สายเปย์เบอร์หนึ่ง – ตอนที่ 98

ตอนที่ 98

ตอนที่​98 ไปกินข้าว​กับ​เทพธิดา

ในเวลานี้ เฉินเป่ยกำลังยืนเช็ดกระจก​อยู่​ในบ้านจามออกมาติดต่อ​กัน

“เฮ้ย ใครกำลังคิดถึง​อยู่​เนี่ย”เฉินเป่ย​บ่นพึมพำคนเดียว

“คุณ​เฉิน กำลังยุ่ง​อยู่​เหรอคะ” มีเสียงทักขึ้นมาด้านหลัง

เฉินเป่ยหันกลับ​ไป​มอง​ จึงเห็นว่าซูเหลยกำลังเดินมาหา หลังจาก​ได้​พักรักษาตัว​มาระยะ​หนึ่ง​ สีหน้า​ของ​ซูเหลยจึงดีขึ้น​มากช่วงก่อนมาก

“ใช่แล้วครับ หลังจาก​เช็ดกระจกเสร็จ​ผมยังต้อง​เช็ดพื้นอีกรอบ” เฉินเป่ยเช็ดกระจก​อย่างละเอียด

ซูเหลยมองเฉินเป่ยอย่างครุ่นคิด​ “คุณ​เฉินมักจะ​ให้​ความรู้สึก​ไม่เหมือนคนทั่วไป​ แต่คุณ​กลับทำตัวเหมือนคนธรรมดาเลยนะคะ”

หลังจาก​อาการ​ของ​ซูเหลยดีขึ้น​ สิ่งแรกที่เธออยากจะทดสอบ​คือเรื่องของเฉินเป่ย

ช่วงที่เธอกำลังพักรักษาตัว​อยู่​ เธอมักจะนึกถึงตอนที่​เธอ​หมดสติ​ไป ในช่วง​ที่ยังมึนงง เธอได้ยิน​เสียง​เฉินเป่ยกำลังคุยกับอีกคนตอนที่เขาทำแผลให้เธอ

ถึงเธอจะจำไม่ได้ว่าอีดคนเป็นใคร และ​เฉินเป่ยพูดอะไรกับคนคนนั้นบ้าง แต่เธอแน่ใจ ว่าในเหตุการณ์​มีอีกคนอยู่ด้วย แต่​เฉินเป่ยกลับบอกพวกเธอว่ามีแค่เขาคนเดียว

เฉินเป่ยพูดโกหก ซูเหลย​รู้สึก​ได้ ว่าเฉินเป่ยกำลัง​พูด​โกหก เพื่อ​ปกปิด​อะไรบางอย่าง

ดังนั้น​ซูเหลยจึงตั้งใจ​จะ​ใช้​โอกาส​นี้​เปิดเผย​ตัวตน​ที่แท้​จริง​ของ​เฉินเป่ย ทำให้​หลีชิงเยียนได้เห็นว่าผู้ชาย​ที่​อยู่​ข้างกายเธอ ชั่วร้าย​มาก​แค่ไหน

“คุณ​เฉินคะ ตอนที่​ฉันสลบไป มีแค่คุณ​คนเดียว​ที่อยู่​ใน​เหตุการณ์​จริงๆ​เหรอคะ”ซูเหลยถาม

“ใช่ครับ คนอื่นตายหมดเลย คุณ​ไม่ได้ยินที่ตำรวจบอกเหรอครับว่ามีแค่รอยเท้า​ของ​ผมอยู่ในเหตุการณ์​ แม้แต่​ภาพในกล้อง​วงจรปิด​ก็มีแค่ผมคนเดียว” เฉินเป่ยพยักหน้า​ให้

“อย่างนั้น​เหรอ​คะ​”ซูเหลยยักคิ้ว “แล้ว​แผลของฉัน ทำไมถึงมีร่องรอย​เหมือนไม่ใช่​แค่​คนเดียว​ที่​จัดการให้คะ”

ซูเหลยจ้องหน้าเฉินเป่ยเขม็ง​ เพื่อหวังว่าจะเห็นแววตาลังเล​บ้าง

ขอแค่​เฉินเป่ยมีท่าทีลังเล​ ก็ไม่มีทางปกปิด​ซูเหลยได้

แต่น่าเสียดาย ที่สายตาของเฉินเป่ยเรียบนิาง เหมือนสิ่งที่ซูเหลยกพลังพูด​อยู่​เป็นเรื่องของคนอื่น ไม่เกี่ยวกับเขา

ซูเหลยไม่ได้อะไรจากแววตา​ของ​เฉินเป่ยเลย

แววตา​ของ​เธอ​ดูผิดหวัง​เล็กน้อย​ การสอบถาม​ของเธอ ไม่ได้​เรื่องราว​อะไรเลย

เธออยากจะใช้​คำโกหกหลอกถามเฉินเป่ยดู แต่กลับไม่ได้ผลอะไรเลย

สีหน้า​ของ​เฉินเป่ยยังเป็นปกติ​ ไม่มีแววตา​แปลก​ๆออกมาเลย เขารู้สึก​ได้ว่าซูเหลยกำลังแอบถามเขาอยู่​ คนอย่างเขาเนี่ยนะจะตกหลุมพราง​ของ​ซูเหลยได้

บาดแผล​บนตัวของเธอ เขากับชิงเหนียนเป็นคนจัดการให้ ถึงแม้​ฝีมือ​ทางการแพทย์​ของ​ชิงเหนียนจะเทีนบกับเขาไม่ได้ แต่ก็ยังดีกว่าเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัด​ส่วนใหญ่แล้ว

ซูเหลยไม่มีทางดูออกแน่นอน​ การคาดเดาของเธอ ไม่มีทางหลอกล่อ​เฉินเป่ยได้แน่นอน

“ตอนที่ผมเย็บแผลให้คุณ มือผมอาจจะสั่นไปบ้าง”เฉินเป่ยอธิบาย​ให้​ซูเหลยฟัง

ซูเหลยไม่พูดอะไรอีก ก่อนจะพยักหน้า​ให้​เฉินเป่ย แล้ว​พูด​ “โอเคค่ะ​”

ถึงจะเป็ยซูเหลยที่เคยใช้ชีวิต​อยู่​ในกองทัพ​พิเศษ​มาก่อน ยังจนใจกับเฉินเป่ยเลย เธอได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ ก่อนจะหันหลัง​กลับ​ แล้ว​เดินขึ้นชั้นบนไป

เธอกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะกดเปิดโปรแกรม​สนทนาขึ้นมา แล้ว​ติดต่อ​หาเพื่อนเก่าในกองทัพ​พิเศษ​ที่ตอนนี้ทำงานอยู่ในสถานนีตำรวจ

สักพัก​วิดีโอกล้อง​วงจรปิด​รอบโรงแรม​ก็ถูกส่งมา

ซูเหลยกดดูตั้งแต่​ต้นจนจบอย่างละเอียด​ แต่กลับไม่พบร่องรอย​ที่น่าสงสัยเลย ตั้งแต่​ต้นจนจบ มีแค่เฉินเป่ยมาที่โรงแรม​คนเดียว และ​เป็นคนช่วยหลีชิงเยียนกับเธอออกมาจากโรงแรม แม้แต่​ตอนที่​จัดการบาดแผล​ของ​เธอ​ยังเป็นไปตามที่เฉินเป่ยพูด​ทุกอย่าง จนซูเหลยเริ่มสงสัยตัวเอง

หรือว่าเธอจะเข้าใจผิด​ไปเอง

ซูเหลยไม่มีทางรู้เลยว่า แม้แต่​วิดีโอ​ที่​เธอ​กำลังดูอยู่ ก็ถูกชิงเหนียนทำการตัดต่อ​แล้ว​เรียบร้อย​ ทุกอย่างถูกจัดการอย่างสมบูรณ์แบบ

…………

ตึกสูง​ของ​บริษัท​ตระกูล​หลีกรุ๊ป​ ในห้องทำงานประธาน​บริษัท​ หลีชิงเยียนอ่านข่าวในคอมพิวเตอร์​ มุมปากที่แดงก่ำยกขึ้นเล็กน้อย

หลีชิงเยียนยกโทรศัพท์​ในห้องทำงานขึ้นมา แล้ว​กดหมายเลข​โทรออก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน​ “หลินเฉว่ ทำการเลื่อนประชุม​ของเย็นนี้ออกไปวันอื่น เย็น​นี้ฉันมีธุระ​ด่วน”

“ได้ค่ะ ท่านประธาน” หลินเฉว่ที่อยู่​ปลายสายตกตะลึง​มาก ท่านประธาน​ในความจำของเธอ ไม่เคยเลื่อนประชุม​สำคัญ​ของ​บริษัท​เลยสักครั้ง ฟังจากน้ำเสียงดูเหมือน​อีกฝ่ายจะอารมณ์ดี​มากด้วย

ในขณะเดียวกัน​ โทรศัพท์​ของ​เฉินเป่ยก็มีเสียงข้อความเข้าดังขึ้น​มา​ พอเฉินเป่ยกดอ่าน แล้ว​เห็นว่าเป็นข้อความ​ที่หลีชิงเยียนส่งมา :เย็น​นี้​มารับฉัน

เฉินเป่ยดีใจมาก ข้อความ​ของ​หลีชิงเยียน แสดงให้เห็น​ว่า​เธอตกลง​จะไปกินข้าว​กับ​เขาที่ข้างนอกแล้ว

เฉินเป่ยมีท่าทางตื่นเต้น​มาก​ อยู่ด้วยกัน​มาเกือบสี่เดือน นี่เป็นครั้งแรก​ที่​ภรรยาคนสวยของเขายอมออกไปกินข้าว​ข้างนอก​กับเขาแค่สองคน จะไม่ให้​เฉินเป่ยตื่นเต้น​ดีใจได้ยังไง​กัน

ถ้าชิงเหนียนอยู่ที่นี่ด้วย คงจะต้อง​สงสัย​แน่ๆ ว่าเฉินเป่ยคนนี้กับผู้ชาย​ที่​เป็นตำนานเล่าลือคนนั้นคือคนเดียว​จริงๆ​หรือเปล่า​ พวกผู้มีอิทธิพล​คงจะตกใจจนตาถลนออกมาแน่นอน

ราชาหลง​กลับดีใจถึงขนาด​นี้​ แค่เพราะว่าภรรยายอมออกไปกินข้าว​ด้วยกัน

คงไม่มีใครเดาได้ ว่าบุคคล​ในตำนานจะถอนตัว​ออกจาก​กองทัพ เพื่อมาแต่งงาน​กับ​ผู้หญิง​คน​หนึ่ง​ อีกทั้งเขายังยอมแพ้ภายใต้​กระโปรง​ของ​ผู้หญิง​ด้วย

เฉินเป่ยรีบทิ้งงานทุกอย่างในมือ โทรไปหาชิงเหนียน “ฉันจะออกไปกินข้าว​กับเมียฉัน นายคิดว่าฉันควรจะใส่ชุด​ไหนดี”

“ลูกพี่จะออกไปกินข้าว​กับ​พี่สะใภ้​ข้างนอก​ ใส่ชุด​ไหนก็ได้หมดนั่นแหละ​ ลูกพี่ควงสาวมาตั้งเยอะ ทำไมเรื่องแค่นี้​ถึงยังต้อง​มาถามผมอีกล่ะเนี่ย”ปลายสายมีเสียงของชิงเหนียนดังขึ้น​มา​อย่างเอื่อยเฉื่อย

“มันไม่เหมือนกัน เธอเป็นเมียฉัน รีบช่วยฉันเลือกเร็ว จะใส่ชุด​ไหนดี” เฉินเป่ยออกคำสั่ง

“ได้ครับได้ เดี๋ยว​ผมส่งรูปให้ ลูกพี่ ต้องตื่นเต้น​ขนาดนี้เลยเหรอ” ชิงเหนียนบ่นว่า​ “เจ้าหญิง​ของ​ยุโรป​ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เทพธิดานักปราชญ์​แห่งโลกมืด ทุกคนล้วนแต่อยู่ในระดับสูงสุด​ ลูกพี่ไม่แม้แต่​จะ​มองสักนิด แต่​กลับต้องมาตื่นเต้น​ถึงขนาด​นี้​กับ​แค่จะออกไปกินข้าว​กับ​พี่สะใภ้​”

“ไม่รู้​ว่า​พี่สะใภ้​มีดีตรงไหน​ ถึงทำให้​ลูกพี่หลงรัก​ได้ถึงขนาด​นี้” ชิงเหนียนถอนหายใจ​ออกมา

“เธอเป็นเมียฉัน ต้องดีทุกอย่างอยู่แล้ว​”เฉยเป่ยเงยหน้า​ขึ้น​ แล้ว​มองไปที่รูปของ​หลีชิงเยียนที่อยู่​ตรงหัวเตียง​ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

…………

ในคฤหาสน์​หรู หลีเซิ่งนั่งอ่านข่าวด้วยสีหน้า​เคร่งเครียด​ “นี่มันจะมากไปแล้ว ​เช่าเทียน พวกเราตอบโต้​อะไรไม่ได้เลยเหรอ”

“คนชั้นต่ำสองคนนั้น”ป้าใหญ่ตบโต๊ะ​อย่างโมโห

“หน้าตา​ของ​ตระกูล​หลี ถูก​พวกมันสองคนทำให้​ด่างพร้อย​หมดแล้ว”สีหน้า​ของ​ป้ารองดูน่ากลัว​มาก

หลีเช่าเทียนนั่งอยู่ตรงกลาง​โซฟา สีหน้า​เคร่งเครียด​ “ผมสืบมาแล้ว​ เช้าวันนี้บริษัทสื่อมวลชน ถูก​ซื้อไปแล้ว​ครับ หลินตู้หัวเกือบจะโดนไล่ออกจากตำแหน่ง ถึงจะให้ข้อเสนอ​ดีแค่​ไหน​ก็​ไม่​มีประโยชน์​ เขาไม่ฟังคำสั่งของ​ผมแล้ว”

“แล้ว​เราจะทำยังไง​ดี หรือ​เราจะซื้อบริษัท​นั่นกลับมาดี”ป้าใหญ่พูด

“ไม่ได้ครับ เงิน​ที่​ยืมจากตระกูล​มาครั้งที่แล้ว​ เกิดความผิดพลาด​ขึ้น​ ตอนนี้​ทางตระกูล​ใหญ่​ไม่ยอม​ให้​พวกเรายิมเงินแล้ว​ จะไปซื้อบริษัท​นั่น เราทำไม่ได้แล้ว”หลีเซิ่งส่ายหน้า​ไปมา​ด้วยสีหน้า​เคร่งเครียด

“แล้วเราจะปล่อย​ให้​คนชั้นต่ำพวกนั้นเหยียบหัวพวกเราอยู่แบบนี้น่ะเหรอ”ป้าใหญ่กับป้ารองพูดอย่สงแค้นเคือง​ใจ

“หลินตู้หัวเจ้าบ้านั่น”หลีเช่าเทียนสบถออกมา “คืนนี้ ผมจะจับมันไปทิ้งทะเลซะ”

พอพูดจบ สีหน้า​ของ​หลีเช่าเทียนก็เปร่งประกายคมเข้ม ดูอันตราย​มาก

…………

พระอาทิตย์​ค่อยๆลับขอบฟ้า​ แสงไฟเริ่มเปิดไปทั่วพื้นที่​ บนท้องฟ้าเมืองหู้ไห่ ถูก​ปกคลุม​ไปด้วยแสงสีมากมาย พร้อมกับ​สถานที่ท่องเที่ยว​ที่แสนงดงาม

ตอนค่ำ ตรงบริเวณ​ประตู​ทางเข้าบริษัท​ตระกูล​หลีกรุ๊ป มีร่างเพรียว​แสนงดงามเดินออกมา รองเท้าส้นสูง​ของ​เธอ​เดินอย่างมั่นใจ​ ก่อนจะตรงไปที่ลานหน้าบริษัท

ก่อนจะเห็นรถไมบัคคันงามจอดรอยู่​ข้างถนน ด้านข้างรถไมบัค มีสายตา​คู่​หนึ่งกำลังมองไปทางหลีชิงเยียน

รอจนหลีชิงเยียนเดินมาถึง ชายหนุ่ม​ก็​เปิดประตู​ฝั่งข้างคนขับ​ให้อีกฝ่าย แล้ว​เอ่ยเชื้อเชิญ​ด้วยสีหน้า​ยิ้มแย้ม​ “เชิญ​ครับ ท่านประธาน​”

“ถือว่าตรงเวลา”หลีชิงเยียนพยักหน้า​พอใจ ก่อนจะ​พูด​ขึ้น

เฉินเป่ยยิ้มกว้าง “วันนี้ท่านประธานยังคงสวยสง่าน่าหลงใหล​เหมือนทุกวัน ชุดที่​คุณ​ใส่เหมาะกับคุณ​มากเลย”

หลีชิงเยียนไม่พูดอะไร แต่​สีหน้า​เย็น​ชา​ของ​เธอ​ ดูอ่อนโยน​มากขึ้น

ตรงหน้า​ประตู​บริษัท​ มีสายตา​ของ​พนักงาน​หลายคนมองมา พวกเขาเห็นประธาน​คนสวยเข้าไปนั่งในรถไมบัคคันงาม

หลังจากปิดประตู​รถ เฉินเป่ยก็เดินไปนั่งฝั่งคนขับ ไม่นาน รถไมบัคคันงามก็สตาร์​ทขึ้นมา แล้วขับออกไป

“พวกเราจะไปกินอะไรกัน” ประธาน​บริษัท​สุดสวยข้างคนขับ​มองผ่านกระจกมองหลังแล้ว​ถาม

“หม้อไฟไหมครับ”เฉินเป่ยนิ่งคิด ก่อนจะพูดเมนู​ที่หลีชิงเยียนพูดออกมา

“ไม่เอาแล้วค่ะ เบื่อแล้ว​”หลีชิงเยียนปฏิเสธ​

“อาหาร​ฝรั่งไหมครับ” เฉินเป่ยถามอีกครั้ง

“ไม่เอา”

“แล้วอาหารขึ้นชื่อ​ล่ะครับ”

“ไม่เอา”

“ปิ้งย่างล่ะครับ”

เฉินเป่ยถามทีละคำถาม จนสุดท้าย​หลีชิงเยียนก็หมดความอดทน เธอนั่งกอดอก แล้ว​พูด​เสียงนิ่ง “คุณ​จะ​ถามถึงพวกที่ฉันยังไม่เคยกินบ้างจะได้ไหม พวกที่เคยกินแล้ว​ มันไม่น่าสนใจเลย”

เฉินเป่ยเห็นว่าคนสวยเริ่มอารมณ์​เสีย จึงรีบพูดขึ้น​ “นึกออกแล้ว​ครับ​ ในเมืองหู้ไห่มีเมนู​อาหารชนิดหนึ่ง​ คุณ​ต้อง​ยังไม่เคยกินแน่นอน​ แต่มันได้รับความนิยม​เป็นอย่างมากเลยทีเดียว”

“อะไรคะ” แววตา​ของ​หลีชิงเยียนเริ่มเป็นประกาย​อย่างสนใจ

เธอเป็นคุณ​หนู​ตระกูล​ใหญ่​ เคยกินอาหารแทบจะทุกประเภท ยิ่งโดยเฉพาะ​อาหารฝรั่ง เธอเบื่อมาก ถ้าไม่ใช่​เพราะ​ต้องคุยเรื่อง​งาน เธอคงไม่คิดจะไปกินอาหารฝรั่งอีก

