บทที่ 125 ความน่ากลัวเทพธิดาแห่งภูมิปัญญา
หลีเช่าเทียน ในโลกธุรกิจของเยี่ยนจิงก็เหมือนปลาได้น้ำ จะได้กลายเป็นบุคคลมากความสามารถที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจของเยี่ยนจิง
และตอนนี้ หลีเช่าเทียนอยู่ในเมืองหู้ไห่ กลับต้องเพ่งหนีด้วยความอาภัพ แม้แต่ตัวเขาเองยังนึกไม่ถึง ทุกอย่างก็เพราะเฉินเป่ยคนนี้!
“ปัง! ” เฉินเป่ยที่อยู่ข้างๆ กำลังต่อสู้กับเถ้าแก่เนี้ยโรงน้ำชา เขากำลังหลบซ้ายหลบขวา แล้วกำลังหลบการโจมตีของเหล่านักฆ่าที่อยู่ชั้นบนของโรงน้ำชา
“นี่……นี่มันทักษะอะไรกัน! ” บนชั้นบน มีนักฆ่าคนหนึ่งทำสีหน้าที่ตกตะลึง เขามองเห็นอย่างชัดเจน ร่างการของเฉินเป่ยกะพริบอย่างรวดเร็ว ทักษะนี้เขารู้สึกคุ้นตามา นี่มันยุทธวิธีม้วนทาง!
“เป็นไปได้ยังไง! ” นักฆ่าคนนี้นึกขึ้นได้ จึงทำสีหน้าที่เคล้าด้วยความตกตะลึง…..เขาไม่เคยเห็นยุทธวิธีม้วนทางที่ได้มาตรฐานและดูคล่องแคล่วขนาดนี้มาก่อน กลับยังสามารถทำให้กลายเป็นภาพติดตา!
นี่ต้องเป็นยุทธวิธีม้วนทางที่เอามาเป็นตัวอย่างของหนังสือเรียนแน่นอน!
กระสุนนับไม่ถ้วนถูกยิงออกไป เหมือนเป็นห่ากระสุนปืน!
“พู่ว! ” เถ้าแก่เนี้ยคนนั้นเป็นยอดฝีมือในการจู่โจม ทว่าตอนนี้ร่างผอมบางกลับถูกกระสุนยิงทะลุ!
เฉินเป่ยพึมพำด้วยเสียงเย็นชา ขาข้างหนึ่งถีบออกมาอย่างเต็มแรง ทำให้เถ้าแก่เนี้ยคนนั้นตัวปลิวไปที่ไกลๆ!
นักฆ่าพวกนั้นต่างก็รู้สึกขนลุก! ขนของพวกเขาลุกอย่างน่ากลัว!
ในใจของพวกเขารู้สึกได้ถึงภัยอันตรายที่กำลังจะมาเยือน…..เหมือนถูกสัตว์ป่าอันน่ากลัวจับจ้องอยู่ พวกเขาจึงดันไกปืนอย่างรวดเร็วแล้วยิงกระสุนออกมาอย่างบ้าคลั่ง!
กระสุนถูกยิงออกมา แล้วกำลังพุ่งไปยังเฉินเป่ยอย่างถล่มฟ้าดิน!
ดวงตาทั้งสองข้างของเฉินเป่ยหรี่ลงเล็กน้อย จากนั้นเขาก้าวเท้าหนึ่งข้างออก เหลือแต่เพียงเงาคนสีดำที่ยังอยู่ที่เดิม!
“ลงมือ! ” นักฆ่าพวกนั้นเรียกด้วยเสียงเลือดเย็น จากนั้นเรือนร่างของคนหลายๆ คนจึงกระโดดลงจากชั้นบน แล้วกำลังพุ่งไปยังด้านหน้าอย่างรวดเร็ว!
ถ้าหลีชิงเยียนอยู่ที่นี่ ก็คงจะถูกทำให้สีหน้ากลายเป็นสีหน้าที่ขาวซีดและตกตะลึง แล้วสงสัยในความจริงทั้งหมดของที่นี่อย่างแน่นอน!
ภาพแบบนี้คงจะมีอยู่ในภาพยนตร์เรื่องที่สร้างเอฟเฟกต์ขึ้นพิเศษในหนังของฮอลลีวูดของต่างประเทศเท่านั้น แต่ในขณะนี้ ในโลกแห่งความเป็นจริง ฆาตกรเหล่านี้กลับทำขึ้นได้ ความแข็งแกร่งนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
“ปังๆๆ ……” แผ่นดินสั่นสะเทือน นักฆ่าเหล่านี้กระโดดลงบนพื้น ทำให้พื้นถูกกระแทกจนเป็นรูโหว่
วินาทีต่อไป เรือนร่างเหล่านี้เหมือนสัตว์ป่าอันน่าเกรงขามที่กำลังเกรี้ยวกราด แล้วกำลังพุ่งเข้าหาเฉินเป่ย!
“ตาย! ” เฉินเป่ยร้องด้วยเสียงเย็นชา แสงสีดำที่เปล่งประกายขึ้นกำลังพุ่งออกจากมือของเขา แล้วมุ่งเข้าหานักฆ่าเหล่านั้น!
“ติ้งๆๆ! ”
แสงสีดำนั้นไวยิ่งกว่าฟ้าแลบ มันวิ่งผ่านอากาศแล้วพุ่งไปจู่โจมอย่างฉับไว ทำให้นักฆ่าเหล่านั้นกำลังจะเผชิญกับศัตรูรายใหญ่!
“ไอ้สวะของหัวเซี่ย ตาย! ” หนึ่งในนักฆ่าเหล่านั้นทำสีหน้าที่เย็นชา แล้วสังเกตมองเฉินเป่ยจากที่สูง
“ไอ้พวกคนที่รังแกหัวเซี่ยเรา ฉันจะฆ่าอย่างไม่ปรานี! ” ขาสองข้างของเฉินเป่ยกระโดดขึ้น มือจับดาบทรงฟันมังกร รังสีแห่งความยิ่งใหญ่แผ่กระจายไปทั่ว ทำให้บรรยากาศในตอนนี้เหมือนถูกความเลือดเย็นครอบงำ
ส่วนลึกในนัยน์ตาของเฉินเป่ยเปล่งประกายความเลือดเย็นชาออกมา เขากระโดดขึ้นเหมือนดั่งเทพมังกรตัวหนึ่ง และกำลังพุ่งจู่โจมนักฆ่าคนหนึ่ง!
“ติ้ง! ” นักฆ่าคนนั้นชักมีดยาวออกมา นัยน์ตาเคล้าด้วยความเลือดเย็น นัยน์ตาที่มองไปเฉินเป่ยเต็มไปด้วยความดูหมิ่น!
พวกเขามาจากองค์กรนักฆ่าชั้นสูงของต่างประเทศ แน่นอนว่าต้องรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก เฉินเป่ย ไม่มีทางเห็นพวกเขาในสายตาอยู่แล้ว!
“ขี้โรคแห่งเอเชีย ตาย! ” นักฆ่าตะคอกด้วยเสียงเข้ม เขาพูดเสียงภาษาหัวเซี่ยที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ในมือจับมีดยาวไว้แล้วร่ายรำไปมาไม่หยุด และกำลังจะฟันไปตรงตำแหน่งที่เฉินเป่ยอยู่
ถ้าตอนนี้ซูเหลยอยู่ แล้วได้เห็นฉากฉากนี้ ในใจคงจะถูกสั่นสะเทือน ทักษะการใช้มีดของนักฆ่าคนนี้ช่างอัศจรรย์มาก ทำให้รอบตัวของเฉินเป่ยกลายเป็นจุดที่ต้องเสี่ยงตายทั้งหมด เฉินเป่ยไม่สามารถหลบเลี่ยงได้เลย!
“ติ้ง! ” เฉินเป่ยโบกดาบทรงฟันมังกรขึ้นแล้วฟันลง มีดยาวของนักฆ่าคนนั้นกลับมีรอยแตกอยู่หนึ่งจุด!
ม่านตาสองข้างของนักฆ่าหดเล็กลงทันที สีหน้าดูตื่นตระหนก มีดยาวด้ามนี้ เขาใช้เหล็กกล้าหลอมออกมา เป็นมีดที่ทนทานมาก แต่ตอนนี้……กลับมีรอยแตกหนึ่งจุด!
อาวุธอันอัศจรรย์ในมือของเฉินเป่ยคืออะไรกันแน่?
นักฆ่าทุกคนรู้สึกตื่นตกใจ และจังหวะที่เขากำลังทำสีหน้าที่ตกตะลึง จึงมีแสงสีดำเหมือนดั่งม้าดำที่ได้ผ่านการศึกวิชากำลังลอยมาอย่างว่องไว จากนั้นก็ฟันหัวเขาออกมาเลย!
เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดไปทั่ว ทันใดนั้นสถานการณ์ในตอนนี้เงียบกริบไปทันที นี่ยังผ่านไปได้ไม่นาน พวกเขาก็ถูกทำลายสมาชิกไปหนึ่งคนแล้ว!
โม่ถีซือได้เชิญนักฆ่าที่มากประสบการณ์จากองค์กรนักฆ่าชั้นสูงของต่างประเทศ และเคยทำภารกิจลอบฆ่าผู้อื่นนับไม่ถ้วน ถือเป็นยอดฝีมือจริงๆ
ทีแรกพวกเขานึกว่า การมาปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ที่หัวเซี่ยก็คงจะเป็นเรื่องที่ง่ายดายเหมือนเอามือล้วงไปหยิบของในกระเป๋า กลับนึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องที่เหนือความคาดหมายของพวกเขา
“ไอ้อ่อนแอแตกหักง่าย ฆ่าพวกมัน ก็คงไม่เปลืองแรงแม้แต่ใช้ลมปากเป่าฝุ่นหรอก” เฉินเป่ยพูดด้วยเสียงเรียบ สีหน้าดูไม่แปรเปลี่ยนเลย
เหล่านักฆ่าทำสีหน้าที่เลือดเย็น รู้สึกโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ คำพูดของเฉินเป่ย ทำให้กระตุ้นไฟแห่งความโมโหในใจของพวกเขา
“ขี้โรคแห่งเอเชีย วันนี้ต้องฆ่าแกให้ตายคาที่ให้ได้! ” นักฆ่าคนหนึ่งตะโกนด้วยเสียงเย็นชา มือจับปืนสีดำไว้ ปากกระบอกปืนชี้ไปยังเฉินเป่ย จากนั้นก็ยิงกระสุนออกมาอย่างบ้าคลั่ง!
“ขี้โรคแห่งเอเชีย……เหอะๆ …….” เฉินเป่ยหัวเราะออกมา และหัวเราะเสียงดัง รอยยิ้มกลับเต็มไปด้วยความเลือดเย็น
“ดูๆ แล้ว ฉันหายตัวไปในช่วงเวลานี้ สถานการณ์ต่างประเทศวุ่นวายขนาดนี้เลย…..” เฉินเป่ยพูดคำคำนี้ออกมา “ไหนๆ ก็เป็นแบบนี้แล้ว พวกแกก็อยู่ที่นี่กันหมดเถอะ! ”
คำพูดของเฉินเป่ยเพิ่งจะเอ่ยจบ นักฆ่าเหล่านั้นก็รู้สึกเย็นหลังขึ้นมากะทันหัน เฉินเป่ยยังไม่ทันได้ทำอะไร ทว่าพวกเขากลับสัมผัสได้ถึงภัยอันตรายที่น่ากลัวกว่าเดิม!
มีร่างของคนคนหนึ่งลอยผ่านด้านหลังของเหล่านักฆ่า และพวกเขาสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติ ยังไม่ทันไรเรือนร่างนั้นก็จับดาบยาวไว้ แสงของดาบเปล่งประกายขึ้นอย่างร้ายแรง!
เลือดสาดออกมาสามฟุต! เรือนร่างของคนคนนั้นเคลื่อนไหวอย่างว่องไวเกินไป ในใจของเหล่านักฆ่าอย่างพวกเขาก็เหมือนมีคลื่นใหญ่เกิดขึ้น พวกเขายังไม่ทันได้ครุ่นคิด ในหัวเซี่ย กลับมีขี้โรคแห่งเอเชียนที่มีความไวที่น่ากลัวขนาดนี้
ผ่านไปสักพัก นอกโรงน้ำชา เฉินเป่ยยืนอยู่ท่ามกลางเลือดสาดด้วยสีหน้าที่นิ่งเงียบ
เรือนร่างของคนที่ถือดาบยาวในมือหยุดกระทำลง แล้วเผยใบหน้าที่หล่อเหลาออกมา นั่นก็คือชิงเหนียนที่หล่อและมีเสน่ห์คนนั้น
“ลูกพี่ ต้องจัดการกับศพของพวกเขายังไง? ” ชิงเหนียนกวาดสายตามองไปยังศพที่กองอยู่บนพื้นไม่กี่ศพ แล้วถามขึ้น
“ไม่ต้อง คนบางคนจะเก็บพวกเขาไปเอง” เฉินเป่ยพูดด้วยเสียงเรียบ
“คนบางคน ใคร? ” ชิงเหนียนหยุดชะงักไป เมื่อเห็นสีหน้าที่เย็นยะเยือกของเฉินเป่ย จึงสัมผัสถึงอะไรบางอย่าง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ลูกพี่แน่ใจว่าเป็นเธอหรอ? ”
“นอกจากเธอ แล้วยังจะมีใครรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่” เฉินเป่ยทำนัยน์ตาอันลุ่มลึกเปล่งประกาย
“เธออยากทำอะไรกันแน่? ” ชิงเหนียนทำสีหน้าที่เปลี่ยนไปแล้วพูดด้วยเสียงเย็นชา “ไม่อยู่ในวิหารดีๆ แล้วยังมาสร้างเรื่องที่นี่อีก”
เฉินเป่ยขมวดคิ้วไม่พูดไม่จา โม่ถีซือเกิดเป็นเทพธิดาแห่งภูมิปัญญา ความคิดภายในใจของเธอจะสามารถเดาออกอย่างง่ายดายได้อย่างไร ต่อให้ตอนนี้เฉินเป่ยก็ยังไม่เคยเดาออกว่าโม่ถีซือทำแบบนี้แล้วมีเป้าหมายยังไง
ท่าทีที่เหมือนมารของผู้หญิงคนนี้ เธอสามารถปิดบังเป้าหมายของตัวเองไว้อย่างมิดชิด
“ลูกพี่ ลูกพี่ได้รับบาดเจ็บครับ” ชิงเหนียนก้มหน้าลงแล้วกวาดสายตามองไปยังแขนของเฉินเป่ยที่ถูกกระสุนเฉียดผ่านหนังไป ตรงแขนของเขาอาบไปด้วยเลือด
“ไม่เป็นไร” เฉินเป่ยพยักหน้า ขาข้างหนึ่งก้าวออกมา ทักษะของเขาเผยขึ้นมาทันที จากนั้นก็หายไปจากที่ดื่มที่อยู่
…………
ในโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง โม่ถีซือนอนลงแล้วกำลังครุ่นคิด และกำลังมองจอที่เปิดออก มุมปากกระตุกยิ้มขึ้น
นี่เธอกำลังลองเชิงเฉินเป่ย เธออยากจะลองเชิงเฉินเป่ยว่ามีความสามารถมากแค่ไหนในวันนี้
และตอนที่เธอเห็นเฉินเป่ยถูกจู่โจมรอบทิศ จึงแสยะยิ้มด้วยเสียงเบา ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายแสงแห่งความแปลกใจ “หลง คุณนึกว่าคุณมาถึงหัวเซี่ย ก็จะสามารถไกล่เกลี่ยให้คู่กรณียุติข้อพิพาทซึ่งกันและกันหรอ แค่มีวันที่ฉันอยู่ ไม่มีทางที่คุณจะหยุดมันได้…..”
จู่ๆ จอแบนเรียบที่กำลังฉายคลิปก็ดับลงจนกลายเป็นจอสีดำ และหยุดลงทันที!
“อืม? ” โม่ถีซือเปล่งประกายนัยน์ตาคู่สวย นัยน์ตาสีฟ้าเคล้าด้วยความสงสัย
“โม่ถีซือ คุณทำเกินไปแล้ว” เวลานี้ ตรงมุมห้องมีเสียงส่งเสียงดังขึ้นทันที ทำให้ลำตัวผมบางของโม่ถีซือสั่นเทาขึ้น แล้วหันไปมองก็เห็นเรือนร่างของคนคนหนึ่งยืนอยู่ตรงมุม และกำลังจับจ้องโม่ถีซืออยู่
“หลง! ” โม่ถีซือเรียกด้วยเสียงตกใจ ทว่ากลับสามารถได้สติกลับมาทันที แล้วพูด “ฉันทำอะไรไป คุณมีหลักฐานหรอ? ”
“ไม่มี”
โม่ถีซือคลายยิ้มทันที “ไม่มีหลักฐานแล้วทำไมถึงต้องมาหาว่าฉันเป็นทำ? ”
“ผมไม่อยากจะเรียกร้องอะไรพวกนี้กับคุณ บอกผม เป้าหมายแห่งการมาที่นี่ของคุณ” เฉินเป่ยสาวเท้าก้าวใหญ่ ทำเรือนร่างเต็มไปด้วยความเลือดเย็น
ก่อนหน้านี้เขากลับไม่ได้ระวังตัวจากโม่ถีซือเลยสักนิด ทว่าตอนนี้ เฉินเป่ยต้องรู้ว่าเป้าหมายของการมาหัวเซี่ยของโม่ถีซือ และเขาต้องป้องกันตัว!
“เป้าหมาย? ง่ายมาก ฆ่าคุณไง” โม่ถีซือถอยไปด้านหลังแล้วหัวเราะและพูดด้วยเสียงเย็นชา
“ก็แค่ไอ้สวะเมื่อกี้พวกนั้นหรอ……ยังอยากจะฆ่าผม? ” เฉินเป่ยเบะปากอย่างไม่พอใจ “โม่ถีซือ คุณเห็นผมเป็นคนซื่อหรือไง? ”
“ไม่สามารถฆ่าคุณได้…..แต่ล่วงเวลาคุณก็พอ” โม่ถีซือกระตุกยิ้มลุ่มลึกและน่าแปลกออกมา
เฉินเป่ยหยุดฝีเท้าลง สีหน้าเปลี่ยนไป เหมือนสัมผัสได้ถึงอะไรขึ้นมาทันที
“โม่ถีซือ คุณอยากทำอะไร? ” เฉินเป่ยบ่นด้วยเสียงเย็นชา
“ไม่ทำอะไร คุณนึกว่าฉันแค่เชิญนักฆ่าพวกนี้มาไม่กี่คนเท่านั้นหรอ ทั้งองค์กรนักฆ่าก็ได้แฝงตัวไปทั่วทุกซอกทุกมุมของเมืองหู้ไห่ไปแล้ว เมื่อกี้บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปเกรงว่าคงจะมีเรื่องน่าตื่นเต้น……” โม่ถีซือยิ้มบางๆ
“คุณ……” เฉินเป่ยทำสีหน้าที่เกร็งทันที จากนั้นทั้งเรือนร่างเผยความอาฆาตที่ทำให้คนตกใจ และกำลังแผ่กระจายไปรอบทิศ!
เฉินเป่ยทำสีหน้าที่เปลี่ยนไปมาก สีหน้าดูโมโหและโหดเหี้ยมเหมือนเสือตัวผู้ที่กำลังร้องคำราม!
“โม่ถีซือ คุณกล้าหรอ!! ” เฉินเป่ยตะคอกอย่างโมโห ทั้งเรือนร่างแผ่รังสีความน่ากลัวออกมาไม่หยุด และยิ่งน่ากลัวกว่าเดิม เหมือนเป็นสัตว์ป่าดุร้ายที่เพิ่งตื่น!
เฉินเป่ยรู้ดีว่านักฆ่าพวกนั้นมีความสามารถแค่ไหน สำหรับเขาและชิงเหนียนแล้วไม่ถือว่าเป็นอะไร ทว่าสำหรับบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป นั่นจำต้องเห็นพวกเขามีตัวตนอยู่!
ดวงตาสองข้างของเฉินเป่ยดำสนิทไปทันที ทั้งเรือนร่างของเขาสั่นเทา เขานึกไม่ถึง เป้าหมายของโม่ถีซือกลับเป็นบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปและหลีชิงเยียน!
เฉินเป่ยจับจ้องโม่ถีซือ นัยน์ตาสองข้างเปล่งประกายความอาฆาตอันเลือดเย็นออกมา ทั้งลำตัวกำลังระเบิดความโมโหที่อดกลั้นไว้อย่างน่ากลัวออกมา!
ถ้าเปลี่ยนเป็นคนทั่วไปก็คงไม่สามารถอดทนไว้ได้ ขาทั้งสองข้างคงจะอ่อนแรงและฉี่ราดออกมา
และโม่ถีซือเป็นเทพธิดาแห่งภูมิปัญญา แน่นอนว่าต้องไม่กลัว และยังมองเฉินเป่ยด้วยความนิ่งเฉย รอยยิ้มดูลึกลับ
ถ้าหลีชิงเยียนเกิดอันตราย เฉินเป่ยคงจะฆ่าโม่ถีซืออย่างไม่ลังเล!!
“วู่ว……ตอนนี้ฉันอารมณ์ดีมาก ถ้าฉันอารมณ์ไม่ดีคิดว่าไม่เพียงแต่บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปที่ต้องเจอแบบนั้น” โม่ถีซือยิ้มแล้วเอ่ยพูด คำพูดที่เอ่ยออกมา ทำให้ความโมโหเป็นไฟของเฉินเป่ยเหมือนเติมน้ำมันลงไปอีก!
“โม่ถีซือ คุณกล้าหรอ!! ” เฉินเป่ยตะคอกเสียงโมโห ทั้งห้องสั่นสะเทือน
“ถ้าเมืองหู้ไห่มีคนหายใจแม้แต่คนเดียว ผมจะให้คนนับพันในพระราชวังกระจกแห่งภูมิปัญญาของคุณต้องรับผิดชอบ!!”