บทที่ 39 ล้างจาน
วางข้าวลงตรงหน้าพิมพ์ลดา จิรฐาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรง ข้ามกับเธอ จากนั้นก็หยิบตะเกียบขึ้นมากินข้าว
ตอนบ่าย เขารีบไปเมือง ล. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จ จริงตลอดยังไม่ได้หยุดพักสักนิด ตอนเย็น ที่ทำการรัฐบาล ท้องถิ่นได้จัดเตรียมอาหารเย็น แต่เขาก็ยังยืนหยัดตาม สไตล์อุปนิสัยการทำงานของเขา ไม่เข้าร่วม เขาเพิ่งถูก ย้ายไปประจำยังเมือง เอส ต้องใส่ใจในทุกด้าน เมือง ล. เป็นเมืองในสังกัดระดับมณฑลของเมือง เอส เขาเป็นผู้ ร่วมดูแลงาน ในเวลาเดียวกัน จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่อาจ ทิ้งอะไรไว้เป็นหลักฐานให้ผู้คนข่มขู่ได้
หลังรับประทานอาหารเที่ยงแล้ว จนกระทั่งถึงขณะนี้เขา ถึงได้กินอีก จิรฐาหิวบ้างแล้วจริงๆ
พิมพ์ลดาเงยหน้าขึ้นมองดูเขาและพบว่าชายตรงหน้า คนนี้ แม้ว่าจะหิวโหยอีก แม้ว่าจะกินข้าวได้อย่างรวดเร็ว แต่ กลับยังคงรักษากาลเทศะและมารยาทในการรับประทาน อาหารได้เหมือนเดิม
สัมผัสได้ถึงแววตาที่เบื้องหน้า จิรฐาเงยหน้าขึ้นมา ประสานสายตาของพิมพ์ลดา เธอยิ้มอย่างอาย ๆ แล้วรีบกัม ลงไปรับประทานอาหารต่อ
จิรฐาหิวแล้วจริงๆ ข้าวหนึ่งชามกินได้เร็วมาก และไป เติมอีกชาม แต่พิมพ์ลดาในใจมัวแต่คิดเรื่องปัญหาที่พักสำหรับคืนนี้จึงกินข้าวราวกับนับเม็ด ครึ่งค่อนวันไม่เห็นเธอ กินไปมากสักเท่าไร
นั่น เรื่องนั้น ….” ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ต้องถามดู
ได้ยินคำพูด จิรฐามองเธอ “เกิดอะไรขึ้น?
“ที่นี่คุณมีเพียงหนึ่งห้องนอนเหรอ?” พิมพ์ลดาวาง ตะเกียบและชามลง ถามหน้าตาเอาจริงเอาจัง
จิรฐาพักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านสวนกลางเมืองเป็นหมู่บ้าน เกรดเอชั้นเลิศ เพียงแต่แรกเริ่มที่เขาเลือกที่นี่เป็นที่พัก อาศัย ก็ไม่คิดไตร่ตรองมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งจะใช้ที่นี่เป็น เรือนหอ ดังนั้นที่ซื้อไว้จึงเป็นอพาร์ทเมนท์ห้องเดียว
ดูเหมือนจะเข้าใจในความหมายของคำพูดพิมพ์ลดา เขาหัวเราะวางชามและตะเกียบลง ยื่นมือมาแตะบนมือน้อย ของพิมพ์ลดา พิมพ์ลดาอยากจะดึงมือกลับ เขาก็กุมไว้ให้ แน่นมากขึ้น
“พิมพ์ลดา” เขามองเธอและถามว่า “ตอนนี้เรามีความ สัมพันธ์เป็นอะไรกัน?”
“เป็น เป็น…สามีภรรยา” ลังเลสักพัก ในที่สุดเธอก็ตอบว่า สามีภรรยาคำนี้ออกมา
“ใช่ พวกเราได้เป็นสามีภรรยากันแล้ว สามีภรรยาก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เข้าใจมั้ย?” จิรฐามองตาเธอและถามอย่าง จริงจัง
งุนงงแล้วงุนงงเล่า พิมพ์ลดาพยักหน้า
ไม่ให้โอกาสเธอละสายตา จิรฐากล่าวต่อไปว่า “พิมพ์ ลดา สำหรับการแต่งงานของเรา ผมจริงจังนะ”
พิมพ์ลดามองดูเขา ทั้งไร้ความคิดทั้งไร้คำตอบอีกแล้ว
ภายหลังอีกนาน พิมพ์ลดาจึงพบเรื่องร้ายแรงโดย เฉพาะเรื่องหนึ่ง นั่นคือทุกครั้งเมื่อเธอต้องการกบฏต่อจิร ฐา เขาก็จะพูด อ้อมค้อมวกวนไปมา ต่อจากนั้นจะวนหัวข้อ เดิมของเธอ เวียนไปมาจนเธอไม่สามารถคิดเข้าใจความ เดิมที่สำคัญของตนเองอย่างชัดเจนว่าอยู่ที่ใดอีกต่อไป แล้วพิมพ์ลดาก็จะตกหลุมพรางติดอยู่ในคำพูดของเขาครั้ง แล้วครั้งเล่า กบฏล้มเหลวอีกครั้งและอีกครั้ง
หลังจากมื้อเย็น จิรฐาชิงตัดหน้าพิมพ์ลดาเก็บชาม ตะเกียบแล้ววางไว้ในอ่างน้ำ พับแขนเสื้อขึ้นไปล้าง
มองดูการกระทำและปฏิกิริยาอย่างต่อเนื่องเป็นชุดของ เขา ครึ่งค่อนวันพิมพ์ลดาไม่ได้โต้ตอบกลับใด ๆ ทั้งสิ้น
ดีร้ายอย่างใด จิรฐาก็เป็นชายหนุ่มอายุได้สามสิบสอง ไม่ใช่เด็กหนุ่มต้นๆยี่สิบแล้ว ความรู้เรื่องที่ว่าช่วงที่ผู้หญิงมี ประจำเดือนไม่อาจสัมผัสน้ำได้เรื่องนี้ เขาก็ยังมีบ้าง
เพียงแต่ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา เขาล้างจานน้อยมาก ๆ เมื่อ ต้องทำเรื่องนี้ ก็ไม่คล่องมือเลยจริง ๆ
คราวนี้เป็นตาของพิมพ์ลดาซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารด้าน นั้น เท้าคางมองดูเขา การเปลี่ยนสถานะเช่นนี้ ในที่สุด ผู้ยิ่งใหญ่ก็เข้าใจแล้วว่าเมื่อครู่ขณะที่พิมพ์ลดากำลังทำ อาหาร ตนเองได้จ้องมองเธอเขม็งตลอดเวลา เธอเกิด ความเครียดมากเพียงไร
ถอนหายใจแล้ว จิรฐาก็ล้างมือให้สะอาด จากนั้นหันหลัง เดินกลับไปที่โต๊ะอาหาร
พิมพ์ลดาเห็นเขาเดินเข้ามา ยังไม่ทันได้ตระหนักถึงสิ่ง ที่เกิดขึ้น ก็ถูกเขาจูงลุกขึ้นมา เดินเข้าห้องนอนไป
“คนดี คุณรออยู่ที่นี่ก่อน ถ้าเบื่อ คุณสามารถดูทีวีได้” ทั้ง ประโยคที่มีน้ำเสียงราวกับผู้ใหญ่สั่งให้เด็กรู้จักหาความ สนุกสนานด้วยตนเองไว้ จิรฐาก็ปิดประตูห้องนอนแล้ว