I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก – บทที่ 367 ข้อสงสัย

บทที่ 367 ข้อสงสัย

   นี้แหละคือการเก็บเกี่ยว! 

  หลังจากที่รู้สึกถึงแรงดึงของตาข่ายฉางเหวินฉวนก็เริ่มดึงชื่อคล้องแหอย่างเต็มแรง ปลาตัวใหญ่ติดตาข่ายขึ้นมาด้วย เขาหยิบมันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว!

  เห็นฉางเหวินฉวนกำลังยุ่งหลินเฉิงก็รู้สึกร้อนใจนิดๆ เขาเปลี่ยนจากนักเรียนที่ยากจนซึ่งเคยมีขนมปังอบสองชิ้นมาเป็นผู้ที่กินดีอยู่ดี และตอนนี้เขาต้องมาเรียนการออกล่าด้วยเสียแล้ว

   ปั้ง! 

  ไม่นานนักปลาตัวใหญ่เกือบเมตรก็ถูกฉางเหวินฉวนลากขึ้นมาคนเดียว!

  มองไปยังปลาและกุ้งที่คิดขึ้นมาด้วยหลินเฉิงที่กินอิ่มแล้ว เริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาอีกครั้ง ฉางเหวินฉวนเองก็แปลกใจในจำนวนที่ได้มาด้วย เขาหยิบล็อบเสตอร์ยาว 50 เซ็นติเมตรขึ้นมาชม!

   เหมือนว่าวันนี้โชคจะเข้าข้างแหะ! 

  มองไปยังกุ้งตัวใหญ่เกร็ดสีเขียวในมือแล้วฉางเหวินฉวนก็พูดอย่างแปลกใจ

   ไม่เคยได้เยอะขนาดนี้มาก่อนเลยตั้งแต่เรียนกับสุดยอดปรมาจารย์นักตกปลาคนนั้นมา!ดูขนาดและประเภทของปลาและกุ้งพวกนั้นสิ ปกติถ้าจะได้ขนาดนี้ต้องเหวี่ยแหถึง 3 – 4 รอบเลยนะ! 

   จริงหรอ? 

  หลินเฉิงเองก็แปลกใจอยู่ลึกๆแม้ว่าเขาอยากจะกินพวกมัน เขาก็ไม่คิดว่าจุดหาปลาตรงนี้จะได้ผลดีขนาดนี้

   ผมมั่นใจเลยหละ! 

  เห็นหลินเฉิงเหมือนจะไม่เชื่อฉางเหวินฉวนก็เลยลุกขึ้นและขอให้เขาช่วยอีกแรง เอาสัตว์ทะเลพวกนี้ไปเก็บ

   แม้ว่าแถวนี้จะมีทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบรูณ์มากตั้งแต่ที่พวกเราเริ่มล่า มันก็ลดไปเยอะมากแล้ว เพียงแค่เหวี่ยงแหวิธีเดียว ผ่านไปหนึ่งวันมันก็เริ่มไม่ได้อะกลับมาหลังจากที่เหวี่ยงออกไปแล้ว! 

   แม้ว่าเขตท้องทะเลแห่งนี้จะกว้างไกลแต่เพื่อที่จะให้พอต่อการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องผู้รอดชีวิตทั้งฐานฐานทัพ ความต้องการอาหารก็เพิ่มมากขึ้นๆ จนหน้าลำบาคใจ การที่ได้เจอจุดหาปลาดีๆ แบบนี้เป็นเรื่องที่อาศัยดวงมากๆ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมออกเรือมาคนเดียว แต่ก็หาอะไรไม่เจอเลยทุกครั้งไป! 

   เดี๋ยวนะ?นายออกมาคนเดียวด้วยหรอ? 

  หลินเฉิงขัดจังหวะทันที ถ้าจำไม่ผิด ทำเลมันอุดมสมบูรณ์กว้าแต่ก่อนมาก แต่ความเสียงก็เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกันใช่ไหม? แม้จะฝังดูฉุกละหุกไปหน่อย แต่ฉันอยากรู้ว่านายออกทะเลอย่างอิสระแบบนั้น ในมหาสมุทรที่โคตรจะอันตรายแบบนี้ได้ยังไง 

   เออ…    เห็นหลินเฉิงมองมาอย่างสงสัยฉางเหวินฉวนก็พูดไม่ออก เขาได้แต่กระแอ่มออกมาสองครั้ง  เอาไว้ผมค่อยบอกที่หลังนะ 

   โอเคไม่เป็นไร! 

  เห็นสีหน้าดูไม่ดีของฉางเหวินฉวนหลินเฉิงก็หัวเราะและตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเรื่องคุย ถ้าจะพูดอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะไปเน้นย้ำคำถามเพียงข้อเดียวตลอด อีกอย่างอีกฝายเองก็บอกความจริงกับเขาไม่ได้ งั้นทำเป็นไม่ใส่ใจไปเลยจะดูดีกว่า

   ถ้าท่านรองไม่อยากพูดฉันก็ไม่ติดใจอะไรทั้งนั้น! 

  หลังจากนั้นหลินเฉิงก็นั่งยองและหยิบตาขายขึ้นมาดูพร้อมกับถาม ฉันจำวิธีใช้เบื้องตนได้แล้วหละ งั้นลองกับแหอันนี้ก่อนเลยแล้วกันนะ? 

  เห็นหลินเฉิงไม่ตอแยกับคำถามนั้นฉางเหวินฉวนก็ดูโล่งอกขึ้นเยอะ แต่เขาก็ยังสงสัยอยู่นิดหน่อย ตามปกติแล้ว อีกฝ่ายไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะถามคำถามนี้ด้วยซ้ำแต่เหมือนหลินเแิงจะถามอย่างไม่คิดอะไรเลย ไม่สนใจว่าเขาจะเป็นรองผบ.หรือไม่ แต่ครั้งนี้เขากลับบอกว่าจะไม่ถามเพราะเขาเป็นรองผบ. นี้นะ? ฉางเหวินฉวนส่ายหน้าและเลิกคิดเรื่องนี้ เขาตอบกลับไปก่อนที่จะมีอะไรคลาดคลื่อน!

   ใช่แล้วลองได้ตามสบายเลย! แต่… 

   ทำไม…ฉัน… 

   นายจะบอกว่าไม่ได้หรอ? 

  ก่อนที่จะได้พูดจบหลินเฉิงก็เข้ามาขัดจังหว่ะไว้ก่อน  นี้เป็นงานหลังของนาย ถ้ามีอะไรฉันก็ไม่ขัดหรอกนะ! นายเป็นถึงรองผบ. ของฐานทัพ การรู้ความลับในใจของนายนั้นเป็นภาระใหญ่หลวงสำหรับฉัน ที่เป็นแค่ผู้อยู่อาศัยใหม่ แต่ถ้ามันส่งผลต่อเสี่ยวเดียก็บอกกับฉันมาเถอะ! 

   เป็นไปไม่ได้หรอไม่มีทาง! 

  ได้ยินคำอธิบายของหลินเฉิงฉางเหวินฉวนก็โล่งใจขึ้นมาเยอะ ตั้งแต่ได้พูดคุยกันเขาก็มีความประทับใจกับชายนอกกำแพงคนนี้ เขาไม่อยากให้มีปัญหาซึ่งกันและกัน เพราะหลังจากที่เขาเลื่อนตำแหน่งมา เขาต้องทำเป็นเสแสร่งต่อคนที่เข้ามาหาผลประโยชน์ด้วย เขาไม่อยากให้พูดชายคนนี้เป็นแบบนั้นไปด้วยอีกคน!

  ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมหลินเฉิงไม่ถามคำถามนั้นต่อเหมือนว่าชายคนนี้จะเข้าใจสถานการณ์ของเขามากๆ และมีแนวคิดที่ยืดหยุ่นได้ดี เขาไม่ได้เลือกที่จะถามเพราะไม่สนใจจริงๆ แต่เขาเลือกเพราะไม่ต้องการแบกภาระในการรักษาความลับของเขาเองต่างหาก!

  เห็นท่าทีของฉางเหวินฉวนเปลี่ยนไปแล้วเปลี่ยนไปอีกหลินเฉิงก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหลักแหลมนัก เขารู้ว่าท่าทีในตอนนี้ของอีกฝ่ายไม่ใช่เรื่องธรรมดา ถ้าเขารู้ตัวขึ้นมาละก็ มันจะเป็นผลเสียต่อตัวเขาอย่างมาก!

  หลังจากที่ดัดนิ้วแล้วสิ้นเสียง แกร็ก!หลินเฉิงก็โยนตาข่ายออกไปยังท้องทะเล

   โอ๊ะ!? 

  เห็นหลินเฉิงโยนตาข่ายออกไปฉางเหวินฉวนก็อดที่จะถามอย่างนึกไม่ถึงไม่ได้  คุณแน่ใจนะว่าไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน? ดูจากท่าทางและการเคลื่อนไหวแล้ว ดูชำนานมากๆ เลยนะ? 

  หลินเฉิงยักไหล่แบบไม่ใส่ใจอะไร ฉันเป็นถึงผู้ใช้พลังระดับ 4 เลยนะ ถ้าฉันไม่มีความสามารถในการเรียนรู้ เกร่งว่าคนต้องอยู่ในระดับ 1 ไปตลอดชีวิตแล้วหละ!  

  ฉางเหวินแวนถึงกับยกนิ้วให้และพูด ที่คุณพูดมันใช่เลย! ไม่ว่าจะอยู่ในระดับไหน ก็ต้องไม่หยุดพัฒนาตัวเอง! 

  ฉางเหวินฉวนไปหยิบตาข่ายมาเพิ่มก่อนที่จะยืนข้างๆ หลินเฉิง และเหวี่ยงมันออกไป!

  ———————-SC: บทที่ 368 จับไว้!

  

 

I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก

I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing

末世胶囊系统 เรื่องย่อ : หลินเฉิงได้ผูกมัดกับระบบแคปซูล ตราบใดที่เขามีค่าพลังงานเพียงพอ เขาสามารถแลกเปลี่ยนกับของเหล่านี้ได้ เช่น แคปซูลอาวุธ เครื่องป้องกัน  รถ  บ้าน หรือแคปซูลที่เพิ่มความสามารถต่างๆ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้หลินเฉิงดีใจ เพราะมันหมายความว่า เขาจะต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ ในวันสิ้นโลกที่จะมาถึง….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท