SC:บทที่ 117 อุณหภูมิที่ผิดปกติ
“อ้าก!!”
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงกรีดร้องอย่างน่ากลัวในวันที่เงียบสงบ แม้แต่หิมะบนยอดต้นไม้ยังสั่นไหว มันเป็นเสียงของหลิวเฉียง ข้อมือขวาของเขาถูกตัดขาดออกไปรอบตัวของเขาเต็มไปด้วยเลือดที่พุ่งกระจาย!
เมื่อเห็นหลิวเฉียงที่กําลังเจ็บปวดอยู่ในกองหิมะ หลินเฉิงมองอย่างเย็นชาก่อนที่จะจับที่แขนของหลิวเฉียง จากนั้นเกิดน้ําแข็งควบแน่นอย่างรวดเร็วทําให้เลือดหยุดไหลชั่วคราว
เมื่อเห็นว่าหลิวเฉียงใกล้จะหมดสติ หลินเฉิง ไม่ชักช้าอีกต่อไปเขาหิ้วร่างของหลิวเฉียง และกลับไปยังบ้านพักอย่างรวดเร็ว
หลังจากวิ่งเข้ามาในบ้านพัก หลินเฉิงปัดหิมะบนร่างกายของเขา และเห็นฟางหยูวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยความประหลาดใจ เขาขี้เกียจเกินไปที่จะสนใจเธอจากนั้นโยนหลิวเฉียงลงบนพื้นใกล้กับนางหลิวและพูดว่า
“ทําแผลให้เขา! ถ้าเขาตายเธอจะต้องชดใช้!”
เมื่อมองดูหลิวเฉียงที่นอนกองกับพื้น ทันใดนั้นนางหลิวก็เห็นมือขวาที่หายไปมันทําให้เธอตื่นตระหนกและแทบจะเป็นลม แต่เธอยังคงพยายามทําใจแข็งและวิ่งไปที่ห้องพร้อมกับว่านหลิงแล้วหยิบกล่องยาออกมา เธอนั่งลงและช่วยพันแผลให้กับหลิวเฉียง
ทันทีที่เธอยกมือที่ขาดของหลิวเฉียง ขึ้นมาเธอสังเกตเห็นน้ําแข็งที่ควบแน่นอยู่บนข้อมือ เธอเงยหน้าขึ้นและจ้องมองหลินเฉิง จากนั้นพูดขึ้นว่า
“ฉัน…พวกเราไม่มีน้ําร้อนที่จะละลายน้ําแข็งบนข้อมือของเขา…”
หลินเฉิงพยักหน้า จากนั้นดีดนิ้ว น้ําแข็งที่จับตัวบนข้อมือของหลิวเฉียงก็สลายหายไปอย่างสมบูรณ์ภายในเวลาไม่กี่วินาทีและเลือดเองก็เริ่มกลับมาไหลเช่นเดียวกัน
เมื่อเห็นความสามารถของหลินเฉิง ในการควบคุมน้ําแข็งนางหลิวตกตะลึงอีกครั้งแต่สามารถกลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว เธอเองก็ไม่ใช่คนธรรมดา หลายปีที่ผ่านมาในการทําธุรกิจทําให้เธอมีจิตใจที่เข้มแข็ง แม้เธอจะประหลาดใจเรื่องของหลินเฉิง แต่เธอยังคงทําหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดี เธอทําแผลให้กลับหลิวเฉียงอย่างรวดเร็ว เพื่อทําให้เลือดหยุดไหล
เมื่อมองเห็นทักษะการทําแผลของนางหลิว หลินเฉิงต้องเลิกคิ้วด้วยความสงสัย แต่เขาก็ต้องตัดความคิดนี้ทิ้งไป เมื่อเห็นข้อมือของหลิวเฉียงได้รับการรักษาและเลือดหยุดไหลแล้ว หลินเฉิงยกเขาขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นตบแก้มของหลิวเฉียง เพื่อให้เขาตื่นขึ้นมา
“เอาล่ะขอคําอธิบายดีๆ ไม่อย่างนั้นนายจะถูกทรมานให้เจ็บปวดอย่างจะช้าๆ”
หลิวเฉียงยังคงรู้สึกอิดโรยซึ่งเป็นผลกระทบจากการเสียเลือด เขาลืมตาขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก เมื่อเขาถูกจับเขาก็รู้ว่าเขาต้องตายอย่างแน่นอน แต่เขาไม่อยากถูกทรมานก่อนที่จะตายเขาพยุงแขนของตัวเองอย่าอ่อนแรงและพูดว่า
“ผม..ผมจําได้แล้วโทรศัพท์อยู่ในห้องของผม มันอยู่ที่ชั้นแรกของลิ้นชัก ผมติดมันด้วยเทป…”
เมื่อได้ยินคําตอบ หลินเฉิงหันไปมองฟางหยู และส่งสัญญาณ ฟางหยูฉลาดมาก เธอรีบหันกลับไปถามนางหลิวเกี่ยวกับห้องของหลิวเฉียง จากนั้นรีบตรงไปทันที ในขณะเดียวกัน หลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นอย่างสงสัย
“นายรู้ได้ยังไงว่าโทรศัพท์นั้นไม่ใช่โทรศัพท์ธรรมดา?”
เมื่อได้ยินคําถามของหลินเฉิง หลิวเฉียงหัวเราะและกล่าวว่า
“ผมเคยอยู่กับเจ้านายและหัวหน้าฝ่ายผู้บริหารมาก่อนหน้านี้และผมเคยเห็นผู้บริหารระดับสูงเคยใช้..ผมไม่คาดคิดว่าโทรศัพท์แบบนี้จําเป็นจะต้องใส่รหัสผ่านทุกครั้ง และมันน่าสมเพชมากที่ผมไม่สามารถถอดรหัสได้…”
“รหัสผ่าน?!”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้หัวใจของ หลินเฉิงมืดมนเสียงของเขาเย็นชามากยิ่งขึ้น
หลิวเฉียง พยักหน้าอย่างอ่อนแรง
“ใช่แล้ว…รหัสผ่านในการปลดล็อคเป็นเลข 10 หลัก และยังมีการตรวจสอบลายนิ้วมือเจ้าของโทรศัพท์อีกด้วยดังนั้นจึงไม่สามารถถอดรหัสได้เลย!”
“ไอ้จิ้งจอกเฒ่า!”
หลินเฉิง กําหมัดแน่นและสาปแช่งอย่างเงียบๆ
เขายังเคยสงสัยว่าทําไม ฟางซิวเฉิงจึงตกลงให้หลินเฉิงมาเอาโทรศัพท์ให้? อีกทั้งยังไม่กลัวว่าหลินเฉิง เมื่อได้รับโทรศัพท์แล้วจะสังหารฟางหยูทันที เพราะสุดท้ายแล้วแม้จะได้รับโทรศัพท์มือถือเขาก็จําเป็นต้องกลับไปที่เดิม
ดูเหมือนว่าชายชราได้คิดถึงเรื่องนี้เอาไว้แล้ว ถ้าหลินเฉิงได้รับโทรศัพท์ เขาจะต้องกลับไปหาฟางซิวเฉิงอีกครั้ง
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หลินเฉิงหัวเราะอย่างขมขื่น เขาทําได้เพียงแต่ถอนหายใจ ดูเหมือนชายชราจะไม่ใช่เพียงคนแก่ธรรมดา เนื่องจากเรื่องนี้ทําให้หลินเฉิง อารมณ์ไม่ค่อยดีจึงหันไปถามหลิวเฉียงด้วยน้ําเสียงเย็นชาอีกครั้งว่า
“นายคิดจะทําอะไร?นายต้องการรอให้คนโทรเข้ามาใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินคําพูดของหลินเฉิง ดวงตาของหลิวเฉียงตกตะลึง
“คุณรู้ได้ยังไง?”
หลินเฉิง ตกตะลึงกลับสมองของชายคนนี้แหละพูดว่า
“ นายคิดว่าโทรศัพท์ที่สําคัญแบบนี้ เวลารับโทรศัพท์จะไม่ต้องใช้ลายนิ้วมืออย่างนั้นหรอ? นายโง่มาก ถ้านายส่งมันมาตั้งแต่แรกนายคงมีชีวิตที่ดีกว่านี้!ลาก่อน!”
หลังจากเห็นฟางหยูก็กลับมาพร้อมกับโทรศัพท์สีดํา หลินเฉิงพูดกับหลิวเฉียงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะดึงมีดพับออกมาและแทงไปที่คอของหลิวเฉียง
หลิวเฉียงถูกฆ่าตายโดยไม่กระพริบตา หญิงสาว 3 คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างรู้สึกหวาดกลัว และมองหลินเฉิงที่กําลังเช็ดเลือดออกจากมีดพับหลังจากฆ่าคน
หลินเฉิงเก็บมีดพับลงไปที่เอวของเขาและหันมามองผู้หญิง 3 คนนั้นและพูดอย่างหงุดหงิดว่า
“ไม่เคยเห็นการฆ่าคนหรอ”
จากนั้น หลินเฉิงมองโดยรอบและไม่พบกวนเป็ง เขาจึงถามขึ้นว่า
“อีกคนไปไหน?”
“เขาอ่อนแอเกินไปจําเป็นต้องพักผ่อน..”
เมื่อเห็นหลินเฉิงถามถึงกวนเป็ง หัวใจของฟางหยูตื่นตระหนกและพูดว่า
“นาย…นายปล่อยเขาไปได้ไหมนี่เป็นเพียงความเข้าใจผิด!ตราบใดที่นายปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ ฉันจะมอบ DHCAให้นาย 1 ขวด!”
หลินเฉิง ยืนขึ้นเขาขี้เกียจเกินไปที่จะมาใส่ใจกับกวนเป็ง เขาพูดกลับฟางหยูว่า
“ไปเอาของที่ปู่ของคุณต้องการมาซะ เราไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นาน!”
ต้องบอกว่าบ้านหลังนี้กําแพงถูกทําลายลงโดยกวนเป็งไปแล้ว เมื่อมองดูบนท้องฟ้าหิมะยังคงตกอย่างต่อเนื่องหลินเฉิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
ในตอนที่เขาไล่ล่าหลิวเฉียงอยู่ด้านนอก เขารู้สึกถึงอุณหภูมิที่ผิดปกติ แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในช่วงฤดูหนาวแต่อุณหภูมิปกตินั้นไม่ได้ต่ําไปกว่า 0 องศาและแม้ว่าจะเป็นช่วงกลางคืนมันจะลดลงมากขึ้นอีกแต่มันก็ไม่ควรติดลบเกิน 10 องศา
แต่อุณหภูมิในขณะนี้…
หลินเฉิงจับขวาของเขาที่เหน็บหนาวบางส่วนในร่างกายของเขาสั่นเทา ต้องเข้าใจว่าตอนนี้เขาใส่ชุดป้องกันระดับ E ไว้ด้านในซึ่งโดยปกติแล้วในเวลากลางคืนเขาไม่เคยรู้สึกเหน็บหนาวมาก่อน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลินเฉิงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูและมองไปที่อุณหภูมิที่ปรากฏอยู่บน นาฬิกามันทําให้หัวใจของเขาต้องตื่นตระหนก!