แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 617 สมาคมบู๊โดนทำลาย
เฉินเป่ยเองไม่คิดปฏิเสธ เลยบีบนวดขาคู่งามของเธอแผ่วเบา
บางทีเจิงซือโก้เดินมาจนเหนื่อยแล้วจริงๆ พอขางามโดนเฉินเป่ยนวดสักพัก เลยสบายขึ้นมาก ความปวดเมื่อยที่เท้าเริ่มทุเลาลง เลือดลมของเท้าเริ่มไหลเวียนสะดวกขึ้น
เจิงซือโก้นั่งเอนพิงที่นั่ง ดวงตางามปิดลง รับรู้ความรู้สึกสบายที่เท้า และมีความสุขกับการนวดเท้าพิเศษนี่
ถ้าดูจากฝีมือการนวด…เฉินเป่ยเป็นระดับท็อปจริงๆ จุดชีพจรทั้งหมดในร่างกายมนุษย์ นวดร่างกายคนยังไง จะสามารถทำให้เลือดลมเดินสะดวก ลดความแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อ ทั้งหมดนี้…เฉินเป่ยรู้ดี ไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ เขาตายในสนามรบไปนานแล้ว
ไม่รู้ไม่เข้าใจ เจิงซือโก้รู้สึกแต่เลือดลมทั่วร่างไหลเวียนสะดวก ขาเริ่มอุ่นขึ้น ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านมาทำให้เธออดครางเสียงแผ่วเบาออกมาไม่ได้
เฉินเป่ยได้ยินเสียงเธอคราง รู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นหลายเท่า
เหมือนรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ เจิงซือโก้หน้าแดงเรื่อ เธอขัดขืนเบาๆ หวังดึงขางามกลับมา
เฉินเป่ยกลับกดเธอไว้ ไม่ยอมให้ดึงขากลับ
“อย่าขยับ ฉันนวดให้เธออยู่นะ” เฉินเป่ยจ้องเธอเขม็ง สองมือออกแรงกด ถือโอกาสแต๊ะอั๋งไปในตัว
“ไม่ต้องนวดแล้ว…ขาไม่เมื่อยแล้ว “เจิงซือโก้พูดด้วยใบหน้าแดงเรื่อ
เจิงซือโก้ในตอนนี้ไม่รู้ทำไม เริ่มใจเต้นแรง ต่อให้หัวหน้ารักใคร่หลานสาวอย่างเธอแค่ไหน ดูแลปกป้องเธอรอบด้าน แต่เธอที่มีนิสัยซุกซนก็ยังอาศัยจังหวะหัวหน้าออกปฏิบัติภารกิจแอบหนีออกมาอยู่เนืองๆ ไปคลุกคลีในผับ ไม่รู้ทำการจ้ำจี้กับผู้ชายไปมากแค่ไหน แต่ยังไม่ทำให้เธอใจเต้นแรงเท่าตอนนี้เลย
เฉินเป่ยกลับไม่ยอม ยังคงนวดเท้าเธออย่างอ่อนโยน
“เฉินเป่ย ฉันพบว่า…นายไม่ค่อยเหมือนก่อนเลยนะ?” เจิงซือโก้พูดเสียงเบา
“หือ? ไม่เหมือนยังไงล่ะ?” เฉินเป่ยถามยิ้มๆ มีแววล้อเลียนเล็กๆ
เจิงซือโก้พูดเสียงเบามาก เหมือนเก้อเขินที่จะพูด “ทุกครั้ง ฉันพบว่า นายชอบจ้องขาของฉัน…”
เฉินเป่ยยิ้มมุมปากลึกขึ้น มีแววล้อเล่น เขาขยับเข้าใกล้ด้านหน้าเจิงซูเหลยเบาๆ พูดเสียงอ่อนว่า “ใช่ไง เพราะเธอสวยมากไง…” เฉินเป่ยพูดขณะกวาดสายตามองขาเธออีกครั้ง…ขาวเรียบลื่น ประหนึ่งผลงานประติมากรรม
ชิ้ง! ตอนนี้เจิงซือโก้หน้าแดงก่ำ เธอรีบหดขาตัวเองกลับมา มองเขาอย่างระแวง
เฉินเป่ยเกาหัวตัวเอง เริ่มพูดไม่ออกละ “ทำไมต้องระแวงขนาดนั้น? ฉันไม่ใช่คนเลวซักหน่อย…”
“เหอะ ยังไงซะนายก็ไม่ดีหรอก ลามก!” เจิงซือโก้มองค้อนเฉินเป่ย ยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ ข่มขู่ว่า “เฉินเป่ย ต่อไปถ้านายกล้าไม่เคารพฉันอีก ฉันจะพูดเรื่องนายในวันนี้ออกไป!”
เฉินเป่ยยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ “นี่เธอข่มขู่ฉันอยู่หรอ? ผลลัพธ์ของการข่มขู่ฉันมันหนักมากนะ…”
“หนักแค่ไหน?” เจิงซือโก้มองกลับอย่างท้าทาย เหมือนไม่แคร์การข่มขู่ของเขา
เฉินเป่ยยิ้มมุมปากลึกขึ้น เขามองเจิงซือโก้อย่างมีนัยยะ แววตาทอประกายแสง ไม่รู้ว่ากำลังครุ่นคิดอะไร ทันใดนั้นจู่ๆเขาก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบปากเจิงซือโก้เอาดื้อๆ!
“อุ๊…” เจิงซือโก้บื้อไปเลย! เธอเผลอนิดเดียว โดนเขาลอบกัดซะแล้ว!
เจิงซือโก้เริ่มโมโห ออกมือเท้าสุดฤทธิ์ พยายามผลักเฉินเป่ยออกไป!
“นาย! เหอะ! ฉันจะบอกประธานสาวสวยของนาย ว่านายชอบขา… !” เจิงซือโก้หน้าตูมด้วยความโกรธ เหมือนกำลังโกรธมาก
เฉินเป่ยแลบลิ้นเลียริมฝีปากแบบมีนัยยะ เหมือนกำลังพูดล้อเลียนว่า “อีกรอบไหม?” ระหว่างพูดเขาก็ยื่นหน้าเข้ามาอีก
“ไปเลย! ฝันไปเถอะ!” คราวนี้เจิงซือโก้ลนลานแล้ว มือเท้าใช้หมด หวังผลักตัวเฉินเป่ยออกไป!
แต่เฉินเป่ยกลับใช้แรงกดมากขึ้น!
เจิงซือโก้เอาขางามยันหน้าอกเขาไว้ หวังจะเบรคเขาไว้!
“อย่าเล่นเลย..ฉันผิดไปแล้ว…พี่เฉินเป่ยฉันผิดไปแล้วค่ะ..” วินาทีนี้เจิงซือโก้ลนลานแล้วจริงๆ รีบขอร้องอ้อนวอนทันที
แต่เฉินเป่ยไม่คิดให้โอกาสเธอหนีเลย กลับยิ่งกดหนักขึ้น!
เจิงซือโก้สติหลุดแล้ว โดนเฉินเป่ยทับกดไว้…ตอนนี้เธอได้แต่ใช้ขามากันเฉินเป่ยไว้…เพราะมือเธอโดนเขากันไว้แล้ว ขยับไม่ได้เลย
หลายนาทีผ่านไป
“อ๊า…ตาลามก…ไม่นะ…” เจิงซือโก้ลนลาน พยายามหาทางหนี…
แต่ยิ่งเธอหนี ก็ยิ่งทำให้เฉินเป่ยสนุก…เขากดทับหนักขึ้น…แรงของอสูรกายน่ะไม่มีที่สิ้นสุดหรอก…โดนเฉพาะตอนที่กำลังแสดงพลังน่ะ!
เจิงซือโก้ลนลานสติหลุดแล้ว ยังคงพยายามผลักดัน…วินาทีนี้เธอเหมือนลูกแกะตัวน้อย…เป็นลูกแกะที่หลังจากล้อเลียนอสูรร้าย จากนั้นก็โดนอสูรกายโถมตัวเข้ามาหวังกินหมด…
เฉินเป่ยโน้มตัวมาข้างหน้าเธออีก และกดตัวเธอไว้บนที่นั่ง…อสูรกายออจากฌานแล้ว ลูกแกะน้อยทำได้แค่ดิ้นรน…ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นลูกแกะเกรดท็อปที่สวยงามอย่างเจิงซือโก้อีก!
ในตอนนี้ ทั้งคู่แทบจะแนบติดกัน…หน้าผากของเฉินเป่ยแนบติดหัวเธอ จนรู้สึกถึงลมหายใจแผ่วเบาของเธอ ช่างดูงดงามมาก
“ให้ฉันจูบทีหนึ่ง โอเคไหม?” น้ำเสียงเฉินเป่ยเหมือนมีเวทมนต์ ทำให้ไร้เรี่ยวแรงขัดขืน
เจิงซือโก้หน้าแดงเรื่อร้อนรน “ไม่โอ…อุ๊…” เธอยังพูดไม่ทันจบ ก็โดนเฉินเป่ยจูบปิดปาก ดวงตางามเธอเบิกกว้าง แม้แต่โอกาสขัดขืนยังไม่มี…
ไม่นาน ร่างเจิงซือโก้ค่อยๆตัวอ่อนยวบ…เธอปิดตาลงเบาๆ…
ความเงียบในความมีด ภายในรถแข่ง แม้แต่อากาศก็เริ่มอุ่นร้อนขึ้นมา ประหนึ่งทุกอย่างกลายเป็นความอ่อนโยน…
ครึ่งชม.ผ่านไป ทั้งสองถึงแยกจากกัน
เจิงซือโก้หอบหายใจ เธอหยิบเซเว่นอัพออกมาหนึ่งกระป๋อง เทกรอกปากไปหลายคำ…เธอในตอนนี้คอแห้งมาก…อยากดื่มน้ำอย่างเดียว…
เฉินเป่ยในตอนนี้ก็เริ่มคอแห้งเหมือนกัน เขายืนหน้าเข้าหาเธอ ไม่สนการขัดขืนดิ้นรนของเธอ และจูบปิดปากเธออีก…
“อุ๊…อย่าเล่นอีกเลย…พี่เฉินเป่ย..ฉันผิดไปแล้ว…” เจิงซือโก้ไร้เรี่ยวแรงขัดขืนเลย เธอพยายามดิ้นรนอ้อนวอน…
เฉินเป่ยกลับไม่ให้โอกาสเธอเลย…ทำตัวราวหมาป่ากระหายหิว ลูกแกะกำลังโดนกิน…เกิดการพัวพันวนเวียนในความมืดอันเงียบสงบแบบนี้…
เจิงซือโก้พยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายผลักเขาออกสุดแรง และใช้เสียงแผ่วเบาขอร้องว่า “อย่าจูบอีกเลย…” เสียงเธอมีแววขอร้อง..ในที่สุดเฉินเป่ยก็ยอมคลายแรงออก
“ให้ฉันนวดให้เธอต่อละกัน” เฉินเป่ยพูด และยกเท้าเธอขึ้นมานวดต่อ
เจิงซือโก้นั่งขัดสมาธิ…ตอนแรกยังแข็งเกร็งอยู่…หลายนาทีผ่านไป เธอก็เริ่มผ่อนคลายลง…
ดวงตางามจับจ้องไปที่เฉินเป่ย จากนั้นก็ยิ้มบางๆออกมา เหมือนมีแววล้อเลียน “ตาบ้า…”
ผู้ชายทั้งแท่งอย่างเฉินเป่ยโดนเธอล้อเลียนแบบนี้ ไม่ระเบิดก็แปลกแล้ว!
เขาจับจ้องสายตาไปที่เจิงซือโก้ พูดเบาๆว่า “ปีศาจน้อย ฉันเตือนก่อนนะว่าอย่ายั่วฉัน…ไม่งั้นฉันจะกินเธอแน่”
เจิงซือโก้กระพริบตาปริบๆ ถามต่อ “นายคิดว่า..ขาฉันส่วย? หรือเท้าฉันสวย?”
เฉินเป่ยมองขาคู่งามของเธออัตโนมัติ…มันโดนห่อหุ้มด้วยกางเกงรัดๆ แสดงสรีระที่เย้ายวนสวยงาม…เหมือนกับเป็นประติมากรรมที่เพอร์เฟคส์ที่สุดของโลก…
“ฉันคิดว่า ทั้งขาและเท้าเธอสวยหมด” เฉินเป่ยตอบเสียงพร่า
เจิงซือโก้ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ จากนั้นก็หดขากลับเข้ามา
“ขอบคุณที่ชมนะ ไม่เคยมีใครชอบเท้าฉันขนาดนี้มาก่อนเลย…นายเป็นคนแรก…” เธอยิ้มหวาน เหมือนจะมีแววภูมิใจหน่อยๆ ผู้หญิงทุกคน เวลาโดนผู้ชายชอบอวัยวะหนึ่งในรูปร่างของเธอขนาดนี้ เธอจะรู้สึกภูมิใจมาก แสดงว่าร่างกายมีเสน่ห์ สามารถดึงดูดผู้ชายได้!
“แต่ว่า…วันนี้พิเศษ ตาบ้า…ต่อไป…ฉันจะไม่มีทางยอมให้นายเล่นขาฉันแล้ว…เหอะ!” เจิงซือโก้ตอนนี้เหมือนเป็นราชินี หันกลับไปอย่างเย่อหยิ่ง
เฉินเป่ยยังคงจับจ้องขาของเธอ…เจิงซือโก้ระแวง เธอใส่รองเท้าทันที เพื่อเป็นการปิดกั้นดวงตาลามกของเฉินเป่ย
เฉินเป่ยยิ้มบาง…ผู้หญิงที่น่าสนใจ… เมื่อกี้ความร้อนรุ่มของตนโดนเธอปลุกขึ้นมาแล้ว แต่ในเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มเธอกลับหงอขึ้นมาซะงั้น… ทำให้เขาแทบบาดเจ็บภายใน
ตอนนี้ทั้งคู่เดินช้อปกันเหนื่อยแล้ว…เจิงซือโก้ก็กินอะไรไปมากมาย จนอิ่มมาก ทั้งคู่ตัดสินใจจบการเดินวันนี้ เฉินเป่ยขับรถ พาเธอส่งกลับไป…
ระหว่างทาง ความมืดสาดส่อง ภายใต้ท้องฟ้ากระจ่างดาว แสงดาวส่องแสงระยิบระยับ ดวงจันทร์ครึ่งดวงสาดส่องกลางฟ้า…ดูสวยมาก
เจิงซือโก้เปิดกระจกซันรูฟของรถแข่งออก รับรู้ถึงแสงดาวที่สาดส่องเหนือศีรษะ…ในเวลานี้ มุมปากเธอยกขึ้นเบาๆ เธอยิ้มสวยมาก สวยราวนางฟ้านางสวรรค์ ทำให้คนไหวหวั่นไม่น้อย…
ต่อมา เธอเลยยืนบนที่นั่งข้างคนขับ ยื่นครึ่งร้างออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อรับรู้ลมเย็นเหนือรถนั่น มองดูดาวสกาวเหนือศีรษะ…วินาทีนี้ ความวุ่นวายใจทั้งหมดของเธอ…โดนโยนทิ้งไปหมดแล้ว…
รถแข่งค่อยๆขับไปถึงบ้านเจิง เจิงซือโก้นั่งบนที่นั่ง ดูเงียบนิ่ง เธอเหมือนมีอะไรอยากพูด…แต่กลับไม่รู้จะพูดยังไงดี
หลังจากเงียบอยู่นาน เจิงซือโก้ถึงค่อยๆพูดขึ้นว่า “เฉินเป่ย…เรื่องวันนี้…คิดซะว่าเข้าใจผิดละกัน…พวกเรา..ต่อไปพวกเราไม่ทำแบบนั้นแล้วนะ”
เฉินเป่ยได้ยินอย่างนั้นก็อึ้งไปเล็กน้อย ในใจอดเสียใจไม่ได้…เข้าใจผิดหรอ?
เฉินเป่ยสีหน้าเรียบเฉย พยักหน้าเบาๆ
เจิงซือโก้สีหน้าสับสน “คือว่า…หวังว่านายจะไม่คิดมาก…เพราะว่า…ระหว่างฉันกับนายมันเป็นไปไม่ได้หรอก…” พูดจบ เธอเปิดประตูรถอย่างรวดเร็ว และจากไปแบบไม่หันกลับมาเลย…
มองตามร่างงามของเธอไป สายตาเฉินเป่ยค่อยๆหม่นหมองลง…บางที ผู้หญิงที่มีเสน่ห์ดึงดูดราวนางฟ้านี่…คงมีคนที่ดีกว่ารออยู่มั้ง…ผู้ชายคนนั้นไม่มีทางเป็นตัวเขาแน่…
….
คืนหนึ่งผ่านไป เช้าวันใหม่มาแล้ว เมฆขาวค่อยๆลอยขึ้นมาทางเส้นขอบฟ้า
เวลานี้ รถหลายคันกำลังแล่นมาที่สมาคมบู๊ของเมืองหู้ไห่ด้วยความเร็วสูง…
ในสมาคมบู๊ เซี่ยถิงถิงนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ค่อยๆแต่งหน้า ผมยาวเลยบ่า เธอที่ปกติจะใส่ชุดของสมาคมบู๊ วันนี้กลับใส่กระโปรงที่ค่อนข้างทันสมัย
เธอในวันนี้ กำลังจะไปเดทกับผู้ชายคนหนึ่ง…บางทีอาจจะไม่ถือเป็นเดท..เพียงแค่ทานข้าว เดินเล่นด้วยกันสองคนเท่านั้น..จากนั้นดูหนังช็อปปิ้ง แค่นี้เอง…เซี่ยถิงถิงคิดแค่นี้เอง…
ในเวลาเดียวกัน หน้าประตูสมาคมบู๊ที่เดิมเงียบ เสียงเบรกรถแสบแก้วหูก็ดังขึ้น
รถหลายคันเบรกเอี๊ยดที่หน้าประตูสมาคมบู๊ และปิดประตูหน้าของสมาคมซะสนิท!
ชายหนุ่มมากมายท่าทางหยิ่งผยองลงจากรถ พุ่งเข้ามาในสมาคมบู๊!
ศิษย์สมาคมคนหนึ่งกำลังกวาดพื้นที่หน้าประตู พอเห็นกลุ่มคนที่พุ่งเข้ามา…สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เข้าไปถามว่า “นี่ พวกนายเป็นใครน่ะ? มีอะไรหรอ?”
ผู้ชายพวกนั้นไม่พูดพล่ามทำเพลง จัดการล็อคตัวและชกหมัดเข้าหาศิษย์คนนั้นทันที!
“อุ๊!” ศิษย์คนนั้นโดนชนกระเด็น เลือดสาดกระเซ็น!
คนพวกนี้ท่าทีกร่างมาก พุ่งเข้ามาและเตะประตูหน้าของสมาคมกระเด็นไปเลย!
มีคนหนึ่งในนั้นไม่พูดพล่ามทำเพลง กระโดดสูงขึ้นเตะป้าย ‘สมาคมบู๊หู้ไห่’ ซะแตกเป็นเสี่ยงๆ หล่นลงพื้น!
ภายในสมาคมบู๊ ศิษย์ทั้งหมดสีหน้าเปลี่ยนสีทันที!
“พวกแกเป็นใครน่ะ? ! มาสมาคมของเราทำไม! !” บรรดาศิษย์โกรธจัด!
คนพวกนั้นสีหน้าเย็นชาเย่อหยิ่ง ปรายตามองทุกคนอย่างเย็นชา
“บ้านเซียวแห่งหรงเฉิง! วันนี้มาสมาคมบู๊หู้ไห่เพื่อ…ทลายสำนัก!” คำพูดง่ายๆคำเดียว เย่อหยิ่งกร่างซะไม่มี รังสีอำมหิตพุ่งสูง! ศิษย์สมาคมบู๊ทั้งหมดสีหน้าเปลี่ยนสีตามๆกัน!
“ซัดมันเลย!” ชายหนุ่มคนหนึ่งตะโกนเสียงดังขึ้น!
ชิ้ง! คนตระกูลเซียวพากันลงมือ! ฝีมือเร็วปานสายฟ้าแลบ! ทำลายข้าวของของสมาคมบู๊ไปทั่วอย่างบ้าคลั่ง! !
นี่เป็นคนหนุ่มไฟแรงตระกูลเซียวจำนวนหนึ่ง! มีวิชาลับอายุร้อยปีของตระกูลเซียว ฝีมือเยี่ยมไร้คู่ต่อสู้!
คนหนุ่มตระกูลเซียวสิบกว่าคนแสดงวิชาฆ่าฟันล้างบางไม่เลือกหน้า!
ภายในสมาคมบู๊หู้ไห่ ศิษย์ทั้งหลายแทบจะไม่ใช่คู่ต่อสู้เลย! แค่เพียงเข้าใกล้…ก็โดนรังสีอำมหิตของอีกฝ่ายสะท้ายลอยไปแล้ว!
เลือดสดสาดกระเซ็นในอากาศ สภาพน่าอนาถมาก!
เซียวเข้อเซิงสองมือไขว้หลัง ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าหยิ่งผยอง ประหนึ่งกระบี่ยาวเล่มหนึ่ง เขาไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยซ้ำ แค่มดตัวเล็กๆพวกนี้ ต้องให้เขาลงมือเองด้วยหรอ? เขาเป็นยอดฝีมืออัจฉริยะของตระกูลเซียว ไร้คู่ต่อสู้ในรุ่นเดียวกันเหมือนพี่ชายเขาเซียวจ้าน ชาตินี้เขาเกิดมาเพื่อวิทยายุทธระดับท็อปเท่านั้น!
ภายในสมาคมบู๊ ภายในห้อง เซี่ยถิงถิงที่กำลังนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งได้ยินเสียงอีกทึกครึกโครมจากด้านนอก…ใบหน้างามออกแววตื่นเต้น…รีบวางปากกาเขียนคิ้วลง และพุ่งออกจากห้อง…
สภาพโรงฝึกแย่เละเทะมาก! คนตระกูลเซียวลงมือร้ายกาจ หมัดเดียวสะท้านศิษย์ลอยกระเด็นเลย เลือดสดพุ่ง! แต่คนตระกูลเซียวกลับยังไม่ยอมวางมือ…ยังกดเท้าเหยียบแขนศิษย์คนนั้นอย่างแรงอีก ทำให้กระดูกแขนหักทันที สภาพน่าอนาถมาก!
วันนี้ พวกเขามาร้ายเต็มขั้น! วิทยายุทธตระกูลเซียวสะท้านเลือดพล่านจริงๆ!
“หยุดนะ! พวกนายเป็นใครน่ะ? ทำไมมาหาเรื่องสมาคมบู๊แห่งหู้ไห่ของเรา? !” เซี่ยถิงถิงใบหน้าเย็นชา ร่างอรชรออกมายืนจังก้าตะคอกดัง
เซียวเข้อเซิงปรายตามองเซี่ยถิงถิงอย่างเย็นชา…จากนั้นสายตาเขาก็ไม่ละไปไหนอีกเลย!
“ไม่คิดว่า ในที่เล็กๆแคบๆเท่ารูมดนี่ จะมีสาวงามระดับนี้อยู่” มุมปากเซียวเข้อเซิงเลิกขึ้นด้วยแววเจ้าเล่ห์
เซี่ยถิงถิงหน้าขมึงทึง เน้นถามว่า “ทำไมมาหาเรื่องสมาคมบู๊ของเรา? !”
สีหน้าเซียวเข้อเซิงเย็นชาเย่อหยิ่ง ตะคอกกลับด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “วันนี้แวะมา เพื่อทลายสมาคมบู๊หู้ไห่ของเธอให้ราบเป็นหน้ากลอง มาทำลายวิทยายุทธของหู้ไห่ เพื่อแสดงอานุภาพความยิ่งใหญ่ของตระกูลเซียวเรา!” น้ำเสียงเขาเต็มไปด้วยประกายอำมหิต จนอากาศยังสะท้าน! !
มีกลิ่นไอเย็นเยียบรังสีอาฆาจกลางอากาศขึ้นมา!
สภาพน่าอนาถในที่นี้ ศิษย์หู้ไห่กลุ่มหนึ่งชะงักพลางถอยหนี…ศิษย์กว่าครึ่งโดนทำร้ายนอนกลิ้งบนพื้น..เลือดสดไหลริน…นี่มันลงมือหนักมาก!
เซียวเข้อเซิงพูดอย่างไม่แคร์ด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง “สมาคมบู๊หู้ไห่…ก็อีแค่นี้เอง…แค่มดตัวเล็กๆกลุ่มหนึ่งเท่านั้น…”
“รีบออกมารับความตายจากฉันกันได้แล้ว!” เซียวเข้อเซิงตะคอกเสียงดัง พื้นใต้ฝ่าเท้าแตกแยกเป็นเสี่ยง! เห็นถึงความน่ากลัวของพลังเขาได้ดี!
ศิษย์ที่ยังดีอยู่สีหน้าซีดเผือด! วินาทีนี้พวกเขาเหมือนกำลังเผชิญหน้ายมทูตก็ไม่ปาน… ! อาศัยแค่ฝีมือพวกเขา…ไม่มีทางเอาชนะได้เลย…
เซี่ยถิงถิงสีหน้าซีดเผือด พูดเสียงเย็นว่า “ถ้าจะมาท้าประลองสมาคมบู๊…ต้องส่งสาสน์ท้าสู้มาก่อนล่วงหน้า…วันนี้พวกนายไม่ได้มาท้าสู้อย่างถูกต้องตามกฎ…ผิดกฎสมาคมบู๊ของโลก แถมยังลงมือหนักขนาดนี้…ต้องการอะไรกันแน่?
พอได้ยินคำนี้ เซียวเข้อเซิงหัวเราะออกมา แถมยังหัวเราะอย่างบ้าคลั่งอีก
“ตระกูลเซียวของเราจะทำอะไร เคยแคร์กฎทีไหนกัน?” คำพูดนี้เย่อหยิ่งจองหองที่สุด ทำให้คนไม่กล้าแม้แต่จะต่อต้าน!
เซียวเข้อเซิงกลับชี้นิ้วมาที่เซี่ยถิงถิงดื้อๆ พูดอย่างโอหังว่า “ยังมีเธอ หน้าตาสะสวยแบบนี้ วันนี้ฉันต้องการเธอ! อีกเดี๋ยวเธอต้องไปกับฉัน!”
ชิ้ง! พอได้ยินแบบนี้ สีหน้าเซี่ยถิงถิงซีดเผือดฉับพลัน “นาย… !”
“บังอาจนัก! สมาคมบู๊หู้ไห่ของเรามีหรือจะยอมให้แกมาหยามกันแบบนี้! ศิษย์พี่เองก็ไม่อาจยอมให้คนอย่างแกมาหลู่เกียรติได้หรอก!” ศิษย์สมาคมบู๊คนหนึ่งโกรธจัด ยกหมัดชกเข้ามา จะเอาชีวิตเซียวเข้อเซิง!
“เสี่ยงติง ไม่นะ…กลับมา…” เซี่ยถิงถิงสีหน้าซีดเผือด ลางสังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้นมา รีบร้องห้าม แต่ไม่ทันแล้ว…
วินาทีที่ศิษย์คนนั้นพุ่งเข้าไป..เซียวเข้อเซิงชะงักเล็กน้อย ก่อนยกขาหมุนควงประหนึ่งลูกข่างที่พื้นอย่างเร็วและเตะออกไปอย่างแรง!
“หยุดนะ! !” ในเวลานี้เอง ที่หน้าประตูสมาคม เสียงหนักแน่นเสียงหนึ่งดังขึ้น! เซี่ยเจี้ยวกั๋วซึ่งเป็นประธานสมาคมมาถึงสมาคม ก็เห็นฉากน่าตกใจนี่พอดี! เขารีบออกเสียงห้ามปราม! ! แต่…กลับไม่สามารถห้ามได้! !
ขาของเซียวเข้อเซิงเตะออกมาอย่างแรง “อุ๊–!” ขานั้นเตะเข้ากลางหน้าอกศิษย์คนนั้นอย่างแรง!
หน้าอกยุบลงไป เลือดสดไหลทะลัก! ศิษย์คนนั้นลอยกระเด็นออกไป กระแทกเข้าไปกำแพงอย่างแรง! กำแพงยังแตกเลย!