แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 259 เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว!
เฉินเป่ยกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ใช่ มีเพียงทีมดูแลความปลอดภัยในประเทศเท่านั้น ที่จะสะกดรอยตามได้แย่ขนาดนี้”
ซูเหลยกระตุกมุมปากขึ้น เธอที่เป็นคนในกองกำลังพิเศษหัวเซี่ย แน่นอนว่าก็เคยฝึกทักษะการสะกดรอยตามอย่างลึกลับอยู่แล้ว ต่อให้เป็นองค์กรงทีมดูแลความปลอดภัยในประเทศ ก็จะมีความสามารถโดดเด่นเหนือใคร น้อยคนที่จะสามารถเทียบได้
สุดท้าย…..คนพวกนี้กลับไม่สามารถเข้าตาเฉินเป่ยได้เลย!นี่มันช่างจู่โจมคนอื่นเกินไปแล้ว!นี่ไม่ใช่ว่ากลายเป็นการดูหมิ่นหัวหน้าหลี่ไปแล้วหรอ!
และโชคดีที่หัวหน้าหลี่ไม่อยู่ที่นี่ ไม่งั้นก็ต้องถูกจู่โจมจนกระอักเลือดแล้ว
ทว่าพอครุ่นคิดอย่างละเอียด เฉินเป่ยเหมือนจะพูดได้ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล ทัศนคติของเฉินเป่ยนั้นกว้างไกลแค่ไหน สำหรับต่างชาติ ถึงจะสามารถเข้าตาเฉินเป่ยได้ คาดว่าก็มีหน่วยคัดกรองข่าวของประเทศอังกฤษ สถานภาพของกองกำลังทหารตะวันไม่ตกดินเจ็ดแห่ง เคอเข่อโป๋แห่งประเทศรัสเซีย……ประเทศเหล่านี้ต่างก็เป็นองค์กรที่คัดกรองข่าวได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด!
และพวกคนนี้ของหัวหน้าหลี่ ถึงแม้จะไม่เลว และถือว่าเป็นยอดคนชั้นสูง ทว่าถ้าเทียบกับบุคคลต่างชาติแล้ว ก็ยังแย่ไปกว่าเล็กน้อย
ซูเหลยมองข้ามคำพูดของเฉินเป่ย เฉินเป่ยกล่าวเกินจริงเกินไป แน่นอนว่าเธอไม่มีเชื่ออยู่แล้ว
“คนพวกนี้ต้องจัดการให้สิ้นซากไหม? ” ซูเหลยขมวดคิ้ว แล้วถามขึ้น
“ไม่ต้อง พวกที่สะกดรอยตามก็ไม่ง่าย ปล่อยพวกเขาไปเถอะ” เฉินเป่ยพูดด้วยเสียงเรียบ
“แต่ว่าท่านประทานอยากจะจัดการพวกเขา” ซูเหลยขมวดคิ้ว
“ดังนั้นฉันทำให้พวกเขาสลบแล้วมัดไว้แล้ว”
ซูเหลย “…….”
มองเฉินเป่ยเผยยิ้มที่ดูหมิ่น ซูเหลยในตอนนั้น แค่รู้สึกสุดคำบรรยาย แล้วเลิกคิ้วขึ้น พร้อมกับพูดด้วยเสียงเย็นชา “ดังนั้น ทุกอย่างคุณได้คาดการณ์ไว้ตั้งนานแล้วและก็ได้จัดการทั้งหมด? ”
เฉินเป่ยยิ้มแต่ไม่พูดไม่จา และซูเหลย ตอนนั้นก็รู้สึกโมโหอย่างมาก
ในตอนนั้น รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในความคาดคะเนของไอ้หมอนี้
จริงๆ ก็สามารถจัดการทุกอย่างได้ แค่พูดโดยตรงก็พอแล้วหนิ แล้วยังจะซุกซ่อนไว้และเก็บไว้ ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าตัวเองเก่งแค่ไหนหรอ?
ซูเหลยถูกตบหน้าอย่างซึ่งๆ หน้า ทีแรกเธอนึกว่าเธอสังเกตเห็นทุกอย่างได้เร็วที่สุด สุดท้ายนึกไม่ถึงว่าเฉินเป่ยจะวางเรียงทุกอย่างไว้แล้ว เธอกลับเป็นคนที่สังเกตเห็นสายที่สุด
เธอยังเกิดเป็นคนของกองกำลังพิเศษ กลับไม่เทียบเท่ากับผู้ชายทำตัวไร้สาระคนนี้
ต่อให้เธอรู้ ผู้ชายคนนี้มีที่มาอันลึกลับ และมีที่มาที่ยิ่งใหญ่มาก
ทว่าเธอยังคงไม่พอใจ และถูกเฉินเป่ยกดขี่ตลอดเวลา อีกอย่างยังทำอะไรกับเฉินเป่ยไม่ได้
ซูเหลยกัดฟัน แล้วไม่พูดไม่จา จากนั้นก็จากไปด้วยความโมโห
ตอนนี้เธออยากจะหารูมุดเข้าไปทันที เธออยู่ต่อหน้าเฉินเป่ย แทบจะไม่มีหน้าไม่มีตา!
“ไปแล้ว? ไม่ส่งนะ” เฉินเป่ยมองเรือนร่างที่จากไปของซูเหลย แล้วกระตุกมุมปากทำปากทรงโค้ง
ในปากของเขา มีเสียงอันเย้ยหยันอย่างมากลอยขึ้น แล้วส่งเข้าไปในหูของซูเหลย เกือบจะทำให้เธอเยกโยกไปมา แล้วล้มลงบนพื้น
ไอ้หมอนี่ มันร้ายเกินไปแล้ว ทำให้ซูเหลยอยากจะหันไปจวนใจจะขาด และไปกระทืบเขาสักตั้ง
“ปัง” เสียงเสียงหนึ่ง ซูเหลยจึงปิดประตูลงแรงๆ เฉินเป่ยจึงหุบยิ้มที่เย้ยหยันและขี้เล่นของเขา แล้วเดินไปตรงหน้าต่าง จากนั้นก็โทรออกเบอร์ๆ หนึ่ง
ในบ้านหลังหนึ่งที่อยู่เมืองหู้ไห่ มือถือในกระเป๋ากางเกงของหัวหน้าหลี่ จู่ๆ ก็ดังขึ้นทันที
หัวหน้าหลี่กวาดสายตามองไปตรงหน้าจอมือถือ ดวงตาสองข้างค่อยๆ หรี่ลง
เบอร์ที่ไม่รู้จักเป็นแถว เป็นเบอร์ที่ผ่านการเข้ารหัส ก็ไม่สามารถติดตามได้
หลังจากหัวหน้าหลี่รับสาย มือถือฝั่งโน้นก็มีเสียงของเฉินเป่ยดังขึ้น “เห็นแก่ความสัมพันธ์ของพวกเรา อยากจะเตือนด้วยความหวังดี เก็บแผนการของคุณไว้ อย่าให้ผมเห็นแมลงสวะพวกนั้นของคุณ……ไม่งั้น ผลที่ตามมาคุณก็รู้ดี” เสียงของเฉินเป่ยยิ่งอยู่ยิ่งเย็นชา ทำให้หัวหน้าหลี่รู้สึกกลัวจนตัวสั่นงันงก
น้ำเสียงของเฉินเป่ยเคล้าด้วยความอาฆาต ทำให้วิญญาณทั้งร่างของหัวหน้าหลี่สั่นงันงก
หลังจากวางสายลง นอกห้องนอน มีลูกน้องคนหนึ่งพุ่งเข้ามาทันที แล้วบอกกับหัวหน้าหลี่ “หัวหน้าหลี่ คนของเราที่สะกดรอยตามเฉินเป่ยที่เยี่ยนจิง จู่ๆ ก็ขาดการติดต่อครับ! ”
หัวหน้าหลี่ทำสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที แล้วภายในใจก็สั่นสะเทือน
หลังจากผ่านไปสักพัก หัวหน้าหลี่ก็เช็ดหน้าผากที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ แล้วพยายามตั้งสติ แล้วพูดขึ้น “ตามที่ฉันรู้จักเขา นี่แค่เป็นการตักเตือน พวกเขาคงไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต”
หัวหน้าหลี่แค่อยากจะรู้พิกัดของเฉินเป่ยอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น กลับนึกไม่ถึงว่าจะทำให้เฉินเป่ยรู้สึกไม่พอใจ
“หัวหน้าครับ จะให้ผมส่งทีมอีกไหมครับ”
“ไม่ต้องแล้ว ตามความสามารถของเขา ต่อให้ส่งคนไปเยอะกว่านี้ก็คงจะเสียเปล่า” หัวหน้าหลี่ส่ายหัว แล้วค่อยๆ ถอนหายใจออกมา “เลิกจับตามองและสะกดรอยตามเขาเถอะ”
“ครับ”
หลังจากที่ออกคำสั่งเสร็จ หัวหน้าหลี่ก็เดินไปตรงริมหน้าต่าง แล้วก้มหน้ากวาดมองหน้าจอมือถือ สีหน้าดูซับซ้อน
เขาใช้ระดับเสียงที่ตัวเองได้ยินเท่านั้น แล้วกำลังพึมพำกับตัวเอง “อย่างที่คาด ราชาหลงก็คือราชาหลง ความน่าเกรงขามของราชาหลงไม่สามารถละเมิดได้……คุณไม่เปลี่ยนแม้แต่นิดเดียว”
…….
เยี่ยนจิง ในห้องนอนโรงแรม หลีชิงเยียนนั่งอยู่บนโซฟา หลังจากได้ยินซูเหลยพูด จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย “เขาบอกว่าเขาจะจัดการคนพวกนั้น? ”
ซูเหลยพยักหน้า
หลีชิงเยียนยิ้มอย่างเย็นชา “หากคนพวกนั้นคือคนของทีมดูแลความปลอดภัยในประเทศจริงๆ แม้แต่เขายังคิดจะจัดการกับคนพวกนั้น สามารถมีชีวิตอยู่ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว”
ซูเหลยตกอยู่ในสภาวะแห่งความเงียบ หลีชิงเยียนไม่รู้ ทว่าเธอกลับรู้ เฉินเป่ยพูดทั้งหมดเป็นความจริง
เมื่อกี้เธอยังสังเกตมาแล้ว รถของพวกนั้นที่สะกดรอยตาม หายจากไปจริงๆ
“คนเหล่านั้นที่สะกดรอยตามมีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาสะกดรอยตามอีก ช่วงนี้เธอต้องระวังหน่อยนะ จับตามองให้ดี” หลีชิงเยียนกำชับขึ้น
ซูเหลยให้คำมั่นสัญญา แล้วเดินออกจากห้อง ก่อนจะกลับห้องนอนตัวเอง ก็หันไปมองห้องนอนของเฉินเป่ยเพียงพริบตาเดียว ดวงตาคู่นั้นเคล้าด้วยความซับซ้อน
ไม่นาน ก็ห่างจากงานพนันเพชรพลอยของเยี่ยนจิงแค่วันเดียวแล้ว
หนึ่งวันก่อนจะเปิดงานพนันเพชรพลอย เยี่ยนจิงยังคงคึกคักเหมือนที่ผ่านมา ตึกอาคารสูงนั้นแออัดกันอย่างมาก ดวงอาทิตย์ที่แยงตาก็ถูกตึกสูงบดบังตลอดเวลา แค่สอดส่องแสงสีทองมา ถ้าดูจากมุมที่พิเศษ ก็จะสังเกตเห็นถนนในเมืองหลวง นั่นเหมือนมีทองคำเปลวสาดลงมา
วันนี้เป็นวันที่เรียบง่าย กลับเพราะว่ามีบุคคลลึกลับบางส่วนมาถึง ก็ค่อยๆ กลายเป็นวันที่ไม่เรียบง่าย
มีคนไม่น้อยรู้ถึงฐานะของพวกเขา มีที่มาที่ไม่น้อย จากทิศเหนือและทิศใต้ของหัวเซี่ย มาจากทั่วทุกสารทิศ…….แม้กระทั่งบางคน ยังมาจากต่างประเทศ!
ทุกคนมักจะนึกถึง คนพวกนี้มาจากทั่วทุกสารทิศ กลับแค่มาร่วมงานพนันเพชรพลอยในครั้งนี้
นี่ไม่ใช่เป็นการเจอะเจอกันของตระกูลชั้นสูงเยี่ยนจิงแล้ว แต่เป็นการเปรียบเทียบความสามารถและความร่ำรวยของทั้งหัวเซี่ย!
ไม่เพียงแต่แบบนี้ การพนันอัญมณีในครั้งนี้ ไม่เหมือนที่ผ่านมา……ทว่ามีส่วนไหนที่ไม่เหมือน ไม่มีใครสามารถพูดออกมาได้
ตรงประตูสนามบินนานาชาติเยี่ยนจิง มีรถโรลส์รอยซ์หนึ่งคันจอดอยู่ข้างถนน แค่เห็นคนคนหนึ่งที่ยังดูวัยรุ่นสวมใส่ชุดขาว แล้วก้าวออกมาจากในสนามบิน บนเรือนร่างเคล้าด้วยความลึกลับ
หากคนประณีตละเอียดอ่อน ก็จะสังเกตเห็นนัยน์ตาคู่นั้นของเขาลุ่มลึกเหมือนดวงเต็มท้องฟ้า บนชุดยาว เย็บปักลายมังกรมองเก้านิ้วร่ายรำ ที่เหมือนมีชีวิตอยู่จริง
สิ่งที่ทำให้คนรู้สึกยากที่จะคาดคิดถึงคือ กระดุมของชุดยาวสีขาวนั้น ทำจากทองและหยก ดูหรูหรามาก
เนื้อผ้าของชุดขาวก็ดีมาก แค่มีคนที่รู้เท่านั้นที่ดูออก เป็นการใช้เส้นใยไหมจากหนอนไหมน้ำแข็งภูเขาหิมะทำขึ้น ชุดขาวตัวนี้……มีมูลค่ามหาศาล
ชายหนุ่มชุดขาวเดินออกจากสนามบิน แล้วหยุดอยู่ตรงหน้ารถโรลส์รอยซ์ แล้วเงยหน้ามองบนท้องฟ้าของเยี่ยนจิง พร้อมกับพึมพำขึ้น “วู่……ท้องฟ้าของเยี่ยนจิง เปลี่ยนเป็นสภาพที่วุ่นวายขนาดนี้เลยหรอ…….”
“น่าจะเป็นเพราะงานพนันเพชรพลอย” ชายหนุ่มชุดขาวจึงพึมพำกับตัวเอง นัยน์ตามองไปยังที่ไกลๆ ของเยี่ยนจิง และเคล้าด้วยความลุ่มลึกอย่างไร้ขีดสิ้นสุด