สายเปย์เบอร์หนึ่ง – ตอนที่ 222

ตอนที่ 222

บทที่222 เลขาคนใหม่!

สาวสวยใต้เรือนร่างเร่งรีบอย่างใจร้อนขนาดนี้ ทำให้เฉินเป่ยก็รู้สึกใจร้อนขึ้นมาเล็กน้อย เขาพยายามใช้สุดกำลังที่มีของขาดึงออกมา จนกว่าได้ยินเสียง “พู่ว” ถึงจะดึงออกมาได้

เฉินเป่ยรู้สึกอายเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าสาวสวยหนีบไว้แน่นขนาดนั้น ตัวเองจะดึงออกมายากขนาดนั้นได้ยังไง!

จู่ๆ เฉินเป่ยก็เหลือบตามองไป ก็เห็นเรือนร่างที่เป็นหน้าตาอันสะสวยยืนอยู่ที่ไกล ใบหน้าอ่อนเยาว์ดูเย็นยะเยือกเหมือนน้ำแข็ง แล้วสายตาที่มองมาที่เขา ทำให้เห็นถึงมีความเลือดเย็นที่อาฆาต

ทั้งเรือนร่างของเฉินเป่ยสั่นเทาขึ้นมา และรอให้ตอนที่เขามองไปอีกครั้ง หลีชิงเยียนก็หายตัวไปแล้ว

“ท่าน……ท่านประธานเฉิน? ”

ข้างหูของเฉินเป่ยมีเสียงอันตกตะลึงดังขึ้น เฉินเป่ยหันไปมอง ก็เห็นสาวสวยเมื่อกี้นี้ยืนขึ้นมาด้วยใบหน้าที่แดงแล้ว หลังจากเห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นเฉินเป่ย จึงทั้งตกตะลึงและทั้งอับอาย

“ท่านประธานเฉินขอโทษ……ดิฉันไม่รู้ว่าเป็นท่าน……” สาวสวยคนนี้รู้สึกตกใจและหวาดผวาจริงๆ จึงโค้งลำตัวขอโทษไม่หยุด

เฉินเป่ยมองสาวสวยคนนั้นเพียงชั่วพริบตา……ผมดำเงายาวสลวยพาดไหล่ ดวงตาแววใสอันกลมโต จมูกที่สูงชันได้รูป ริมฝีปากแดงก่ำเหมือนเชอร์รี่……และรวมไปถึงสัดส่วนรูปร่างที่เซ็กซี่และการแต่งกาย…….แปดแต้ม! นี่เป็นสาวสวยที่สวยมากคนหนึ่ง ในบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ถูกจัดอยู่ในอันดับหน้าๆ!

เฉินเป่ยจับจ้องสาวสวยคนนี้ไว้อย่างขี้เล่น และไม่พูดไม่จา มองไปสักพัก ทำให้สาวสวยท่านนั้นรู้สึกขนลุก นัยน์ตาคู่สวยจึงเผยมีหวาดกลัวออกมา แล้วพูดด้วยเสียงเบา “ท่านประธานเฉิน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันไปทำงานก่อนนะคะ……”

“เธอชื่ออะไร? ” จู่ๆ เฉินเป่ยถามขึ้น

สาวสวยคนนั้นนิ่งงัน แล้วตอบกลับ “หนิงหรัว”

“หนิงหรัว…….” เฉินเป่ยพูดเองเออเอง แล้วมองนัยน์ตาของสาวสวยที่ยิ่งอยู่ยิ่งมีความหมายแอบแฝง “แผนกอะไร? ”

“อ่อ……ดิฉันอยู่แผนกบุคคลเป็นเลขาของประธานจาง……” หนิงหรัวพูดขึ้น

“ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ตอนบ่ายมาออฟฟิศของผม คุณคือเลขาของผม ดีไหม? ” เฉินเป่ยกระตุกมุมปากเผยยิ้มออกมา

“เอ่อ…….” ใบหน้าอันสะสวยของหนิงหรัวนิ่งงันไป เธอรู้จักเฉินเป่ย เป็นคนดังของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ในทั้งบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ไม่มีคนไหนที่ไม่พูดถึงเขาเลย

เพิ่งจะเข้าบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปก็สามารถทำสัญญากับการสั่งซื้อสินค้านับหลายพันล้าน อีกอย่างยังพึ่งพาแค่ความสามารถของตนเองในการเซ็นสัญญานั้น แน่นอนว่าต้องทำให้บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป เกิดการครึกโครมอยู่แล้ว!

เธอยิ่งนับถือเฉินเป่ย…..แต่เธอนึกไม่ถึง แค่เรื่องบังเอิญครั้งเดียว ตัวเองที่เพิ่งเข้าบริษัท ก็ได้กลายเป็นเลขาของประธานเฉินแล้ว

ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไวเกินไป ทำให้เธอรู้สึกปรับตัวไม่ทัน

หลังจากเฉินเป่ยกลับออฟฟิศ ก็ได้โทรหาเบอร์ๆ หนึ่ง

“ฮาโหล? ”

ในสายมีเสียงของหลีหยางดังขึ้น เฉินเป่ยกระตุกมุมปากขึ้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “พ่อครับ ผมขอคนคนหนึ่งกับพ่อได้ไหมครับ? ”

หลีหยางที่อยู่ในสาย ได้ยินจู่ๆ เฉินเป่ยเรียกเขาว่า “พ่อ” เรือนร่างสั่นเทาขึ้นมา แล้วถามขึ้น “นายจะขอใคร? ”

“หนิงหรัว พนักงานใหม่ของแผนกบุคคล ผมเห็นประธานคนอื่นมีเลขา ผมกลับไม่มี……นี่ช่างไม่สมเหตุสมผลเลยจริงๆ ” เฉินเป่ยอธิบายขึ้น

หลีหยางหัวเราะเหอะๆ แล้วพยักหน้าตอบตกลงด้วยความใจกว้าง “เอาไป! ตอนนี้ฉันจะบอกแผนกบุคคล ว่าให้เธอรีบไปรายงานตัวกับนาย”

“ได้ครับ ขอบคุณครับพ่อ! ”

หลังจากวางสาย หลีหยางมองไปตรงโทรศัพท์บ้านเพียงพริบตาเดียว แล้วส่ายหน้าหัวใจอย่างประหม่า เฉินเป่ยเรียกออกมาอย่างเหมาะสมและน่าคบหาจริงๆ ทำให้เขารู้สึกสบายใจมาก

ถึงแม้เฉินเป่ยกับหลีชิงเยียนจะเป็นสามีภรรยากัน ทว่าหลีหยางก็รู้ดีว่าตอนแรกสองคนไม่มีความสัมพันธ์กันจริงๆ …….เป็นสิ่งที่พิเศษมาก และตอนแรกเฉินเป่ยก็แค่เรียกคุณอาหลี

พ่อ คำนี้ ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่ายอมรับในฐานะของหลีหยาง

หลังจากวางสายไป เฉินเป่ยก็มองทิวทัศน์นอกหน้าต่าง และรู้สึกอารมณ์ดีมาก สองขาทาบบนโต๊ะ แม้กระทั่งยังครวญเพลงขึ้นมา

…….

ในออฟฟิศของท่านประธาน หลีชิงเยียนกอดอกไว้ แล้วนั่งอยู่บนเก้าอี้ออฟฟิศด้วยความโมโห และไม่ได้ทำงาน ในนัยน์ตาคู่สวยเปล่งประกายไฟแห่งความโมโหออกมา!

และในเวลานี้ หลินเฉว่ก็ผลักประตูเข้ามาอย่างเงียบๆ พอเห็นหลีชิงเยียนกำลังโมโห จึงถามด้วยความระมัดระวัง “ท่านประธานหลีคะ เป็นอะไรไปคะ? ”

“ไม่เป็นไร” หลีชิงเยียนพยายามทำให้ตัวเองกลับสู่สภาวะที่นิ่งสงบ แล้วมองหลินเฉว่พลางเอ่ยถาม “มีเรื่องอะไร? ”

“มีค่ะ” หลินเฉว่พยักหน้า แล้วเอาเอกสารในมือฉบับหนึ่งยื่นไป “นี่เป็นหนังสือคำสั่งของท่านประธาน สั่งให้หนิงหรัวเป็นเลขาของรองประธานเฉิน…..แล้วยังบอกว่ารองประธานเฉินจะเลื่อนขั้นเร็วๆ นี้ค่ะ”

หลีชิงเยียนมองผลสรุปของเอกสารฉบับนั้น แล้วกวาดสายตามองไป ใบหน้าของอ่อนเยาว์ดูเกร็งขึ้นมาทันที!

จากนั้น ความโมโหเป็นฟืนเป็นไฟก็ลุกโชนภายในใจของหลีชิงเยียน! เฉินเป่ย ไอ้สารเลว!

ไม่ง่ายเลยที่หลีชิงเยียนจะกำจัดความโมโหในใจ ตอนนี้กลับโมโหกว่าก่อนหน้านี้ ยากที่จะทน!

หลีชิงเยียนขย่ำเท้าลุกขึ้น แล้วเหยียบรองเท้าส้นสูง จากนั้นผลักประตูออกจากออฟฟิศอย่างเร่งรีบ ในมือจับเอกสารฉบับนี้ไว้ นัยน์ตาคู่สวยเคล้าด้วยความเลือดเย็น! เหมือนกำลังจะต่อสู้กับใคร!

เหมือนมีลมพัดผ่านข้างกายของหลินเฉว่ หลินเฉว่มองหลีชิงเยี่ยนที่เหยียบรองเท้าส้นสูงอย่างเหม่อลอย แล้วกำลังพุ่งออกไปด้านนอกอย่างโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ใบหน้าดูมึนงง

ตอนที่เธอไม่เห็นหลีชิงเยียนมองเห็น ก็ยากจะที่เข้าใจแน่นอน ทำไมท่านประธานเทพธิดาที่หน้าตาสะสวยอย่างไร้ที่ติท่านนี้ ตอนเห็นหนิงหรัวกลายเป็นเลขาของเฉินเป่ย แล้วถึงจะกระวนกระวายและโมโหขนาดนี้ ดูจากท่าทางแล้วยังจะไปคิดบัญชีกับคนอื่นด้วยความโมโห!

หลีชิงเยียนจับเอกสารฉบับนี้ไว้ แล้วผลักประตูเข้าไปในออฟฟิศของท่านประธานด้วยความโมโห แล้ววางเอกสารไว้บนโต๊ะออฟฟิศ พลางถามหลีหยาง “คำสั่งนี้มันอะไรกันแน่? ”

หลีชิงเยียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ต่อให้หลีหยางเป็นพ่อแท้ๆ ของตัวเอง ตอนนี้สีหน้าของเธอก็ดูแย่มาก ไม่มีแม้แต่ความอ่อนโยนเลยสักนิด

หลีหยางจับเอกสารขึ้น แล้วดู จากนั้นก็หัวเราะแล้วพูดขึ้น “ชิงเยียน แกอย่าหึงสิ เขาได้สร้างผลงานให้กับบริษัทเราใหญ่ขนาดนั้น นี่เขาสมควรได้รับ”

หลีชิงเยียนกอดอก แล้วมองเขาอย่างเย็นชา

“เขาทำให้บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปของเราได้รับการสั่งซื้อสินค้านับหลายพันล้าน บริษัทไม่แสดงอะไรให้เขาหน่อย แกคิดว่าพนักงานคนอื่นในบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปจะคิดยังไง? แค่ย้ายหนิงหรัวไปให้เขาเท่านั้น ปกติเขาก็ไม่ได้ทำงานอะไรมากมายอยู่แล้ว ก็คงไม่ได้ติดต่อกับหนิงหรัวอะไรมากมายหรอก แกเป็นตั้งภรรยาของเขา แกกับเขามีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย แกยังกลัวอะไรอีก? ” หลีหยางมองหลีชิงเยียนแล้วยิ้มพูดขึ้น

หลีหยางพูดแบบนี้ ทำให้หลีชิงเยียนทำหน้าเกร็ง ใบหน้าเปล่งประกายการไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วพึมพำอย่างเย็นชา “ใครจะเป็นภรรยาของเขา”

พูดจบ หลีชิงเยียนก็หันหลังแล้วเหยียบรองเท้าส้นสูงจากไป

หลีหยางมองเรือนร่างด้านหลังที่สวนไร้ที่ติของหลีชิงเยียน แล้วยิ้มอย่างประหม่า ลูกสาวคนนี้ของตนเอง เขารู้ดียิ่งกว่าใคร ดูเหมือนเธอยิ่งไม่แคร์ กลับกลายเป็นยิ่งแคร์

…….

ตอนกลางคืน ตรงหน้าประตูอาคารตระกูลหลี

เฉินเป่ยขับรถไมบัคsออกมาจอดอยู่ข้างถนนเหมือนที่ผ่านมา ตรงปากกำลังกับบุหรี่หนึ่งมวน แล้วก็สูบพ่นควันออกมา และกำลังรอท่านประธานเทพธิดาลงมาใต้ตึก

จู่ๆ ก็มีเสียงอันอ่อนโยนดังขึ้นข้างหูของเฉินเป่ย “คุณกำลังรอท่านประธานหลีหรอคะ? ”

เฉินเป่ยหันไป แล้วมองหนิงหรัวกำลังโน้มตัวลงมา แล้วมองมาทางเขา นัยน์ตาแววใสคู่สวย ดูดีมากๆ

ส่วนสายตาของเฉินเป่ย มองไปยังใบหน้าที่ดูงดงามของหนิงหรัว ในขณะที่มอง สายตาก็ไล่ลงไปตรงลำคอที่ขาวผ่อง สุดท้ายก็ใกล้จะจมลงไปตรงร่องที่ลึกจนไม่หยั่งรู้

เวลานั้นเฉินเป่ยจับจ้องเอาไว้……นัยน์ตาอันเร่าร้อนกำลังจับจ้องไว้โดยตรง แม้กระทั่งในปากยังคงพึมพำขึ้น “ใหญ่มาก……”

ส่วนหนิงหรัวยังไม่ได้สติกลับมา รอจนกว่าเธอสังเกตเห็นทิศทางของสายตาที่ผิดปกติของเฉินเป่ย ก็รีบจับหน้าอกที่ขาวผ่องนั้นไว้ ใบหน้าสะสวยไร้ที่ติ แดงระเรื่อขึ้นมาทันที ทันใดนั้นทั้งใบหน้าก็แดงก่ำขึ้นมา

“ปึง! ”

จู่ๆ ก็มีเสียงปิดประตูรถดังขึ้นตรงด้านหลังของเฉินเป่ย เฉินเป่ยจึงหันไปมองทันที ก็เห็นหลีชิงเยียนที่ไม่รู้ว่าปรากฏตัวอยู่ตรงเบาะหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วกำลังกอดอกมองเฉินเป่ยและหนิงหรัวอยู่

“พวกคุณต่อสิ” หลีชิงเยียนพูดอย่างเย็นชา น้ำเสียงเคล้าด้วยการหยอกล้อ แล้วมองสายตาของเฉินเป่ยด้วยความเกลียดชัง

เฉินเป่ยไอแห้งๆ หนึ่งที บรรยากาศเคล้าด้วยความอึดอัด

สายเปย์เบอร์หนึ่ง

สายเปย์เบอร์หนึ่ง

Status: Ongoing

เขาเป็นคนที่ทำให้คนอื่นกลัวและเคารพ แต่กลับกลายเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง ต่ำต้อยเหมือนฝุ่น ไม่เอาไหนเหมือนขยะ ราวกับว่าใครๆก็สามารถเหยียบย่ำเขาไว้ใต้เท้าแต่ ในใจเขามีความทะเยอทะยาน…….จะมีสักวันหนึ่ง เขาจะจับมือเธอ มอบโลกทั้งใบให้เธอ!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท