ตอนที่ 137 เครียดจนกระอักเลือด
ตรงที่ราบลานจอดเครื่องบิน มีหลุมขนาดใหญ่ที่ลึกและมีร่องรอยแตกของพื้น ทุกที่มีรอยแตกที่คล้ายกับใยเล็กๆ ของแมงมุม ทำให้มองแล้วรู้สึกตื่นตกใจ!
เหมือนเป็นร่องรอยที่สัตว์ดุร้ายขนาดใหญ่ตัวหนึ่งทิ้งไว้ ร่องรอยพวกนี้ทำให้สามารถอธิบายว่าการต่อรบที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มันดุเดือดแค่ไหน
เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายๆ คนต่างก็ทำสีหน้าที่ดูเคร่งเครียด ขาทั้งสองข้างสั่นเทาขึ้นมา ต่อให้เป็นตำรวจที่มากประสบการณ์ พอเห็นสถานการณ์แบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะใจสั่น!
สถานการณ์แบบนี้ มีเพียงเทคนิคพิเศษที่ใช้ในการจัดฉากหนังของฮอลลีวูดเท่านั้น!
ตอนนี้ กลับปรากฏทุกอย่างอย่างชัดเจนต่อหน้าพวกเขา!
เย่ชวงเห็นหลุมลึกหลุมนี้ ทั้งตัวจึงเย็นยะเยือกขึ้นทันที เหมือนทั้งตัวของเธอถูกน้ำเย็นสาด ลำตัวอันผอมบางสั่นขึ้นเล็กน้อย
จู่ๆ ก็มีตำรวจคนหนึ่งกรีดร้องด้วยเสียงแหลม สีหน้าดูตะลึงงัน เหมือนเห็นอะไรที่น่ากลัว!
ตำรวจท่านั้นนั่งอยู่บนหลุมลึก แล้วชี้ไปที่ที่หนึ่ง จากนั้นก็พึมพำด้วยเสียงตกใจ “นี่มันเป็นไปได้ยังไง! ”
เย่ชวงจึงพุ่งเข้ามาเร็วเหมือนยิงธนู จากนั้นก็พยุงตำรวจท่านั้นให้ลุกขึ้น แล้วมองไปในทิศทางทางสายตาของตำรวจมองไป สายตาของนางเต็มไปด้วยความสงสัย!
แค่เห็นตรงกลางหลุมลึก กลับมีรอยเท้าคู่หนึ่ง!
“นี่เป็นฝีมือของคนหรอ? ” ตำรวจแก่ท่านหนึ่งพึมพำขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง!
ทั้งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบกริบ ตำรวจทั้งหมดจับจ้องรอยรองเท้าคู่นั้นไว้ พวกเขาถูกทำให้ตะลึงงันไปแล้วจริงๆ
“รอยรองเท้าคู่นี้เป็นรอยที่คนทิ้งเอาไว้จริงๆ ทว่ากำลังของคนสามารถทำให้เกิดหลุมลึกนี้ขึ้น ยากที่คาดคิดจริงๆ! ” มีหมอนิติเวชคนหนึ่งเคยมาสืบหา น้ำเสียงเคล้าด้วยความตกตะลึง
“ไม่เพียงแต่เท่านี้ แล้วยังมีศพอีกหลายๆ ศพถูกพลังอันยิ่งใหญ่โจมตี พลังของผู้ร้าย เกินที่พวกเขาสามารถคาดคิดได้! ” นิติเวชกัดฟัน หน้าผากเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อเม็ดเล็กๆ
“พลังของเขาใหญ่ขนาดไหน? ” เย่ชวงพยายามทำให้ตัวเองสงบสติลง ทว่าเรือนร่างผอมบางกลับสั่นเทาไม่หยุด!
“เกินกำลังของสิงโตและเสือ…….เหมือนเป็นแรงที่ย่ำเท้าลงตอนของฝูงข้างหลังจากที่เกิดความรู้สึกโมโห! ” นิติเวชท่านนี้วินิจฉัยเสร็จ เสียงตกตะลึงจึงดังขึ้นโดยทั้งสี่ทิศ!
ดวงตาคู่สวยของเย่ชวงเปล่งประกายแสง และเต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกใจและตกตะลึง!
