สายเปย์เบอร์หนึ่ง – ตอนที่ 119

ตอนที่ 119

เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

บทที่ 119 ซื้อไปหมดแล้ว!!

นอกห้องสอบสวน ตำรวจหลายนายได้กรูกันออกไปกันอย่างอึกทึกครึกโครม

เกิดความโกลาหลมากมาย สีหน้าของผู้กำกับก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้น เขาจ้องเขม็งไปยังสิ้นสุดทางเดิน ชั่วพริบตาเดียวแม้แต่เย่ชวงก็ลืมตำหนิ

หลายคนจ้องสุดทางเดินตามผู้กับกำพร้อมกับสีหน้างงงวย เพราะตรงสิ้นสุดทางเดินนั้นไม่มีอะไรเลย แต่สีหน้าของผู้กำกับดูเคร่งเครียด ราวกับเผชิญหน้ากับศัตรู

“รีบพาคุณหลีออกไปทันที เดี๋ยวนี้!” ผู้กำกับสั่งอย่างเข้มงวด น้ำเสียงไร้ความสงสัย

เขากังวลมากว่าผู้ชายคนนั้นจะมาจริงๆ อย่าพูดถึงหมวกขุนนางของเขาเลย แม้แต่หัวก็ยังรักษาไว้ไม่ได้!

“ไม่ได้!” เย่ชวงแฉลบตัวออกมายืนอยู่ข้างหน้า และกล่าววาจากับผู้กำกับอย่างเด็ดขาด “ผู้กำกับ ให้เธอจากไปไม่ได้ การสอบสวนกำลังถึงช่วงสำคัญ”

“เย่ชวง!” ผู้กำกับโมโห “เห็นแก่หน้าพ่อของคุณ ฉันคอยตามใจคุณตลอด แต่ในตอนนี้ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณ”

เย่ชวงตกตะลึง จากในภาพความทรงจำของเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้กำกับมีสีหน้าที่โหดร้าย เปลี่ยนไปอย่างน่ากลัวขนาดนั้น

“คุณหลี รีบไปจากที่นี่เถอะครับ” ผู้กำกับพูดด้วยความเคารพและส่งหลีชิงเยียนออกจากห้องสอบสวน

หลีชิงเยียนใบหน้าขาวกระจ่างสวยใส เธอเพิ่งเดินออกจากห้องสอบสวน ทันใดนั้น มีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นตรงสุดทางเดิน

นั่นเป็นเงาร่างที่สูงใหญ่ เดินมายังห้องสอบสวน เสียงรองเท้าหนังดังอย่างสุขุมและทรงพลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายเงียบ เมื่อเห็นเขาไม่มีใครกล้าเอ่ยปากสักคำ!

จากทางเดินที่เสียงดังอึกทึกกลับเงียบสงบในพริบตา เมื่อผู้กำกับเห็นร่างนั้น ตัวเขาสั่นเทา ขาทั้งสองอ่อน

เย่ชวงที่อยู่ข้างๆ ทันใดนั้นดวงตาที่สวยงามกลับคมขึ้น คมกริบราวกับดาบ

เพราะบนตัวของรูปร่างนี้ สวมใส่เครื่องแบบทหารสีเขียว

เครื่องแบบที่เป็นตัวแทนประจำตัว ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้สถานีตำรวจหู้ไห่สั่นสะเทือน!

ดวงตาคู่ดำของผู้กำกับ กำลังจะเป็นลมแล้ว! เขานึกขึ้นได้ทันที ที่เขารับโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เรื่องโกหก แต่เป็นเรื่องจริง!

ผู้กำกับจ้องมองร่างนั้นที่ใกล้เข้ามา ทุกอย่างดูเคร่งเครียดไปหมด…….มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ ว่าตัวตนของผู้ชายคนนี้เท่านั้นที่สามารถทำให้ทั้งเมืองหู้ไห่สั่นสะเทือน!

“พวกคุณที่อยู่ตรงนี้ ใครเป็นผู้กำกับ?” ทันใดนั้นร่างใหญ่ก็เดินช้าลง แล้วพูดขึ้น

“ผมครับ” ผู้กำกับฝืนใจกัดฟันเปิดปากพูด

“แกเหรอ?” ร่างใหญ่นั้นหยุด ดวงตาที่เฉียบคมมองกรีดลึกลงไปที่ตัวผู้กำกับ ผู้กำกับตัวสั่นเทาไปหมด หนาวเย็นไปทั่วร่างกาย ราวกับถูกมองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง

เครื่องแบบนั้น ทำให้เขาเกิดความหวาดผวา

“ก่อนหน้านี้ฉันโทรหาแก แต่แกกลับวางสายใส่” ร่างใหญ่ผู้นั้นพูดออกมาเบาๆ น้ำเสียงนิ่งสงบ แต่เห็นได้ชัดว่ากำลังถามอยู่

“ผมคิดว่าเป็นสิบแปดมงกุฎ จึงไม่ได้ฟังครับ” ผู้กำกับตัวสั่นเทาและพูดออกมา

ร่างนั้นจ้องเขาลงไปอย่างลึกๆเป็นเวลานาน จากนั้นเปล่งเสียงออกมาว่า “ปล่อยผู้หญิงคนนั้นเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้น ทุกคนในนี้ จะไม่มีใครหนีรอดไปได้”

ภายในห้องสอบสวน หลีชิงเยียนผมยาวยุ่งเหยิง ใบหน้าเรียวซีดขาว แต่ดวงตาสวยคู่นั้นจ้องมองไปที่ร่างนั่น ภายในใจตุ้มๆต่อมๆ

เธอกำลังเดาว่าเงานั้นคือใคร…..หรือว่าชายลึกลับที่คอยช่วยมาตลอดหรือเปล่า? หรือว่ามีเหตุผลอื่น?

นอกจากนี้ ใบหน้าสวยๆของเย่ชวงจ้องมองไปที่ร่างนั้นอย่างแน่นิ่ง เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นผู้กำกับกลัวมากขนาดนี้ ตัวตนของผู้ชายคนนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

ยิ่งทำให้เธอไม่คาดคิดว่า เขาแค่ให้ผู้กำกับปล่อยตัวหลีชิงเยียน

ตอนนี้ตำรวจหลายนายต่างก็รู้สึกอิจฉา ตกลงแล้วหลีชิงเยียนมีฝีมืออะไรกันแน่ ไม่คิดเลยว่าจะทำให้ผู้กำกับกลัวคนที่มาประกันตัว

เมื่อเทียบกับผู้ชายตัวใหญ่ผู้น่ากลัวคนนี้ กับเฉินเป่ยคนที่ก่อกวนและไม่ยอมไปไหนด้านนอกสถานีตำรวจ ก็เหมือนกับเรื่องตลก

ก่อนที่จะขอร้องให้ปล่อยตัวหลีชิงเยียนจากไป สุดท้ายกลายเป็นว่ามีบุคคลร่างใหญ่เข้ามา ใช้เพียงแค่ประโยคเดียวง่ายๆก็พาคนออกไป

หลังจากที่ร่างนั้นพูดจบ เขามองลึกลงไปยังดวงตาของหลีชิงเยียน จากนั้นก็หันหลังจากไป

ผู้กำกับเห็นร่างนั้น ไม่ได้ซักถามใดๆ จนในที่สุดกล้ามเนื้อที่ตึงก็คลายตัวลง และหายใจออก

ความกดดันที่น่ากลัวแผ่รังสีออกมาจากร่างกายนั้น ทำให้ผู้กำกับกลัวจนฉี่แทบราด

เย่ชวงจ้องไปข้างหลัง ยิ่งเกิดความสงสัยขึ้นในใจ ทันใดนั้น สายตาของเธอแน่วแน่ ตัดสินใจอย่างที่คนอื่นคาดไม่ถึง!

ทันใดนั้น เย่ชวงก้าวออกมาข้างหน้า มองไปที่ผู้กำกับ และตะโกนขึ้น “คุณเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรอนุญาตให้เขาออกไปได้?”

ผู้กำกับตัวสั่นเทา ชาไปถึงหัว เขาอยากจะปิดปากเย่ชวง แต่มันก็สายเกินไปแล้ว

ร่างนั้นก้าวฝีเท้าไป “ผู้บังคับการกระทรวงกลาโหมโซนเมืองหู้ไห่ ผู้ปกครองที่นี่”

ทันใดนั้น ร่างนั้นหายไปอย่างรวดเร็วที่ปลายสุดของทางเดิน

ความเงียบเกิดขึ้นตลอดทั้งเส้นทางเดินนั้น เย่ชวงมีสีหน้างงๆ ภายในใจสั่นสะเทือน

เธอเริ่มสั่นเล็กน้อย ดวงตางดงามเผยให้เห็นถึงความเหลือเชื่อ

ไม่มีใครคิดเลย เพียงแค่จับประธานนางฟ้าแห่งโลกธุรกิจคนหนึ่ง ไม่คิดเลยว่าทำให้ผู้บังคับการต้องมาด้วยตัวเอง

หลีชิงเยียนไม่เข้าใจ แต่เธอเห็นคนรอบตัวตกใจและวุ่นวาย สีหน้าสงสัย และรู้สึกแปลกๆ เธอเองก็ไม่ได้รู้จักกับคนนี้ แต่เขาดูเหมือนว่าจะเป็นคนมีแบ็คดี

หลีชิงเยียนยิ่งสงสัยมากขึ้น เขาถูกคนลึกลับคนนั้นส่งมา หรือว่า……เขาก็คือคนลึกลับคนนั้นเอง!

เย่ชวงอดไม่ได้ที่จะมองหลีชิงเยียน ภายในใจเกิดความอิจฉาขึ้น ผู้หญิงคนนี้ช่างแข็งแกร่งเสียนี่กระไร ไม่เพียงแค่ เป็นนางฟ้าในความคิดของผู้คนที่นับไม่ถ้วน แต่เธอยังสามารถให้ผู้บังคับการมาด้วยตัวเองและสั่งปล่อยตัวเธอด้วย!

เย่ชวงจะไปรู้ได้อย่างไร ว่าหลีชิงเยียนในขณะนี้เธอเองก็ยังงงๆและคิดอะไรไม่ออกเหมือนกัน

หลังจากที่ผู้บังคับการออกไป ผู้กำกับหันหัว กวาดสายตามองไปยังใบหน้าขาวซีดของเย่ชวง และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ยังจะไม่ปล่อยอีกเหรอ?”

เย่ชวงไม่ได้พูดอะไร คำพูดของผู้กำกับเหมือนกำลังตบหน้าเธอแรงๆ

ถ้าเธอปล่อยหลีชิงเยียนให้เป็นอิสระเร็วกว่านี้ ก่อนที่ผู้บังคับการจะมาถึง ก็อาจจะไม่เกิดเรื่องเยอะขนาดนี้

หากไม่มีการห้ามปรามของเย่ชวง หลีชิงเยียนก็จะรีบเดินออกจากสถานีตำรวจได้เร็ว และได้พบกับเฉินเป่ยที่อยู่หน้าประตูสถานีตำรวจ

“ประธานหลี ในที่สุดคุณก็ออกมาแล้ว” เฉินเป่ยยิ้มและเข้าไปหา

ใบหน้าที่สวยงามของหลีชิงเยียนซีดเซียว เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขายังคงอยู่ในอาการช็อกอยู่ จนกระทั่งเฉินเป่ยขับรถ เธอเข้าไปนั่งในรถและเอ่ยปากว่า “กลับบริษัท”

รถไมบัคกำลังเดินทางกลับบริษัท ขณะที่เฉินเป่ยขับรถอยู่นั้น ภายในใจของหลีชิงเยียนก็ร้อนรนอยู่นาน ร่างนั้นยังคงปรากฏอยู่ในหัวของเธอ เธอปะติดปะต่อกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ก็ยิ่งรู้สึกว่าผู้บังคับการในวันนี้ ก็เหมือนกับคนลึกลับที่เคยช่วยเธอมาก่อน

“ประธานหลีครับ ถึงแล้ว” หลีชิงเยียนคิดมาตลอดทาง จนกระทั่งเฉินเป่ยปลุกเธอออกจากความคิด เธอจึงมีสติขึ้น และเดินเข้าไปยังอาคารตระกูลหลี

และก่อนหน้านี้เฉินเป่ยได้คุยโวโอ้อวดกับเจ้าพนักงานอาคารตระกูลหลียกใหญ่ พอเห็นหลีชิงเยียนก็เกือบตะลึง ใครจะไปคิดล่ะ ว่าเฉินเป่ยจะทำได้จริงๆ

พนักงานหลายคนที่เคยกำเริบเสิบสานล้อเลียนก่อนหน้านี้ กลับกลายเป็นว่าพูดไม่ออก หน้าชากันเป็นแถบ

ไม่มีใครรู้ว่าเฉินเป่ยทำได้อย่างไร แต่เขานำหลีชิงเยียนออกมาได้

หลีชิงเยียนที่ถูกประกันตัวออกมาหาเฉินเป่ย นี่มันนานแค่ไหนแล้ว

หลังจากที่หลีชิงเยียนมาถึงออฟฟิศของประธานหลี พอเธอนั่งลง หลินเฉว่รีบถือแฟ้มเข้ามา

“ประธานหลี คุณกลับมาแล้วเหรอ!” หลินเฉว่พูดด้วยความประหลาดใจ

หลีชิงเยียนพยักหน้า หลินเฉว่ส่งกองเอกสารให้หลีชิงเยียน “ประธานหลี คุณเพิ่งออกมาได้ไม่นาน ก็เริ่มมีบริษัทต่อต้านพวกเราเลย”

หลีชิงเยียนชำเลืองมอง คิ้วขมวด

“นี่เป็นหมากรุกเกมหนึ่ง” ทันใดนั้น เฉินเป่ยที่อยู่ข้างๆพูดขึ้น

หลีชิงเยียนและหลินเฉว่หันหัว หลินเฉว่มีสีหน้าตกใจ “หมากรุกงั้นเหรอ?“

เฉินเป่ยพยักหน้า “ประธานหลีเพิ่งเข้าไป ก็มีบริษัทกระโดดออกมาแล้ว ไม่ว่าเร็วหรือช้าก็กระโดด แต่ดันมากระโดดตอนนี้ซะงั้น ผิดปกติมากๆเลย…..แล้วก็เมื่อวานการตายของโจวเทียน มันก็แปลกเกินไป”

เฉินเป่ยดูไม่แยแส แต่ดวงตานั้นลึกซึ้งอย่างยิ่ง “พูดได้แค่ว่า เบื้องหลังนี้ยังมีอีกมือหนึ่ง กำลังเดินหมากอยู่”

“คือหลีเช่าเทียนเหรอ?” หลีชิงเยียนกะพริบตาที่สวยงามของเธอ

“ยังไม่รู้ ถ้าหากว่าเป็นเขา งั้นก็รับมือง่ายดี…..” หลังจากที่เฉินเป่ยกล่าวถึงหลีเช่าเทียน มุมปากยกขึ้นอย่างครุ่นคิด

“ทำไม?” หลินเฉว่ไม่เข้าใจจึงถาม แต่นั่นคือคุณชายบ้านหลีในเยี่ยนจิง

“ไอ้โง่นั่น หยิ่งผยองเกินไปแล้ว ให้รับผิดชอบเองก็ไม่ได้” เฉินเป่ยแบะปาก เขาไม่ได้เห็นหลีเช่าเทียนอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย

“ฉันแค่กลัว ถ้าหากว่าไอ้โง่นั่นมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็น่าจะเป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่ง……” ดวงตาทั้งคู่ของเฉินเป่ยมองลึกออกไปไกลนอกหน้าต่างและพูดอย่างช้าๆ

…………

ในโรงแรมห้าดาวที่ไหนสักแห่ง หญิงสาวผมบรอนซ์จ้องมองไปที่โน๊ตบุ๊ค ขณะนี้บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ กำลังแสดงแผนที่ดาวเทียม

