บทที่ 337 แม้แต่อู่ตังยังกล้าสู้!
“ไสหัวไป! ”
คลื่นเสียงหนึ่งส่งออกมา หมัดนี้ของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง มีพลังอันน่ากลัวอย่างมาก แล้วกำลังพุ่งมาตรงหน้าของเฉินเป่ย!
เฉินเป่ยยืนอยู่ที่เดิม สีหน้านิ่งเฉย แม้กระทั่งหมัดๆ นี้ของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง ที่ห่างจากเขาแค่ห้าหกมิลลิเมตร เขายังไม่หลบเลย!
และเมื่อคำๆ นี้ของเขาออกมา หมัดๆ นั้นท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างก็หยุดลงทันที เรือนร่างก็หยุดชะงักลง
ร่างของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างสั่นเทา เหมือนได้ยินเสียงวิจารณ์ที่ไม่น่าเชื่อ!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างจ้องเฉินเป่ยไว้อย่างไม่คลาดสายตา สีหน้าเหมือนเห็นผี!
ภายในใจของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเหมือนเกิดคลื่นโหมกระหน่ำ! มดตรงหน้าตัวนี้ กลับรู้จักมวยอู่ตัง?!
นี่เป็นไปไม่ได้! เขามีที่มายังไงกันแน่?!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างไม่กล้าเชื่อ มดที่สามารถบีบตายด้วยนิ้วๆ เดียวของตัวเอง กลับมองทะลุหนทางของเขาในพริบตา!
ทันใดนั้น ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างแววตาประกายแสง แล้วกำลังแผ่ซ่านความอาฆาตออกมา เขาต้องฆ่าเฉินเป่ย!
ไม่ว่าเฉินเป่ยจะมีความลับอะไร ก็ต้องฆ่า!
หมัดของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างยิ่งอยู่ยิ่งโหดเหี้ยมแล้วกำลังพุ่งไปยังเฉินเป่ย!
และตอนที่หมัดๆ นั้นของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างกำลังกระทบลงบนใบหน้าของเฉินเป่ย นัยน์ตาของเฉินเป่ยเลือดพล่านอย่างเลือดเย็นทันที!
เฉินเป่ยจู่โจมด้วยหมัดๆ หนึ่งเหมือนดั่งฟ้าแลบ ความว่องไว ทำให้ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างยังไม่ทันได้ตั้งตัว!
ความเร็วของเฉินเป่ยว่องไวเกินไปแล้ว แม้แต่ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างยังมองไม่ชัดเจนถึงท่าทางของเขา เฉินเป่ยออกหมัดๆ หนึ่ง แล้วกระทบลงบนหมัดของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง!
“ปัง! ”
อากาศสั่นสะเทือนอย่างบ้าระห่ำ การชนกันของเฉินเป่ยและท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง ทำให้เกิดลมพัดกระหน่ำ และคลื่นอากาศกระจายไปทั้งสี่ทิศ อากาศเปลี่ยนรูปไปอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า!
เวลาหยุดลงในชั่วพริบตานั้น เรือนร่างของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างสั่นเทา แววตาที่มองเฉินเป่ยเปลี่ยนไปทันที
พลังอันน่ากลัวอย่างหนึ่งกำลังระเบิดออกจากภายในร่างกายของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง เป็นอาร์ฟเตอร์ช๊อคอันน่ากลัว ทำให้อวัยวะภายในของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างสั่นสะเทือนจนบาดเจ็บ ทั้งเรือนร่างเหมือนพลังอันมหาศาล!
สีหน้าของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างนิ่งสงบอย่างอัศจรรย์ สีหน้าดูเบาสบาย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ความจริงแล้ว แขนข้างนั้นที่เขาจู่โจมกับเฉินเป่ย กำลังสั่นเทาเล็กน้อยอย่างไม่อาจควบคุมได้……จุดตรงกลางระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ของเขาเหน็บชา แล้วมองส่วนลึกของแววตาของเฉินเป่ย เป็นความน่ากลัวที่ยากที่จะจินตนาการถึง!
เขานึกไม่ถึงเลย มดตัวนี้ที่อวี้ย้งเซวียนบรรยายให้เขาฟัง……กลับมีพลังที่ไม่ด้อยไปกว่าเขา!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างสังเกตมองเฉินเป่ยอย่างละเอียด มดตัวนี้ในปากของเขา……ดวงตาลุ่มลึกของเขากำลักวาดมองเฉินเป่ยไปหนึ่งรอบ กลับมองยังไงก็มองไม่ออกว่าเฉินเป่ยเป็นยังไงกันแน่
และเขาที่ยืนอยู่ตรงข้างหน้าของเฉินเป่ย ทั้งเรือนร่างแผ่ซ่านความเป็นนักเลงออกมา หากไม่มีหมัดๆ นั้นเมื่อกี้นี้ ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างไม่คิดแน่นอน คนที่อยู่ตรงหน้า มีพลังอันใหญ่หลวงที่น่ากลัวมาก!
“แกรู้วรยุทธ์อู่ตังได้ยังไง? ” ภายในใจของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างระมัดระวัง แล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่เย็นชา
“วรยุทธิ์อู่ตังโด่งดังในหัวเซี่ย ใครจะไม่รู้? ” เฉินเป่ยยิ้มจางๆ สีหน้านิ่งเฉย “แค่ว่าฝ่ามือสยบพยัคฆ์ที่แกเพิ่งจะฝึกได้ไม่นาน กลับเอามาจัดการกับฉัน แกดูถูกฉันเกินไปแล้ว”
“แกกลับรู้ฝ่ามือสยบพยัคฆ์? ” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างรู้สึกตกใจในใจ เขานึกไม่ถึงเลยจริงๆ เฉินเป่ยกลับมองออกถึงทักษะมวยของเขา
“ฉันฝ่ามือสยบพยัคฆ์ต้องฝึกหลายสิบปี แกมีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าฉันเพิ่งฝึก แกก็คู่ควรหรอ? ” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างแสยะยิ้มเย็นชา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ทักษะมวย ไม่ใช่ว่าฝึกยิ่งนานก็ยิ่งแกร่ง……หากไม่เข้าใจหมัดอย่างถ่องแท้ แกฝึกไปกี่รอยปีก็มีแค่เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น” เฉินเป่ยค่อยๆ พูดขึ้น
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างแค่นเสียงเย็นชา เฉินเป่ยยิ่งพูดต่อไป เขาก็ยิ่งรู้สึกหวาดหวั่น……เขานึกไม่ถึงเลยจริงๆ มดตัวนี้กลับรู้มากขนาดนี้! มดตัวนี้ต้องห้ามเก็บไว้!
“ตายไปซะ! ” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างก้าวเท้าออกมาหนึ่งข้าง แล้วเปลี่ยนจากหมัดเป็นฝ่ามือ ทั้งสองฝ่ามือตบมาที่เฉินเป่ย!
“วรยุทธ์ของอู่ตัง? ” เฉินเป่ยกระตุกมุมปากอันขี้เล่นออกมา แล้วก้าวเท่าออกมาแรงๆ บนพื้นมีรอยแตกที่ต่างก็สั่นสะเทือน เฉินเป่ยทำสีหน้าที่เลือดเย็น ในแววตา แผ่ซ่านความเลือดเย็นลุ่มลึกอย่างไร้ขีดสิ้นสุดออกมา แล้วก่นด่าขึ้นอย่างรุนแรง “สยบพยัคฆ์! ”
ท่านผู้อาสุโสไท่ซ่างตบจู่โจม เฉินเป่ยกำหมัด แล้วต้านรับอย่างไม่หวาดกลัว!
ม่านตาทั้งสองข้างของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างหดลงอย่างแรง และเขามองหมัดของเฉินเป่ยลอบมา สีหน้าตกตะลึง ใบหน้าเคล้าด้วยความไม่น่าเชื่อ!
หัวสมองของเขาว่างเปล่าทันที! เหมือนถูกค้อนใหญ่จู่โจม ดวงตาทั้งสองข้างเบิกโต ทั้งตัวกำลังสั่นเทา!
หมัดๆ นั้นของเฉินเป่ยจู่โจมมา แล้วทำให้สะท้อนเสียงคำรามกลางอากศ หมัดๆ นั้นเหมือนผ่าผ่านอากาศ พลังความน่าเกรงขามทำให้คนตกตะลึง!
“ตาย! ” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างตัดสินใจอย่างอำมหิต แล้วก่นด่าอย่างเย็นชาเพียงเสียงเดียว ฝ่ามือร้อนระอุและแดงก่ำ อุณหภูมิของอากาศรอบทิศขึ้นสูงอย่างรุนแรง!
ปัง!
แรงอันน่าเกรงขามฝ่ามือนี้ของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างใหญ่ยิ่งนัก เขามั่นใจในตัวเองอย่างมาก หมัดๆ นี้ เพียงพอต่อการกำจัดเฉินเป่ย!
ฝ่ามือสยบพยัคฆ์ ยังไงก็เทียบไม่ได้กับฝ่ามือดินม่วงของเขา!
“ปัง! ”
ทว่าหมัดของเฉินเป่ยกระทบกับฝ่ามือของเขา สีหน้าของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเปลี่ยนไปทันที
เสียงกระดูกหักดังขึ้นอย่างชัดเจน และตามมาด้วยมือของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างที่ไร้ความรู้สึก!
ความเจ็บปวดนี้ทำให้หน้าผากของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างมีหยาดเหงื่อผุดออกมา แล้วสายตามองไปยังเฉินเป่ยนั้นเคล้าด้วยความหวาดกลัวอย่างรุนแรง!
ในร้องคำรามของเสือนี้สะท้อนตรงกลางอากาศ ผ่านไปนานมากก็ยังไม่หายไป! หูโดนสะเทือนจนใกล้หนวก เสียงร้องคำรามของเสียอันเสียงดังนี้ส่งเข้าหูของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง ทำให้ข้างหูของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเกิดเสียงสั่นสะเทือน แก้วหูเหมือนจะถูกกระทบจนแตกไปแล้ว!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างมองเฉินเป่ย สีหน้าเลือดเย็นดั่งน้ำแข็ง……เขามองเฉินเป่ยแล้วเอ่ยถามช้าๆ “แกเป็นใครกันแน่? ”
“แค่บุคคลต่ำต้อยไร้ชื่อเสียงใต้หล้านี้” เฉินเป่ยตอบกลับอย่างเรียบเฉย
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างทำสีหน้าที่ยิ่งอยู่ยิ่งหนักใจ……คำพูดนี้ของเฉินเป่ย เขาจะเชื่อได้ยังไง! บุคคลต่ำต้อยไร้ชื่อเสียงใต้หล้า ทำไมถึงเป็นฝ่ามือสยบพยัคฆ์?!
อีกอย่าง ตรงหน้าที่เขานึกว่าเป็นมด……พลังฝ่ามือสยบพยัคฆ์นั้นมากกว่าเขาเป็นสิบเท่า! กำหมัดก็น่ากลัวเหลือเกิน เหมือนว่า นี่แหละถึงจะเป็นฝ่ามือสยบพยัคฆ์ของจริง!
“แกก็ออกมาจากอู่ตังหรอ? ” ภายในใจของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างระมัดระวังขึ้นมาทันที…….ฝ่ามือสยบพยัคฆ์ที่สามารถฝึกถึงขั้นนี้ นอกจากคือลูกศิษย์ของอู่ตัง ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างก็นึกไม่ออกถึงอย่างอื่นจริงๆ!
“อู่ตัง? ” เฉินเป่ยยิ้มจางๆ น้ำเสียงนักเลงมาก “อู่ตัง ยังไม่มีสิทธิ์ให้ฉันไปเป็นส่วนหนึ่งเลย”
“แก! ” ใบหน้าของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างจับตัวเป็นก้อน นัยน์ตาอันเลือดเย็นยิ่งอยู่ยิ่งกดขี่ เขากลับยิ้มอย่างโมโหสุดขีด “ทว่าก็แค่ฝ่ามือสยบพยัคฆ์ แกยังหยิ่งยโสขนาดนี้เลย! ”
“ไม่เพียงแต่เป็นฝ่ามือสยบพยัคฆ์ ในสายตาของฉัน แกเป็นมวยพวกนั้นของอู่ตัง ทั้งหมดเป็นหมัดเท้าปักบุปผา” เฉินเป่ยทำน้ำเสียงเรียบ กลับเป็นน้ำเสียงที่เย่อหยิ่งยิ่งนัก!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างทำสีหน้าที่เลือดเย็น นัยน์ตาทั้งสองข้างปกคลุมด้วยความหวาดกลัวและความอาฆาต!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่ายิ่งรู้สึกเครียดจนโมโห เพราะว่าก่อนหน้านี้ตอนเขาบอกอวี้ย้งเซวียน ก็คือเรียกเฉินเป่ยว่าหมักเท้าปักบุษบา
กลับนึกไม่ถึง นี่ก็ผ่านไปนานแล้ว คำๆ นี้กลับถูกเฉินเป่ยใช้ในการดูหมิ่นเขา
“เฉินเป่ย……วันนี้แก ไม่สามารถรอดชีวิตออกมาที่นี่เด็ดขาด! ” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างทำสีหน้าที่โหดเหี้ยมเลือดเย็น แล้วพูดเป็นคำๆ ซึ่งอาฆาตไร้ขีดสิ้นสุด
“งั้นฉันก็จะบอกแก หลังจากห้านาทีผ่านไป แกไม่มีทางรอดชีวิตออกไปได้แน่นอน” เฉินเป่ยสีหน้านิ่งเฉย เขาพูดกลับพูดคำข่มขู่ถึงความตายอย่างซึ่งๆ หน้า!
“เหอะ……” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างแค่นเสียงเหอะดังๆ สองขาขย่ำขึ้นอย่างแรง เหมือนระเบิดลูกหนึ่ง แล้วกำลังกระโดดขึ้นบนอย่างว่องไว
และเฉินเป่ย กำลังหรี่ตาลง แล้วเอาไฟแช็กมาจุดบุหรี่หนึ่งมวนอย่างสบายๆ แขกมากมายโผล่ศีรษะมามุมดู เฉินเป่ยใช้สายตาที่นักเลงมากกวาดมอง แล้วสบถหยาบขึ้น “ดูอะไร ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม? ”
แขกพวกนั้นภายในใจกำลังหวาดหวั่น พอถูกเฉินเป่ยตวาดใส่แบบนี้ จึงรีบดึงหัวกลับไปอย่างหวาดกลัว แล้วซุกซ่อนไว้ทันที
“มด ต้องตาย! ” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างพร่ำบ่นอย่างเลือดเย็นทันที กลางที่สูงของอากาศ เขาลงมาจากด้านบนมาด้านล่าง แล้วไปหาเฉินเป่ย เท้าข้างหนึ่งฝ่าอากาศ แล้วจู่โจมมาอย่างเลือดเย็น โอ่อ่าเหมือนสายรุ้ง!
เฉินเป่ยสูบบุหรี่หนึ่งคำอย่างแรง แล้วค่อยๆ ยกศีรษะ จากนั้นก็พ่นควันทั้งปากออกมา
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างจู่โจมมาที่ด้านบนถึงด้านล่าง และเฉินเป่ยกลับนิ่งเฉยอย่างมาก กระทั่งยังโบกแขนกันไว้
จนกว่าท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างห่างจากเขาแค่ห้าหกมิลลิเมตรเท่านั้น เฉินเป่ยจึงจะเอาแขนทั้งสองข้างตั้งฉากกันทันที ใบหน้านิ่งสงบ ปกคลุมด้วยน้ำแข็งชั้นบางๆ!
ปัง!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างจู่โจมลงมา ทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว และเศษหินก็กระจัดกระจาย!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างลงสู่พื้นเบาๆ แขกนับไม่ถ้วนต่างก็สอดแนมอย่างระมัดระวัง แล้วตบฝุ่นบนเสื้อคลุมยาว พลางมองไปท่ามกลางฝุ่นควัน สีหน้าดูนิ่งสงบมาก
เหมือน……ฝุ่นร่วงลงมา ผู้เฒ่าลึกลับท่านนี้ ความสามารถอันน่ากลัวของเขา หมัดๆ หนึ่งก็สามารถฆ่าผู้ชายคนนั้นแค่เพียงวินาทีเดียว?
แขกนับไม่ถ้วนทำสีหน้าขาวซีด ภายในใจสั่นสะเทือนอย่างแรง
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างมองฝุ่นควันไปสักพัก ก็ไม่เห็นอะไรปรากฏ จึงรู้สึกวางใจ แล้วหัวเราะเยาะ จากนั้นก็หันหลังจากไป
เขารู้ดีถึงพลังขาข้างนั้นของเขา……ต่อให้เป็นสัตว์ป่าที่แกร่งแค่ไหน พลังอันน่าเกรงขามและน่ากลัวของขาข้างนั้น ก็สามารถเอาชีวิตคนได้!
มดตัวนั้น ตายไปก็ดี เขายิ่งบ้าคลั่ง ก็ยิ่งตายอย่างน่าเวทนา
แม้กระทั่งท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างยังสามารถคาดการณ์ถึงวิธีการตายของเขา……นั่นคือวิธีที่ทุกข์ทรมานมาก แทบจะทำให้คนทนดูโดยตรงไม่ได้!
เรือนร่างของเฉินเป่ยแตกออกเหมือนดั่งกระเบื้องที่แตกเป็นชิ้นๆ ถูกพลังอันน่ากลัวทำให้กระทบจนแตก!
และนึกถึงความเย่อหยิ่งก่อนหน้าของเฉินเป่ย เป็นท่าทางที่นักเลงมาก ตอนนี้เขายังมีชีวิตไหม?
และตอนที่ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเพิ่งจะหันหลัง แล้วคิดจะเดินไปตรงประตูงานพนันพลอย จู่ๆ เขาก็ก้าวเท้าชะงักไป!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างทำหน้าเกร็ง แล้วดูสงสัยขึ้นมาทันที!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเรือนร่างสั่นเทา เรือนร่างที่แข็งกระด้างของเขาค่อยๆ หันไป แล้วมองไปยังรอบทิศที่มีฝุ่นควันฟุ้งกระจายไม่หยุด
“แค่กๆ …….”
เสียงกระแอมดังขึ้นท่ามกลางฝุ่นควัน เขามองเรือนร่างหนึ่งที่ซุกซ่อนไว้ และเหมือนจะถูกซ่อนและปรากฏท่ามกลางฝุ่นควัน กลับทำให้เขาขึงตาโต สีหน้าไม่น่าเชื่อ!
“ไม่……เป็นไปไม่ได้! ” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างหดม่านตาลงอย่างแรง สีหน้าดูตกตะลึง!