ตอนที่ 52 ไปราชการ
“แต่เมื่อคืนคุณก็นอนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นไม่ใช่หรือ?” แม้จะ รู้ว่าตนเองทำเช่นนี้ดูเหมือนไม่ถูกต้อง แต่พิมพ์ลดายังคิด พยายามที่จะบรรลุความมุ่งมั่นที่จะได้นอนคนเดียว
ได้ยินคำพูดของเธอ จิรฐายิ้ม ถามว่า “คุณไม่รู้จริงๆ หรือว่าผมนอนที่ไหนเมื่อคืน?”
คำพูดนี้หมายความว่าอะไร ในความมืด พิมพ์ลดา ลืมตาขึ้น มองไปที่วงหน้าอันหล่อเหลาซึ่งพอมีเค้าเห็นได้ อย่างคลุมเครือ “อืม?”
กอดเธอไว้แน่นขึ้นมาอีกหน่อย จิรฐาบอกว่า “คนดี นอน เถอะ ผมบอกแล้วว่าผมจะไม่บังคับคุณ รอจนกว่าคุณจะ พร้อม รับรองเด็ดขาดไม่กลับคำ” แล้วเขาก็หลับตาลง จูบ เบาๆบนหน้าผากของพิมพ์ลดา กอดเธอไว้หลับไป
ข้างกายได้ยินเสียงหายใจที่ดังมาอย่างสม่ำเสมอ ได้ กลิ่นครีมสบู่อาบน้ำอันหอมอ่อน ๆ หลังจากอาบน้ำแล้วบน กายของจิรฐา เดิมใจของพิมพ์ลดาที่ว้าวุ่น ไม่อยู่กับเนื้อกับ ตัวก็ค่อยๆสงบลง
นอนด้วยกัน ไม่ช้าก็เร็วเป็นเรื่องที่ต้องเผชิญ
ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าการใช้ความคิดก็ต้องใช้พลัง และในไม่ช้าความง่วงก็ได้ม้วนกลืนพิมพ์ลดาทั้งร่างอีกครั้ง เธอหลับสนิทไปในอ้อมแขนของจิรฐา ปราศจากความฝันทั้งคืน
รุ่งเช้า เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือของพิมพ์ ลดาดังขึ้น เธอหันไปคลำหาโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะหัวเตียง กดปิดสัญญาณเตือน แล้วปัญหาที่ใคร่ครวญไตร่ตรองก่อน หลับเมื่อคืนได้วาบเข้ามาในความคิดอันสะลืมสะลือ
เธอลืมตาทั้งคู่ขึ้นมาอย่างแรง เธอมองไปที่ด้านข้างของ ตนเอง และพบว่ามีเพียงตัวเองนอนอยู่คนเดียวบนเตียง ใหญ่
พิมพ์ลดาถอนหายใจเล็กน้อย เมื่อมองดูเตียงครึ่งหนึ่ง ที่ได้สูญเสียความอบอุ่นไปแล้ว จิรฐาไม่ได้อยู่แล้วก็ดี แบบ นี้เธอจะได้ตะขิดตะขวงน้อยลงบ้าง คิดแล้ว เธอก็ลุกขึ้นนั่ง และลงจากเตียงไปเปลี่ยนเสื้อผ้า วันนี้เป็นวันจันทร์ เธอ ต้องไปทำงานแล้ว
เปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้ว พิมพ์ลดากำลัง จะออกไป โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น
บนหน้าจอโทรศัพท์แจ้งเตือนเธอว่าเป็นสายของจิรฐาที่ โทรเข้ามา
“ตื่นขึ้นแล้วเหรอ?” เขาถาม
“อืมมม” พิมพ์ลดาตอบ ทางหนึ่งก็เปิดประตูตู้รองเท้า เอา รองเท้าส้นสูงของตนเองออกมาผลัดเปลี่ยน
“พิมพ์ลดา” จิรฐาเรียกชื่อเธอในโทรศัพท์แล้วบอกเธอ ว่า “ผมต้องไปราชการสองสามวัน อาจจะกลับมาในวันเสาร์ คุณอยู่คนเดียวที่บ้าน อย่าลืมกินข้าว กลางคืนต้องปิดประตู หน้าต่างให้ดีเวลานอนหลับ”
เมื่อได้ยินจิรฐาสั่งการ พิมพ์ลดากำลังจะผลักประตูออก
ไป
เขาไปราชการเหรอ? พาเธอมาที่นี่ รวดเดียว แต่ตนเอง กลับไปราชการแล้ว!
เมื่อคืนยังคิดไม่อยากนอนเตียงเดียวกันกับจิรฐาอยู่ชัด ๆ แต่เช้าตื่นมาเขาก็ไม่อยู่ ตอนนี้ยังโทรศัพท์กลับมาบอกอีก ว่าต้องไปราชการหลายวัน ใจของพิมพ์ลดาก็รู้สึกจุกไปบ้าง
เห็นสายโทรศัพท์ทางพิมพ์ลดาไม่ตอบสนองเป็นเวลา นาน จิรฐาไม่แน่ใจก็เรียกเธออีกครั้ง “พิมพ์ลดา ฟังอยู่หรือ เปล่า?”
“โอ๊ะ? โอ้โอ้ โอเคฉันรู้แล้ว!” คำพูดของเขา ในที่สุดก็ เรียกสติความคิดของพิมพ์ลดากลับคืนมา เธอหยิบกระเป๋า ขึ้นมา มือหนึ่งรับโทรศัพท์ อีกมือหนึ่งผลักประตูเปิดออกไป
วันนี้พอเข้าบริษัท พิมพ์ลดาก็รู้สึกว่าเพื่อนร่วมงานทั้ง หลายดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความสุขสดใสราวกับได้รับ สายลมในฤดูใบไม้ผลิ นั่งลงในที่นั่งของเธอเอง เธอกำลัง จะเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อดูโครงการแผนงาน ผู้ช่วยบุปผาก็ ถือถ้วยชาใบหนึ่งมาให้เธอ
“พิมพ์ลดา” จิรฐาเรียกชื่อเธอในโทรศัพท์แล้วบอกเธอ ว่า “ผมต้องไปราชการสองสามวัน อาจจะกลับมาในวันเสาร์ คุณอยู่คนเดียวที่บ้าน อย่าลืมกินข้าว กลางคืนต้องปิดประตู หน้าต่างให้ดีเวลานอนหลับ”
เมื่อได้ยินจิรฐาสั่งการ พิมพ์ลดากำลังจะผลักประตูออก
ไป
เขาไปราชการเหรอ? พาเธอมาที่นี่ รวดเดียว แต่ตนเอง กลับไปราชการแล้ว!
เมื่อคืนยังคิดไม่อยากนอนเตียงเดียวกันกับจิรฐาอยู่ชัด ๆ แต่เช้าตื่นมาเขาก็ไม่อยู่ ตอนนี้ยังโทรศัพท์กลับมาบอกอีก ว่าต้องไปราชการหลายวัน ใจของพิมพ์ลดาก็รู้สึกจุกไปบ้าง
เห็นสายโทรศัพท์ทางพิมพ์ลดาไม่ตอบสนองเป็นเวลา นาน จิรฐาไม่แน่ใจก็เรียกเธออีกครั้ง “พิมพ์ลดา ฟังอยู่หรือ เปล่า?”
“โอ๊ะ? โอ้โอ้ โอเคฉันรู้แล้ว!” คำพูดของเขา ในที่สุดก็ เรียกสติความคิดของพิมพ์ลดากลับคืนมา เธอหยิบกระเป๋า ขึ้นมา มือหนึ่งรับโทรศัพท์ อีกมือหนึ่งผลักประตูเปิดออกไป
วันนี้พอเข้าบริษัท พิมพ์ลดาก็รู้สึกว่าเพื่อนร่วมงานทั้ง หลายดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความสุขสดใสราวกับได้รับ สายลมในฤดูใบไม้ผลิ นั่งลงในที่นั่งของเธอเอง เธอกำลัง จะเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อดูโครงการแผนงาน ผู้ช่วยบุปผาก็ ถือถ้วยชาใบหนึ่งมาให้เธอ