บทที่ 117 ข้อห้ามของหัวเซี่ย!
เย่ชวงก้าวเท้าออกมา โทนเสียงที่เย็นชา หุ่นสูงเพรียว “ประธานหลี ได้โปรดให้ความร่วมมือกับเราด้วย!”
เย่ชวงไม่กล้าที่จะลดหย่อนให้แม้แต่น้อย เพราะว่า นี่เป็นคดีที่เกี่ยวกับการฆาตกรรม มีความเกี่ยวข้องกับชีวิต!
ใบหน้าที่ดูดีของหลีชิงเยียนก็ขรึมลงทันที “หัวหน้าเย่ ฉันไปกับคุณก็ได้ แต่ฉันต้องการพูดคุยกับเลขาของฉันครู่หนึ่ง”
เย่ชวงหยักหน้า “ได้”
อย่างรวดเร็ว หลินเฉว่ก็ถูกเรียกตัวให้มาจากห้องเลขา หลินเฉว่ใบหน้าที่ไร้เดียงสาถูกทำให้ตกใจจนขาวซีดไปแล้ว สถานการณ์แบบนี้ น้อยมากที่เธอจะได้เจอ
หลังจากที่หลีชิงเยียนคุยกับเธอไม่กี่คำ ก็ให้หลินเฉว่ออกไปแล้ว จากนั้นก็มองไปที่เย่ชวง พูดอย่างนิ่งๆ “เรียบร้อยแล้ว ไปกันเถอะ”
เย่ชวงพยักหน้า ออกไปจากห้องทำงานประธานหลีคนแรก เธอไม่ได้ใส่กุญแจมือให้กับหลีชิงเยียน เพราะเธอคิดว่ามันยังไม่มีความจำเป็นต้องทำขนาดนี้ หลีชิงเยียนก็ถือว่าเป็นดารายอดนิยมของเมืองหู้ไห่ หากสวมใส่กุญแจมือ สำหรับชื่อเสียงของเธอ จะถูกทำลายอย่างแน่นอน
หลีชิงเยียนเดินตามเย่ชวงไป รายล้อมด้วยเจ้านายที่ตำรวจอีกหลายนาย เพิ่งจะเดินออกจากออฟฟิศแววตาที่ตกตะลึงคู่นั้นก็จ้องไปที่บนตัวของเธอ
ใครจะไปคิดว่า ประธานนางฟ้าของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป จู่ๆจะถูกตำรวจหู้ไห่นำตัวไป!แม้แต่ประธานหลีหยางก็ยังตกใจ การประชุมของคณะกรรมการถูกระงับไว้ทันที ขว้างหน้าของเย่ชวงไว้
“หัวหน้าเย่ ผมคิดว่าต้องมีการเข้าใจผิดอย่างแน่นอน มีเรื่องอะไรก็ไปนั่งคุยในออฟฟิศของผมกันก่อน” หลีหยางพูดจาสุภาพกับเย่ชวงอย่างมาก
เย่ชวงใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก พูดอย่างเย็นชา “ท่านประธานหลี พวกเรากำลังปฏิบัติตามหน้าที่ กรุณาหลีกทางด้วย!”
น้ำเสียงของเย่ชวงสงบนิ่ง แต่โทนเสียงกลับเฉยเมยไม่แยแส หากหลีหยางยังยืนกรานที่จะขว้างไว้ เธอจะต้องนำมาตรการมาใช้แน่นอน
หลีหยางสีหน้าที่ดูแย่ มองไปที่หลีชิงเยียนอย่างหมดหนทาง ยอมหลีกทางให้แล้ว
หลีหยางคิดไม่ถึง จู่ๆก็กลายมาเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เลย
กลุ่มคนพากันเดินออกจากอาคารตระกูลหลี ทั้งบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปต่างก็ฮือฮากันอย่างมาก พนักงานตระกูลหลีกรุ๊ปนับไม่ถ้วนเดินตามหลังเย่ชวงไป ดูหลีชิงเยียนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมและนำตัวไป
ภายในบริษัทเกิดความโกลาหล ตื่นตระหนก……นี้คือประธานนางฟ้า เป็นครั้งแรกที่โดนตำรวจนำตัวไป!
