SC:
“เดี๋ยวอย่าพึ่งฉันรู้สึกเหมือนได้ยินใครบางคนกำลังเคาะประตูอยู่!หรือว่าพี่ใหญ่หลินจะกลับมาแล้ว”
หลังจากได้ยินเสียงเคาะประตูจากไกลๆจางซวน จับแขนของ เฉินเฟยหยู และพูดขึ้นทันที
เมื่อได้ยินดังนั้นเฉินเฟยหยู ก็รู้สึกตกใจและลุกขึ้นทันทีเช่นกัน!
“ฉันจะไปเปิดประตูส่วนเธอตรวจสอบสัมภาระให้ดีหากเป็นพี่ใหญ่หลินเราจะออกจากที่นี่ทันที!”
หลังจากนั้นเฉินเฟยหยู ก็ดึงถุงมือที่เต็มไปด้วยคราบน้ำมันทิ้งก่อนจะกระโดดออกมาจากดาดฟ้าเรือและตรงไปในบ้านทันที
“ก๊อกๆ”
“รอเดี๋ยว!”
เสียงเคาะดังขึ้นเรื่อยๆเฉินเฟยหยู รีบตะโกนตอบรับทันทีในขณะเดียวกันเขาก็รีบปลดโซ่คล้องประตูออก!
“ทำไมนายใช้เวลาเปิดประตูนานอย่างนี้หรือว่า?นายกำลังเล่นกับแฟนสาวนายอยู่”
เมื่อเห็นว่าเฉินเฟยหยู เป็นคนเปิดประตู หลินเฉิง ที่กำลังสูบบุหรี่บ่นขึ้น
“ผม..?คือว่าผมกำลังวุ่นวายอยู่บนเรือน่ะเลยไม่ได้ยินเสียงแต่สุดท้ายพี่ก็มาจนได้ เสี่ยวซวนและผมกำลัง..”
เมื่อได้ยินหลินเฉิง หยอกล้อ เฉินเฟยหยู ได้แต่หัวเราะแห้งๆพร้อมกับเกาหัว เขารีบหยิบสัมภาระของ หลินเฉิง และพูดว่า
“พี่หลินเข้ามานั่งพักก่อน”
และเดินนำเข้าไปในห้อง
แต่หลินเฉิง หยิบของกลับขึ้นมาแล้วพูดว่า
“ไม่เป็นไรเรือพร้อมหรือยัง พวกเราจะออกเดินทางได้ตอนไหน”
“แน่นอน!”
เมื่อได้ยินดังนั้นเฉินเฟยหยู ตบลงบนหน้าอกของตัวเองแล้วพูดว่า
“ผมกำลังทำให้เรือลำนี้ออกเดินทางไปถึงจุดหมายได้ตรงเวลาเมื่อพี่ใหญ่หลินพร้อมพวกเราจะออกเดินทางทันที”
เมื่อเห็นว่าเฉินเฟยหยู แสดงความมั่นใจในตัวเอง หลินเฉิง พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“อีกนานไหมกว่าจะเดินทางไปถึงเกาะหนานซูถ้าเดินทางตอนนี้จะถึงก่อนพระอาทิตย์ตกไหม?”
“ถ้า..ไม่มีอะไรผิดพลาดจะใช้เวลาประมาณ3-4 ชั่วโมง ก็จะถึงจุดหมาย ผมไม่ได้เดินเรือเลยตั้งแต่เกิดวันอวสานโลก และตอนนี้ทะเลที่เราเห็นเป็นสีดำเกือบทั้งหมดมันยากที่จะสรุปผลได้”
เมื่อได้ยินหลินเฉิงถาม เฉินเฟยหยู ถึงกับอึ้งและพยายามทบทวนสักพัก
เมื่อได้ยินดังนั้นหลินเฉิง ขมวดคิ้วเล็กน้อยเขายกมือขึ้นเพื่อดูนาฬิกาและพบว่าตอนนี้เป็นเวลา 13:00 นแล้ว
“ถ้าเป็นไปตามที่นายบอกเราไม่มีเวลาแล้วพวกเราต้องไปเดี๋ยวนี้!”
หลังจากนั้นพวกเขาก็มุ่งตรงไปด้านหลังบ้านทันทีที่ก้าวเท้าขึ้นท่าเรือ หลินเฉิง ก็เห็น จางซวน กำลังถือถุง 2 ใบใหญ่
“โอ้พี่ใหญ่หลินในที่สุดพี่ก็มา พวกเรานึกว่าพี่เจอปัญหาเข้าซะแล้ว”
หลินเฉิง เดินเข้าไปช่วย จางซวน เพื่อยกถุงใบใหญ่ขึ้นไปบนเรือ จากนั้นเธอขอบคุณ หลินเฉิง ที่เข้ามาช่วย
เมื่อหลินเฉิง ได้ยินเขาก็พูดว่า
“พวกเรายังมีโอกาสเจออุปสรรคอีกเยอะ?พวกเธอควรที่จะขนสัมภาระให้เร็วที่สุดพวกเรากำลังจะออกเดินทางแล้ว!”
“อะไรนะ?”
จางซวน รู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินว่า หลินเฉิง กำลังจะออกเดินทาง
“พี่หลิน…พี่ยังไม่ได้พักเลยไม่ใช่หรอ เฟยหยูสามารถค่อยๆขับเรือไปได้พี่ไม่ต้องเป็นกังวลไป”
หลินเฉิง ส่ายหัวและพูดว่า
“เธอควรรู้ว่าตอนนี้ในทะเลนั้นมีอันตรายมากมายถ้าเธอไม่สามารถไปถึงเกาะทางใต้ก่อนมืดแล้วล่ะก็มันยากที่จะพูดว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง!”
หลังจากพูดจบหลินเฉิง ก็เดินไปที่ห้องคนขับและมองไปที่ เฉินเฟยหยู
….
ในเวลา 13:30 น
“เครื่องติดแล้ว..”
เสียงเครื่องยนต์กำลังเปิดทำงานในที่สุดเรือนกนางนวลก็ค่อยๆออกจากท่าเรือ
ณดาดฟ้าเหลือชั้น 2 หลินเฉิง กำลังสูบบุหรี่อยู่และมองออกไปในทะเลด้วยดวงตาลึกซึ้ง
เข้าสู่วันที่100 จุดหมายคือเซียงโจว
ในระหว่าง100 วันที่ผ่านมา หลินเฉิง ได้เปลี่ยนจากเด็กมหาลัยซื่อบื้อคนหนึ่งจากทางใต้ที่พยายามตามหาญาติอย่างไร้หนทาง จนกลายเป็น “นักฆ่าวันโลกาวินาศ”
ในระหว่างนี้ได้ระบบแคปซูลคอยช่วยเหลือเขาได้ฆ่าคนชั่ว ซอมบี้และตัวกินคนไปมากมายในขณะเดียวกันก็ได้ล่วงรู้ความลับมากมายเกี่ยวกับวันสิ้นโลก
ได้ตอนนี้หลินเฉิง ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้วเขาได้ค้นพบความลับมากมาย ในตอนนี้เขามีความมุ่งมั่นที่จะพบครอบครัวของเขาและมีความคิดต่างๆมากมาย Aileen-novel
หลุมในคาบสมุทรยามาลคืออะไร?
ยุงยักษ์6 ขา ตัวนำพาเชื้อโรคแห่งวันโลกาวินาศ มาจากไหน?
นอกจากนี้ใครคือผู้หญิงลึกลับที่เขาเห็นในถ้ำลึก2 กิโลเมตรบนภูเขาฟีนิกซ์ ประตูที่มีอักษรโบราณที่อยู่ในห้องของเธอนำพาไปที่ไหนกัน?
มีการเชื่อมโยงระหว่างความลับทั้งหมดนี้หรือไม่?
ชิ้นส่วนปริศนามากมายหลินเฉิง โยนความคิดนี้ทั้งหมดออกไปและสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ในสายตาของคนอื่นการที่จู่ๆเกิดวันสิ้นโลกขึ้นเป็นเรื่องแปลก แต่ก็ไม่สามารถการันตีได้ว่ามีผู้รอดชีวิตคนอื่นรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่
อย่างไรก็ตามหลินเฉิง ที่รอดชีวิตมาได้อย่างยากลำบากนี้ไม่สามารถเพิกเฉยต่อเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่เมื่อถึงตอนนั้นเขาจะต้องมีความแข็งแกร่งและความสามารถมากขึ้น ในฐานะมนุษย์ทั่วไปเขาไม่สามารถหาคู่มือที่มีฝีมือแข็งแกร่งเทียบเท่าได้ แต่ถ้าเขาไม่พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องพลังของสัตว์ประหลาดพวกนั้นก็ยังคงวิวัฒนาการต่อไป และในท้ายที่สุดมันก็จะมาถึงทางตัน!
เพราะฉะนั้นเพื่อตัวเขาและเหล่ามิตรสหายที่อยู่รอบตัวเขารู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น เพราะเรื่องที่เขารับรู้นั้นมีมากเกินไปจึงทำให้เขาต้องเผชิญกับความคิดที่ไม่สามารถหาจุดจบได้
อย่างไรก็ตามนี่คือส่วนหนึ่งของความคิดของเขาเป้าหมายหลักๆของเขายังคงคงเดิม คือการตามหาครอบครัวฉิน และได้พบกับป้าฉิน
หลินเฉิง ยืนอยู่บนดาดฟ้าของเรือมาสักพัก เรือกำลังแล่นออกไปยังทะเลอีกไม่นานพื้นแผ่นดินด้านหลังก็จะหายไปเหลือแต่พื้นแผ่นน้ำ
มองไปยังทะเลที่ไม่มีจุดสิ้นสุดหลินเฉิง รู้สึกกังวลเนื่องจากตอนนี้เขาไม่ได้เหยียบอยู่บนพื้นดินเหมือนอย่างเคย หลังจากออกจากแผ่นดินแล้วเขารู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังเผชิญอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่โหดร้าย
หลังจากนั้นเขาส่ายหัวและเอาความคิดเหล่านี้ออกไปและกลับไปที่ห้องคนขับ
“พี่ใหญ่หลิน?พี่เคยบอกว่าพี่มาจากแผ่นดินใหญ่พี่เคยเห็นทะเลมาก่อนไหม?”
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิง กลับมาแล้ว เฉินเฟยหยู ที่กำลังอยู่ในห้องขับเรือจุดบุหรี่ขึ้นสูงและพูดขึ้น
เมื่อได้ยินดังนั้นหลินเฉิง ก็จุดบุหรี่ขึ้นสูงเช่นกันพยักหน้าและพูดขึ้นว่า
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันล่องเรือในทะเลมันมหัศจรรย์มาก!”
“จริงหรอ?”
เมื่อได้ยินว่าหลินเฉิง เพิ่งออกทะเลเป็นครั้งแรก เฉินเฟยหยู มองไปที่ชายหนุ่มและถามขึ้นอย่างไม่ทันคิด
“นี้เป็นส่วนหนึ่งของทะเลเท่านั้นพี่โชคดีแล้วที่มาเจอผมผมจะพาพี่ได้ลิ้มรสช่วงเวลาที่ดีเมื่ออยู่กับทะเล ผมจะบอกพี่ว่า..”
ในเวลานั้นเองก็ได้ยินเสียงกรีดร้องแปลกๆดังเข้ามาในห้องคนขับ!
———————————–