แรงของเหล่าสิงโตและเสือก็เป็นแรงสังหารแล้ว และเป็นอันดับสูงสุดของสัตว์กินเนื้อ และแรงพวกฝูงช้าง ก็เป็นแรงอันยิ่งใหญ่ที่แรงของคนยากที่จะต่อต้านยิ่งกว่า!
และนิติเวชท่านั้นกลับเรียกพลังนี้ว่า เป็นพลังของคนคนหนึ่งที่ระเบิดแรงออกมา กลับเป็นแรงที่แกร่งและยิ่งใหญ่แบบนี้!
นี่ยังเป็นคนอีกหรอ……นี่มันเป็นสัตว์ประหลาดหรือเปล่า!
ทุกคนที่อยู่ได้สถานการณ์ต่างก็ทิ้งไว้แต่เสียงหายใจที่เย็นยะเยือก เมืองหู้ไห่กลับมียอดฝีมือที่น่ากลัวแบบนี้อาศัยอยู่ด้วย!
“พลังประเภทนี้ยังไงก็ไม่มีทางมีอยู่อย่างแท้จริงอยู่แล้ว แค่มีในทฤษฎีเท่านั้น…..เพราะว่าสภาพร่างกายของมนุษย์ ไม่มีทางสูงขนาดนี้” นิติเวชทำสีหน้าที่กระวนกระวาย สีหน้าแดงระเรื่อขึ้นมา
นิติเวชรู้ดีว่านี่กำลังหมายความว่าอะไร นี่กำลังแสดงให้เห็นว่าทฤษฎีแห่งโลกของวิทยาศาสตร์กำลังจะกลายเป็นจริง!
สถานการณ์จึงเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เงียบกริบทันที เย่ชวงทำนัยน์ตาที่เย็นชา แล้วกวาดสายตามองไปยังที่อื่นที่นอกเหนือจากหลุมลึก
ศพแต่ละศพล้มนอนอยู่ในท่ามกลางกองเลือด เรือนร่างตกอยู่ในสภาพที่แย่จนทนมองไม่ไหว หน้าอกยุบลงเป็นหลุม นั่นเป็นรอยของรองเท้าอย่างเห็นได้ชัด และบางศพก็ถูกสิ่งแหลมคมปาดคอ……ศพเหล่านี้ได้ผ่านการชันสูตรศพ ทุกศพต่างก็ถูกฆ่าอย่างว่องไว และพวกมันไม่ได้ผ่านจู่โจมหรือได้ต่อสู้กับผู้ร้ายเลย
ความสามารถของผู้ร้ายลึกลับจนยากที่จะคาดเดา นี่ถือว่าคดีใหญ่ที่น่าตื่นตะลึงที่สุดเท่าที่ตำรวจมากมายเคยเจอมา!
เย่ชวงกอดอกไว้ แล้วยืนอยู่ตรงกลางที่เหตุการณ์ ใบหน้าอันอ่อนเยาว์ของเธอดูจริงจัง คดีครั้งนี้ไม่เหมือนกับคดีอื่นๆ นี่เป็นคดีที่ผู้ที่อยู่เบื้องบนกำชับว่าเป็นคดีสำคัญ และต้องหาผู้ร้ายให้เจอ จากนั้นก็ได้คำตอบที่แน่ชัดกับตระกูลหลีแห่งเยี่ยนจิง!
ตอนนั้นเย่ชวงกำลังดำเนินคดีอย่างอื่นอยู่ หลังจากที่ได้รับคำสั่งของผู้กำกับ จึงรีบทิ้งคดีในมือแล้วรีบมาที่นี่
“ต้องหาคนร้ายให้เจอ! ” ใบหน้าอันสะสวยของเย่ชวงเย็นชาขึ้นมา ผู้ร้ายยิ่งแกร่งมากแค่ไหน สำหรับเมืองหู้ไห่แล้วก็ถือว่าเป็นการข่มขู่ที่ยิ่งใหญ่มากเท่านั้น เธอไม่สามารถยอมให้ระเบิดที่ไร้รูปธรรมนี้อยู่ในเมืองหู้ไห่!
“หัวหน้าเย่ คนพวกนี้ดูจากชุดเครื่องแบบแล้วเป็นลูกน้อยของตระกูลหลี บอร์ดี้การ์ดของคุณชายสองตระกูลหลี พวกเขาต้องล้อมรอบแล้วจู่โจมผู้ร้าย กลับถูกผู้ร้ายทำร้าย……” นิติเวชท่านหนึ่งพูดด้วยเสียงสั่นเทา สีหน้าเคล้าด้วยความไม่น่าเชื่อ
“ผู้ร้ายคนนี้เป็นบุคคลเหนือมนุษย์……” ตำรวจคนนั้นทำสีหน้าที่ขาวซีด จากนั้น…..ก็อ้วกอีกครั้ง
“เก็บหลักฐานรอยรองเท้าของก่อน แล้วนำไปทำวิจัยในห้องวิจัย” เย่ชวงเหลือบตามองที่เกิดเหตุ จากนั้นก็หันหลัง แล้วเดินออกจากสนามบิน
…………
ในออฟฟิศของท่านประธาน หลีชิงเยียนยืนอยู่ตรงบานหน้าต่างใหญ่ยาวเหยียดจนถึงพื้น ภายในใจกำลังครุ่นคิดบางอย่างอย่างหนักใจ
เท้าที่เปลือยเปล่าเหมือนดั่งหยกกำลังยืนอยู่บนพื้น เท้าดั่งหยกสามารถสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกที่ส่งมาบนพื้น จึงจะทำให้นางคงสติไว้ได้
หลีชิงเยียนกำลังจับจ้องหัวใจสำคัญของเมืองหู้ไห่ ตึกอาคารสูงจำนวนมาก ที่สร้างจากเหล็กและปูนซีเมนต์นับไม่ถ้วน ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นป่าเหล็กที่เต็มไปด้วยแสงสว่างที่เจิดจ้า
ไม่รู้ทำไม จู่ๆ หลีชิงเยียนก็รู้สึกหดหู่ใจ และหัวสมองจึงมีใบหน้าที่ดูเย่อหยิ่งแต่ดูใส่ใจของเฉินเป่ยลอยมา และภาพเหตุการณ์หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ลอยขึ้นมาด้วย
จู่ๆ ดวงตาคู่สวยของหลีชิงเยียนจึงหดเล็กลง ภายในใจจึงมีความคิดที่เหลือเชื่อเกิดขึ้น
“เขาหายตัวไปหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้วตอนกลางวันก็ไม่เห็นหน้าใช่ไหม? ” หลีชิงเยียนถามด้วยทันที
“เขา? เฉินเป่ยหรอ? ” ซูเสี่ยวหยุนตะลึงงันทันที จากนั้นก็ได้สติกลับมาแล้วพยักหน้า “ใช่ ตอนกลางวันไม่รู้ว่าเขาไปไหน? ทำไมหรอ? ”
“หลีเช่าเทียนคงไม่มีศัตรูในเมืองหู้ไห่ ดวงตาคู่สวยของหลีชิงเยียนเปล่งประกายแสง “หนึ่งเดียวที่เป็นศัตรูของเขาที่อยู่เมืองหู้ไห่ ก็คือพวกเรา และก็มาเพราะพวกเรา”
“เธออยากจะบอกอะไร? ” ซูเสี่ยวหยุนขมวดคิ้วขึ้น
“หลีเช่าเทียนถูกหักแขนไปหนึ่งข้าง ฉันรู้สึกได้ว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับพวกฉัน” หลีชิงเยียนพูดด้วยเสียงแข็ง
ซูเสี่ยวหยุนสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย แล้วพูดขึ้น “เธอไม่ใช่ว่ากำลังสงสัยว่าเขาเป็นคนทำใช่ไหม? ”
“ฉันก็ไม่แน่ใจ” หลีชิงเยียนส่ายหน้า ตอนนี้เธอเองก็ไม่แน่ใจมาก
หลีชิงเยียนควักมือถือออกมา แล้วกดโทรออก ไม่นาน ซูเหลยจึงผลักประตูเข้ามา
“เธอคิดยังไงกับเฉินเป่ย? ” หลีชิงเยียนถามขึ้น
ซูเหลยนิ่งงัน เธอนึกไม่ถึงว่าจู่ๆ หลีชิงเยียนถามแบบนี้ออกมา ทว่าพอเห็นสีหน้าที่จริงจังของหลีชิงเยียน จึงพูดขึ้นตามจริง “ไม่ต่างจากนักเลงตลาดมืด พูดจากะล่อน นอกจากขี้โม้แล้ว ไม่มีอย่างอื่นที่เขาเป็นเลย”
“เมื่อวานเขาอยู่ในบาร์ตลอดหรอ? ” หลีชิงเยียนถามขึ้นต่อ
ซูเหลยพยักหน้า “ฉันให้เพื่อนที่เป็นตำรวจไปดูภาพจากกล้องวงจร หลังจากที่เขาเข้าไปในบาร์ก็ไม่ได้ออกมาอีกเลย และบาร์นั่นก็ไม่มีประตูหลังด้วย”
ซูเหลยพูดจบ ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ท่านประธานหลี เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ”
“หลีเช่าเทียนถูกไล่ฆ่า ทว่าผู้ร้ายมีข้อมูลส่วนตัวที่ไม่ชัดเจนเลย”
ซูเหลยยิ้มพูด “ท่านประธานหลี ฉันไม่มีทางดูผิดอยู่แล้ว ไอ้หมอนั่นจะเป็นผู้ร้ายได้ยังไง ถึงแม้เขาจะไม่เหมือนคนธรรมดา ทว่าก็ไม่มีสิทธิ์ไปหักแขนของหลีเช่าเทียน”
“ข้างกายของหลีเช่าเทียนมียอดฝีมือนับไม่ถ้วน แม้กระทั่งยอดฝีมือบางคนแม้แต่ฉันยังไม่จำเป็นต้องจู่โจมด้วยแรงทั้งหมดที่มี ถ้าเขาเป็นยอดฝีเท้าจริงๆ ฉันไม่มีทางดูไม่ออกได้ยังไง” ซูเหลยยิ้มพลางพูด
“หวังว่าจะเป็นแบบนี้” หลีชิงเยียนพยักหน้า จึงจะรู้สึกวางใจขึ้นมาบ้าง
…….
เวลานี้ ในจวนของตระกูลหลีแห่งเยี่ยนจิง
หลีเช่าเทียนทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเลือดเย็น เขาที่เพิ่งผ่าตัดเสร็จ และยังคงอดทนกับความเจ็บปวดอยู่
ทุกความเจ็บปวดที่เขาอดทนไว้ ความเกลียดชังที่มีต่อเฉินเป่ยก็ยิ่งมากขึ้นกว่าเดิม
“เส้นเลือดของหลีหยางนี้ ต้องมีสักวันที่จะถูกสังหาร! เฉินเป่ย! แกรอฉันไว้! ” หลีเช่าเทียนทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเลือดเย็นและความโหดเหี้ยม ขณะเดียวกันลูกน้องของตระกูลหลีก็มาปลอบโยน “คุณชายหลีสูญเสียมือไปอย่างไม่ทันได้ระวัง ตอนนี้คุณชายใหญ่รีบไปถึงหู้ไห่แล้ว และกำลังจะแก้แค้นแทนคุณชาย ถึงเวลาจะพาไอ้คู่หนุ่มสาวสารเลวนั่นกลับมา และจะปล่อยให้คุณหนูจัดการเอง”
หลีเช่าเทียนทำเสียงในลำคอด้วยความเย็นชา “เขาไปก็คงสามารถทำได้ ถ้าผมมีฐานะและแหล่งที่มาเหมือนเขา ฉันก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย แค่……” หลีเช่าเทียนทำนัยน์ตาที่เคล้าด้วยความเข้มขรึมและลุ่มลึก “พี่ชายคนนี้ของฉัน…….”
“คุณชายหลีกลัวว่าหลีชิงเยียน สาวสวยคนนั้นจะถูกคุณชายใหญ่ได้ไปหรอ? ” ลูกน้องของตระกูลหลีถามขึ้น
“ก็กลายเป็นมือสองไปแล้ว เธอจะกลายเป็นของมือสองที่ใช้อีกต่อ แล้วจะให้มาเป็นขี้ข้าของฉัน เธอยังไม่คู่ควร” หลีเช่าเทียนเบะปาก
และตอนที่หลีเช่าเทียนและลูกน้องของตระกูลหลีกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้น ด้านนอกจวนของตระกูลหลี ก็มีเรือนร่างของคนคนหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว!
“คุณชายรอง มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแล้วครับ! ”
ลูกน้องของตระกูลหลีคนนั้นทำสีหน้าที่ตกตะลึง สีหน้าดูแย่มาก
“เกิดอะไรขึ้น? มีอะไรค่อยๆ พูด” หลีเช่าเทียนทำสีหน้าที่ได้สติ
“เกิดเรื่องแล้ว……” ลูกน้องตระกูลหลีหายใจหอบหืด “ทางฝั่งเมืองหู้ไห่……”
“มันเกี่ยวกับเรื่องของพี่ชายฉันใช่ไหม ฉันรู้แล้ว เขาลงมือได้ไวเหมือนที่ผ่านมา” หลีเช่าเทียนพูดขึ้น
“คุณชายรองขึ้นข่าวหน้าหนึ่งครับ! ” ลูกน้องตระกูลหลีตระกูลขึ้น หลีเช่าเทียนทำสีหน้าที่เกร็ง แล้วเย็นชาทันที!
“แกพูดอะไรนะ?! เรื่องที่คุณชายรองได้รับบาดเจ็บ ได้ถูกปิดข่าวในจวนตระกูลหลีไปนานแล้ว ทางเมืองหู้ไห่ก็ได้ขอร้องให้คนไปจัดการ ทำไมถึง……” ลูกน้องที่อยู่ข้างๆ หลีเช่าเทียนทำสีหน้าที่เปลี่ยนไปเยอะ
ลูกน้องตระกูลหลีคนนั้นจึงยื่นหนังสือพิมพ์ชุดหนึ่งด้วยสองมือที่สั่นเทา หลีเช่าเทียนรับไว้ นัยน์ตากวาดมอง ทันใดนั้นสีหน้าก็ดูเย็นชา และเคล้าด้วยความอาฆาตอันน่าตกใจที่ทำให้แพร่กระจายไปทั่วแผ่นฟ้า!
ทั้งจวนตระกูลหลีนี้ดูความอาฆาตและเลือดเย็นปกคลุม หลีเช่าเทียนยังยืนอยู่ที่เดิม และทั้งเรือนร่างของเขาสั่นเทา สีหน้าเขียวคล้ำ!!
ทั้งฝั่งหู้ไห่ก็ได้รายงานข่าวมานานแล้ว และหัวข้อของข่าวตีพิมพ์อย่างชัดเจน “ซ้ำเดิมคนชั่วตกอับ คุณชายแห่งเยี่ยนจิงถูกหักแขน! ”
หลีเช่าเทียนจับหนังสือพิมพ์ไว้ ข้อนิ้วมือกลายเป็นสีขาวทันที แม้กระทั่งยังได้ยินเสียงกัดฟันกรอดของเขา!
“คุณชายได้โปรดใจเย็น! ” ลูกน้องสองคนลำตัวสั่นเทา แล้วทรุดตัวคุกเข่าด้วยความสั่นเทา!
“ไปตายให้หมด!! ” หลีเช่าเทียนลากเสียงยาวและดังลั่นไปทั่วฟ้า หน้าตาของเขากวาดลงพื้นแล้วจริงๆ ชื่อเสียงตอนอยู่หู้ไห่ ป่นปี้ไปแล้วจริงๆ !
แม้กระทั่ง เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียงจริงๆ ในเมืองหู้ไห่แล้ว! ไม่เพียงแต่แบบนี้ ตระกูลหลียังต้องกลายเป็นที่เยาะเย้ยของคนนับไม่ถ้วนเพราะเขา!
ตอนนี้หลีเช่าเทียนก็รู้สึกกลัวมาก ถ้าเกิดภาพตอนที่เขาหนีก่อนหน้านี้ถูกคนถ่ายไว้……ความน่าเวทนาของตัวเองเกิดถูกคนเห็นเข้า…….เขาไม่กล้าคิดว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง!
“ต้องตายให้หมด! ฉันจะทำให้หู้ไห่ต้องพังทลาย! ” หลีเช่าเทียนเครียดจนลำตัวสั่นเทา และคอของเขาก็เหมือนได้ลิ้นรสหวาน จากนั้นก็มีเลือดกระอักออกมาเต็มปาก!
“ปึก!” หลีเช่าเทียนทำนัยน์ตาทั้งสองดูมืดลงทันที แล้วก็สลบและล้มลงบนพื้น!!