ตอนที่เย่ชวงและหลีชิงเยียนเดินไปถึงหน้าประตูอาคารตระกูลหลี ทันใดนั้น ก็มีเสียงคนอันธพาลดังผ่านเข้ามาจากอีกฝั่ง “ลมอะไรพัดหัวหน้าเย่มาที่นี่ได้เหรอ?”
เย่ชวงกวาดสายตามอง เห็นเงาร่างของคนที่เธอเกลียดมาก พิงอยู่หน้ารถตำรวจ เขี่ยหู มองมาที่เธอ รอยยิ้ม ยังคงหน้าด้านอย่างมากเหมือนเคย
“หลีกไป พวกเรากำลังปฏิบัติตามหน้าที่” เย่ชวงเอ่ยปากพูดอย่างเย็นชา
“หัวหน้าเย่ พูดจากันดีดีจะได้ไหม คุณจะพาภรรยาของผมไปแล้ว ยังไม่ยอมให้ผมคุยกับภรรยาสักกี่คำหน่อยเหรอ?” เฉินเป่ยยิ้มเยาะ รอยยิ้มที่ประจบประแจง แต่กลับทำให้ในใจของเย่ชวงโกรธอย่างมาก……แทบจะรอไม่ไหวที่จะเข้าไปต่อยเขาสักหมัด!
ใบหน้าที่งดงามของชิงเยียนตกตะลึง หมอนี่คิดจะทำอะไรกันแน่ ยั่วยุตำรวจเมืองหู้ไห่เหรอ?
กำลังรนหาที่ตายอยู่เหรอ!ทำไมหมอนี่ถึงไม่ดูตาม้าตาเรืออะไรเลย แม้แต่หลีหยางยังไม่กล้าที่จะยั่วยุให้โกรธเลย เขายังกล้าที่จะไปเรียกร้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองหู้ไห่อีก
หลังจากนั้น หลีชิงเยียนยิ่งตกตะลึง จนทำอะไรไม่ถูกเลย เพราะว่า……จู่ๆเย่ชวงก็ตอบตกลง!
หลีชิงเยียนทำยังไงก็คิดไม่ถึง ไอ้หมอนี่ พูดแค่คำสองคำก็ทำให้เย่ชวงยอมได้
หลังจากนั้น หลีชิงเยียนกัดฟัน เพราะว่าไอ้หมอนี่ ไม่แคร์อะไร เรียกเธอว่าภรรยาอย่างหน้าไม่อาย สนิทกันขนาดนี้เลยเหรอ ลืมคำเตือนของเธอไปโดยสิ้นเชิง
“หัวหน้าเย่ พวกคุณใกล้ขนาดนี้ เราสองคนผัวเมียจะคุยกันได้ไงละ” เฉินเป่ยเบะปากพูด
“แนะนำคุณนะทางที่ดีได้คืออย่าเอาศอก” เย่ชวงพูดอย่างเย็นชา
เฉินเป่ยก้าวขึ้นไปด้านหน้า เอ่ยปากพูดเสียงดัง “ภรรยาจ๋า คุณวางใจเถอะ ผมจะต้องช่วยคุณออกมาให้ได้!” เมื่อเฉินเป่ยพูดออกมา ดังก้องไปทั้งลานของอาคารตระกูลหลี ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างก็อดขำกันไม่ได้ ภาพฉากที่พนักงานต่างก็ตกตะลึงกันที่หน้าประตูอาคารตระกูลหลี ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
ทุกคนต่างก็รู้ดี ต่างก็พูดซุบซิบนินทากัน ต่างก็รู้สามีของหลีชิงเยียนเป็นพวกผู้ชายแต่งเข้าบ้านผู้หญิง ไม่มีภูมิหลังที่โดดเด่น ได้ยินมาว่าหลีชิงเยียนเป็นคนเลี้ยงดู เป็นเรื่องที่น่าอายของผู้ชาย เศษสวะที่ไร้ความสามารถ
หากเฉินเป่ยเป็นสามีของหลีชิงเยียนจริงๆ เขาก็ยังอยากจะช่วยหลีชิงเยียนออกมา?
เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ !พูดเรื่องที่น่าตลกขบขันอะไรกัน!
เขาเองก็ไม่ไตร่ตรองดูตัวเองว่าสำคัญแค่ไหน
สายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจจับจ้องไปที่เฉินเป่ย รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ยและดูถูก
หลีชิงเยียนมองไปที่ไอ้หมอนี่ หมดคำจะพูดแล้ว กัดฟันพูดเสียงต่ำ “นายตั้งใจมาทำให้ฉันขายขี้หน้าใช่ไหม!”
สถานีตำรวจหู้ไห่ แม้แต่หลีหยางก็หวาดกลัว ไอ้หมอนี่ คิดไม่ถึงว่ายังอยากจะช่วยตัวเองออกไป?
แค่เขาไม่สร้างเรื่องให้กับตัวเองหลีชิงเยียนก็ขอบคุณพระเจ้าแล้ว!
เฉินเป่ยกลับสงบนิ่งผิดปกติ “ภรรยาจ๋าคุณวางใจเถอะ ผมจะไม่ยอมให้คุณต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแน่นอน”
“หากใครกล้าทำอะไรคุณ ผมจะให้เขาชดเชยกับสิ่งที่ทำอย่างแน่นอน!” น้ำเสียงของเฉินเป่ยก็เย็นชาขึ้นทันที เพิ่มกลิ่นอายของการฆาตกรรม
กล้าแตะภรรยาของเขา ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใด ก็จะฆ่าอย่างไร้ความปราณี!!
แม้ว่าคำพูดของเฉินเป่ยจะดูจริงจังมาก แต่ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านี้ยิ่งหัวเราะได้ใจ แม้แต่ซูเหลยที่รีบลงไป เห็นฉากนี้แล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเยาะเย้ยทันที
หากคำพูดนี้หลีเช่าเทียนเป็นคนพูด ก็คงจะมีความเป็นไปได้ แต่เฉินเป่ย……น่าขำอย่างมากเลยทีเดียว
ซูเหลยยกมุมปากขึ้นอย่างดูถูก เป็นสิบแปลมงกุฎตัวยงจริงๆ พูดโกหกได้อย่างเต็มปาก
ตัวเองมองไม่ผิดจริงๆ ไอ้หมอนี่ ไม่น่าเชื่อถือเอาสะเลย
“รีบกลับไปเถอะ ฉันไม่เป็นอะไรหรอก” หลีชิงเยียนสุดที่จะทน แม้ว่าคำพูดของเฉินเป่ยจะรู้สึกอบอุ่นเล็กน้อย แต่เธอก็ทนไม่ได้กับสายตาของคนรอบข้างที่มองแบบนั้นมาที่เธอ
แบบที่ทั้งตกใจและสงสัย พวกเขาไม่เชื่อเลย ผู้ชายของนางฟ้าในวงการธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่ จู่ๆก็ทำ สิ่งที่เห็นได้ยากขนาดนี้
โดยเฉพาะบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองหู้ไห่ พวกเขากลับอยากดู ถึงเวลานั้นเฉินเป่ยจะมาช่วยให้หลีชิงเยียนออกจากสถานีตำรวจหู้ไห่ได้อย่างไร
หลีชิงเยียนหมุนตัวกลับ หลังจากที่ขึ้นรถตำรวจไป เฉินเป่ยจ้องมองอย่างใจจดใจจ่อไปที่รถตำรวจที่ขับออกไปไกล แววตาถูกความเย็นชาอย่างลึกซึ้งเข้าไปแทนที่!
