บทที่ 327 สิทธิ์!
ประตูเปิดออก ซูเหลยก็เห็นเฉินเป่ยสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว แล้วยืนมองเธออยู่ตรงหน้า
ในปากของเฉินเป่ยอมคาบบุหรี่ไว้ สีหน้าเต็มไปด้วยการดูหมิ่น แล้วดูดื้อรั้นมาก
ท่าทางแบบนั้น เหมือนเป็นอันธพาลที่กำลังจะมีเรื่องกับใคร
มองจากท่าทางแบบนี้ของเฉินเป่ย ภายในใจของซูเหลยรู้สึกเกิดการดูหมิ่นขึ้นมาไม่หยุด น้ำเสียงเคล้าด้วยความเลือดเย็น แล้วเอ่ยถาม “เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ”
“ท่านประธานหลีสั่งให้เธอไปห้องนอนของเธอ” เฉินเป่ยพูดขึ้น
“รู้แล้ว” ซูเหลยพยักหน้า แล้วปิดประตูห้อง
กลับนึกไม่ถึงว่าจู่ๆ เฉินเป่ยจะจับประตูห้องไว้ เฉินเป่ยสังเกตมองซูเหลยอย่างละเอียด แล้วกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย พร้อมพูดด้วยการหยอกล้อ “คุณซู ไม่เจอกันทั้งคืน คุณดูเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ ”
ซูเหลยทำสีหน้าที่นิ่งเฉย “คุณอยากบอกอะไร? ”
“สีหน้าไม่เลว” เฉินเป่ยยิ้มให้กับซูเหลย พอพูดจบโดยที่ความหมายโดยนับแฝงอยู่ แล้วค่อยๆ หันหลังเดินจากไป
ซูเหลยเห็นเรือนร่างของเฉินเป่ย สีหน้าเคล้าด้วยความแปลกใจ
…….
หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป แล้วอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ซูเหลยก็ปรากฏอยู่ในห้องของหลีชิงเยียน
“ท่านประธานหลีคะ ต้องขอโทษจริงๆ ดิฉันหลับเพลินค่ะ” ซูเหลยยืนอยู่ตรงหน้าหลีชิงเยียน แล้วกล่าวขอโทษอย่างรู้สึกผิด
ซูเหลยเข้าใจเป็นอย่างมาก หลีชิงเยียนเป็นคนที่เคร่งขรึมอย่างมาก เธอก็เข้มงวดกับตัวเองเป็นอย่างมากเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอเป็นบอดี้การ์ดของเธอ
และในตอนที่ซูเหลยกำลังจะเตรียมตัวรับการลงโทษ หลีชิงเยียนก็ส่ายหัวทันที แล้วพูดด้วยเสียงเข้ม “ฉันแค่แปลกใจ ทำไมเธอถึงหลับได้นานขนาดนั้น เธอไม่เคยหลับเพลินมาก่อน ครั้งนี้นอนถึงตอนบ่าย ฉันกำลังเตรียมตัวตามคนของโรงแรมไปพังประตูห้องเข้าไปแล้ว”
หลังจากหลีชิงเยียนพูดจบ ก็พูดอย่างเป็นห่วง “แผลของเธอเป็นยังไงบ้างแล้ว? ”
ซูเหลยรู้สึกได้ว่าน้ำเสียงของหลีชิงเยียนเคล้าด้วยความเป็นห่วง ภายในใจจึงรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ซูเหลยส่ายหัว แล้วพูดขึ้น “ขอบคุณท่านประธานหลีที่เป็นห่วง แผลของดิฉันไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะ”
“เรื่องจริงหรอ ให้ฉันดูหน่อย” หลีชิงเยียนขมวดคิ้วทรงสวยขึ้นเล็กน้อย กลัวว่าซูเหลยจะปิดบังความรู้สึกเจ็บตรงแผล จึงพูดขึ้น
ซูเหลยนั่งลง แล้วให้หลีชิงเยียนมองบาดแผลของตัวเอง หลีชิงเยียนก็รู้สึกทึ่ง “แผลนี้ เป็นแผลเมื่อคืน”
ซูเหลยพยักหน้า หลีชิงเยียนจึงเปล่งประกายความตกตะลึงผ่านนัยน์ตาคู่สวย แล้วมองซูเหลย สีหน้าเคล้าด้วยความตื่นตกใจ “นี่ ทำได้ยังไง? ”
ซูเหลยส่ายหัว แล้วบอกเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน
เธอไม่ได้บอกกับหลีชิงเยียนเรื่องของชิงเหนียน เพราะว่าชิงเหนียนเคยกำชับกับเธอแล้ว ฐานะของตัวเอง ต้องปิดเป็นความลับ ห้ามบอกให้คนอื่นรู้
“แผลๆ นี้……เป็นแผลที่ทิ้งรอยเมื่อคืนจริงหรอ? ” ต่อให้หลีชิงเยียนเชื่อซูเหลยอย่างมาก ทว่าปัญหานี้ ก็อดไม่ได้ที่จะกึ่งเชื่อกึ่งสงสัย
เพราะว่าแผลของซูเหลย มันไม่เหมือนแผลเมื่อคืนจริงๆ
“อืม เมื่อคืนฉันรู้สึกเหนื่อยมาก จึงหลับใหลไป ตื่นขึ้นมาก็เป็นแบบนี้แล้ว”
“อาจจะเพราะว่าเมื่อวานเธอเสียเลือดมากเกินไป เลยต้องการพักฟื้นอย่างเร่งด่วน ดังนั้นจึงหลับยาวหน่อย” และในตอนนี้ ข้างๆ ก็มีเสียงๆ หนึ่งส่งมา เฉินเป่ยอยู่ข้างๆ แล้วพูดขึ้น
หลีชิงเยียนขึงตามองเฉินเป่ย แล้วก่นด่าด้วยเสียงเลือดเย็น “หุบปาก”
เฉินเป่ยจึงเบะปาก หลีชิงเยียนสังเกตมองแผลอย่างละเอียด ถึงแม้จะรู้สึกตกตะลึงที่แผลของซูเหลยหายเร็วขนาดนี้ ทว่าก็ไม่ได้ไถ่ถามอะไรให้มาก แล้วพยักหน้าพูดขึ้น “พักผ่อนดีๆ ”
“ท่านประธานหลี พวกเรายังต้องไปงานพนันพลอยอีกไหมคะ” ซูเหลยเอ่ยพูด น้ำเสียงของเธอยังคงรู้สึกผิด เพราะว่านี่ก็ตอนบ่ายแล้ว
“ไป วันนี้ได้ข่าวว่ารายชื่อของสุดยอดดาบสามเล่มจะปรากฏ” หลีชิงเยียนพยักหน้า
“สุดยอดดาบสามเล่ม? ” ซูเหลยนิ่งงัน
“เป็นงานพนันพลอยทำออกมา งานพนันพลอยจะเลือกผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในงาน แล้วไปร่วมสุดยอดดาบสามเล่ม” หลีชิงเยียนแนะนำด้วยเสียงเข้ม
“สุดยอดดาบสามเล่มนี้ สามารถได้มาซึ่งผลประโยชน์มากมายใช่ไหม? ” ซูเหลยทำสีหน้าที่สงสัย
หลีชิงเยียนพยักหน้า “แน่นอน ผู้ที่ชนะทุกครั้ง ต่างก็สามารถนำอัญมณีที่ไม่ได้ผ่านการแปรรูปของตนเองไป และเป็นของตัวเองทั้งหมด…….ที่หนึ่งก็ยิ่งสามารถเลือกของล้ำค่าที่ทางฝ่ายงานพนันพลอยสะสามไว้มาหลายปีเป็นจำนวนสิบชิ้น…….” หลีชิงเยียนค่อยๆ พูดขึ้น “ยังไงอัญมณีที่สามารถถูกทางฝ่ายงานพนันพลอยสะสมไว้ ต้องไม่มีอันไหนที่ไม่ใช่ของที่ดีระดับต้นๆ แน่นอน ทุกชิ้น ต่างก็มีความน่าจะเป็นที่จะเป็นของล้ำค่าในทั่วเมือง”
ซูเหลยเอ่ยถามอย่างคิดพิจารณา “แน่นอน นี่เป็นตั้งการแลกของล้ำค่าหนึ่งต่อหนึ่ง เสียดาย บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปไม่มีวาสนานี้…….”
“แม้แต่หัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอยของหัวเซี่ย ต่างก็อยู่ข้างกายพวกเรา การที่พวกเราจะชนะ คงจะไม่น้อยขนาดนั้นหรอกมั้ง? ” ซูเหลยขมวดคิ้ว
กลับนึกไม่ถึงว่าหลีชิงเยียนส่ายหัว “ก่อนหน้านี้ตอนที่พนันความเป็นความตาย ต่อให้เป็นหัวหน้าสมาคมจางแล้วจะมีประโยชน์อะไร? งานพนันพลอยครั้งนี้กับครั้งอื่นๆ แตกต่างกันอย่างมาก เช้าวันนี้หัวหน้าสมาคมจางโทรหาฉัน แล้วบอกฉันว่า งานพนันพลอยครั้งนี้ ทุกฝ่ายก็ได้เตรียมอำนาจไว้พร้อมแล้ว มีสัตว์ประหลาดมากมายโผล่ออกมาจากพิภพนี้อีกครั้ง แม้กระทั่งเขายังไม่เคยเห็น แค่ในข่าวลือเคยได้ยินการเป็นอยู่บ้าง และปรากฏอยู่ในงานพนันพลอย……..เหมือนในชีวิตนี้ของฉีซิ่น…….ดังนั้นครั้งนี้เขาก็ไม่มีความมั่นใจมากนัก นี่ไม่เพียงแต่เป็นการแลกเปลี่ยนในชีวิตนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเป็นการพบความอัศจรรย์ของรุ่นก่อน……เหมือนสถานการณ์แบบนี้ ไม่ได้ปรากฏมานานแล้ว……..”
ซูเหลยรู้สึกตกตะลึง แล้วเอ่ยถามอย่างยึดมั่น “ก็หมายความว่า รุ่นอาวุโสเหมือนฉีซิ่น ยังมีไม่น้อยที่เราไม่รู้”
หลีชิงเยียนเผยความหนักใจออกผ่านใบหน้าที่สวยไร้ที่ติ “สามารถเข้าใจแบบนี้”
สีหน้าของซูเหลยดูแย่เล็กน้อย “งั้นอะไรที่ทำให้พวกเขาแก่งแย่งกันขนาดนี้? เพื่ออะไรกันแน่? ”
หลีชิงเยียนเผยสีหน้าที่ที่ไม่ชัดเจนออกมา แล้วพึมพำด้วยเสียงต่ำ “นี่ฉันก็ไม่รู้”
“ยังไง หากเปลี่ยนเป็นแต่ก่อน ที่หนึ่งของสุดยอดดาบสามเล่มพวกเราสามารถแย่งแย่งมาได้ ทว่าตอนนี้ รายงานของสุดยอดดาบสามเล่ม ก็ไม่มีทางมีบุญวาสนากับเรา” หลีชิงเยียนอุทานด้วยเสียงเบา
“ต่อให้เข้าไปเป็นสุดยอดดาบสามเล่มไม่ได้ ทว่าก็สามารถถือโอกสนี้ควักเงินก้อนโต เพื่อบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปจะได้สร้างและรับมา และเป็นหนึ่งในวิธีที่จะสามารถโด่งดังและวางอำนาจในเมืองเยี่ยนจิง”
และตอนนี้ เฉินเป่ยก็พูดขึ้นทันที ทำให้ใบหน้าของหลีชิงเยียนจับตัวเป็นก้อน แล้วทำสีหน้าที่แปลกพิลึกขึ้นมา
ใช่ เฉินเป่ยบอกไม่ผิด งานพนันพลอย แขกที่พนันทุกท่านแทบจะเป็นเขตพนันระดับพรีเมี่ยม คนไหนบ้างที่ไม่อยากฆ่าล้างแล้วเข้าไปเป็นสุดยอดดาบสามเล่ม? ใครบ้างที่คิดจะทำเงินมหาศาลในงานพนันพลอยนี้?
และหลีชิงเยียนมีจางเป่าเฉิง ถึงแม้อาจจะไม่มีความมั่นใจในการปะทะกับฉีซิ่นที่เป็นรุ่นอาวุโส ทว่าก็สามารถกวาดล้างเขตพนันขั้นพรีเมี่ยม กลับไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
หลีชิงเยียนทำสีหน้าที่แปลกพิลึก เธอมีความคิดที่เกร็ง แน่นอนว่าไม่ได้คิดถึงวิธีนี้
และตอนที่หลีชิงเยียนมองซูเหลย ซูเหลยพยักหน้า แล้วพูดขึ้น “ท่านประธานหลี วิธีนี้ใช้ได้จริง”
“งั้นฉันจะลองดู” หลีชิงเยียนสูดลมหายใจเข้าหนึ่งเฮือก ครั้งนี้ อำนาจการตัดสินใจขึ้นอยู่กับจางเป่าเฉิง อย่างไรถ้าคิดจะให้บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปได้สร้างและได้รับ ขาดไม่ได้ที่จะให้จางเป่าเฉิงอยู่แต่ในเขตการพนันชั้นพรีเมียมทั้งวันในทุกๆ วัน
และจางเป่าเฉิงที่เกิดเป็นหัวหน้าสมาคมการพนันพลอยของหัวเซี่ยในวันนี้ สามารถช่วยเหลือหลีชิงเยียนให้ร่วมงานพนันพลอย ก็ถือว่าเป็นการลดตัวลงมาแล้ว นี่ก็ถือว่าไม่เป็นธรรมของเขา หลีชิงเยียนยังต้องเคารพความเห็นของจางเป่าเฉิงเป็นอย่างมาก
และตอนที่หลีชิงเยียนวางมือถือลง ใบหน้าที่สวยไร้ที่ติเปล่งประกายความดีใจออกมา แล้วพยักหน้าพร้อมพูดด้วยเสียงเข้ม “หัวหน้าสมาคมจางเห็นด้วยแล้ว”
หลีชิงเยียนหันไปมองเฉินเป่ย สีหน้าดูดีขึ้น ทว่าน้ำเสียงยังคงเลือดเย็น “ทำความดีชดเชยความผิด ต่อไปก็ต้องดูการกระทำของนายแล้ว”
เฉินเป่ยเพิ่งจะกระตุกมุมปากแล้วเผยยิ้มที่ได้ใจและดูหมิ่นออกมาก็ดูเกร็งทันที……เขามองหลีชิงเยียน แล้วขึงตาโต พร้อมมองหลีชิงเยียนรอย่างไม่น่าเชื่อ
เฉินเป่ยใกล้จะพูดอะไรไม่ออก…….แม่งเอ๊ย ท่านประธานเทพธิดา กลับยังไม่รู้จักปล่อยเรื่องนี้ไป ก็แค่เอาเสื้อของเธอไปทำอะไรบ้าง…….คงไม่ถึงขั้นนี้หรอกมั้ง……
“ไปเตรียมรถ” หลีชิงเยียนสั่งการด้วยเสียงเข้ม
“ค่ะ” ซูเหลยตอบกลับ แล้วรีบหายไปจากประตูห้องทันที
……..
ระหว่างทาง รถไมบัคสีดำสนิทคันหนึ่ง กำลังวิ่งเร็วอยู่บนถนน แล้วทำให้เกิดเสียงคำรามของรถ ดังขึ้นเป็นจังหวะๆ
รถไมบัคขับอยู่บนถนนอย่างว่องไว เหมือนเป็นฟ้าแลบสีดำ เสียงเร่งผ่าน ทำให้เผยอำนาจและความมีเสน่ห์อันน่ากลัวอย่างหนึ่งออกมา ทำให้รถนับไม่ถ้วนที่อยู่รอยๆ ต่างก็เป็นเลี่ยง!
รถเก๋งคันนี้ เหมือนเป็นคนบ้า นี่กำลังขับรถหรือไง นี่ไม่ใช่ว่าเป็นการแข่งรถหรือไง!
มีคนขับมากมายก่นด่า แต่เห็นยี่ห้อรถไมบัคคันนี้ ต่างก็ตกตะลึงไป……..เป็นไมบัครุ่นS! เป็นรถหรูระดับต้นๆ บุคคลนี้ต้องมีฐานะที่ไม่ธรรมดาแน่นอน!
หลังจากผ่านการปรับเปลี่ยนการตกแต่งที่หรูหรา โซฟาที่อยู่ด้านหลัง มีกลิ่นอ่อนๆ ลอยขึ้น มันออกจากช่องแอร์ นั้นเหมือนดั่งควันอ่อนๆ ของหมอก ทำให้คนรู้สึกหลงใหล
หลีเช่าเทียนนั่งอยู่ในรถ แล้วกำลังฟังทางฝั่งหลีหงสั่งการ สีหน้าดูนิ่งสงบ
“วางใจเถอะ คุณชาย มีผู้อาวุโสสองท่านนั้นอยู่ รายชื่อสุดยอดดาบสามเล่ม ผมต้องได้มันมาแน่นอน ผมใช้วิธีที่พิเศษ บอกมนุษย์…….ผมได้กลับมาแล้ว ผมยังคงยืนอยู่ตรงยอดสูงสุดของเยี่ยนจิง! ” หลีเช่าเทียนพูดขึ้น
และหลังจากที่รอให้หลีเช่าเทียนวางสายลง ก็มองไปยังลูกน้องที่นั่งอยู่ข้างหน้า แล้วเอ่ยถามด้วยเสียงเรียบ “สองท่านนั้นหลายวันมานี้เป็นอย่างไรบ้าง? ”
ลูกน้องที่นั่งอยู่แถวหน้าหันหลัง แล้วมองหลีเช่าเทียน สีหน้าดูเคารพ “สองท่านนี้อยู่ดีมีสุขมากครับ พวกเราได้จัดประสิทธิภาพที่สูงที่สุดให้กับพวกเขา สามารถบอกได้ว่าสะดวกสบายมากครับ”
หลีเช่าเทียนทำสีหน้าที่นิ่งสงบ น้ำเสียงกลับลุ่มลึกอย่างพูดไม่ออก “ปู่ของฉันเชิญพวกเขามาออกจากเขา แน่นอนว่าต้องให้พวกเขาเผยผลประโยชน์ออกมา หากไม่ได้บรรลุความต้องการของฉัน พวกนายรู้ใช่ไหมว่าควรทำยังไง”
“กำจัดให้สิ้นซาก อย่าทิ้งปัญหาในอนาคต” ลูกน้องพยักหน้า นัยน์ตาเคล้าด้วยความอาฆาตที่ลึกลับ
หลีเช่าเทียนต้องการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม แล้วพูดขึ้น “สุดยอดดาบสามเล่มคนที่หนึ่ง…….รายชื่อหนึ่งที่ไม่ได้รับความนิยม ฉันไม่เห็นในสายตา…….”
ลูกน้องคนคนก็พูดอย่างสงสัย “คุณชาย งั้นทำไมท่านถึงยอมเห็นในการแย่งแก่งชื่อนี้? ”
“เพราะว่า มีดวงตาหนึ่งกำลังจับตามองฉันตลอด…….” หลีเช่าเทียนค่อยๆ พูดขึ้น บรรยากาศในรถเคล้าด้วยแรงกดอากาศอันเลือดเย็น!
“ฉันจะให้เซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่กับเขา ไหนๆ ก็กล้ามาเยี่ยนจิง ฉันก็จะให้เขากับผู้หญิงคนนั้น ได้รับเซอร์ไพรส์อย่างหนึ่งที่คาดคิดไม่ถึง! ” หลีชิงเยียนทำนัยน์ตาที่เลือดเย็น เป็นบรรยากาศที่สั่นคลอน และเปล่งประกายความอาฆาตออกมา!