บทที่163 หลงกลซะแล้ว
ฟ้ามืดสนิท มีแต่พระจันทร์ที่แขวนอยู่บนฟ้า ส่องแสงสว่างลงมา และครอบคลุมโรงแรมใหญ่แชงกรีล่าไว้
วินาทีนี้ ในโรงแรมแชงกรีล่า ไฟสว่างไสว ข้างในเต้นรำและร้องเพลง การเต้นการร้องเท่าเทียมกัน
เป็นถึงหนึ่งในโรงแรมชั้นยอดในเมืองหู้ไห่ ข้อกำหนดในโรงแรมใหญ่แชงกรีล่า ทำให้ผู้มียศศักดิ์และชื่อเสียงต่างมองแล้วก็กลัวกันทั้งนั้น
มีแต่บ้านตระกูลไฮโซในเมืองหู้ไห่ และบ้านตระกูลเก่าแก่ ถึงจะมีสิทธิ์เข้ามาในนี้
ค่าใช้จ่ายต่อคืน มากพอที่จะเทียบเท่ากับเงินเดือนของคนธรรมดาสักสิบปี
ชั้นยอดของโรงแรมใหญ่แชงกรีล่า มีห้องเพรสซิเดนท์สูทห้องหนึ่งที่ข้อกำหนดสูงสุด ว่าการว่าผู้ที่มีสิทธิ์เข้าพักในห้องเพรสซิเดนท์สูทห้องนี้ อยู่ที่หัวเซี่ยมีน้อยมากเลยทีเดียว
ส่วนวินาทีนี้ ในห้องเพรสซิเดนท์สูทห้องนี้ มีร่างเงาที่สูงใหญ่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าหน้าต่าง ชื่นชมเสียงเพลงดนตรีที่ไพเราะซึ่งเปิดอยู่ในห้อง และมองดูวิวกลางคืนของหู้ไห่
ร่างเงาที่หล่อเหลายืนอยู่ที่นั่น กำลังฟังเสียงเพลงดนตรีอย่างเงียบๆ เหมือนกำลังรออะไรอยู่
ในขณะนี้ นอกพันลี้ซึ่งห่างจากโรงแรมใหญ่แชงกรีล่า มีร่างเงาร่างหนึ่งพอดี ขี่รถจักรยานยนต์ มุ่งเข้ามาทางแชงกรีล่าอย่างเร่งรีบ!
รถจักรยานยนต์คันนั้นดูเก่าแก่มาก แต่ว่าถูกเฉินเป่ยขับเคลื่อนอย่างบ้าคลั่ง มุ่งมาทางแชงกรีล่าอย่างใกล้ชิด!
ประตูห้องเพรสซิเดนท์สูทถูกเคาะจนเปิดออกมา ไอรีนเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ ด้วยสีหน้าที่เข้มขรึม “รองหัวหน้าการกระทรวงคะ เขามาแล้วค่ะ!
”
หลีเช่าหงก้มหน้า และดื่มลาไฟต์จนหมดแก้ว สีหน้าเยือกเย็นอย่างกะทันหัน “ไปจัดหาคนมา ถ้าหากมีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น ก็ฆ่าให้หมด!”
วางแก้วเหล้าลง หลีเช่าหงเงยหน้าขึ้นมา นัยน์ตาลึกๆมี ความฆ่าฟันที่ไร้ขีดจำกัดซึ่งเก็บไว้อย่างยาวนาน ออกไปทางนอกหน้าต่างอย่างไม่มีที่สิ้นสุด……….
อากาศสั่นคลอน เยือกเย็นแบบงุนงง ไม่มีใครรับรู้ได้เลยว่าโรงแรมใหญ่แชงกรีล่า ถูกบรรยากาศที่ฆ่าฟันอย่างแปลกประหลาดและเข้มงวครอบงำเอาไว้
…………
รถจักรยานยนต์จอดอยู่ที่หน้าประตูของโรงแรมใหญ่แชงกรีล่า เฉินเป่ยมองดูภายนอกที่หรูหราของโรงแรมใหญ่ นัยน์ตานิ่งสงบและคมเข้ม
คนธรรมดาเห็นสถานที่แบบนี้สีหน้าต้องตื่นเต้นแน่นอน ส่วนเฉินเป่ย ในใจถึงขั้นไม่มีการหวั่นไหวใดๆเลย
เฉินเป่ยยกขา เดินเข้าไปในโรงแรมใหญ่แชงกรีล่า หลังจากมองดูรอบๆ พูดกับพนักงานหญิงหน้าเคาร์เตอร์ว่า “พาฉันไปหาหลีเช่าหง”
หน้าเคาร์เตอร์เงยหน้าขึ้นมา นัยน์ตาลึกๆมีสีหน้าที่ตกใจ น้ำเสียงเฉินเป่ยหนักแน่นและนิ่งๆ เห็นปุ๊บก็มองฐานะเธอออกอย่างทะลุปรุโปร่ง
“อย่าแกล้งเลย การซุ่มจู่โจมที่ปลอมตัวขึ้นมาอย่างพวกแก โง่เง่าเกินไปแล้ว” เฉินเป่ยเอ่ยปากนิ่งๆ” คนของผู้อำนวยการจาง ดูท่าสู้รุ่นต่อรุ่นไม่ได้เสียแล้ว”
หน้าเคาร์เตอร์คนนั้นเงียบกริบ แต่ว่านัยน์ตาข้างในหักหลังเขาไปแล้ว!
ผู้อำนวยการจาง……หน้าเคาร์เตอร์หัวใจกระตุก นั่นเป็นตำนานของรุ่นก่อน เป็นความฝันของหน่วยสืบราชการลับที่นับไม่ถ้วน ทุกคนอยากมีตัวตนเหมือนกับผู้อำนวยการจาง!
แต่ทว่า ในปากผู้ชายคนนี้ ผู้นำที่กล้าหาญอย่างผู้อำนวยการจางคนนี้ซึ่งอยู่ในใจคนอย่างนับไม่ถ้วน เขากลับไม่มีความเคารพและความเกรงกลัวใดๆ
“ในอดีต ผู้อำนวยการจางเป็นอาจารย์ในแวดวงปลอมตัวและซุ่มจู่โจม ทั้งหัวเซี่ย มีแค่ไม่กี่คนที่ดูการปลอมตัวของเขาออก………” น้ำเสียงเฉินเป่ยคมเข้ม ส่ายหน้า และเอ่ยปากขึ้นมาช้าๆ “คิดไม่ถึง…… คนตั้งมากมายเช่นนี้ ไม่มีคนได้ความรู้เลยแม้แต่น้อย………”
คำพูดเฉินเป่ยออกมาเหมือนกับฟ้าผ่า ทำให้หน่วยสืบราชการลับที่ปลอมตัวคนนั้น สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที!
คำพูดของเฉินเป่ย ทำให้หัวใจเธอกระตุก หน้าสวยๆเปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อย เธอคิดไม่ถึงเลยสักนิด เฉินเป่ยถึงขั้นรู้ความลับนั่น!
ความลับนี้ มีแต่หน่วยสืบราชการลับถึงจะรู้ ส่วนเฉินเป่ย หรือว่าเป็นหนึ่งในหน่วยสืบราชการลับ?
สีหน้าเฉินเป่ยผ่อนคลายและสบายๆ ทำให้ผู้หญิงหน้าเคาร์เตอร์คนนั้น รู้สึกสงสัยและตกใจกับฐานะของเฉินเป่ยมากยิ่งขึ้น!
เฉินเป่ยมองดูสีหน้าที่งงๆและเบอลๆของผู้หญิงซึ่งอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ ยักคิ้วปุ๊บ “ทำไม ยังไม่พาฉันไปหาเขาอีก?”
ผู้หญิงหน้าเคาน์เตอร์ก้มหน้า และพูดอย่างเสียงเบาว่า “เชิญตามฉันมา”
………….
ในห้องเพรสซิเดนท์สูท เลขาหญิงที่สวยสดงดงามนอนขดตัวอยู่บนเตียง ร่างกายที่บอบบางสั่นคลอน ที่หน้ายังมีรอยแดงๆหลงเหลืออยู่ซึ่งไม่ได้จางหายไป
หลีเช่าหงลุกขึ้นมา ร่างกายที่เปลือยเปล่าใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวและเสื้อสูทสีดำ จัดเสื้อผ้าแป๊บหนึ่ง ประตูห้องถูกเคาะดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“เข้ามา” น้ำเสียงหลีเช่าหงเข้มขรึม ส่วนเลขาหญิงที่สวยงามร่างบาง เอาหัวเข้าไปในผ้าห่มอย่างเขินอาย
หัวหน้าของไอรีน หัวหน้าทีมเดินเข้ามาในห้องเพรสซิเดนท์สูทเอ่ยปากออกมาว่า “เขามาแล้ว”
นัยน์ตาทั้งคู่หลีเช่าหงเคลื่อนไหว สายตาที่เข้มขรึมและเยือกเย็นเผยออกมา!
“มาถึงเร็วไวขนาดนี้?” มุมปากหลีเช่าหงยกขึ้นมาเล็กน้อย เข้มขรึมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด”
“ไป ตามฉันไปพบเขา” หลีเช่าหงเอ่ยปากออกมา ก้าวขาออกไป และเดินออกไปจากห้องเพรสซิเดนท์สูท”
เฉินเป่ยนั่งอยู่ในห้อง มุมปากคาบบุหรี่เอาไว้ ขาทั้งคู่วางอยู่บนโต๊ะเหล้าอย่างเหลวไหลและไร้มารยาทกระตุกขาไปด้วย และครวญเพลงไปด้วย
ต้องรู้ว่า เขาไม่กล้าแสดงหน้าตาท่าทางแบบนี้ต่อหน้าหลีชิงเยียน อยู่ต่อหน้าหลีชิงเยียนเขาก็เหมือนกับหมาตัวหนึ่ง ส่วนวินาทีนี้ ไม่ต่างจากนักเลงเลยสักนิด
หน้าประตูห้อง ผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้าเคาร์เตอร์ สายตาของเธอตกไปอยู่ที่ตัวเฉินเป่ย เห็นหน้าตาที่หยิ่งยโส และไร้มารยาท………ทำให้เธอโกรธเคืองมาก มีความรู้สึกแบบว่าตัวเองถูกหลอก
คนประเภทนี้ ไร้มารยาทสิ้นดี ทำไมถึงรู้จักกับรองหัวหน้าการกระทรวงผู้มีชื่อเสียงเช่นนี้นะ!
จู่ๆ ระเบียงทางเดินห้องรับรอง เสียงใสของรองเท้าหนังดังขึ้นมาเรื่อยๆ!
สีหน้าเฉินเป่ยยังคงนิ่งเฉย แต่ว่านัยน์ตาลึกๆ มีความคมเข้ม และยิ่งอยู่ยิ่งเยือกเย็น……….
ผ่านไปไม่นาน ร่างเงาร่างหนึ่งปรากฏตัวออกมาที่หน้าประตูห้องรับรอง หน้าตาที่หล่อเหลา นัยน์ตาที่คมเข้มเหมือนอย่างกับดวงดาว เขายืนอยู่ตรงนั้น จึงเหมือนกับหมอกที่หนาแน่น ทำให้คนดูไม่ออกเลยสักนิด!
คุณชายใหญ่บ้านตระกูลหลี หลีเช่าหง!
“โธ่เอ๊ย คุณหลี ในที่สุดท่านก็มาจนได้ฮ่า นั่งนั่งนั่ง” เฉินเป่ยหัวเราะก๊าก เก็บขาที่วางไว้บนโต๊ะเหล้าเข้าไป
หลีเช่าหงจ้องหน้าเฉินเป่ย ส่วนข้างหลังหลีเช่าหง หัวหน้าทีมไอรีนคนนั้น หลังจากเห็นเฉินเป่ย สีหน้าอึ้ง และเผยสีหน้าที่ตกใจออกมา!
“ทำไม?” หลังจากไอรีนสังเกตเห็นความผิดปกติของหัวหน้าทีม และถามขึ้นมา
“ไม่มีอะไร” หัวหน้าทีมส่ายหน้า พยายามทำให้ตัวเองนิ่งสงบ แต่ว่ามองไปที่เฉินเป่ย สีหน้ายังคงซับซ้อน
ร่างเงาของเฉินเป่ย เหมือนคนในอดีตคนนั้นมาก…….. หลายปีก่อน ตอนที่เขายังเป็นหน่วยสืบราชการลับธรรมดา คนนั้น เป็นคนแรกที่ชื่อเสียงโด่งดังในเมืองเยี่ยนจิง…… ในขณะนั้น เขาอยู่ในการแข่งขันแค่ครั้งเดียว มองเห็นร่างเงาจู่โจมอย่างแข็งแกร่งในที่ไกลๆ จำคนที่เก่งกาจและมากความสามารถคนนั้นได้อย่างแม่นยำ! เหมือนกับนักรบเทวดาที่เหนือกว่าคนธรรมดา!
แต่ว่าต่อมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ชื่อเสียงของคนนั้นค่อยๆหายไป ส่วนเขา ได้เติบโตเป็นถึงสมาชิกในชั้นสูงแล้ว
เพียงแต่ว่าภาพเหตุการณ์หลายปีก่อน ช๊อกหัวใจคนเหลือเกิน จนมาถึงตอนนี้ก็ยังทำให้เขายากที่จะลืม!
สายตาที่หยิ่งยโส เหมือนดั่งร่างเงาของเทวดาที่เชิดหน้าชูตา ไม่รู้ว่าความทรงจําของคนเท่าไหร่แล้วที่จำได้อย่างแม่นยำ!
สายตาของหัวหน้าทีมจ้องมองเฉินเป่ยอย่างไม่ให้คลาดสายตา เขาไม่กล้าเชื่อเลยว่า ถึงขั้นมีความคล้ายคลึงเจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์!
“ฉันไม่เป็นไร” เห็นเฉินเป่ยหันหน้ากลับมา ในที่สุดหัวหน้าทีมก็เหลือบมองไปทางอื่น และอธิบายกับไอรีน
สายตาเฉินเป่ยมองไปที่หัวหน้าทีม ใจกระตุก ใต้ตามีความเคลื่อนไหว แต่ว่าฟื้นฟูกลับไปเป็นปกติอย่างเร็วไว และหันหน้ามองไปที่หลีเช่าหง
หลังจากหลีเช่าหงนั่งลงไป มองไปที่เฉินเป่ย ” เชิญคุณเฉินมาในวันนี้ อยากพูดคุยบางเรื่อง บางเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทฉิน”
นัยน์ตาเฉินเป่ยหรี่ตาเล็กน้อย หลีเช่าหงพูดจาเจ้าเล่ห์มาก มีความหมายอื่นซ่อนอยู่ แกล้งทำหน้าทำตาด่าว่าเขาเป็นหมา
พี่น้องตระกูลหลี แตกต่างกันมากเลยจริงๆ หลีเช่าเทียนนิสัยแข็งกร้าว ทนการท้าทายไม่ได้ ส่วนหลีเช่าหง กลับเจ้าเล่ห์กว่าเยอะ พูดจาก็แปลกๆชอบกล
เฉินเป่ยแอบด่าในใจ แต่ว่าผิวเผินก็ยังยิ้มแย้ม “คุณหลีมีประสบการณ์มากสินะ เอางี้สอนผมหน่อยดิ?”
หลีเช่าหงส่ายหน้า “คุณเฉิน เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยคุยกัน เรามาพูดกันก่อน สำหรับปัญหาของคุณ”
น้ำเสียงหลีเช่าหงเย็นชาเรื่อยๆ เขาจ้องมองเฉินเป่ย นัยน์ตาที่เข้มขรึมและข่มขู่คนเผยออกมา “คุณเฉิน คุณมีภูมิหลัง ไม่เบาทีเดียวเลยนะ…….”
“หมายความว่าไง?” เฉินเป่ยใจกระตุก แต่ว่าผิวเผินยังคงอึ้งค้าง และแกล้งโง่ออกมา
“ประวัติความเป็นมาของคุณตั้งแต่เด็กจนโต ดูเหมือนจะธรรมดา แต่ว่าประสบการณ์ที่คนปกติส่วนใหญ่มีคุณก็ไม่มีเลย ประวัติชุดนี้ ถ้าหากฉันเดาไม่ผิดแล้วก็ปลอมแปลงขึ้นมาสินะ?” หลีเช่าหงตบมือ ลูกน้องคนหนึ่งเอาประวัติของเฉินเป่ยออกมา
เฉินเป่ยอึ้ง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยในทันทีทันใด” คนนามสกุลหลี มึงหมายความว่าไง?”
“ไม่มีอะไร เพียงแค่สนใจคุณเฉินมากๆ คิดไม่ถึง สืบเรื่องพวกนี้ออกมา”
“คุณเฉิน ถ้าหากคุณพูดฐานะจริงออกมา เราอาจจะมีโอกาสร่วมงานกัน แต่ว่าหากคุณไม่อธิบายให้ชัดเจน ประตูที่นี่ เกรงว่าคุณเดินออกไปไม่ได้” หลีเช่าหงเอ่ยปากออกมานิ่งๆ น้ำเสียงยิ่งพูดยิ่งเยือกเย็น
“แม้แต่หลักฐานที่แท้จริงก็ไม่มี มีสิทธิ์อะไรมาพูดว่าฉันปลอมแปลง?” เฉินเป่ยยิ้มแย้มอย่างเย็นชา ตามความสามารถของชิงเหนียน ประวัติที่เขาปลอมแปลงอาจจะก่อให้เกิดความสงสัย แต่ว่าเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่จะทิ้งหลักฐานเอาไว้
เฉินเป่ยเอียงตา มองดูรอบๆแบบเรื่อยเปื่อย จ้องตาเล็กน้อย ในห้อง กำแพงสี่ด้าน ถึงขั้นมีแสงสีแดงอ่อนๆกะพริบอยู่
ส่วนห้องข้างๆที่ติดกับห้องนี้ มีคนกลุ่มหนึ่ง ปิดเครื่องแอบฟัง แอบฟังเสียงที่พูดออกมาทุกอย่างในห้องรับรองอย่างตั้งอกตั้งใจ
มุมปากเฉินเป่ยค่อยๆยกขึ้นมา หลีเช่าหงเป็นผู้ที่ไม่ธรรมดาจริงๆ เขาได้วางแผนการนี้เอาไว้แล้ว รอให้ตัวเองหมุดเข้ามาข้างใน!
ที่สำคัญ เขาสำเร็จครึ่งหนึ่งแล้ว เฉินเป่ย หลงกลซะแล้ว!