บทที่186 ตระกูลหวงแห่งหู้ไห่
ได้ยินเฉินเป่ยสั่งการ ชายชุดดำหลายคนนั้นก็ลงมือยิ่งโหดขึ้นแล้ว ถังโหรวที่อยู่ด้านข้างมองจนใจเต้นเร็ว พวกเขาจะตีให้ตายจริงเหรอ!
“แบบนี้จะไม่ทำให้คนถึงตายจริงรึไง?” ถังโหรวที่ด้านข้างถามขึ้น
“ตายก็ตายไง คนเลวแบบนี้ตายก็ไม่คู่ควรกับคำว่าเสียดาย” เฉินเป่ยเอ่ยปากอย่างเรียบเฉย
“แต่ว่า……” ถังโหรวอยากพูดอะไร เฉินเป่ยหันหน้ามองทางถังโหรว พลางบอกว่า “ถ้าไม่ใช่พวกเขาสองคน เธอคงไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เมื่อกี้เขายังอยากใช้เบื้องหลังของตัวเองมาจัดการพวกเรา คนเลวพรรค์นี้ เอาไว้ในตระกูลก็เป็นพวกถ่อยสถุล”
ถังโหรวตันคำพูด “แต่พวกเขาเป็นคนของตระกูลหวง ตีพวกเขาแล้วตระกูลหวงต้องทนไม่ไหวเด็ดขาด……”
“ทนไม่ไหวก็ทนไม่ไหวสิ ยังจะทำอะไรได้?” เฉินเป่ยหัวเราะเยาะ น้ำเสียงบ้าระห่ำ “ถึงแม้จะเป็นท่านเจ้าสวรรค์มาแล้ว ฉันก็จะตีเหมือนเดิม”
หน้าที่สง่างามของถังโหรวเปลี่ยนสีหน้าไปมา……ตอนนี้เฉินเป่ยพูดอย่างกำเริบ เดี๋ยวสักพักคงมีคนจากตระกูลหวงมาจริงๆ เดาว่าที่หวดคนแรกคงจะเป็นเขาเอง
“หยุดนะ!” หวงหรุงคำรามดุด้วยเสียงเศร้า ดิ้นรนปีนขึ้นมา “อาของฉันคือหวงจงเต๋อ เป็นตระกูลหวง……”
หวงหรุงยังไม่ทันพูดจบ ดวงตาทั้งคู่ของเฉินเป่ยเย็นฉับพลัน การโจมตีที่ร้อนแรงยิงออก พุ่งยิงใส่ในปากของหวงหรุงอย่างรวดเร็ว
แวบเดียวสีหน้าของหวงหรุงดูเขียวแทบแย่ อย่างกับกินแมลงตายเข้าไป ปากของเขาโดนลวกจนเดือดปุดๆ รอเขาคายออกมาถึงพบว่านั่นเป็นก้นบุหรี่ที่เฉินเป่ยดูดก่อนหน้านี้
ต้องรู้ว่าเฉินเป่ยอยู่ห่างจากหวงหรุงยี่สิบเมตรเต็มๆ ……คาดไม่ถึงเฉินเป่ยสามารถนำก้นบุหรี่ที่ไม่มีน้ำหนักชิ้นหนึ่ง โยนเข้าในปากของหวงหรุงที่ห่างกันยี่สิบเมตรได้ง่ายดาย!
ท่านโจวที่อยู่ด้านข้างแอบตกใจ เหงื่อไหลออกมาด้านหลังตรงๆ โดยไม่รู้ตัว
“รำคาญ ตีต่อไป” เฉินเป่ยเอ่ยปากนิ่งๆ จากนั้นหันหน้าบอกกับท่านโจวที่ด้านข้าง “จัดการคนนั้นที่อยู่ด้านนอกไปด้วยเลย”
“ครับ” ท่านโจวพยักหน้า ส่วนเฉินเป่ยนั้นหมุนตัว ในสายตาที่ตื่นตระหนกนับไม่ถ้วน เขามองทางถังโหรว ยิ้มให้เล็กน้อย พูดเสียงละมุน “พวกเราไปกันเถอะ”
จากนั้นเขาก้มตัวแบบสุภาพบุรุษมาก จับมือของถังโหรวไว้เบาๆ แล้วเดินไปด้านนอกผับ
“กล้าตีคนตระกูลหวง……ตระกูลหวงจะตามหาแกคิดบัญชีแน่!!” เสียงตะคอกที่โกรธแค้นเกลียดชังของหวงหรุงลอยออกมา และตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนที่เศร้าใจ เขาพ่นเลือดสดออกมาด้วย
ในใจของเขามีความเกลียดที่รุนแรงเต็มเปี่ยม……เขาตั้งแต่เด็กจนโต ล้วนไม่เคยโดนตีหนักขนาดนี้
…………
หลังเดินออกมาจากผับ ถังโหรวยังอยู่ในอาการมึนงง มุมปากเฉินเป่ยฉีกรอยยิ้มขึ้น “รู้สึกว่าทุกอย่างนี้เหมือนเพ้อฝันมากอยู่รึเปล่า?”
ถังโหรวพยักหน้า เฉินเป่ยพูดเสียงละมุน “ครั้งต่อไปอย่าวิ่งมาไกลขนาดนี้อีก ฉันไม่อยากเจอกับอันตรายขนาดนี้ครั้งต่อไปอีก”
ใบหน้างดงามของถังโหรวแดงนิดหน่อย ไม่มีเฉินเป่ย ครั้งนี้เธอคงต้องโดนซานปิ่ญคนนั้นป้ายมลทินให้แล้ว
“นายหาฉันเจอได้ยังไงกัน?” ถังโหรวถามขึ้น
“พึ่งถานกง” เฉินเป่ยเอ่ยปากเรียบๆ จากนั้นไม่นานก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา เขาไม่ได้บอกออกมาว่าตอนที่เขาให้ชิงเหนียนค้นหาถนนเส้นนี้ไม่มีวงจรปิด ถึงให้ถานกงออกหน้า
เขาไม่อยากเคลื่อนไหวให้ใหญ่เกินไป แต่เพราะเป็นห่วงถังโหรว และไม่มีตัวเลือกอื่นจึงได้แต่ทำเช่นนี้
“นายกับหัวหน้าของถานกง สรุปเกี่ยวข้องอะไรกัน?” ถังโหรวกดความสงสัยใคร่รู้ในใจไว้ไม่อยู่ ถามคำถามที่เก็บไว้ในใจมานานมากออกไป
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ถานกงช่วยพวกเขากู้หน้าคืน ถังโหรวก็เริ่มสงสัย คาดไม่ถึงครั้งนี้ยังเป็นถานกงออกหน้าอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแต่ละครั้งล้วนเป็นหัวหน้าของถานกงนำทีมมาด้วยตนเอง
สรุปเฉินเป่ยมีความสามารถอะไรกันแน่ สามารถทำให้ท่านโจวเร่งรีบมาครั้งแล้วครั้งเล่าได้?
ถังโหรวมองทางใบหน้าของเฉินเป่ยที่หนักแน่น ดวงตาล้ำลึก มีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์แปลกๆ อย่างหนึ่ง ราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า ทำให้คนหลงใหลได้ง่ายมาก
บุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์บนตัวของเฉินเป่ยนั้นอธิบายได้ไม่ชัดเจน แต่ดึงดูดคนอย่างมาก
ถังโหรวมองเฉินเป่ยแบบตะลึง ภายในเธอรู้สึกตกใจ เมื่อก่อนไม่เคยสังเกตบนตัวเจ้าหมอนี้เลยว่ายังมีเสน่ห์อยู่ด้วย
เฉินเป่ยหันหน้า มองถังโหรวแวบหนึ่ง เผยรอยยิ้มที่ลึกลับออกมา พูดนิ่งๆ “เธอเดาสิ?”
เฉินเป่ยเดินไปข้างทาง หลังขึ้นขี่จักรยาน ถังโหรวมองจักรยานคันนี้อยู่ เผยสีหน้าที่ยากจะเชื่อ “นายใช้อันนี้เข้ามาหา?”
เฉินเป่ยพยักหน้า ถังโหรวมึนงง ตนเองนั่งแท็กซี่มาที่ผับแห่งนี้ ส่วนเฉินเป่ยพึ่งจักรยานสองล้อมา คาดไม่ถึงสามารถตามด้านหลังแท็กซี่สี่ล้อได้……งั้นจักรยานคันนี้ ความเร็วจะไวแค่ไหน?
หลังจากถังโหรวนั่งลงไปด้วยความระมัดระวัง ทันใดนั้นเฉินเป่ยบอกประโยคหนึ่ง “กอดฉันให้แน่น”
“หา?” ถังโหรวใบหน้ามึนงง กอดเขาให้แน่น……อยากทำอะไร?
“ไปโลด!” มุมปากเฉินเป่ยโค้งความอันธพาลขึ้น เหยียบเท้าตรงที่ปั่นทันใด รถจักรยานสั่นสะเทือน ฟันเฟืองเคลื่อนอย่างว่องไว เฉินเป่ยคร่อมอยู่บนจักรยาน ชั่วขณะหนึ่งราวกับลูกธนูที่ยิงออกจากสายธนู ลอยพุ่งออกไปทางไกลๆ
“โอ๊ะ~” ถังโหรวร้องตกใจ ใบหน้างดงามเผยความตื่นตระหนก ท่าทางเธอไม่มั่นคง เกือบโดนสะบัดตกจากรถจักรยานไป
ความเร็วรถจักรยานของเฉินเป่ยไวเหลือเกิน ไกลกว่าจินตนาการของถังโหรว นี่เดิมทีไม่ใช่รถจักรยาน! นี่คือกงล้อไฟมั้ง!
ภายในถังโหรวตกใจ แต่ขาทั้งสองของเฉินเป่ยที่เหยียบตรงที่ปั่นยังคงปั่นเคลื่อนไปอย่างบ้าคลั่ง ที่ว่างเปล่าถูกจักรยานฉีกแหวกไปไม่หยุด ลมแรงซู่ซ่าข้างหูของถังโหรว ทำให้ในใจเธอตื่นกลัว ภูเขาที่สูงตระหง่าน กระเพื่อมขึ้นลง!
ถังโหรวกอดเฉินเป่ยแน่นโดยจิตใต้สำนึก แก้มแนบไปบนหลังของเฉินเป่ย เธอโอบไว้แน่นเหลือเกิน คล้ายว่ามีเพียงแบบนี้ถึงสามารถนำความรู้สึกปลอดภัยมาให้เธอได้นิดๆ
“ซู่!”
ถังโหรวปิดดวงตาสนิท รู้สึกถึงลมแรงที่พัดผ่านข้างกายไป ในใจเต้นรัว! นี่ช่างสะเทือนจิตใจเหลือเกิน ยั่วยุยิ่งกว่าขับรถเร็วเสียอีก
ความเร็วของเฉินเป่ยไวเหลือเกิน แม้กระทั่งยังเร็วกว่ามอเตอร์ไซค์ที่ขับเร็วบนถนนพวกนั้นอยู่มาก เดิมทีนี่ไม่ใช่ความเร็วที่รถจักรยานควรมี!
เฉินเป่ยถีบไปอย่างบ้าคลั่ง รถจักรยานว่องไวอย่างมหัศจรรย์แล่นขวักไขว่บนถนนในเมือง ราวกับสายฟ้าแลบสีเงิน ลมหอบใหญ่พัดผ่านไปทุกที่ ทำให้คนขับรถมากมายที่กำลังรอไฟเขียวสีหน้าตะลึง
เขารู้สึกได้ว่าสาวงามด้านหลังโอบตนเองไว้แน่น ไม่ปล่อยออกสักนิด แม้กระทั่งด้านหลังยังมีสิ่งบางอย่างขนาดใหญ่ถูอยู่เป็นระยะ มุมปากของเฉินเป่ยค่อยๆ โค้งเส้นรัศมีวงกลมขึ้น
…………
ในร้านกาแฟ ถังเต๋อนั่งอยู่มุมหนึ่ง มีหน่วยลับเฉพาะใส่ชุดสูทยืนด้านหลัง ถังเต๋อก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมืออยู่ไม่ขาดสาย ในแววตาลึกๆ ที่ใสแจ๋วมีความซับซ้อนลึกล้ำประกายผ่าน
“โหรวโหรว ไม่ใช่ว่าปู่ไร้ความรู้สึก……เพียงแต่คิดแทนความปลอดภัยของหัวเซี่ย จึงจำเป็นต้องกำจัดภัยพิบัติแอบแฝง ส่วนหลานเป็นที่ล่อได้ดีที่สุด……” ถังเต๋อใช้เพียงเสียงที่ตนเองได้ยินพูดพึมพำไป ถอนหายใจนิดหน่อย
และคำพูดถังเต๋อพึ่งจบ ทันใดนั้นบุคคลลับเฉพาะด้านหลังถังเต๋อก็ก้มตัวบอก “ท่านถังครับ หลานสาวของท่านกลับมาแล้วครับ”
ถังเต๋อร่างกายสั่น เขาหันหน้า พอมองก็เห็นเฉินเป่ยและถังโหรวกำลังผลักประตูร้านกาแฟเข้ามา
ส่วนบุคคลลับเฉพาะสองคนนั้นถอยไปจากสองด้าน เดินออกไประวังภัยด้านนอกร้านกาแฟต่อไปอย่างไม่ให้ใครรู้ตัวราวกับภูตผี
สายตาถังเต๋อตกที่ตัวของเฉินเป่ย แววตาลึกๆ เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก!
ทำไมถึงเร็วขนาดนี้!
ความเร็วของเฉินเป่ยเกินกว่าการคาดเดาของเขาไกลมาก……ไวขั้นเทพอย่างยิ่ง!
เฉินเป่ยและถังโหรวเดินมาถึงด้านหน้าของถังเต๋อ เฉินเป่ยยิ้มนิดหน่อย บอกว่า “ท่านถัง ภารกิจลุล่วงไปได้ด้วยดี”
สีหน้าของถังเต๋ออ่อนลงไปตั้งแต่แรก ยิ้มบอกแบบท่าทางเรียบนิ่ง “ขอบใจนายมากจริงๆ ไม่มีนาย ไม่รู้ว่าต้องใช้ฝีมือมากเท่าไรถึงจะหาโหรวโหรวเจอ”
ถังโหรวก็เหมือนกับเด็กน้อยที่ทำผิดมา เก็บนิสัยที่หยิ่งยโสโอหังไว้ นั่งลงด้านข้างถังเต๋ออย่างเชื่อฟัง
เฉินเป่ยยิ้มตอบเรียบๆ “แค่ยื่นมือไปช่วยเท่านั้นเองท่านถัง”
“คุณปู่ เมื่อกี้น่าตกใจมากเลย ถ้าไม่ใช่เขา หนูอาจจะต้องจบเห่แน่……” ถังโหรวกอดแขนของถังเต๋อไว้ เล่าเรื่องราวที่เกิดเมื่อสักครู่ออกมาอย่างหมดเปลือก
“ผู้สืบทอดคาราเต้สายตรงของประเทศตี้กั๋ว?” ถังเต๋อขมวดคิ้วไว้ “ซานปิ่ญอีมู่?”
ถังโหรวพยักหน้า “ยังมีคนของตระกูลหวงอีกสองคน เรียกตัวเองว่าตระกูลทองแห่งเมืองหู้ไห่ มีคนหนึ่งที่ชื่อหวงหรุง”
“หวงหรุง? “ถังเต๋อตกใจเล็กน้อย หลังจากได้ยินชื่อคนนี้ เห็นได้ชัดว่าเผยความกลัวออกมาระดับหนึ่ง
“คุณปู่ เขาเก่งกาจมากเหรอ?” ถังโหรวถามขึ้น
ถังเต๋อพยักหน้า “ตระกูลหวงแห่งหู้ไห่ ขึ้นชื่อเรื่องปกป้องลูกของตัวเอง หวงหรุงเป็นบุคคลเครือญาติของตระกูลหวง และพวกเธอตีเขาไป เท่ากับว่าตบหน้าของตระกูลหวงด้วย……”
ถังเต๋อค่อยๆ บอก “พวกเราอาจจะหาเรื่องวุ่นวายเข้า……สถานที่ไกลปืนเที่ยง ตระกูลหวงเคยควบคุมหู้ไห่มา อำนาจยิ่งใหญ่ ถึงแม้ฉันจะอยู่ที่นี่ ก็ต้องยอมให้เขาสักนิด”
ถังโหรวตกใจ ใบหน้างดงามซีดขาว “ตระกูลหวงก้าวร้าวขนาดนั้นเลยเหรอ? คาดไม่ถึงแม้แต่คุณปู่ยังกลัว?”
ถังเต๋อพยักหน้า “เปลี่ยนเป็นพูดว่าเมืองหู้ไห่นี้ล้วนเป็นของเขา อยู่ที่นี่เขาย่อมสามารถทำอะไรได้ตามปรารถนา”
“งั้นตอนนี้จะทำยังไงดี?” ถังโหรวน้ำเสียงเผยความตื่นกลัว
ถังเต๋อเงยหน้า มองทางเฉินเป่ย ถามว่า “มีความคิดอะไรมั้ย?”
เวลานี้เฉินเป่ยมองสาวงามที่เดินผ่านด้านนอกร้านกาแฟอย่างไม่สนใจไยดี อากาศในวันนี้ร้อนอบอ้าวเป็นพิเศษ สาวงามที่เดินผ่านด้านนอกล้วนแต่งตัวบางเบากันหมด สายตาของเฉินเป่ยตกที่ขายาวเปล่าเปลือยของสาวสวยเหล่านั้น ร้อนแผดเผาอย่างยิ่ง
หลังจากถังเต๋อถามมา เฉินเป่ยจึงตอบไปง่ายๆ พูดนิ่งๆ “ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะใช้วิธีการอะไรก็ตาม เราก็ใช้วิธีนั้นรับมือ”
ถังเต๋อตะลึง คำพูดนี้ของเฉินเป่ยช่างไม่สมจริงเลย แต่กลับทำให้ถังเต๋อเชื่ออย่างน่าประหลาด
…………
ภายในผับ ท่านโจวนั่งอยู่บนโซฟา เจ้าของผับคุกเข่าลงตรงหน้าท่านโจวแบบตัวสั่นเทา
“ท่านโจว ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น……ผมไม่รู้ว่าคนประเทศตี้กั๋วมาอยู่ที่ผับของผมด้วย ผมไม่รู้จักสถานะของเขา……” เจ้าของผับเสียงสั่น ปืนพกที่ท่านโจวเล่นอยู่ในมืออย่างเย็นชาทำให้เจ้าของผับตกใจถึงขั้นสุด!
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวันหนึ่งที่ท่านโจวจะมาเยือนผับของเขาด้วยตนเอง ทั้งยังปรากฏความยุ่งยากใหญ่ขนาดนี้ด้วย
“งั้นสองคนตระกูลหวงล่ะ?” ทันใดนั้นท่านโจวหันปากกระบอกปืนไปที่ศีรษะเจ้าของผับ เอ่ยปากเสียงผ่อนคลาย น้ำเสียงเย็นเฉียบลุ่มลึก
“ผมไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นคนตระกูลหวง……” เจ้าของผับสั่นไปทั้งตัว และในเวลานี้ชายชุดดำคนหนึ่งนำสมุดบัญชียื่นเข้ามา บอกว่า “ท่านโจวครับ หวงหรุงครอบครองสมาชิกวีไอพีอยู่ที่ผับแห่งนี้ด้วยครับ แต่กลับไม่ได้จ่ายค่าสมาชิกสักแดงเดียว”
“ปัง!” เสียงปืนที่เสียดแก้วหูกรีดทะลุที่ว่าง ทำให้ผู้คนในผับที่กุมศีรษะนับไม่ถ้วนสั่นเทาอย่างแรง
ท่านโจวกวาดสายตามองเจ้าของผับที่จมกองเลือดทีหนึ่ง เอ่ยปากนิ่งเฉย “คำสั่งของคุณเฉิน ไปจับตัวคนประเทศตี้กั๋วนั้นกลับมาให้ฉัน”