บทที่ 621 ประเทศญี่ปุ่นโจมตีอีกครั้ง
รถยนต์มายบัคเคลื่อนตัวไปบนถนนท่ามกลางพายุ กระจกนอกหน้าต่างรถถูกฝนสาดกระหน่ำ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยความมืดมิด พายุพัดเศษขยะและฝุ่นขึ้นมาเหมือนลมหมุนที่น่ากลัว
เฉินเป่ยนั่งอยู่ในรถ เขากำลังคาบบุหรี่อยู่ในปากและเหยียบคันเร่งรถยนต์เบาๆ ภายในรถมีกลิ่นบุหรี่บางๆ ด้วยสภาพอากาศเช่นนี้ ทำให้รู้สึกอึดอัดและอบอ้าวเป็นอย่างมาก
เฉินเป่ยหรี่ตาลงมองพายุและความมืดสนิทบนท้องฟ้า พายุและลมแรงเป็นวันที่อากาศดีจริงๆ
ดูเหมือนว่าหลีชิงเยียนจะทนกับควันบุหรี่ในรถไม่ไหวแล้ว เธอใช้มือปัดควันไปมา จากนั้นจึงลดกระจกรถยนต์ลงเล็กน้อย
“อย่าเปิดหน้าต่าง!” จู่ๆ สีหน้าของเฉินเป่ยก็เปลี่ยนไปและพูดเสียงดังออกมา แต่ทว่ามันสายไปเสียแล้ว
หลีชิงเยียนลดกระจกรถลงประมาณหนึ่งเซนติเมตร
ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงลมพายุที่อยู่ข้างนอก หลีชิงเยียนตกใจและทำอะไรไม่ถูก ทว่าภายในระยะเวลา 0.01 วินาที
“ฟิ้ววว” ประกายแสงที่ไร้รูปร่างพุ่งเข้ามาทางช่องหน้าต่างรถอย่างรวดเร็ว
เฉินเป่ยยกมือขึ้นมารวบตัวหลีชิงเยียนเอาไว้ ขณะเดียวกันมีดหลงหยาก็ปรากฏขึ้นในมือขวาของเขา
“ฉิ้ง” เสียงโลหะดังขึ้นเบาๆ ประกายแสงไร้รูปร่างโดนมีดหลงหยาจู่โจมจนกระเด็นกลับไป
“ฟิ้วๆๆๆ” วินาทีต่อมาก็มีประกายแสงพุ่งเข้ามานับไม่ถ้วน เฉินเป่ยหน้านิ่ง มีดหลงหยาสะบัดไปมาอย่างรวดเร็ว
“ฉิ้งๆๆ” ช่วงที่กระจกรถยนต์เคลื่อนขึ้น มีประกายแสงของอาวุธลอยอยู่ท่ามกลางพายุในความมืดนับไม่ถ้วน และพุ่งเข้ามาจู่โจมกระจกรถยนต์
หลีชิงเยียนมองไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย ครั้งนี้เธอมองเห็นวัตถุที่พุ่งเข้ามาจู่โจมได้อย่างชัดเจน มันเป็นเข็มสีดำขลับ
หลีชิงเยียนหน้าซีด “นี่..นี่มันอะไร”
“เข็มพิษ” เฉินเป่ยตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นมาทันที เข็มพิษอย่างนั้นเหรอ
รถยนต์มายบัคเคลื่อนตัวต่อไปท่ามกลางพายุในความมืด ลมกระโชกแรงจนเกิดเสียงอันน่ากลัว ท้องฟ้ามืดสนิท วิวข้างนอกโดนพายุปิดล้อมเอาไว้หมดจนแทบจะมองไม่เห็นอะไร
“ทำยังไงดี เรารีบออกจากที่นี่กันเถอะ” ใบหน้าของหลีชิงเยียนซีดเผือด
เฉินเป่ยเพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ โดยไม่ได้พูดอะไร เพื่อเป็นการบอกเธอว่าอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม
อีกฝ่ายใช้ประโยชน์จากสภาพอากาศอันเลวร้ายเช่นนี้ ตอนนี้ไม่รู้แม้กระทั่งว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ถ้าออกจากรถไปตอนนี้จะเป็นอันตรายเป็นอย่างมาก
ข้างนอกหน้าต่างรถลมพายุกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง ท้องฟ้าสีดำส่งเสียงคำรามออกมาไม่หยุด
ทันใดนั้นก็มีแสงฟ้าแลบ ร่างของใครบางคนปรากฏอยู่ท่ามกลางความมืด และเคลื่อนตัวไปมาอย่างรวดเร็วจนเกือบจะเร็วกว่าสายฟ้าแลบ
“ตู้มมม” เสียงดังขึ้นจนน่าตกใจ ท่ามกลางแสงฟ้าแลบบนท้องฟ้า จู่ๆ ท้องฟ้าก็สว่างขึ้นมา
เห็นเพียงร่างสีดำที่น่ากลัวราวกับปีศาจที่กำลังพุ่งมาทางรถยนต์มายบัค
“ฉิ้งง” ดาบซามูไรที่ยาวและเยือกเย็นฟาดฟันลงราวกับสายฟ้า มันคือสายฟ้าที่อยู่ท่ามกลางความมืด
“ฉิ้งงง” เสียงโลหะกระทบกันอย่างรุนแรงดังขึ้น ดาบซามูไรโจมตีเข้ามาบนหลังคารถยนต์มายบัค
ประกายไฟพุ่งออกมา ส่วนประกอบของโลหะเกิดเสียงดัง
เฉินเป่ยที่นั่งอยู่ในรถแววตานิ่ง เขาเงยหน้ามองผ่านกระจกกันกระสุนซันรูฟบนรถยนต์
เห็นร่างของปีศาจร้ายที่อยู่บนหลังคารถได้อย่างชัดเจน
ทันใดนั้นสีหน้าของหลีชิงเยียนซีดเผือด โดนลอบทำร้ายอีกแล้ว!
ทักษะของคนที่อยู่บนหลังคารถรวเร็วมาก ดาบซามูไรในมือของมันสะบัดไปมาจนน่ากลัวและฟันลงมาบนหลังคารถอย่างแรง ประกายไฟพุ่งออกมา มันพยายามใช้แรงฟันลงมาที่หลังคารถ
“ทำยังไงดี” หลีชิงเยียนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอตื่นตระหนกจนเสียสติไปแล้ว
แววตาของเฉินเป่ยยังคงนิ่ง เขาจ้องไปที่เงาดำบนหลังคารถ
“ไม่ต้องห่วง นี่คือกระจกกันกระสุนที่ใช้ทางทหาร มันไม่สามารถทำอะไรได้” เฉินเป่ยพูดปลอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ถึงเฉินเป่ยจะพูดปลอบออกมาแบบนั้น แต่จิตใจของเธอก็ยังไม่เป็นสุข หัวใจของเธอเต้นตึกตัก เงาดำที่อยู่ข้างบนทำให้เธอไม่สามารถสงบจิตสงบใจได้เลย
“นั่งให้ดี” เฉินเป่ยปรับเกียร์ไปที่เกียร์ S
จากนั้นเสียงเครื่องยนต์ของรถดังสนั่น รู้สึกถึงแรงกระชากอย่างรุนแรง รถยนต์มายบัคเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วท่ามกลางพายุที่น่ากลัว
ทว่าเงาดำที่อยู่บนหลังคารถยังคงยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถสลัดมันออกไปได้
บนท้องฟ้ายามค่ำคืนสูงหลายพันเมตร ฟ้าร้องและฟ้าผ่ากำลังก่อตัวท่ามกลางพายุฝน สายฟ้ากะพริบอยู่ภายใต้เมฆสีดำ
“ระวัง!” คนที่นั่งอยู่เบาะหลังอย่างหลีชิงเยียน รู้สึกเหมือนมีอะไรผิดปกติ เธอรีบพูดเตือนออกมาทันที
แววตาของเฉินเป่ยนิ่ง เขารู้สึกถึงอันตรายมากมาย!
เงาดำที่อยู่บนหลังคารถยังไม่ไปไหน แต่ดาบของมันไม่สามารถทำลายกระจกกันกระสุนได้ งั้นมันจะทำอะไรกันแน่ มันกำลังรออะไรอยู่
ในขณะเดียวกัน ที่ความสูงหลายพันฟุตบนท้องฟ้า สายฟ้าภายในเมฆดำยังคงส่องประกายไม่หยุด เหมือนจะมีกระแสไฟฟ้าไหลวนอยู่
ทันใดนั้นเฉินเป่ยก็รู้สึกถึงอะไรที่ไม่ดี
สีหน้าของเฉินเป่ยยังคงเคร่งขรึม เขาตัดสินใจเปิดนาฬิกาดิจิตอลตรงข้อมือ
บนหน้าปัดนาฬิกาเต็มไปด้วยปุ่มต่างๆ เฉินเป่ยกดปุ่มแพร่กระจายการรบกวนของกระแสไฟฟ้า
“ตู้มม” เสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่าอย่างรุนแรง บนท้องฟ้าอันมืดมิดเต็มไปด้วยสายฟ้าสว่างไสว พายุยังคงโหมกระหน่ำ
เงาดำที่อยู่บนหลังคารถมายบัคยกดาบซามูไรในมือขึ้น และพูดด้วยภาษาญี่ปุ่นว่า “สายฟ้า!” “ตู้มมม” สายฟ้าสีม่วงราวกับปีศาจพุ่งเข้ามาที่ดาบซามูไรในมือของเงาดำนั่น
มันเร็วเหมือนสายฟ้า เพราะว่าพวกมันคือสายฟ้า
ทันใดนั้น สีหน้าของหลีชิงเยียนซีดเผือด เพราะเธอไม่เคยเจอกับเหตุการณ์ที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน สายฟ้าพาดผ่านไปมานับไม่ถ้วนและพุ่งมายังรถมายบัค นี่มันปีศาจร้ายในโลกวิทยาศาสตร์ชัดๆ
จู่ๆ ดาบซามูไรที่อยู่ในมือของเงาดำก็กลายเป็นสายล่อฟ้า มันดึงดูดฟ้าร้อง ไฟฟ้าแรงสูงและฟ้าผ่านับไม่ถ้วนที่อยู่บนท้องฟ้า น่ากลัวเหมือนปีศาจร้ายที่ออกมาจากกรง
ทันใดนั้นเงาดำนั่นก็ปักดาบซามูไรเป็นแนวนอนไว้บนหลังคารถ จากนั้นมันก็หายตัวไปท่ามกลางความมืด
สายล่อฟ้าสำเร็จ ต่อไปก็รอชมภาพอันน่ากลัวได้เลย
ท่ามกลางพายุยามค่ำคืน ดวงตาอันน่ากลัวนับไม่ถ้วนลืมตาขึ้น และจ้องไปยังรถยนต์มายบัคราวกับปีศาจ พวกเขากำลังรอชื่นชมภาพอันน่ากลัว
“ตู้มมม” สายฟ้านับไม่ถ้วนผ่าไปที่ดาบซามูไรที่อยู่บนหลังคารถมายบัค กระแสไฟฟ้าแรงสูงนับหมื่นนับพันโวลต์พุ่งเข้าใส่รถยนต์มายบัคในพริบตา เครื่องยนต์ของรถระเบิดทันที รถทั้งคันหยุดลงท่ามกลางพายุ
ท่ามกลางความน่ากลัว แสงสีแดงสว่างขึ้นบนนาฬิกาของเฉินเป่ย แพร่กระจายการรบกวนของกระแสไฟฟ้า เปิดอย่างสมบูรณ์
ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่เครื่องยนต์ไมโครนาโนของรถมายบัคที่ได้รับการดัดแปลงเริ่มทำงาน แสงอินฟราเรดไร้รูปร่างป้องกันการรบกวนของกระแสไฟฟ้าปกคลุมขึ้นมาที่รถมายบัคทันที
กระแสไฟฟ้าแรงสูงนับหมื่นนับพันโวลต์ถูกแสงอินฟราเรดปะทะจนหายไป
กระแสไฟฟ้าแรงสูงนับหมื่นนับพันโวลต์สามารถทำให้ตึกสูงระฟ้าสั่นสะเทือนได้ กระแสไฟฟ้าสามารถทำให้คนแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ จนไม่เหลือแม้แต่กระดูก นี่มันกะจะเอาชีวิตกันชัดๆ
แต่ทว่ากระแสไฟฟ้าแรงสูงกลับถูกป้องกันด้วยแสงอินฟราเรดจากนาฬิกาของเฉินเป่ย
กระแสไฟฟ้าแรงสูงถูกป้องกันและผ่าลงไปที่พื้นดิน พื้นที่อยู่ใต้รถมายบัคไม่สามารถรับแรงดันสูงขนาดนี้ได้ พื้นแตกกระจายจนมีควันออกมา
“ตู้มๆๆๆ” ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าจำนวนมากเกิดขึ้นอีกนับไม่ถ้วน มันน่ากลัวราวกับปีศาจร้ายที่กำลังบินทะยานอยู่กลางอากาศ
กระแสไฟฟ้าพุ่งมายังรถมายบัค รถคันนี้ถูกกระแสไฟฟ้าแรงสูงนับหมื่นนับพันโวลต์ล้อมไว้ สายฟ้าสีม่วงไหลวนอยู่ในรถ รอบๆ รถมายบัคสีดำมีแสงของกระแสไฟฟ้าสว่างวาบออกมา มันน่ากลัวเป็นอย่างมาก
หลีชิงเยียนนั่งอยู่ตรงเบาะหลัง เธออึ้งและหน้าซีดเผือด ผมเธอยุ่งเหยิงไปหมด เหงื่อไหลอยู่ภายใต้ผมของเธอ หญิงสาวแทบจะหยุดหายใจ เมื่อมองไปเห็นภาพอันน่ากลัว
เธอรู้สึกถึงความชาที่ออกมาจากใต้เก้าอี้ เธอรู้ว่ามันเกิดจากกระแสไฟฟ้า ถ้ากระแสไฟฟ้าหลายพันหลายหมื่นโวลต์ไหลเข้ามาในร่างกาย มีเพียงแค่ความตายเท่านั้น
ทันใดนั้น บรรยากาศในรถมายบัคก็เย็นยะเยือกลง มีดในมือของเฉินเป่ยลอยออกไป
มีดบางคือโลหะ เมื่อโลหะนั่นลอยออกไป กระแสไฟฟ้าที่ล้อมรอบรถยนต์มายบัคก็พุ่งเข้าไปทันที ทำให้รถยนต์กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
“ฉิ้งงง” มีดลอยอยู่ในอากาศ จากนั้นมันก็พุ่งไปที่แท่งหินข้างทางที่ไกลออกไปกว่าสิบเมตร
“ตู้มม” กระแสไฟฟ้าหลายหมื่นหลายพันโวลต์ปะทะกับแท่งหินจนแท่งหินแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ
จากนั้นมีดก็ลอยกลับมาอย่างรวดเร็ว มันพุ่งไปหาดาบซามูไรที่ปักอยู่บนหลังคารถ
“ฉิ้งง” ดาบซามูไรโดนโจมตีจากมีดจนกระเด็นตกลงไปบนพื้น
มีดหมุนเบาๆ และกลับเข้าไปในมือของเฉินเป่ย หน้าต่างรถปิดลงอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน ท่ามกลางพายุในความมืด ดาบซามูไรที่หล่นอยู่บนพื้นทำการล่อสายฟ้าอีกครั้ง สายฟ้าอันน่ากลัวพุ่งเข้ามาที่ดาบซามูไร พื้นข้างล่างยุบและแตกออกจนเป็นหลุมขนาดใหญ่ เห็นได้ถึงความน่ากลัวของสายฟ้าเหล่านั้น นี่เป็นพละกำลังของธรรมชาติที่มนุษย์ไม่สามารถต้านทานได้
สายฟ้าค่อยๆ หายไป แต่รถมายบัคยังคงจอดสนิทอยู่ท่ามกลางพายุฝน เฉินเป่ยลองสตาร์ทรถ แต่สตาร์ทยังไงก็ไม่ติด รถน่าจะมีปัญหาเพราะโดนฟ้าผ่าเมื่อครู่
จู่ๆ แววตาของเฉินเป่ยก็นิ่งไป เขากวาดตามองไปรอบๆ
นอกหน้าต่างรถมีเพียงแสงของสายฟ้าและเสียงของพายุฝน
แววตาที่กระหายเลือดค่อยๆ ลืมตามขึ้น
พายุที่โหมกระหน่ำ จึงทำให้ได้ยินเสียงของลมกระโชกแรงและเสียงฝนตกกระทบกับพื้น
ทันใดนั้น ก็มีแสงนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นท่ามกลางพายุในความมืด มันส่องแสงเหมือนกำลังกระหายเลือด
มันคือดาบซามูไร ดาบนับไม่ถ้วนลอยอยู่บนฟ้าเหมือนกระบี่ที่แหลมคม ทันใดนั้นมันก็พุ่งเข้ามาที่รถมายบัคทันที
“ฉิ้งๆๆๆ” เสียงของโลหะดังขึ้นท่ามกลางพายุ ประกายไฟกระเด็นไปทั่ว มันเป็นภาพที่น่ากลัวมาก
ดาบซามูไรพุ่งเข้ามาจู่โจมอย่างน่ากลัวราวกับเขี้ยวอันแหลมคม แต่ทว่าหลังจากนั้นมันก็หายไป
ภายในรถมายบัคเต็มไปด้วยความเงียบ ได้ยินเพียงเสียงพายุนอกหน้าต่าง
ผมยาวของหลีชิงเยียนเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ เธอกำมือแน่น ตอนนี้จิตใจของเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพราะเธอรับรู้ได้ถึงความกดดันของความตาย
เฉินเป่ยกุมมือเธอเบาๆ และมองเธอด้วยสายตาแน่วแน่ “มีผมอยู่ คุณไม่ต้องกลัว”
คำพูดแค่ไม่กี่คำ แต่มันกลับมีพลังเป็นอย่างมาก
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น จิตใจที่กระวนกระวายของหลีชิงเยียนก็กลับมาสงบอีกครั้ง ตอนนี้โลกอันน่ากลัวของเธอกลับมาสงบสุขอีกครั้ง
ทันใดนั้นแสงของดาบก็สว่างท่ามกลางความมืดอีกครั้ง
“ฉิ้งงง” ดาบนับไม่ถ้วนจู่โจมไปที่ตัวรถมายบัค ประกายไฟกระเด็นออกมาจนน่ากลัว
หลังจากที่ดาบปะทะกับรถ ก็เกิดความเงียบเกิดขึ้น
“นั่งรอผมอยู่ในรถ” น้ำเสียงของเฉินเป่ยจริงจังเป็นอย่างมาก พูดจบเขาก็ออกไปอย่างรวดเร็ว เขาพุ่งออกไปท่ามกลางพายุฝน
เฉินเป่ยยืนอยู่ข้างรถมายบัค พายุฝนและลมกระโชกแรงจนทำให้เขาเปียกไปหมด เสื้อเปียกจนแนบไปกับร่างกายของเขาจนเห็นกล้ามเนื้ออันกำยำที่แอบซ่อนเอาไว้
เขายืนอยู่ท่ามกลางพายุฝน เขากวาดตามองไปรอบๆ ด้วยสายตาจริงจังจนผิดปกติ
ทันใดนั้นสายตาของเขานิ่ง จากนั้นจึงง้างมือขวาขึ้นมา
ทันใดนั้น ดาบซามูไรเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นท่ามกลางความมืด และพุ่งมายังคอของเฉินเป่ย
“ฉิ้ง” เสียงโลหะดังขึ้น มีดหลงหยาปรากฏขึ้นในมือขวาของเฉินเป่ยและสกัดกั้นการจู่โจมของดาบซามูไร ดาบซามูไรเล่มนั้นหายไปท่ามกลางพายุฝน
นี่คือกลุ่มนักฆ่าที่เชี่ยวชาญในยามค่ำคืน พวกเขาควบคุมและคุ้นเคยกับช่วงเวลากลางคืนเป็นอย่างดี ความสามารถเหนือกว่าคนทั่วไป
ค่ำคืนอันมืดมิด ฝนตกหนักลมแรงฟ้าร้อง ทั้งหมดนี้อยู่ในแผนการที่พวกเขาเตรียมไว้ล่วงหน้า นี่เป็นการฆ่าที่วางแผนมานาน มันถูกที่ถูกเวลาเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งเฉินเป่ยยังจริงจังเป็นอย่างมาก
สงครามครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะทั้งหมดนี้มันขึ้นอยู่กับฝ่ายตรงข้าม ตอนนี้เขาทำได้เพียงปล่อยความอาฆาตอยู่ท่ามกลางพายุฝน ยืนรอฝ่ายตรงข้ามอย่างเงียบๆ ตอนนี้เขาเป็นได้แค่เป้าเท่านั้น
แต่เขาไม่ได้กลัว เพราะเขาคือราชาหลง บนโลกใบนี้น้อยคนนักที่จะกล้าเอาราชาหลงมาเป็นเป้า อีกฝ่ายต้องการที่จะลอบฆ่า งั้นก็ทำตามพวกนั้นก็แล้วกัน
ภายในรถยนต์มายบัค ดวงตาสีฟ้าของJenniferจ้องเขม็งไปที่พายุฝนท่ามกลางความมืด ดวงตาคู่สวยของเธอจริงจังเป็นอย่างมาก ขนาดเธอยังไม่คิดว่าค่ำคืนนี้ราชาหลงจะโดนคนลอบฆ่า มันเป็นการลอบฆ่าที่ถูกที่ถูกเวลาและวางแผนมาอย่างดีจนไม่สามารถต้านทานอะไรได้ แต่คนที่โดนลอบฆ่าคือราชาหลง งั้นการลอบฆ่าครั้งนี้ใครจะลอบฆ่าใครกันแน่
เฉินเป่ยยืนโดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางพายุฝนและความมืด สีหน้าของเขาเคร่งขรึมและตั้งใจฟังเสียงพายุ
จู่ๆ แววตาของเฉินเป่ยนิ่ง เขาง้างมือขวาขึ้น มีดหลงหยาลอยมาตรงหน้าของเขา
“ฉิ้งงง” เสียงปะทะดังขึ้น ดาบซามูไรปรากฏขึ้นท่ามกลางความมืดและปะทะเข้ากับมีดหลงหยาที่อยู่ตรงหน้าเฉินเป่ย
จากนั้นก็มีมีดซามูไรอีกเล่มหนึ่งพุ่งเข้ามาที่ลำคอของเฉินเป่ย
เฉินเป่ยเคลื่อนตัวหลบอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อเขาหลบ ก็มีดาบซามูไรอีกเล่มหนึ่งพุ่งเข้ามาอีก
เฉินเป่ยเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นเงา เขาถอยไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว
“ฉิ้งง” มีดซามูไรเล่มนั้นลอยอยู่บนอากาศ
ทันใดนั้นมันก็หายวับไปท่ามกลางความมืด
แววตาของเฉินเป่ยเคร่งขรึม อีกฝ่ายเชี่ยวชาญในช่วงเวลากลางคืนเป็นอย่างมาก พวกเขาสามารถซ่อนตัวในพายุฝน ปรากฏตัวแบบเงียบๆ และหายไปแบบเงียบๆ โดยไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงของคมดาบ นี่มันลึกลับเป็นอย่างมาก!