทักเบาๆ

“บอกกับพ่อได้ไหม ว่าเสียใจ​เรื่อง​อะไรอยู่”หลีหยางเอ่ยถาม

สีหน้า​ของ​หลีชิงเยียนสับสน​มาก เธอพูดระบายออกมาจนหมด หลังจาก​นั้น​หลีหยางก็มองไปทาง​พระจันทร์​ที่กำลังส่องแสงสว่างออกมา ก่อนจะถอนหายใจ​ “ชิงเยียน เรื่องบาง​เรื่อง​มันซับซ้อน​มาก ลูกแยกแยะ​ไม่​ออก​หรอกว่าอะไรถูกอะไรผิด”

“คุณ​พ่อคะ หนูแค่อยากจะรู้ ว่าทำไมคุณพ่อ​กับคุณ​ปู่​ถึงไม่ยอมให้หนูกับอีตานั่นหย่ากันคะ”หลีชิงเยียนลุกขึ้น​ยืน​กะทันหัน​ น้ำเสียงที่ใช้พูดก็แข็งขึ้น ถามออกไปเสียงนิ่ง

หลีหยางหันหลัง​กลับ​ ก่อนจะมองไปทางหลีชิงเยียนด้วยสายตาคมเข้ม​และแฝงไปด้วยความลับ​ เขาจะบอกอะไรได้…แม้แต่เขาเองยังไม่รู้​เหตุผล​เรื่อง​นี้​เลย

เรื่องนี้ คงจะมีแค่หลีหงที่รู้ เขาเองก็เคยถามหลีหงเหมือนกัน​ แต่หลีหงไม่บอกอะไรเขาเลย

“ชิงเยียน พ่อบอกลูกได้แค่ว่า ลูกไม่ใช่ผู้เสียสละ​ แม้ว่าลูกจะรู้สึก​น้อยใจ แต่เรื่องนี้มีแค่คุณ​ปู่​ของ​ลูก​ที่เข้าใจดี ลูกก็รู้ดีว่าคุณ​ปู่​ของ​ลูก​ไม่มีทางทำร้ายลูกอยู่แล้ว​”หลีหยางพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง​และ​น่าเชื่อถือ​

“คุณ​ปู่​ไม่มีทางทำร้ายหนูอย่างนั้นเหรอคะ แล้วตอนที่​พวกเราถูก​ไล่ออกจากตระกูล​หลีที่เยี่ยนจิง คุณ​ปู่​อยู่​ที่​ไหนคะ”หลีชิงเยียนสีหน้า​เย็น​ชา​ ก่อนจะหยิบกระเป๋า​ขึ้นมา แล้ว​เดินกระแทกส้นสูง​ออกจากห้องอย่างแรงจนเสียงดังไปตามโถงทางเดินโดยไม่มีอาการลังเล​แม้แต่น้อย​ ทำให้​หลีหยางต้องถอนหายใจ​ออกมา​ยาว

“มีอะไรกันคะ” หญิง​วัยกลางคน​ที่เรียบร้อยดูดีเดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะเข้าไปพยุง​หลีหยางไว้

“ลูกยังแค้นเคือง​เรื่อง​ในอดีตอยู่​และ​ลืมเรื่อง​ราวในอดีตพวกนั้นไม่ลง”หลีหยางถอนหายใจ​ออกมา​ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์​ขึ้น​มา​ แล้ว​กดโทร​ไปหาใครสักคน

…………

รถบีเอ็มดับเบิลยู​เข้าไปหยุดจอดอยู่หน้าบ้านพัก เฉินเป่ยกับซูเสี่ยวหยุนเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกัน

เพิ่งเดินเข้าไปในบ้าน โทรศัพท์​เฉินเป่ยก็ดังขึ้น เฉินเป่ยล้วงโทรศัพท์​ออกมาจากกระเป๋า​กางเกง ตรงหน้าจอ​โทรศัพท์​มีหมายเลข​โทรศัพท์​ของ​สายเรียกเข้าปรากฏ​อยู่​ในนั้น

“ฮัลโหล”หลังจากเฉินเป่ยกดรับสาย น้ำเสียงทุ้มของปลายสายก็ดังขึ้น​มา​ “เสี่ยวเฉิน ชิงเยียนกับพ่อมีปากเสียง​กันนิดหน่อย​ ​เธอ​ออกจากบ้านไปแล้ว ได้กลับ​ไปที่นั่นหรือเปล่า​”

เฉินเป่ยชะงัก​ไป​เล็กน้อย​ “ไม่นะครับ เธอทะเลาะ​กับ​คุณ​พ่อ​ด้วยเหรอครับ”

“ช่วงนี้​อารมณ์​เธอไม่ค่อย​จะคงที่ ดึกดื่น​ขนาดนี้แล้ว อยู่​ข้างนอก​ พ่อกลัวว่าผู้หญิง​อ่อนแอ​อย่างเธอจะมีอันตราย…”หลีหยางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“จะต้อง​ไม่​เป็นอะไรแน่นอน​ครับ​ ผมจะออกไปตามหาเธอเดี๋ยว​นี้” เฉินเป่ยกดวางสาย แล้วหันไปพูด​กับ​ซูเสี่ยวหยุน “ชิงเยียนกับหลีหยางทะเลาะ​กัน​ ตอนนี้ไม่รู้​ไปไหนแล้ว​ ผมจะต้องไปตามหาเธอ”

“ฉันจะไปกับคุณ​ด้วยค่ะ”ซูเสี่ยวหยุนพูด

“คุณ​อยู่​รอที่บ้าน เผื่อเธอกลับมาคุณ​จะ​ได้รั้งเธอไว้ไม่ให้​เธอหนีไปไหนอีก”เฉินเป่ยพูดสั่ง ก่อนจะเดินออกจากบ้านพักอย่างไม่ลังเล​ แล้ว​เดินตรงไปที่รถ

ไม่นาน รถไมบัคสุดหรู​สีดำก็สตาร์​ทรถ แล้ววิ่งตรงออกไปอย่างรวดเร็ว​

…………

ตรงถนนสักแห่งในเมืองหู้ไห่ เป็นถนนที่บรรยากาศ​ดี​และ​งดงาม มีรองเท้าส้นสูง​ที่สุดแสนหรูหรา​กำลังเดินเหยียบเงาของตัวเองอยู่บนถนนที่ว่างเปล่า​ปราศจาก​ผู้คน เหมือนเป็นที่ของ​เทพธิดา​เดินเพียงลำพัง

หลีชิงเยียนเดินไปตามทางเรื่อยๆ ลม​ที่พัดผ่านในเวลากลางคืนหนาวมาก แต่​หลีชิงเยียนกลับใส่แค่เสื้อคลุม​บางๆ พอลมพัดผ่าน​ตัวเธอ ร่างสวยก็จะหนาวจนตัวสั่นไม่หยุด

ในแววตาของหลีชิงเยียนมีแต่ความสับสน เธอไม่รู้​ว่า​ควรจะไปที่ไหน… เรื่องของตระกูล​หลี ทำให้ช่วงนี้เธอสับสนวุ่นวาย​ไปหมด แล้ว​พอต้องมาเห็นว่าเฉินเป่ยกับหลีหงอยู่​ด้วยกัน​ ก็เหมือนน้ำมันราดบนกองไฟ ทำให้​ประธาน​บริษัท​สุดสวยระเบิด​อารมณ์​ออกมา เธอรู้สึก​ไม่​ชอบ​ผู้หญิง​คน​นั้น​มาก ดูจากรูปภาพก็รู้สึกได้แล้ว ว่าผู้หญิง​คน​นั้น​เป็นปีศาจ​จิ้งจอก​ ที่ชอบยั่วยวน​ผู้ชาย​ไปทั่ว

ทันใด​นั้น​เอง​ ด้านหลัง​ของ​หลีชิงเยียนก็มีเงาคนเดินตาม

เงาดำที่เดินตามหลังประธานบริษัท​สุดสวยมาและเริ่มใกล้ขึ้นเรื่อยๆ หลีชิงเยียนไม่รู้​เรื่อง​อะไรเลย ว่าถนนเส้นนี้ พอถึงตอนกลางคืนมันอันตราย​มาก​ แม้แต่ชายร่างกำยำยังไม่กล้า​เดินผ่าน อย่าว่าแต่​ผู้หญิง​ร่างบางเหมือนหลีชิงเยียนเลย

เงาดำที่เดินตามเริ่มเดินเร็วขึ้น แล้ว​มองไปทางหลีชิงเยียนด้วยสายตาร้อนแรงเต็ม​ไปด้วยความต้องการ​ที่รุนแรง​อย่างไม่ปกปิด

หลีชิงเยียนที่กำลังเดินไป​เรื่อย​ๆ​ เริ่ม​ได้ยินเสียง เธอมองไปรอบๆ​ด้าน​ ก่อนจะได้ยินเสียงก้าวเดิน​ตามหลัง​มาอย่างรวดเร็ว​

หลีชิงเยียนหลังกลับไปดู จึงเห็นว่ามีชายฉกรรจ์​ที่​แต่งตัว​โทรม​ๆหลายคนกำลังมองมาทางเธอแล้วยิ้มอย่างชั่วร้าย​และ​ผิวปากใส่เธอ

ใบหน้า​สวยของหลีชิงเยียนเปลี่ยนไปทันที เธอรีบก้าวเดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว​ แต่ถึงยังไง​หลีชิงเยียนก็เป็นแค่ผู้หญิง ด้วยความที่ใส่รองเท้าส้นสูง​เดินได้ไม่เร็วอยู่​แล้ว ไม่นานก็ถูกชายฉกรรจ์​กลุ่มนั้นตามมาทัน

“คนสวย เดินคนเดียว​เหงาไหมจ๊ะ”

“อย่างวิ่งหนี​สิคนสวย พวกเราแค่อยากรู้​จัก​คนสวยให้มากขึ้น​ ไม่ได้มีจุดประสงค์​อื่นเลยนะจ๊ะ”

“สุดยอด​ เอ็งดูขาของ​คนสวยตอนเดินสิ สะโพก​ด้วย…”กลุ่มอันธพาล​​เริ่มพูดแซวหลีชิงเยียน ก่อนจะใช้สายตาหื่นกระหาย​ที่แสนสกปรก​มองไปที่เรียวขา​สวยของหลีชิงเยียน แล้ว​ค่อยๆเคลื่อนสายตาไปที่สะโพกงอน…

หลีชิงเยียนหน้าซีดเผือด​ เธอรู้สึก​กลัวมาก รีบวิ่งหนี​สุดชีวิต​ใช้เรี่ยวแรง​ทั้งหมด​ที่​มี​เพื่อหลบหนีไปจากอันธพาล​กลุ่มนี้ให้ได้

ทันใดนั้น​เอง​ หลีชิงเยียนสะดุดทางเดิน รองเท้าส้นสูง​เซไปมา ก่อนจะสะดุด​ล้ม​ด้วยท่าทางที่สวยงาม…

รอจนหลีชิงเยียนลุกขึ้น​ยืน​ได้ก็สายไปแล้ว​ ร่างของ​หลีชิงเยียนถูกมือหลายคู่ลูบไล้​อย่างหื่นกระหาย… ทำให้​เธอขนลุก​ไป​ทั้งตัว​

สายเปย์เบอร์หนึ่ง

สายเปย์เบอร์หนึ่ง

Status: Ongoing

เขาเป็นคนที่ทำให้คนอื่นกลัวและเคารพ แต่กลับกลายเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง ต่ำต้อยเหมือนฝุ่น ไม่เอาไหนเหมือนขยะ ราวกับว่าใครๆก็สามารถเหยียบย่ำเขาไว้ใต้เท้าแต่ ในใจเขามีความทะเยอทะยาน…….จะมีสักวันหนึ่ง เขาจะจับมือเธอ มอบโลกทั้งใบให้เธอ!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท