SC:
“คุณบ้าหรือเปล่า?สิ่งที่ผมพูดยังไม่ชัดเจนอีกหรอออกทะเลไปไม่ได้มันมีอันตรายที่ไม่รู้จักมากมายซ่อนอยู่ถ้าคุณออกเรือไปคุณจะต้องตายอย่างแน่นอน!”
เมื่อเห็นว่า หลินเฉิง ยังคงต้องการค้นหาเรือเพื่อข้ามทะเลเฉินเฟยหยูรู้สึกวิตกกังวลและไม่เข้าใจความคิดของชายหนุ่มคนนี้ทำทั้งๆที่อายุของชายหนุ่มคนนี้น่าจะเท่าๆกับตัวเขาเอง
หลินเฉิง ส่ายหัวอย่างช้าๆแล้วมองไปที่ทะเล หลังจากนั้นสักครู่เขาก็พูดว่า
“ฉันรีบมาจากแผ่นดินใหญ่เพื่อต้องการเดินทางไปยังเซียงโจวแต่ถ้าฉันยอมแพ้เรื่องนี้เพียงเพราะการปรากฏตัวของนายฉันคงจะต้องเสียใจ!”
“แผ่นดินใหญ่?”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฉิง เฉินเฟยหยู ตกใจและถามขึ้นอย่างรวดเร็วว่า
“หมายความว่าคุณไม่ใช่คนท้องถิ่นแถวนี้อย่างนั้นหรอแต่มาจากแผ่นดินใหญ่!”
“ใช่แล้ว”
เมื่อเห็นใบหน้าที่ตกใจของเฉินเฟยหยู หลินเฉิง มองเขาอย่างประหลาดและพูดว่า
“ทำไม มีอะไรผิดปกติงั้นหรอ?”
“ไม่…นี่มันไม่ถูกต้อง!”
เมื่อเห็นการแสดงออกของหลินเฉิง เฉินเฟยหยู จ้องมองและพูดอยากไม่น่าเชื่อ
“ที่นั่นเป็นแผ่นดินใหญ่มีการออกอากาศวิทยุซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายครั้ง ผู้คนมากมายที่ต้องการไปที่นั่น”
เมื่อได้ยินดังนั้นหลินเฉิง พูดเล็กน้อยว่า
“มีวิทยุออกอากาศเกี่ยวกับแผ่นดินใหญ่เป็นพื้นที่ปลอดภัยจริงหรือเปล่าฉันเองก็ไม่รู้อย่างไรก็ตามฉันคิดว่าคราบใดที่นายระมัดระวังตัวนายสามารถไปถึงที่นั่นได้”
“บ้าไปแล้ว!”
เมื่อเห็น หลินเฉิง พูดแบบนี้ เฉินเฟยหยู พูดอย่างมั่นใจว่า
“ถ้ามันง่ายอย่างที่คุณพูดประเทศคงสามารถยุติหายนะครั้งนี้ได้แล้ว!คุณคือ..”
อย่างไรก็ตามเขาก็ถูกขัดจังหวะโดยหลินเฉิง
“ฉันเป็นแค่คนธรรมดาที่สามารถปลุกพลังขึ้นมาได้ ส่วนที่เหลือไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนาย นายควรจะพาฉันไปหาเรือเร็วที่สุด”
เมื่อได้ยินอย่างชัดเจนว่าหลินเฉิง ไม่ต้องการอธิบายตัวตนมากนัก เฉินเฟยหยู จึงส่ายหัวด้วยรอยยิ้มขมขื่น เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า
“การที่คุณเลือกที่จะปลีกตัวออกมาจากแผ่นดินใหญ่ถ้าผมเดาไม่ผิดคุณคงไปเซียงโจวเพื่อตามหาญาติใช่ไหม?ถ้าเป็นแบบนั้นผมเองก็ไม่ต้องการให้คุณตายแต่ผมจะไม่หยุดคุณ!มากับผม ผมจะพาคุณไปหาเรือที่แข็งแรง หากคุณโชคดีคุณคงอาจจะไปถึงเซียงโจวได้”
เมื่อพูดจบชายหนุ่มคนนั้นหันหลังกลับไปพร้อมกับนำทาง
“เดี๋ยวก่อน”
เพียงแค่ เฉินเฟยหยู เดินไปเดินไป 2 ก้าว เขาก็ถูกหยุดด้วย หลินเฉิง
เฉินเฟยหยูหันกลับมามองด้วยใบหน้าที่งงงงและไม่เข้าใจว่า หลินเฉิง เรียกให้เขาหยุดทำไม หลินเฉิง ดึงชุดเสื้อผ้าออกมาจากถุงปีนเขาที่อยู่ด้านหลังและโยนมันไว้ใต้เท้าของ เฉินเฟยหยู เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า
“นายจะเดินนำหน้าโดยการอวดบั้นท้ายของนายแบบนี้ไม่ได้รีบใส่ซะ!”
เมื่อเห็นเสื้อผ้าบนพื้นดินเฉินเฟยหยู มองไป ตัวเองและทำให้เขานึกได้ว่าตอนนี้เขาเปลือยกายอยู่เขารีบคว้าเสื้อผ้าและรีบใส่อย่างรวดเร็ว.Aileen-novel.
หลังจากสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จเฉินเฟยหยู หัวเราะอย่างง่ายในขณะที่ก้มหัวลงและอธิบายกับ หลินเฉิง ว่า
“เอิ่ม..ขอโทษด้วยเวลาที่ผมใช้พลังผมไม่สามารถใส่เสื้อผ้าได้และเมื่อผมกลายร่างกลับมาเป็นมนุษย์ผมมักจะลืมทุกที”
“เอาล่ะฉันไม่ต้องการรู้เกี่ยวกับความสามารถของนาย เลิกพร่ำได้แล้ว!”
หลินเฉิง โบกมือของเขาอย่างหงุดหงิดและพูดอย่างใจร้อนว่า
“พร้อมเมื่อไหร่ก็เดินมาแล้วกันฉันเดินไปก่อนล่ะ”
หลังจากนั้นหลินเฉิง ก็ผิวปากเรียกโคล่าและ เทียนซือ ที่เล่นอยู่บนชายหาดจากนั้นพา เฉินเฟยหยู กลับไปที่รถ
“อ๊ะ…พี่หลินพี่กลับมาแล้วหรอ?”
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปหลินเฉิง ก็เห็น หยูซาน นั่งอยู่บนเบาะหลังใบหน้าของเธอเป็นสีแดงและกำลังมอง หลินเฉิง ด้วยความสับสน
“อืม..”
เมื่อเห็นสถานการณ์นี้หลินเฉิง ยิ้มและพยักหน้าเบาๆก่อนจะหันหลังและชี้ไปที่ เฉินเฟยหยู ที่อยู่ด้านหลังเขาและพูดว่า
“ชายคนนี้มีความสามารถในการเปลี่ยนร่างฉันพึ่งช่วยเขาจากทะเล เขาจะพาพวกเราไปตามหาเรือเพื่อข้ามทะเลกัน”
เมื่อได้ยินดังนั้นหยูซาน ตกตะลึง และเพียงชั่วครู่การแสดงออกของเธอก็เปลี่ยนไปทันที เธอเปิดประตูและกระโดดลงไปเอื้อมมือเล็กๆออกมาแล้วพูดกับ เฉินเฟยหยู ว่า
“สวัสดีค่ะฉันชื่อ หยูซาน เป็นน้องของพี่หลิน…เป็นผู้ช่วยของพี่หลิน ขอบคุณที่จะพาเราไปหาเรือนะคะ”
“ไม่..ไม่เป็นไรครับ!ถ้ามันไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือจากพี่ของคุณก่อนหน้านี้ …ผมอาจจะจมน้ำตายในทะเลไปแล้วก่อนที่จะมีโอกาสพาคุณไปหาเรือ!!”
เฉินเฟยหยู รู้สึกเขินอายเมื่อเจอผู้หญิงงดงามราวกับดอกบัวทำให้เขาแทบพูดไม่ออก
“อย่ามัวแต่พูดเรื่องไร้สาระ!ขึ้นรถได้แล้วมีอะไรให้ทำอีกเยอะอย่ามาเสียเวลาอยู่ที่นี่!”
เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนกำลังแสดงมารยาทที่ดีต่อกันหลินเฉิง ส่ายหัวและตะโกนออกมา
หลังจากได้ยินหลินเฉิง พูด หยูซาน แลบลิ้นออกมาให้กับ หลินเฉิง และรีบไปที่เบาะหลังพร้อมกับโคล่าและ เทียนซือ เฉินเฟยหยู ตกใจกับความงามของ หยูซาน มาถึงครึ่งวัน ในที่สุดเขาก็ถูก หลินเฉิง ชกเพื่อเตือนสติ ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็กลายเป็นสีแดงอีกครั้ง เขารีบทำหน้าที่ค้นหาเส้นทางอย่างซื่อสัตย์
เมื่อไปตามคำแนะนำของเฉินเฟยหยู พวกเขาขับรถเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวาในเมืองเฉินเจียง ซอมบี้ทั้งหลายถูกบดขยี้จนน้ำหนองและเลือดกระจัดกระจายบนหน้าต่างของรถ มันทำให้ เฉินเฟยหยู รู้สึกแทบจะอาเจียน
หลินเฉิง เหลือบไปมอง เฉินเฟยหยู ที่พยายามโผล่หัวออกไปอาเจียนด้านนอกด้วยความหงุดหงิด มันเนิ่นนานมากกว่า 3 เดือนแล้วที่โลกเกิดภัยพิบัติแต่ผู้ชายคนนี้ยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับฉากดังกล่าวได้
ในความเป็นจริงระบบแคปซูลเมื่อมีการยกระดับมาถึงระดับLevel 3 มันมีแคปซูลของเรือยอร์ชระดับCอยู่ในนั้นแต่มันต้องการใช้ค่าพลังงานถึง 50,000 คะแนน แม้ว่าค่าคะแนนปัจจุบันของ หลินเฉิง จะมากกว่า 300,000 คะแนนจากการสะสมมาตลอดทั้งเดือน แต่มันก็ยังห่างไกลจุดหมายที่เขาต้องการพลังงานถึง 500,000 คะแนนเพื่อแลกเปลี่ยนกับแคปซูลยาระดับC
ดังนั้นเพื่อเป็นการประหยัดพลังงานเขาจึงจำเป็นต้องหาเรือลำอื่นเพื่อข้ามทะเลอย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งของที่ใช้แล้วทิ้งหลังจากไปถึงเซียงโจว เขาก็ไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเสียค่าพลังงานที่มีค่า
สำหรับอันตรายที่จะเกิดขึ้นในทะเลนั้น…
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้หลินเฉิง ถอนหายใจอย่างนุ่มนวล สุดท้ายแล้วเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะหยุดอยู่ที่นี่แม้ว่าจะเจอกับอันตรายที่ไม่รู้จัก ยิ่งไปกว่านั้นหากสถานการณ์เร่งด่วนเกินไปเขาสามารถแลกเปลี่ยนเป็นแคปซูลเรือยอร์ชได้ตลอดเวลา
ตามคำแนะนำภายในระบบแคปซูลหลินเฉิง รู้ว่าขนาดของเรือยอร์ชระดับ Cงั้นไม่ได้มีขนาดใหญ่มากและมันเล็กมากสำหรับตัวประหลาดอย่างเต่ายักษ์ แค่มันอ้าปากมันก็สามารถกลืนเรือยอร์ชทั้งหมดลงไปในท้องของมันได้ดังนั้นนั่นคือหนึ่งเหตุผลที่ หลินเฉิง ไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนค่าพลังงานเป็นเรือยอร์ชในตอนนี้
ยังไงท้ายสุดแล้วเรือยอร์ชระดับCมีการป้องกันระดับ 3 แล้วยังติดตั้งอาวุธหนักมันสามารถใช้ในกรณีฉุกเฉินได้ทันที!
———————————–