หลังจากรถตำรวจที่หลีชิงเยียนขับออกไปแล้วนั้น ร้านกาแฟที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารตระกูลหลี นั่งติดอยู่กับกระจก ผู้หญิงผมบรอนซ์ใส่แว่นตากันแดดท่านหนึ่ง มองสถานการณ์ทั้งหมดอยู่ไกลๆ
เธอยกมุมปากยิ้มเยาะ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์โทรศัพท์ “เธอโดนจับแล้ว เริ่มได้เลย”
ผ่านไปไม่นาน จู่ๆบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งประกาศพูดในวงการธุรกิจ อ้างว่ากุมความลับทางธุรกิจที่รั่วไหลเมื่อคืนนี้ของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปไว้
และในขณะเดียวกัน เบอร์โทรศัพท์ลึกลับดังขึ้นที่สถานีตำรวจหู้ไห่ มีการรายงานจากฝูงชน หลังจากที่โจวเทียนปล่อยความลับของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ในคืนนั้น เป็นหลีชิงเยียนที่สั่งแก้แค้น ฆาตกรรม วางยาพิษโจวเทียน
การแจ้งเบาะแสของคนกลุ่มนี้ยังไม่ได้การยืนยันว่าเป็นความจริง แต่กลับลากให้หลีชิงเยียนมาอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย สถานีตำรวจหู้ไห่ตรวจสอบเธอ ต้องเข้มงวดอย่างมากแน่นอน และคำพูดเหล่านี้กลายเป็นข่าวลือหนาหูแล้ว แพร่กระจายไปทั่วหู้ไห่ ทำให้หลายคนทราบสาเหตุที่หลีชิงเยียนถูกตำรวจนำตัวมายังสถานีตำรวจ
หัวข้อข่าวในเมืองหู้ไห่ เต็มไปด้วยข่าวของหลีชิงเยียนทันที พูดแสดงความคิดเห็นกันต่างๆนานา และหลีชิงเยียน จากที่เคยอยู่ในที่สูง เจ้าแม่แห่งวงการธุรกิจเป็นที่ต้องการของคนนับไม่ถ้วน ตกลงมาจากแท่นบูชา กลายเป็นฆาตกรฆ่าคนแล้ว
มันช่างย้อนแย้งกันมากเกินไป ทำให้หลายคนยอมรับไม่ได้ ตกใจอย่างมาก เดากันต่างๆนานาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
ในออฟฟิศของท่านประธาน หลีหยางโกรธมาก ทุบกำปั้นลงบนโต๊ะทำงาน พูดด้วยความโกรธ “ทุเรศมาก!”
หลีหยางมองไปยังรายงานเหล่านั้น ที่แพร่กระจายออกมา ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน
“คุณอาหลีไม่ต้องกังวล ผมได้ให้บริษัทบันเทิงไปเชิญมือรับจ้างบนโลกอินเทอร์เน็ตสำหรับใช้ปั่นกระแสมาแล้ว” เฉินเป่ยสีหน้าที่แน่วแน่ กดโทรศัพท์ออกไป
“ที่ฉันเป็นกังวลมากที่สุดในตอนนี้ก็คือชิงเยียน” หลีหยางจิตใจกระสับกระส่าย กังวลว่าหลีชิงเยียนจะถูกคนใส่ร้าย
“มือที่สะอาดไม่จำเป็นต้องล้าง ชิงเยียนไม่ได้ทำอะไรผิด เย่ชวงเป็นคนที่แยกแยะอะไรดีหรือชั่ว ไม่มีใครสร้างเรื่องขึ้นให้เธอสับสนได้” เฉินเป่ยพูดปลอบใจ
และในเวลานั้น บริษัทอสังหาริมทรัพย์นั้นขู่ว่าจะเปิดเผยความลับทางธุรกิจของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ราคาหุ้นของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปดิ่งลงอย่างกะทันหัน หากมีการประกาศออกมาจริงๆ ต้องเกิดความโกลาหลขึ้นอย่างมากแน่นอน
“ฉันจะไปเจรจากับบริษัทนั้น ให้พวกเขาไม่ประกาศออกมา” หลีหยางตื่นตระหนกอย่างมาก โทรศัพท์ออกไปหลายสาย สีหน้าเปลี่ยนเป็นแย่ขึ้นทันที
บริษัทนั้นปฏิเสธการเจรจา ต้องการจะจัดการตระกูลหลีกรุ๊ป
“งั้นเป็นไปได้ว่าโจวเทียนน่าจะถูกบริษัทแห่งนี้ซื้อตัวไป”
“คุณอาหลี ผมจะต้องช่วยชิงเยียนให้ได้” เฉินเป่ยลุกขึ้นยืน เดินออกจากออฟฟิศไป โทรศัพท์หาชิงเหนียน
“แม่งเอ้ย ต้องมีไอ้สารเลวสร้างเรื่องขึ้นมาแน่นอน จู่ๆพี่สะใภ้ก็โดนจับแล้ว ผมกำลังตรวจสอบเบื้องหลังของบริษัทอสังหาริมทรัพย์นั่นอยู่” ไม่ต้องให้เฉินเป่ยพูดเอ่ย ชิงเหนียนก็ทราบข่าวแล้ว โทนเสียงเต็มไปด้วยความโกรธ
“โทรไปหากลาโหมโซนเมืองหู้ไห่ ให้ผู้นำของพวกเขาไปรับคนที่สถานีตำรวจทันที ถ้าภรรยายของฉันมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลแม้แต่นิดเดียว ให้พวกเขาเตรียมแบกรับความโมโหครั้งนี้ให้ดี” เฉินเป่ยเอ่ยปากพูดอย่างสงบนิ่ง โทนเสียง มีความเย็นชาจนทำให้คนขนลุกได้
ชิงเหนียนคนหล่อที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์ถึงกับตกตะลึง พูดแนะนำ “พี่ใหญ่ จะเอาแบบนี้จริงๆเหรอ……อย่างนี้จะยิ่งเปิดเผยอย่างง่ายดายว่าพี่อยู่ที่หัวเซี่ยนะ อันตรายอย่างมาก!”
ชิงเหนียนคิดไม่ถึง เฉินเป่ยเพื่อที่จะช่วยหลีชิงเยียนออกมา พร้อมที่จะทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย
“ไม่เห็นเป็นอะไร ภรรยาของฉันสำคัญที่สุด” เฉินเป่ยพูด ถึงแม้ตัวเองจะตกอยู่ในอันตรายแล้วยังไง ขอเพียงแค่หลีชิงเยียนปลอดภัย ถึงจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
…………
กลาโหมโซนหู้ไห่ ในห้องสำนักงาน
มีผู้ชายวัยกลางคนท่านหนึ่ง นั่งบนโซฟาหนัง กำลังต้อนรับแขกวีไอพี
แขกวีไอพีท่านนี้ยิ่งใหญ่มาก มาจากเยี่ยนจิง แม้แต่ชายวัยกลางคน ในฐานะผู้นำของกลาโหมโซน ยังมีท่าทีที่เคารพอย่างมาก
ทันใดนั้น บนโต๊ะทำงาน เสียงโทรศัพท์ออฟฟิศดังขึ้นทันที ผู้ชายวัยกลางคนกวาดสายตามอง เมื่อเห็นโทรศัพท์ออฟฟิศเครื่องสีดำดังขึ้น สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน จ้องไปที่โทรศัพท์ออฟฟิศเครื่องนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย
แววตาที่หวาดกลัวของเขา เหลือเชื่อมาก
“ขอรับโทรศัพท์สักครู่นะครับ ขอตัวสักครู่”
ผู้นำยืนขึ้นด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม เดินไปที่โต๊ะทำงาน รับสายโทรศัพท์
ปลายสายของโทรศัพท์ มีเสียงของความเย็นชาและอาฆาตผ่านเข้ามา “รีบไปรับคนที่สถานีตำรวจหู้ไห่เดี๋ยวนี้ ถ้าหากว่าเขายังไม่เห็นใครมา ทั้งหู้ไห่จะต้องทนรับกับความโกรธแค้นในครั้งนี้ของเขาให้ได้!!”
“เขา เขาเป็นใคร?” สมองของผู้นำเต็มไปด้วยความสับสน ไม่ได้ตอบสนองอะไรกลับไป
“ข้อต้องห้ามของหัวเซี่ย!!”