แผนที่ดาวเทียมมีจุดไฟจุดหนึ่ง เป็นเกาะเล็กๆที่ไม่มีใครรู้จักในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่

เกาะเล็กๆนี้ไม่มีชื่ออยู่ในแผนที่ใดๆเลย แม้แต่เทคโนโลยีการตรวจจับจากต่างประเทศที่ทันสมัยที่สุดก็ไม่สามารถจับเกาะเล็กๆนี้ได้

แต่ เกาะเล็กๆนิรนามนี้ถูกหญิงสวยผมบรอนซ์คนนี้จัดวางตำแหน่งอย่างแม่นยำ

ถ้าเฉินเป่ยรู้ เขาจะโกรธเกรี้ยวอย่างแน่นอน เพราะตำแหน่งนั้น ก็คือที่อยู่ของฐานทัพเขา

โม่ถีซือพบฐานทัพของเขาแล้ว และวางตำแหน่งไว้แล้วด้วย

เฉินเป่ยไม่เคยคิดเลยว่า โม่ถีซือคอยจับตามองฐานทัพของเขา

ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น โม่ถีซือรับโทรศัพท์ ดวงตาคู่สวยนิ่งไปชั่วขณะ มุมปากนั้นก็ยกขึ้นทันที

โม่ถีซือวางสาย และพึมพำว่า “หลง…….เพื่อเธอ คุณกล้าเสี่ยงได้ขนาดนี้…..”

โม่ถีซือพูดกับตัวเอง บทสนทนาก็เปลี่ยนไปทันที ดวงตาที่สวยงามกลับกลายเป็นเย็นชา “แต่ เธอต้องตายอย่างแน่นอน”

มือเรียวขาวคู่หนึ่งกำลังพิมพ์อยู่บนแป้นพิมพ์ ไม่นาน ตำแหน่งดาวเทียมถูกส่งไปยังองค์กรนักฆ่าในต่างประเทศ

ดวงตาโม่ถีซือเป็นประกาย เป้าหมายของเธอใกล้จะถึงแล้ว ตอนนี้หลีเช่าเทียน กลัวว่าจะโง่ถูกเธอหลอกน่ะสิ

“เมื่อฉันได้รับมันแล้ว ก็จะเป็นวันตายของคุณ หลง!”

และในขณะนี้ ท่ามกลางอาคารตระกูลหลี เฉินเป่ยวางสายโทรศัพท์ มุ่งหน้าออกไปจากอาคาร ดูท่าจะสังหารอย่างเลือดเย็นดั่งปีศาจเข้าสิง

ดวงตาของเฉินเป่ยมองออกไปไกล เมื่อสักครู่มีเด็กหนุ่มบอกเขา เขาพบว่าบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปมุ่งเป้าไปที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่จริงแล้วมันเป็นอุตสาหกรรมของบ้านหลีในเยี่ยนจิง

เฉินเป่ยดูเย็นชา หลีเช่าเทียนทำกลอุบายครั้งแล้วครั้งเล่า วางแผนเรื่องการใส่ร้ายป้ายสีทำให้เขาสุดที่จะทน!

“บริษัทเหล่านั้นซื้อไปหมดเลย! ฉันดูว่าเขาจะเอาอะไรมารับมือกับฉัน” เฉินเป่ยคุยโทรศัพท์กับชิงเหนียน

ชิงเหนียนที่อยู่ในสายตกตะลึง ซื้อหมดแล้วเหรอ

สายเปย์เบอร์หนึ่ง

สายเปย์เบอร์หนึ่ง

Status: Ongoing

เขาเป็นคนที่ทำให้คนอื่นกลัวและเคารพ แต่กลับกลายเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง ต่ำต้อยเหมือนฝุ่น ไม่เอาไหนเหมือนขยะ ราวกับว่าใครๆก็สามารถเหยียบย่ำเขาไว้ใต้เท้าแต่ ในใจเขามีความทะเยอทะยาน…….จะมีสักวันหนึ่ง เขาจะจับมือเธอ มอบโลกทั้งใบให้เธอ!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท