บทที่ 343 ไม่มีใครในสายตา!
ไม่เพียงแต่หลีเช่าเทียน อวี้ย้งเซวียนเห็นเย่เชี่ยนหรานสัมผัสเฉินเป่ย เฉินเป่ยพูดทฤษฎีออกมาอย่างเกินจริง แทบจะทำให้แขนทุกคนในงานพนันพลอย ก็เห็นหมดแล้ว!
แค่เวลาในสั้นๆ เฉินเป่ยก็โด่งดังขึ้นมา แขกยิ่งอยู่ก็ยิ่งรู้จักเฉินเป่ยมากขึ้น ผู้ชนะในการพนันตายเป็นในเขตพนันพรีเมียมที่หลายวันก่อน!
และไม่เพียงแต่แขกผู้มีเกียรติเหล่านั้น ในห้องชุดของโรงแรมแห่งหนึ่ง……มีชายคนฝั่งตะวันตกสไตล์ยุโรปมองเฉินเป่ยในทีวี แล้วยิ้มอย่างไม่พอใจ แล้วค่อยๆ คุยกับชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ “นี่คือคนหัวเซี่ย ทระนงตัว โอ้อวดครอบงำ ต้องมีสักวัน ความเย่อหยิ่งของเขาจะทำให้เขาตายโดยไม่มีที่ฝังศพ”
ชายหนุ่มพยักหน้า แล้วมองเฉินเป่ยในที่อยู่ในจอทีวี พร้อมกับแสยะยิ้ม เฉินเป่ยมีหน้าตาธรรมดา ทว่าบอกว่าธรรมดามาก กลับกล้าพูดคำพูดที่บ้าคลั่งแบบนี้ออกมา นี่มันมั่นใจในตัวเองเกินไปแล้ว ความมั่นใจในตัวหนึ่งคงไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว!
…….
เยี่ยนจิง ในตึกสูงแตะฟ้าแห่งหนึ่ง
จิงนั่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะกระจกที่ไฮเทคหนึ่ง บนโต๊ะกระจก กำลังฉายข่าวสารที่เกี่ยวกับการสัมภาษณ์เฉินเป่ย
จิงมองคลิปๆ นั้น สีหน้านิ่งเฉย เขาไม่พูดไม่จา นัยน์ตาลุ่มลึก เหมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว กว้างขวาง แล้วลุ่มลึก
สุภาษิตบอกว่า ดวงตาหน้าต่างจิตใจของมนุษย์……และทั้งเยี่ยนจิง หรือว่ายากที่จะหาเจอคนที่สามารถมองเขาทะลุปรุโปร่ง
แม้กระทั่งลูกน้องของจิงยังไม่เข้าใจจิง……ผู้ชายที่ลึกลับและปริศนานี้ ไม่มีใคร สามารถมองสีหน้าของเขา แล้วคาดเดาความคิดของเขา เพราะว่าคนที่เข้าใจเขา ก็สามารถบอกได้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!
บนโต๊ะกระจก เฉินเป่ยที่อยู่ในข่าว จิงดูจบด้วยสีหน้าที่ไม่สื่ออารมณ์ใดๆ แล้วก็ปิดคลิปวิดีโอลง
ผ่านไปได้ไม่นาน ประตูลิฟต์เปิดออก เลขาสาวคนหนึ่งที่มีเสน่ห์และมีรูปร่างที่เพอร์เฟค กำลังเดินบิดเอวเข้ามา
“จับตาดูให้ดี ถ้าได้ข่าวใหม่ที่เกี่ยวกับเขา ก็บอกฉันทันที” จิงพูดด้วยเสียงเรียบ น้ำเสียงผิวเผิน ทว่ากลับทำให้อากาศสั่นสะเทือน ทุกๆ คำพูดของเขา เหมือนกำลังออกคำสั่งอย่างไร้ข้อสงสัย
“ค่ะ” เลขาสาวคนนั้นตอบกลับ ภายในใจกำลังรู้สึกสงสัย เลขาสาวไม่เข้าใจ ก็แค่เขยแต่งเข้าตระกูลผู้หญิง กลับกลายเป็นที่จับตามองของผู้ใหญ่จิง เขามีความสามารถพิเศษอะไรกันแน่?
ผู้ชายแต่งเข้าบ้านผู้หญิงคนหนึ่ง เขาจะมีเสน่ห์อะไรขนาดนั้น และยังขึ้นข่าวหน้าหนึ่ง แล้วทำให้ผู้ใหญ่จิงติดตาม ถ้าเป็นคนธรรมดา กลัวว่าตายไปก็คงไม่มีอะไรน่าเสียดาย!
……..
และเฉินเป่ยไม่รู้ เขาได้ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งแล้ว เขายิ่งไม่รู้ เพราะว่าข่าวหน้าหนึ่งครั้งนี้ การวางหมากของเยี่ยนจิงกำลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างลับๆ
หลังจากเฉินเป่ยนั่งอยู่บนแท็กซี่คันหนึ่ง แท็กซี่กำลังพาเขาขับไปยังโรงแรม
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถแท็กซี่ค่อยๆ หยุดลงตรงประตูโรงแรม ประตูรถเปิดออก เฉินเป่ยอมบุหรี่ไว้ แล้วเดินจากด้านนอกเข้าไปด้านหน้าด้วยท่าทางที่ดูเป็นนักเลง
เฉินเป่ยเพิ่งจะกลับไปถึงหน้าประตูห้องของตัวเอง จู่ๆ ก็ชะงักฝีเท้าลง เขาเหลือบมองไป ก็เห็นซูเหลยยืนอยู่ตรงหน้าห้องของหลีชิงเยียน
“จุ๊ๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ” เฉินเป่ยสาวเท้าเดินไปหาซูเหลยอย่างช้าๆ
ซูเหลยเห็นเฉินเป่ยเดินเข้ามาใกล้ แล้วพูดขึ้น “ทางที่ดีนายไม่ต้องไป ท่านประธานหลีไม่อยากเจอนายในตอนนี้”
“ไม่อยากเจอฉัน? ” เฉินเป่ยนิ่งงัน แล้วไม่เข้าใจทำไมถึงเป็นแบบนี้ จึงพึมพำด้วยเสียงต่ำ “เสือตัวเมียคนนี้ ทำตัวเรื่อยเปื่อยอีกแล้ว ครั้งนี้อยากจะเล่นไม้ไหนอีก? ”
เฉินเป่ยนิ่งงันไป ตัวเองเพิ่งจะกลับมา หลีชิงเยียนเล่นแบบนี้กับตัวเอง ทำให้เฉินเป่ยตอบสนองไม่ทันจริงๆ!
และตอนที่เฉินเป่ยเอามือถือ แล้วส่งข้อความให้หลีชิงเยียน ก็ยิ่งตกตะลึง สามารถบอกได้ว่าตกใจจนตาค้างปากค้าง!
เพราะว่าหลีชิงเยียนกลับบล็อกเขา!
“แม่ง! กูไปทำอะไรเธอ! แม่งบล็อกฉันอีก! ” เฉินเป่ยอดทนไม่ได้ จึงสบถหยบขึ้นอย่างรุนแรง!
ซูเหลยที่อยู่ข้างๆ แล้วมองเฉินเป่ยด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาด คำพูดนี้ของเฉินเป่ยพูดออกมา……วันนี้เขา ทำผิดกับท่านประธานเทพธิดาไปไม่น้อย!
ตั้งแต่สายของซูเสี่ยวหยุน แล้วถึงเรื่องข่าว ซูเหลยนึกไม่ถึงว่าท่านประธานเทพธิดาจะโมโหมากขนาดนี้!
ยังไงตอนที่ซูเหลยโทรคุยกับท่านประธานเทพธิดา ต่อให้คั่นกลางด้วยมือถือ ซูเหลยก็ยังสัมผัสได้ถึงความโมโหจนฟ้าถล่มของท่านประธานเทพธิดา!
“นายกลับไป แล้วดูข่าวก็เข้าใจแล้ว” ตอนที่เฉินเป่ยกำลังเอาคีย์การ์ดและเตรียมตัวกลับห้องของตัวเองด้วยสีหน้าที่บูดบึ้ง จู่ๆ ซูเหลยก็พูดขึ้น
ดูข่าว?
ประตูห้องเปิดออก เฉินเป่ยเดินเข้าไปในห้อง หลังจากนั่งลงบนโซฟา แล้วเปิดทีวีดู
หลังจากที่เปิดทีวี เฉินเป่ยนิ่งงันไปทันที
เขาจับจ้องข่าวในจอทีวี ทั้งเรือนร่างเอ๋อไปหมด!
เขามองข่าวในทีวีด้วยความเหม่อลอย ตัวเองและเย่เชี่ยนหรานดูสนิทสนมกันขนาดนั้น จู่ๆ ก็ได้สติกลับมา……หน้าผากมีเหงื่อเย็นผุดออกมาอย่างแรง!
แม่ง นี่แม่งใครทำวะ นี่กลับส่งเข้าไปในเน็ต กลับยังเป็นข่าวหน้าหนึ่งอีก!
เฉินเป่ยสั่นไปทั้งตัว เขารู้สึกหวาดผัวมาก ไม่น่าล่ะหลีชิงเยียนถึงได้ไม่สนใจเขา หลีชิงเยียนต้องเห็นข่าวๆ นี้แน่นอน!
และตอนที่เฉินเป่ยเปิดมือถือ แล้วเห็นถึงคำซุบซิบพวกนั้น สองขาต่างก็สั่นเทา สีหน้าขาวซีดมาก!
แม่ง! ตัวเองกลับโชคร้ายแปดชั่วรุ่นอะไรขนาดนี้ กลับยังเจอกับเรื่องแบบนี้!
เฉินเป่ยกระวนกระวายไปสักพัก! จะให้ฝันก็ยังนึกไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น!
เฉินเป่ยสัมผัสได้ทันทีว่า การวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลพวกนั้น หลีชิงเยียนก็ยิ่งไม่กล้าตัวเองไปแน่นอน! เสียตัวผัวมีนิสัยไม่ดีอยู่แล้ว เธอในตอนนี้ ไม่แน่อาจจะหลบอยู่ในห้องชุดแล้วกำลังเหลามีดอยู่ก็ได้!
และคลิปๆ นี้ ส่วนมากเป็นแฟนคลับพวกนั้นของเย่เชี่ยนหรานทำขึ้น เย่เชี่ยนหรานต้องไม่พูดแบบนี้แน่นอน นี่สำหรับเธอแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไร ถึงแม้จะได้รับการนิยม ทว่าก็ทำให้เธอยืนอยู่ตรงจุดที่อันตราย ยังถือว่าไม่ใช่เรื่องดีอะไร อีกอย่างเธอก็ไม่มีทางทำให้คลิปวิดีโอนี้โด่งดังเร็วขนาดนี้อยู่แล้ว!
เฉินเป่ยอยากจะรีบโทรหาเย่เชี่ยนหราน แล้วบอกเธอ นี่เป็นเรื่องดีๆ ที่แฟนคลับของเธอทำออกมา ทำให้ทำร้ายเขามาก!
ทว่าตอนนี้เฉินเป่ยอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา นามบัตรนั้นที่เย่เชี่ยนหรานให้เขา ถูกท่านประธานเทพธิดาขอไปตั้งนานแล้ว และก็ทิ้งในถังขยะตั้งนานแล้วด้วย!
ตัวเองจะมีเบอร์ได้ยังไง!
เฉินเป่ยทำหน้าตึงเครียด แล้วแทบจะเป็นบ้าไปแล้ว!
ผ่านไปไม่นาน เฉินเป่ยถึงจะได้สติกลับมา จึงเอามือถือขึ้น แล้วโทรหาเบอร์ๆ หนึ่ง
ไม่นาน ทางฝั่งสาย ก็มีเสียงของชิงเหนียนที่คุ้นเคยและหยอกล้อนั้นดังขึ้น “ลูกพี่ ตอนนี้ถึงจะนึกได้ว่าจะมาผมหรอ? ”
“รีบระดมสื่อทุกช่องทาง ถ้าพี่สะใภ้ของแกไม่ยกโทษให้ฉัน คืนนี้ฉันจะมาห้องของนายแล้วฝึกฝนกับต่อสู้กับนายอย่างใกล้ชิด! ” เฉินเป่ยตวาดใส่ชิงเหนียนด้วยเสียงเข้ม
ชิงเหนียนอยู่ตรงนั้น แล้วได้ยินเฉินเป่ยพูดว่าฝึกฝนการต่อสู้อย่างใกล้ชิด” ทำให้ทั้งเรือนร่างของเขาสั่นเทา ในหัวสมอง จู่ๆ ก็มีฐานทัพที่เคยอยู่ผุดขึ้นมา ภาพที่เขาถูกเฉินเป่ยทรมานอย่างแสนสาหัส ทำให้เขาต้องพึมพำขึ้นมา “นอกจากใช้ของพวกนี้มาข่มขู่คนแล้ว นายก็คงไม่เป็นวิธีอื่นแล้ว”
ผ่านไปสักพัก ชิงเหนียนพูดขึ้น “บริษัทสื่อมวลพวกนั้นที่นายซื้อกิจการมาในตอนแรกเริ่มดำเนินการแล้ว ข่าวจะออกมาเดี๋ยวนี้ ผมยังติดตามบริษัทบันเทิงในเยี่ยนจิงอีกหลายเจ้า ผ่านไปไม่กี่วันก็คงจะถูกกลบลง……นายครับ นายไปปลอบโยนพี่สะใภ้ด้วยอย่างวางใจเถอะ”
“ตอนนี้พี่สะใภ้ของแกขังตัวเองอยู่ในห้องเล็กๆ ฉันไปรนหาที่ตายหรือไง” เฉินเป่ยเปรยขึ้น
“งั้นเรื่องนี้เลยจุดที่จะเข้าไปแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนได้อีกแล้วแหละ นายครับ พี่สะใภ้เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ทำให้นายตื้นตันใจจนถึงตอนนี้…….เธอเป็นศัตรูจากสวรรค์ของนายจริงๆ! ” ชิงเหนียนตั้งใจพูดอย่างผ่อนคลาย แล้วหัวเราะเสียงดัง
“นั่นเป็นภรรยาของฉัน แน่นอนว่าฉันต้องยอมเธอหน่อย…….กลับฐานทัพไปนายก็รอไว้เลย ฉันต้องให้นายฝึกฝนตำแหน่งทั้งหมดอย่างสุดขีดแน่นอน! ” เฉินเป่ยพูดด้วยเสียงเย็นชา ทำให้แผ่นหลังของชิงเหนียนรู้สึกเย็นเยียบ แล้วก็วางสายลงโดยที่ไม่ลังเลใดๆ
เฉินเป่ยนั่งอยู่บนโซฟา แล้วดูข่าวในทีวี ทันใดนั้นก็รู้สึกหมดอารมณ์ หลังจากที่ปิดทีวี ก็โทรหาเสือตัวเมียที่ตนเองเลี้ยงไว้แล้วโทรออก……ยังคงไม่มีใครรับสายเหมือนเดิม……หลีชิงเยียนได้บล็อกทุกช่องทางการติดต่อของเขาทั้งหมด!
เฉินเป่ยยิ้มอย่างประหม่า…..หลีชิงเยียน นี่กำลังหึงหรอ?
…….
เมืองหู้ไห่ ในบ้านวิลล่าของตระกูลตู้
บ้านที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ในห้องอาหารที่โอ่อ่าอลังการ มีคนวัยกลางคนยืนอยู่ตรงหน้าผนัง แล้วมองภาพวาดโบราณที่อยู่บนฝาผนัง นัยน์ตาลุ่มลึกโดนไม่เห็นก้นบึ้ง
“ตู้เย่วเซิง……ตอนนั้นเป็นบุคคลโด่งดังในเมืองหู้ไห่……ไม่มีเขา ตระกูลตู้ก็ไม่มีวันนี้”
และในตอนนี้ ด้านหลังวัยกลางคน มีเสียงอันลุ่มลึกหนึ่งดังขึ้น
ผู้ที่เป็นวัยกลางคนค่อยๆ หันไป ก็เห็นผู้เฒ่าชุดดำหนึ่งคน กำลังจับไม้เท้า แล้วค่อยๆ เดินมา
“สี่ตระกูลทอง ตามหลักแล้วก็ควรเป็นของตระกูลฉันกับคุณสองตระกูล อีกสองตระกูลมีชื่อเสียงและตัวตนที่ตายไปแล้ว…….คุณไม่รู้สึกว่าควรกลายเป็นสี่ตระกูลทองหรอ? ” ผู้เฒ่าชุดดำทำน้ำเสียงเลือดเย็น ทำให้คนฟังแล้วรู้สึกหดหู่และทรมาน
“ตระกูลจางช่างกล้าจริงๆ ” ชายวัยกลางคนหัวเราะเหอะๆ
“พวกเราแค่ทำตามเส้นทางของบรรพบุรุษ ทำตามเรื่องที่บรรพบุรุษเคยทำเท่านั้น คุณและฉันต่างก็รู้ อีกทั้งสองตระกูล ไม่รู้ความสามารถที่ซ่อนเร้นไว้ของพวกเราอย่างแท้จริง…….คุณและฉันร่วมแรงกัน แน่นอนว่าสามารถกลืนกินทั้งสองตระกูลนั้นอยู่แล้ว…….ถึงเวลา ทั้งหู้ไห่ ไม่ใช่ว่าถูกคุณและฉันควบคุมอยู่ในมือหรอ? ” ผู้เฒ่าชุดดำเผยยิ้มอย่างแปลกพิลึกออกมา
“หรือว่าคุณลืมไปแล้วหรอ เมืองหู้ไห่ ยังมีคนๆ หนึ่ง เขาถึงจะเป็นเจ้าของของเมืองๆ นี้” ชายวัยกลางคนพูดด้วยเสียงเรียบ
“เขา? ” ชายวัยกลางคนแสยะยิ้ม “เขาถือว่าเป็นตัวอะไร คุณรู้ดีแก่ใจที่สุด รอให้พวกเราสามารถครอบครองอำนาจของหู้ไห่ เขาจะทำอะไรพวกเราได้? แม้กระทั่งพวกเราควบคุมโอรสสวรรค์บัญชาการเจ้าผู้ครองแคว้น……เยี่ยนจิงก็คงทำอะไรพวกเราไม่ได้……ยังไงเมื่อวานคุณก็แปดเปื้อนเลือดในมือแล้ว จะหลบเลี่ยงก็คงหลบไม่ได้”
ชายวัยกลางคนได้ยินคำพูดของผู้เฒ่าชุดดำ ดวงตาจึงชะงักไปทันที บนเรือนร่างของเขา จู่ๆ ก็เผยความเคร่งขรึมออกมา!
นัยน์ตาของเขาเฉียบคม แล้วมองไปยังผู้เฒ่าชุดดำ น้ำเสียงเคร่งขรึม “คุณกำลังข่มขู่ฉัน?! ”
“ฉันไม่ได้ข่มขู่คุณ ฉันก็แค่อยากจะบอกคุณ พวกเรายืนอยู่บนเส้นเดียวกัน…….ตระกูลตู้และจางร่วมมือกัน พวกเราถึงจะเป็นฟ้าของหู้ไห่……ไม่งั้น เรื่องของพวกเราหากหลุดออกไป คุณรู้ไหมว่ามีผลที่มายังไง” ผู้เฒ่าเสื้อดำพูดอย่างช้าๆ
ชายวัยกลางคนพึมพำด้วยเสียงเรียบไปสักพัก แล้วเงยหน้ามองผู้เฒ่าชุดดำพลางพูด “งั้นก็ทำตามที่คุณบอก”
“แล้วคนของทีมดูแลความปลอดภัยในประเทศพวกนั้น คุณรู้สึกว่าจัดการยังไง? ” ชายวัยกลางคนมองไปยังผู้เฒ่าชุดดำ
“หัวหน้าคนนั้นรู้เยอะที่สุด ตักเตือนเขาก่อน ตีให้พิการ ที่เหลือก็ปล่อยไปเถอะ ตอนนี้ยังไม่สามารถทำให้เยี่ยนจิงต้องโมโห” ผู้เฒ่าชุดดำพูดด้วยเสียงนิ่งเฉย เหมือนบีบมดตายหนึ่งตัว ภายในใจไม่มีแม้แต่ความรู้สึกวิตกกังวลอะไรเลยสักนิด