แต่​ตอนนี้​ คำบรรยาย​ของ​เฉินเป่ย ทำให้​เธอ​รู้สึก​สนใจมาก

หลีชิงเยียนไม่เชื่อ​ ว่าในเมืองหู้ไห่แห่งนี้ จะมีเมนู​อาหารที่เธอยังไม่เคยกิน

“ถึงแล้ว​คุณ​ก็​จะ​รู้​เองครับ”เฉินเป่ยพูดลับๆล่อๆ

“เชอะ” หลีชิงเยียนส่งเสียงฮึดฮัด​อย่างไม่พอใจ สีหน้า​ของ​เธอ​ดูไม่เชื่อ​คำพูด​ของ​เฉินเป่ยเลย

ท้องฟ้าเริ่มมืดลง จนแสงไฟหลากสีถูกเปิดจนทั่วเมืองหู้ไห่ บนถนนหนทางถูก​วางโต๊ะ​เก้าอี้​ไว้ข้างถนน แล้วมีร้านขายอาหารออกมาตั้งแผงขายกันอย่าง​ครึกครื้น​

และ​ได้รับความสนใจ​จากทุกคนมาก จะมีส่วนน้อย​ที่​ติดหรู​ไม่ชอบกินอาหารแบบนี้

เฉินเป่ยขับรถไมบัคฝ่าผู้คนอย่างระมัดระวัง​

รถของพวกเขาตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนทันที

เพราะร้านธรรมดาแบบนี้ ไม่เคยมีรถหรูมาจอดเลย ยิ่งโดยเฉพาะ​รถไมบัคแบบนี้ยิ่งไม่เคยมีเข้าไปใหญ่

การที่มีรถไมบัคปรากฏ​ที่ร้าน จึงเป็นเรื่อง​ที่​หาได้ยากมาก

“ที่นี่มันที่ไหนกัน”หลีชิงเยียนดวงตา​เป็นประกาย​อย่าง​ตื่นเต้น​

เฉินเป่ยยกยิ่ม “ผมบอกแล้ว ว่าคุณ​ต้อง​ไม่เคยมาที่นี่แน่นอน​”

หลีชิงเยียนมองออกไปข้างนอก​อย่างแปลกใจ​ เธอคิดว่าตัวเองรู้เรื่อง​ในเมืองหู้ไห่ดีแล้ว​ แต่คิดไม่ถึง​เลย​ว่าจะมีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วย

รถไมบัคเริ่มขับไปช้าๆ จนหยุดจอดข้างถนน

“ลงรถกันครับ”

เฉินเป่ยเดินลงจากรถ แล้ว​มาเปิดประตู​รถ​ให้​หลีชิงเยียนลงมาจากรถ ก่อนจะเดินไปทางพื้นดิน​

หลีชิงเยียนมองไปรอบๆ​อย่างแปลกใจ​ เหมือนได้เจออะไรแปลก​ใหม่

“ไปกันเถอะครับ ท่านประธาน​สุดสวย”เฉินเป่ยยืนมือออกมา แล้วจูงมือขขาวเนียนของหลีชิงเยียนไ

สายเปย์เบอร์หนึ่ง

สายเปย์เบอร์หนึ่ง

Status: Ongoing

เขาเป็นคนที่ทำให้คนอื่นกลัวและเคารพ แต่กลับกลายเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง ต่ำต้อยเหมือนฝุ่น ไม่เอาไหนเหมือนขยะ ราวกับว่าใครๆก็สามารถเหยียบย่ำเขาไว้ใต้เท้าแต่ ในใจเขามีความทะเยอทะยาน…….จะมีสักวันหนึ่ง เขาจะจับมือเธอ มอบโลกทั้งใบให้เธอ!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท