บทที่246 แค่คุ้นมือเท่านั้นเอง!
ที่แสดงออกมาเมื่อครู่ เฉินเป่ยก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดไปโดยสมบูรณ์…. ยังไงนายตำรวจทั้งสองคนและเย่ชวงก็ไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่า เฉินเป่ยทำมันด้วยความเร็วที่น่ากลัวขนาดนั้นได้ยังไง!!
สีหน้าของนายตำรวจทั้งสองที่มองเฉินเป่ยเปลี่ยนไป ……ก่อนหน้านี้พวกเขานึกว่าเฉินเป่ยแค่คุยโว เป็นแค่เจ้ากระจอกที่พูดจาใหญ่โตเท่านั้น เชื่อถืออะไรไม่ได้อยู่แล้ว
แต่ตอนนี้ เฉินเป่ยใช้ความจริง ฟาดหน้าพวกเขาเข้าเต็ม ๆ!
เย่ชวงย่อตัวลงนั่งยอง ๆ หยิบกระสุนและอะไหล่ขึ้นมาช้า ๆ เขาก้มหน้านิ่งเงียบ จ้องมองชิ้นส่วนพวกนั้นอยู่นานก่อนค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น เอ่ยถามด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน “คุณ….ทำได้ยังไงกันแน่?”
เฉินเป่ยหัวเราะเล็กน้อย “แค่มัน…คุ้นมือน่ะ”
ในตอนนั้นเอง เย่ชวงก้มหน้าและเพิ่งจะพบว่า เฉินเป่ยได้ปลดกุญแจออกไปนานแล้ว ….ในจังหวะที่เย่ชวงชักปืนออกมา เฉินเป่ยก็ไขกุญแจมือแล้วเอาปืนของเธอไปแยกชิ้นส่วนแล้ว!
ดวงตาคู่สวยของเย่ชวงเต็มไปด้วยความตกตะลึง….เธอมองไปยังเฉินเป่ย สีหน้าของเฉินเป่ยที่ยิ้มอย่างไม่ยี่หระในตอนนี้ ในสายตาของพวกเขาดูไม่ต่างกับปีศาจ!
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่ชวงเห็นเฉินเป่ยแสดงฝีมืออย่างน่าเกรงขาม ดวงตาสวยของเย่ชวง มีเพียงความตกตะลึงพรึงเพริด!
เดิมทีนี่มันเป็นของที่คนปกติไม่สามารถทำได้อยู่แล้ว แต่ต่อหน้าเฉินเป่ย ราวกับว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไรเลย!
ใจของเย่ชวงเต้นระส่ำ ในหัวของเธอยังจำความเคลื่อนไหวเมื่อกี้นี้ของเฉินเป่ยได้ การเคลื่อนไหวของเฉินเป่ยลื่นไหลราวสายน้ำ ความเร็วหาที่เปรียบไม่ได้ แค่ตาเปล่าของเย่ชวง ทำได้แค่พยายามมองตามภาพลาง ๆ ที่เหลือค้างอยู่ในอากาศเท่านั้น!
เย่ชวงถามตัวเอง ถ้าหากเวลาชั่วขณะนั้น เธอปลดกุญแจมือตัวแล้วแยกชิ้นส่วนปืน….. แต่ทำในเวลาสั้น ๆ แค่ชั่วพริบตานั่น ต่อให้เธอฝึกอีกสิบปีก็ทำไม่ได้แน่!
แต่เฉินเป่ยในตอนนี้เขาทำได้! เขาได้สร้างสถิติที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ขึ้นมาแล้ว!
ถ้าคนบันทึกของกินเนสส์บุ๊คมาอยู่ที่นี่ แล้วได้ชมฉากนี้ ด้วยความเร็วของเฉินเป่ย จะต้องทำลายสถิติโลกและทำสถิติใหม่ที่สูงที่สุดแน่นอน เขาจะได้รับความเลื่อมใสจากคนทั้งโลก!
เย่ชวงสติหลุดไปแล้ว ร่างกายสั่นเล็กน้อย เธอมองไปที่เฉินเป่ย ใบหน้าเรียวซีดเผือด เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
เธอจะรับได้ยังไง ชายตรงหน้าคนนี้ สร้างความหวาดหวั่นให้เธอขนาดนี้!
เฉินเป่ยลุกขึ้น ท่ามกลางสายตาตะลึงงันทั้งหลาย แล้วเดินไปที่ประตูอย่างเฉยชา
“หยุดนะ!” เย่ชวงได้สติในทันที เมื่อตระหนักได้ว่าเฉินเป่ยกำลังจะออกจากห้องสอบสวนจึงร้องตะโกนขึ้น บอกให้เฉินเป่ยหยุดตรงนั้น!
ฝีเท้าของเฉินเป่ยชะงักลง ก่อนหันไปมองเย่ชวง ถาม “หัวหน้าเย่….ยังมีเรื่องอะไรอีกเหรอครับ?”
เย่ชวงปึงปังเข้าไปใกล้ ใบหน้าสวยเย็นชาราวน้ำแข็ง มองเฉินเป่ยแล้วเอ่ย “คุณจะหนีจากห้องสอบสวนนี่ไปไม่ได้!”
เฉินเป่ยอึ้ง สีหน้ายุ่งเหยิงอย่างประหลาด “ใครบอกว่าผมหนีล่ะ ผมกำลังออกไปอย่างสง่าผ่าเผยต่างหาก!”
“คุณยังคิดจะแก้ตัวอีกเหรอ หลักฐานชัดเจนก็อยู่ในมือ แล้วหลักฐานทั้งหมดก็ชี้ไปที่คุณ ยังคิดจะเถียงข้าง ๆ คู ๆ ว่าคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสองคดีนี้คุณไม่ได้เป็นคนทำอีกงั้นเหรอ?” เย่ชวงยิ้มเย็นขณะก้าวไปข้างหน้า น้ำเสียงใส่ความประชดประชัน
เฉินเป่ยสีหน้านิ่งสงบ “หัวหน้าเย่ หลักฐานพวกนี้ของคุณ….มันไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงอะไรได้อยู่แล้ว”
เฉินเป่ยพูดจบ ก็หันหลังหายไปจากห้องสวบสวน ส่วนเย่ชวงและนายตำรวจที่เหลือนั้น เหมือนใบหน้าถูกแช่แข็ง สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดหม่นมืด
โดยเฉพาะเย่ชวง ความเย็นเยือกแผ่ออกมาทั่วตัว จนแทบจะทำอากาศกลายเป็นน้ำแข็ง ราวกับลดอุณหภูมิของอากาศไปแล้ว!
เย่ชวงยังคงสั่นสะท้าน ยิ่งท่าทีของเฉินเป่ยนิ่งสงบมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกอับอายอย่างที่สุด!
เธอทุ่มสุดตัวกว่าจะกลั่นกรองหลักฐานพวกนี้มาได้ ในสายตาของเฉินเป่ย…..มันใช้การไม่ได้เลยอย่างนั้นเหรอ! นี่มันตลกร้ายชัด ๆ!
“หยุดนะ!”
เย่ชวงพุ่งออกจากห้องสอบสวน เธอยืนอยู่ที่ประตูของห้องสอบสวน ส่วนเฉินเป่ยนั้นเดินไปถึงทางเดินแล้ว
เย่ชวงพุ่งเข้าไป ขณะเธอกำลังจะโจมตีเฉินเป่ยอย่างรุนแรง ทันใดนั้น ฝ่ามือของเธอที่ยื่นออกไปอย่างสายฟ้าแลบ คว้างอยู่กลางอากาศ!
เย่ชวงตั้งสติมองไป ในใจของเธอเกิดความรู้สึกชั่วร้ายขึ้นมา….สุดทางเดิน ก็พลันปรากฏร่างขึ้นสองร่าง ทำให้หัวใจของเย่ชวงเต้นอย่างแรง!
ร่างทั้งสองนั้น ก้าวเข้ามา หนึ่งในนั้นคือชายชราที่ดูเรียบง่าย แต่เสียงดังชัดของรองเท้าหนังที่กระทบพื้น กลับหนักราวกับค้อนใหญ่ กระตุกหัวใจของเฉินเป่ยและเย่ชวง ทำเอาพวกเขาใจเต้นระส่ำ!
สายตาของเฉินเป่ยตกอยู่ที่ชายชราและชายหนุ่มที่สวมชุดจงซานที่อยู่ข้าง ๆ ฝีเท้าชะลอช้า ดวงตาทั้งสองข้างหดเล็กลง
ชายชราเดินมาจนถึงเบื้องหน้าเฉินเป่ย หลังจากดูใกล้ ๆ แล้วก็เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ไม่ได้พบกันนานเชียว”
เฉินเป่ยพยักหน้า ถามอย่างเฉยเมย “คุณมาทำอะไรที่นี่?”
“พาคุณออกไป และปรึกษาธุระนิดหน่อย” ชายชรากล่าว
ส่วนเย่ชวงที่อยู่ด้านหลังเฉินเป่ย ขมวดคิ้วมุ่น ฟังบทสนทนาระหว่างเฉินเป่ยและชายชราอย่างระมัดระวัง คลื่นปั่นป่วนค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นภายในใจ
ดวงตาคู่สวยของเธอวาบประกาย ด้วยเธอที่ฉลาดเป็นกรด จึงสังเกตพบเบาะแสร่องรอยในบทสนทนาระหว่างเฉินเป่ยและชายชราได้อย่างรวดเร็ว
“ธุระอะไรที่ต้องปรึกษากัน?” เฉินเป่ยขมวดคิ้วถาม
“พาคุณออกไปไม่ดีรึ?” ชายชราเอ่ยถาม
เฉินเป่ยส่ายหน้า “องค์กรของพวกคุณชอบวางแผนแปลก ๆ ตลอด คาดเดาไม่ได้ บางทีถ้าผมออกไปแล้วถูกพวกคุณจับเป็นไป จะทำยังไงกันล่ะ?”
ชายชราหัวเราะ พูด “จับเป็น? ใครจะไปมีปัญญาจับเป็นคุณได้ล่ะ ถ้าใครคิดจะจับเป็นคุณ งั้นเจ้าคนนั้นก็คงรนหาที่ตายแล้วล่ะ!”
ชายชราหัวเราะร่า แต่เย่ชวงที่อยู่อีกด้านนั้น ใบหน้าสวยนิ่งขรึมลงเรื่อย ๆ …..เพราะคือเธอนั่นแหละที่จะจับตัวเฉินเป่ย!
ที่ชายชราพูดนั้น ราวกับตบหน้าเย่ชวงเข้าฉาดใหญ่กลาย ๆ!
สีหน้าของเฉินเป่ยเรียบนิ่ง และในตอนนั้น เย่ชวงก้าวออกมาจากด้านหลังของเฉินเป่ยอย่างเงียบเชียบ เธอมองไปที่ชายชราแล้วถามอย่างเย็นชา “คุณเป็นใคร คุณบุกเข้ามาในนี้ได้ยังไงกัน?”
ชายชราเหลือบมองเย่ชวงก่อนเอ่ยเบา ๆ “ตัวตนของฉัน เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้”
“งั้นก็เข้าไปคุยกัน!” เย่ชวงไม่โกรธเฉินเป่ยที่เคยโกรธไปก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้ชายชราทำให้เธอโมโหเสียยิ่งกว่า!
“หยุด!” ในตอนนั้นเอง น้ำเสียงหนักก็ดังมาจากสุดทางเดิน มือของเย่ชวงค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ ที่สุดทางเดินนั้น พบเพียงอธิบดีในเครื่องแบบ นำกำลังตำรวจรีบรุดเข้ามา
“อธิบดีคะ สองคนนี้ฝ่าฝืนบุกเข้ามา แล้วยังจะพาตัวผู้ต้องสงสัยไปด้วยนะคะ” เย่ชวงพูด
“มากเรื่อง!” สีหน้าของอธิบดีเคร่งเครียด เอ่ยตำหนิอย่างรุนแรง
ใบหน้าสวยของเย่ชวงชะงักอึ้ง อธิบดีหันไปทางชายชรา โค้งคำนับด้วยความเคารพก่อนเอ่ยอย่างขออภัย “ลูกน้องผมหน้ามืดตามัว รบกวนให้ท่านลำบากแล้ว”
“ไม่เป็นไร” ชายชราโบกมือ มองไปที่เฉินเป่ย เอ่ยเบา ๆ “ไปเถอะ”
“ไม่ได้นะ! เขาเป็นฆาตกรของคดีฆาตกรรมต่อเนื่องนะคะ!” ในตอนนั้นเอง เย่ชวงพูดขึ้นอย่างกะทันหัน
“ใช่แล้ว ฉันเป็นฆาตกร” ทันใดนั้น คาดไม่ถึงว่าเฉินเป่ยจะพยักหน้าไปด้วย ทำให้ทุกคนในที่นั้นต่างงุนงง
ไม่มีใครในพวกเขาคาดคิดว่า จะมีคนที่ยอมรับว่าตัวเองก่ออาชญากรรม
ชายชรานิ่งอึ้ง มองไปที่เย่ชวง เอาเอกสารในมือยื่นออกไป แล้วพูด “ฉันมาพาตัวเขาไป เรื่องนี้เป็นความลับของหัวเซี่ย… จัดการให้เป็นความลับขั้นสูงสุดด้วย….พวกคุณลืมสิ่งที่ได้เห็นได้ยินเมื่อกี้ไปซะด้วยล่ะ”
สีหน้าของชายชราพลันกลายเป็นจริงจัง ท่าทีเคร่งขรึม ทำให้นายตำรวจที่อยู่ข้าง ๆ เลือกที่จะเชื่อด้วยตัวเอง
ในขณะที่ชายชราพูด ท่าทางเข้มงวด ด้วยน้ำเสียงอันเฉียบขาดนั้นทำให้ไร้ผู้กังขา!
แม้แต่อธิบดี ก็เริ่มฟังคำสั่งของชายชราโดยไม่รู้ตัว
ส่วนเย่ชวงนั้น หลังจากเปิดเอกสารออกก็กวาดสายตามองเอกสารในมือ ก่อนสีหน้าจะชะงักนิ่ง!
“คดีฆาตกรรมทั้งสองคดีนั้น เป็นแค่การอำพรางคดียาเสพติดเท่านั้น เพื่อจะไม่ต้องแหวกหญ้าให้งูตื่น….พวกเราจึงได้ดำเนินการบาง” ชายชราเอ่ยขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ “หลีเช่าหงเป็นผู้ซื้อยาเสพติด ส่วนโอลิเวอร์ก็เป็นพ่อค้ายา….ตัวตนที่แท้จริงของเขา….พวกคุณรู้กันอยู่แล้ว”
ชายชรามองไปที่เย่ชวง พูด “พวกนี้ที่ฉันพูด ทั้งหมดมีอยู่ในเอกสารหลักฐานหมดแล้ว ที่เหลือก็ไม่ต้องให้ฉันพูดมากแล้ว”
ส่วนเย่ชวง จ้องมองเอกสารเหล่านั้นด้วยความงุนงง เธอยืนอยู่อย่างนั้น ไม่ขยับเขยื้อนเป็นเวลานาน
ทางชายชรา เขามองไปที่เฉินเป่ย ก่อนหมุนตัวพาชายคนนั้น ค่อย ๆ เดินจากไป
เฉินเป่ยมองแผ่นหลังของชายชรา มุมปากยกยิ้มขึ้นอย่างเย้ยหยัน เร่งฝีเท้าตามไป
“เป็นยังไงบ้าง?”
อธิบดีมองเย่ชวงที่สีหน้าตกตะลึง แล้วจึงรีบเข้าไปดู
เพียงแค่แวบเดียว อธิบดีถึงกับหายใจเข้าเฮือก หลังจากนั้นสักพักถึงถอนหายใจยาว แล้วตบที่ไหล่ของเย่ชวง พูด “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ…..ตัวตนที่แท้ของพวกเขา แม้แต่ฉันเองก็ยังเดาไม่ออก”
“พวกเขา…..เป็นใครกันแน่?” เย่ชวงถือเอกสารด้วยสีหน้าที่ซับซ้อนอย่างที่สุด…. ชายชรามอบหลักฐานให้เธอมาเยอะมาก ห่างไกลจากหลักฐานที่เธอรวบรวมมากเองมาก….และคำอธิบายหลักฐานของชายชรานั้นก็ไม่มีตรงไหนที่ผิดปกติเลย
ดูเหมือนว่า ที่ชายชราพูดจะเป็นความจริง…..เย่ชวง ล้มเหลวในการไขคดีอีกครั้ง
ใบหน้าสวยของเย่ชวงฉายแววเศร้า…..ทางอธิบดี ดวงตาลึกมอง เย่ชวงที่หม่นหมอง
จนแทบท้อแท้สิ้นหวัง ก็ก้าวเข้าไปข้างหน้าเย่ชวง ก่อนเข้าไปใกล้หูแล้วกระซิบประโยคหนึ่งที่หูของเธอ
“พวกเขาคือ….ทีมความปลอดภัยในประเทศ”
“ทีมความปลอดภัยในประเทศ” เสียงที่พูดคำคำนั้นเบามาก จนแทบจะไม่ได้ยิน ส่วนร่างบางของเย่ชวง กลับสั่นไปหมดหลังจากได้ยินคำนั้น
ดวงตาสวยของเย่ชวงแสดงความตื่นตระหนกออกมา…..ท่าทางเหลือเชื่อ!
“จริงเหรอคะ?” เย่ชวงเงยหน้ามองอธิบดี เธอไม่อยากจะเชื่อเลย สองคนเมื่อกี้นั่น คือองค์กรลึกลับในตำนานจากหัวเซี่ยอย่างนั้นเหรอ!
เย่ชวงหายใจถี่ ดวงตาสวยเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง!
อธิบดีพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม พูดช้า ๆ “ตอนนี้….. เธอรู้แล้วสินะว่าทำไมฉันถึงปล่อยให้พวกเขาไป?”
“พวกเขาแม้แต่หลีหงยังไม่อยู่ในสายตา….” อธิบดีพูด
เย่ชวงมองไปที่ปลายสุดของทางเดิน…..เอกสารที่ชายชราคนนั้นให้เธอมา มันบอกเธออย่างชัดเจนเลยว่า ถ้าหากส่งตัวเฉินเป่ยให้หลีหงไปจริง ๆ และหากถูกหลีหงตรวจว่าพวกเขาจับคนผิดล่ะก็…..สถานีตำรวจคงได้เจอบทเรียนที่หนักหนาน่าดู!
“เฉินเป่ยเป็นใครกันแน่ ถึงกับทำให้องค์กรนั่นยื่นมือมาปกป้องเขาเองได้…..” เย่ชวงพึมพำ
อธิบดีส่ายหน้า เขานึกถึงคำว่า “ลับสุดยอด” ที่อยู่บนแฟ้มก่อนหน้านี้ แววตาก็จริงจังขึ้นมาอย่างลืมตัว
“ยังไงก็ตาม พวกเราไปยุ่มย่ามกับเขาให้น้อยไว้ก็พอ” อธิบดีพูดอย่างช้า ๆ
เย่ชวงกะพริบตาปริบ นัยน์ตาสวยเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน