บทที่249 ไปยังเยี่ยนจิง!
เมื่อฟังบทสนทนาของสาวผมทองกับชิงเหนียนที่อีกฝั่งของสาย มุมปากของเฉินเป่ยก็กระตุกเบา ๆ พูดอย่างราบเรียบ “เร็ว ๆ นี้จับตาดูตระกูลตู้กับตระกูลจางแห่งหู้ไห่….”
หลังจากเฉินเป่ยพูดไปตามจริงแบบนั้น ชิงเหนียนที่อยู่อีกฝั่งของสาย ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที “ทีมความปลอดภัยในประเทศเจอตัวคุณแล้วเหรอ?”
ชิงเหนียนไม่ได้รู้จักกับทีมความปลอดภัยในประเทศของหัวเซี่ย เขารู้ เมื่อทีมความปลอดภัยในประเทศของหัวเซี่ยไม่สามารถยุติเรื่องนี้ได้…..งั้นเรื่องนี้ ก็คงจะจัดการยากน่าดู
เฉินเป่ยตอบกลับเรียบ ๆ “เพื่อนเก่าที่รู้จักคนหนึ่งเจอปัญญานิดหน่อยน่ะ เลยอยากให้ฉันช่วยจัดการ”
อีกฝั่งของสาย ชิงเหนียนขมวดคิ้ว เริ่มสนใจอย่างชัดเจน “ลูกพี่ ใครเหรอ ถึงกับขอให้คุณจัดการ….แถมคุณยังวางมือแล้ว ความสัมพันธ์ของเขากับคุณคงไม่ธรรมดาเลย?”
“ฉันไม่บอกว่าจะช่วยเขาจัดการ นี่เป็นเรื่องของทีมความปลอดภัยในประเทศ ตอนนี้ฉันมีชิงเยียนก็เพียงพอแล้ว” เฉินเป่ยอธิบาย “แค่ว่าสองตระกูลนี้เกี่ยวพันกับยาเสพติด สิ่งนี้น่ะ เสื่อมเสียแค่หนึ่งเมือง จะลามไปทำลายประเทศ ฉันนั่งมองโดยไม่สนใจไม่ได้หรอก”
เฉินเป่ยพูดไปพลาง ความรู้สึกซับซ้อนก็ฉายในดวงตา…..ในฐานะคนหัวเซี่ย ย่อมไม่อาจทนมองสองตระกูลใหญ่ของหู้ไห่ทำเรื่องไร้ศีลธรรมแบบนี้ แต่เรื่อง อย่างที่หัวหน้าหลี่บอก พวกเขากุมทีมความปลอดภัยในประเทศไว้ในมือ จึงอะไรไม่ได้แน่นอน
“จับตาดูพวกเขาไปก่อน มีเบาะแสหรือความเคลื่อนไหวอะไรรายฉันได้ตลอดเวลา” เฉินเป่ยพูด เขาก็เกษียณไปแล้ว ย่อมลงมือไม่ได้ โดยเฉพาะทีมความปลอดภัยในประเทศ…..องค์กรนี้เชื่อมโยงเป็นปมเงื่อนซับซ้อนกับตัวเขาอย่างแยกไม่ได้
“จริงสิ ตอนนี้คุณนี้ไปต่างประเทศ ก็ยังไม่ตัดสัมพันธ์กับทีมความปลอดภัยในประเทศ ตอนนี้ พวกเขาคงโทษตัวเองล่ะ” ชิงเหนียนพูดทีเล่นทีจริง
เฉินเป่ยที่สงบนิ่งมาตลอด ไร้คลื่นกระเพื่อมในใจ เมื่อชิงเหนียนพูดคำนั้นออกมา ก็สั่นเทิ้มขึ้นมาทันที
เขาวางสาย สายตาของเฉินเป่ยที่ทอดมองไปยังทิวทัศน์ยามค่ำคืนของหู้ไห่นั้นลึกล้ำเกินบรรยาย
และในขณะนั้น ในบ้านเล็ก ๆ ที่หู้ไห่ หัวหน้าหลี่ก้มหน้า มองกองเอกสารก่อนถอนหายใจ สีหน้าหนักอึ้ง
“หัวหน้าหลี่ ดึกมากแล้ว คุณไปพักผ่อนก่อนเถอะ เรื่องนี้ไม่ต้องรีบ”
หัวหน้าหลี่ถอนหายใจ อย่างไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่าน “ถ้าไม่ใช่ที่คนพวกนั้นทำแบบนั้น เขาคงไม่ได้เกี่ยวโยงกับเราเหนียวแน่นขนาดนี้”
ลูกน้องที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยอย่างลังเล “หัวหน้าหลี่ คนที่พวกเราจะขอให้มาได้ก็มีมากมาย ทำไมถึงต้องไปหาเขาล่ะ?”
“เราต้องการคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรา ยิ่งเป็นคนที่ตระกูลตู้และตระกูลจางรู้จักด้วย มีเพียงแบบนี้เท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาคลายความระแวดระวังได้…..” หัวหน้าหลี่อธิบาย “เขาเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ ในช่วงเวลาไล่ ๆ กันนี้ เขาได้เคลื่อนไหวมากมายในหู้ไห่ ให้เขาไปทำเรื่องนั้น ตระกูลตู้กับตระกูลจางคงลดความระแวงได้มากที่สุด”
หัวหน้าหลี่พูดจบก็ถอนหายใจ “สิ่งที่ฉันกังวลที่สุด ก็คือเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง”
“ตอนนั้นองค์กรมีปัญหากับเขาจนกลายเป็นแบบนี้…..ไม่รู้ว่าเขาจะยอมปล่อยความแค้นในอดีตรึเปล่า เพื่อหู้ไห่…..เพื่อขจัดอันตรายของหัวเซี่ย!”
“หากไม่ใช่เพราะความโง่เขลาของใครบางคน จุดอ่อนของพวกเราก็คงไม่ถูกสองตระกูลนั่นกำไว้ในมือหรอก” หัวหน้าหลี่พูดเสียงเย็น
……
เพียงชั่วขณะ วันคืนสามสี่วันผ่านไปเร็วเหมือนโกหก เพียงพริบตา อุณหภูมิก็ดิ่งลงหลายองศา
แต่ในตอนนี้ ในเยี่ยนจิงยิ่งหนาว เฉพาะในบ้านตระกูลหลีเท่านั้น ที่ดูเหมือนว่าจะได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิน้อยกว่า”
ตอนนี้ หลีเช่าเทียนนั่งอยู่ที่ลานบ้าน โดยมีสาวใช้หลายคนยืนอยู่ข้างหลัง
หลีเช่าเทียนมองดูปลาคราฟหลากสีในสระน้ำ สีหน้านิ่งสงบ ภายในนิ่งไม่ไหวติง
เขาอยู่ในสภาพแบบนี้มาหลายวันแล้ว
ความสงบของคนอยู่ในไม่นาน เวลาล่วงนานไป จิตก็จะสับสนวุ่นวาย มีเพียงผู้ที่หัวใจยิ่งใหญ่เท่านั้น ถึงจะมีจิตที่แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดา
พวกที่อารมณ์ร้อน คอยวิตกกังวล จิตนั้นไม่เข้มแข็ง
เช่นเดียวกับหลีเช่าเทียน จิตนั้นสงบนิ่งได้ตลอดหลายวัน ทั่วทั้งเมืองหู้ไห่ ยากที่จะหาได้สักคน
หลีเช่าเทียนในขณะนี้ เปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้ อุปนิสัยและอารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าพลิกดิน
อุปนิสัยของเขา ทั้งยังมีหลีเช่าหงที่เป็นประเภทที่คาดเดาไม่ได้อีก แต่เขาก็ยังลึกซึ้งกว่าหลีเช่าหง เขายืนอยู่ตรงนั้น ความคิดที่มีต่อหลีเช่าเทียนทั้งหมด ราวกับถูกดูดไปในหลุมดำไร้ที่สิ้นสุด เขาเป็นเหมือนหมอกลวงตาที่ไม่มีใครสามารถมองผ่านไปได้
ประตูชานบ้าน หลีหงมือไพล่หลัง มองไปที่ร่างที่อยู่ไกล ๆ พยักหน้าเล็กน้อย ลูกน้องที่อยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นด้วยความเคารพ “นายท่าน คุณชายหลีอยู่อย่างนั้นมาก็สามวันแล้ว”
หลีหงมองไปที่หลีเช่าหง สายตาราบเรียบ “ก่อนนี้มุ่งเน้นไปที่การฝึกหลีเช่าหง ดูเหมือนว่าการปลูกฝังอย่างดีจะทำให้เขากลายเป็นผู้มีพรสวรรค์ได้สำเร็จ ไม่ต่ำกว่าหลีเช่าหง”
“แต่น่าเสียดาย” หลีหงถอนหายใจเบา ๆ “หากว่าลูกชายทั้งสองของตระกูลหลีออกมาพร้อมกัน ตระกูลหลีของฉัน ก็คงจะไปถึงจุดสูงสุดได้ยาก”
ลูกน้องข้าง ๆ หัวเราะก่อนพูด “ยังดีนะครับ คุณชายเช่าเทียนยังตื่นได้ทัน ถ้ายังนานไป ชื่อของเยี่ยนจิงคงได้สั่นสะเทือนอีกครั้ง”
หลีหงพยักหน้า “ครั้งนี้ หวังว่าเค้าจะไม่ทำผิดพลาดเหมือนกับก่อนนี้อีก ตระกูลหลี ยังต้องพึ่งพาเขา”
หลีหงมองไปที่หลีเช่าเทียน พูดอย่างช้า ๆ “อีกสามวัน งานพนันเพชรพลอยก็จะจัดขึ้นที่เยี่ยนจิงแล้ว การประชุมนี้ไม่เล็กไม่ใหญ่ เหมาะจะเป็นเวทีของเขา ที่จะบอกกับชาวโลก ว่าเขากลับมาแล้ว”
หลีหงหมุนตัวไป เสียงของเขา กลับยังดังก้องอยู่ในหู “จำศีลถึงวันนี้ ก็พอใช้ได้แล้ว ได้เวลาช่วยเขาขึ้นครองตำแหน่งแล้ว”
…………
หู้ไห่ อาคารตระกูลหลี ในห้องทำงาน
เฉินเป่ยพาดขาไว้บนโต๊ะทำงาน ขณะที่เล่นกับไฟแช็กทองคำบริสุทธิ์ในมือไปด้วย พลางจ้องมองแบบจำลองภูมิศาสตร์ที่อยู่ไม่ไกล อารมณ์ลึกซึ้งไร้ที่สิ้นสุด
ในตอนนั้นเอง ร่างสวยเปิดประตูเบา ๆ ก่อนเดินเข้ามาในห้องทำงาน
ชุดเดรสสีดำหรูหรา ที่เฉินเป่ยชอบที่สุด รับกับต้นขาสวยนวลราวหิมะ เพียงพอที่จะทำให้ใครต่อใครกำเดาไหล
หนิงหรัวมองเฉินเป่ย ยิ้มเล็กน้อย ๆ “ประธานเฉินมีอะไรจะให้ฉันไปทำมั้ยคะ?”
“ไม่มีอะไร” เฉินเป่ยเอ่ยอย่างเนิบนาบ สายตาจ้องไปที่หนิงหรัว เรือนร่างอันเร่าร้อนของหนิงหรัว ทำให้เฉินเป่ยมองดวงหน้าสวยบอบบางของเธออยู่สักพัก แล้วจากนั้นก็เลื่อนมายังส่วนเว้าโค้งและผ่านไปยังบั้นท้าย….
หนิงหรัวนิ่งไป เธอไม่ค่อยเข้าใจ ว่าทำไมอยู่ ๆ เฉินเป่ยถึงเรียกเธอมา
“ฉันจะไปทำงานนอกสถานที่สักพัก” เฉินเป่ยตอบเรียบ ๆ
หนิงหรัวชะงัก “ฉันไม่เห็นเคยได้ยินประธานหลีบอกเลยนะคะ”
“นี่คือการรับผิดชอบต่อความลับในบริษัท เธอจะไม่รู้ก็เป็นธรรมดา” เฉินเป่ยพยักหน้า คุยด้วยสีหน้าจริงจัง “ช่วงที่ฉันกับประธานหลีไม่อยู่หู้ไห่ เธอกับหลินเฉว่ก็ดูแลบริษัทให้ดีล่ะ ช่วยเจ้าของกิจการให้ดี”
หลีชิงเยียนไม่เพียงแค่เป็นเทพธิดาที่สวยที่สุดในบริษัทเท่านั้น ยังเป็นผู้ช่วยที่เก่งที่สุดของหลีหยางด้วย ยิ่งหลีชิงเยียนตามเฉินเป่ยไป ภาระงานของหลีหยางก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
“ประธานหลีก็ไปด้วยเหรอคะ?” ใบหน้าสวยของหนิงหรัวแสดงความประหลาดใจ แต่ก็ตอบสนองกลับอย่างรวดเร็ว พยักหน้า แล้วพูด “วางใจได้ค่ะ ประธานเฉิน ฉันจะแบ่งเบางานของเจ้าของอย่างเต็มที่ค่ะ”
เฉินเป่ยพยักหน้า แล้วพูดขึ้นอีก “เรียกจางหยุ่งจากแผนกรักษาความปลอดภัยมาหน่อย”
ชั่วประเดี๋ยวเดียว เสียงของจางหยุ่งก็ดังขึ้นจากข้างนอกของห้องทำงานตอนนี้
“เข้ามาเถอะ” หลังจากได้รับอนุญาตจากเฉินเป่ย จางหยุ่งก็ยิ้มพลางเดินเข้ามาในห้องทำงานของเฉินเป่ย
“พี่เฉิน” จางหยุ่งยิ้มอย่างประจบ ครั้งนี้เขากระตือรือร้นยิ่งกว่าครั้งที่แล้วมาก
“นั่งลง” เฉินเป่ยพูด
“ครับ”
จางหยุ่งจะกล้าไม่ทำตามได้ยังไง หลังจากนั่งลงแล้ว พูดยิ้ม ๆ “พี่เฉินเรียกหาผม มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
“มีแน่นอน” มุมปากเฉินเป่ยยกโค้งขึ้น
“ฉันกับประธานหลีจะไปทำงานนอกสถานที่สักพัก ฉันไม่ไว้ใจบางคนในบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ฉันต้องการให้คุณปกป้องบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปให้ดี จะให้คนที่มีอะไรแอบแฝงมาสร้างความเดือดร้อนไม่ได้” น้ำเสียงของเฉินเป่ยเคร่งขรึมจริงจัง มองไปที่จางหยุ่ง “เรื่องหนักหนาสาหัสนี้ คุณจะทำได้มั้ย?”
“ไว้ใจได้เลยพี่เฉิน ผมจะปกป้องตึกนี้ด้วยชีวิตแน่นอนครับ!” สีหน้าของจางหยุ่งจริงจังขึ้นมา “ถึงผมจะไม่มีทักษะกังฟูเท่าพี่เฉิน แต่ขอแค่ผมยังไม่ล้ม เจ้าพวกสร้างความเดือดร้อนนั่นจะไม่มีทางได้เข้ามาในอาคารได้แน่”
เฉินเป่ยพยักหน้า ดูเหมือนจะพอใจกับคำตอบของจางหยุ่ง พูด “ถ้าทำได้ดี กลับมาผมจะให้ประธานหลีให้โบนัสคุณ”
จางหยุ่งตาเป็นประกาย รีบกล่าวขอบคุณ…..แต่เขาไม่ได้รู้เลย ว่าที่จริงเฉินเป่ยกำลังพูดเรื่องไร้สาระไปเรื่อยเท่านั้นเอง
ในตอนปกติแม้แต่เฉินเป่ยก็ยังต้องระมัดระวังที่จะมองสีหน้าของหลีชิงเยียน ยังจะให้หลีชิงเยียนให้โบนัสอีกน่ะเหรอ? ก็น่ากลัวว่าคงจะเป็นไปได้แค่ในฝันแล้วล่ะ
หลังจากเห็นจางหยุ่งจากไปอย่างดีอกดีใจ มุมปากของเฉินเป่ยยกขึ้น เขาเดินออกจากห้องทำงาน แล้วเดินไปยังห้องประธาน
ในห้องประธาน หลินเฉว่ยืนอยู่ด้านหน้าหลีชิงเยียน ซึ่งกำลังอธิบายบางอย่างให้กับหลินเฉว่อยู่
หลังจากอธิบายไปพอสมควรแล้ว หลีชิงเยียนก็มองไปที่เฉินเป่ยที่เดินเข้ามาข้างหลัง แล้วพูดกับหลินเฉว่ด้วยน้ำเสียงน่าดึงดูด “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอไปทำงานก่อนเถอะ”
รอจนหลินเฉว่จากไปแล้ว เฉินเป่ยก็นั่งลงบนโซฟา ยืดสองขาออกแล้วมองไปที่หลีชิงเยียน “จะออกเดินทางกันเมื่อไหร่?”
“คุณรีบอะไรน่ะ?” หลีชิงเยียนเอ่ยอย่างเย็นชา “งานพนันเพชรพลอยครั้งนี้ คุณมั่นใจงั้นเหรอ?”
“มีคุณอยู่ ผมจะไม่มั่นใจได้ยังไง” เฉินเป่ยยิ้มหน้าเป็นอย่างปลิ้นปล้อน
หลีชิงเยียนหัวเราะอย่างเย็นชา “เดี๋ยวจะโทษฉันที่ไม่เตือนคุณ งานพนันเพชรพลอยครั้งนี้ ต่างจากครั้งก่อน ๆ โดยเฉพาะเยี่ยนจิงเป็นเจ้าภาพในการจัด สเกลจะใหญ่กว่าก่อนมาก นักพนันหัวเซี่ยมากมายจะมาเข้าร่วมงานพนันนี้ ฉันกลัวว่าคุณจะไม่เคยเล่นพนัน แล้วยังจะเข้าร่วมงานใหญ่นี่อีก”
เฉินเป่ยหัวเราะฮิฮิออกมา เขาไม่ได้แก้ตัวอะไร เพราะสายตาที่เขามองหลีชิงเยียน มีแต่ความรักใคร่หลงใหลอยู่ในนั้น
“ประธานหลี….อย่าพูดหน้าตายแบบนั้นสิ ที่คุณสัญญาว่าจะล้างเท้าให้ผมน่ะ คุณยังไม่ได้ทำเลยนะ….” เฉินเป่ยพูดอย่างไม่รีบร้อน ทันใดนั้นสีหน้าของหลีชิงเยียนก็เปลี่ยนไป
ใบหน้าสวยของหลีชิงเยียนเย็นชาขึ้นมา ไอสังหารแผ่ซ่านทั่วตัวเธอ!
ดูเหมือนคำพูดของเฉินเป่ยจะไปจี้จุดเธอเข้า หลีชิงเยียนมองเฉินเป่ยอย่างเย็นชา ท่าทีไม่ใช่เล่น!