“จุ๊จุ๊…”
เห็นฉีเซี่ยวฮันหญิงที่ไม่กลัวอะไรถูกหักเงินเดือนครึ่งปีไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้ หลินเฉิงก็พูดอะไรไม่ออก เขาได้แต่สงสัย อะไรบางอย่างที่อยู่ในใจของเขาก็หายไปเรื่องนึง
หลังจากที่เขาอารมณ์หลุดไปผู้เฒ่าก็หันกลับมาหาหลินเฉิง “ถ้าเราไม่มีข้อมูลอะไรเลยที่สำคัญของไอฉางเหวินฉวน นายก็มีพลังของนายหนิ ทำไมนายไม่ออกไปหาเองเลยหละ? จะมาหวังอะไรกับทีมดาบรัตติการ?”
“ก็นะ”
ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็พยักหน้าไปตรงๆ“ตามที่ผู้เฒ่าบอก เพราะผมไม่ได้ข้อมูลจากทีมดาบรัตติการ ผมไปที่กองพันที่หนึ่งมาเมื่อวานเพื่อทำการสอบสวนเองแล้ว จะอย่างไรก็ตาม ผมก็ได้ข้อมูลสำคัญมาด้วย…”
“นายพูดว่าอะไรนะ!?”
ได้ยินประโยคหลังปุ๊บเหลียงก็หันควับมาหาหลินเฉิงอย่างเร็ว หร้อมกับดึงคอเสื้อของหลินเฉิง “นายคิดว่านายพบข้อมูลใหม่ๆ จากการสังเกตุการณ์ ฉางเหวินฉวนจริงๆ รึ?”
“ปล่อยผมก่อนได้ไหมหละผมหายใจไม่ออก!”
หลังจากที่ชายแก่ปล่อยหลินเฉิงก็ไอสองสามครั้งก่อนที่จะส่งยิ้มแห้งๆ มาให้
“ฮึ่ม…!”
เห็นอย่างงั้นตาเฒ่าเหลียงก็กลับไปวางมาดเหมือนเดิมแต่หน้าของเขาก้ยังแดงด้วยความโกรธ แทนที่จะกลับไปนั่งที่เขากลับยืนเท้าโต๊ะทำงานของตัวเอง เขามองมายังหลินเฉิงด้วยความเงียบสงัด “หลินเฉิง ที่นี่ไม่มีคนนอก ถ้ามีอะไรจะบอกก็บอกมาได้แล้ว ไม่ต้องปิดบังกัน! ถ้าเอ็งได้ข้อมูลที่น่าสนใจมาจริงๆ แต่ยังเลือกที่จะมาหาพวกเรา นั้นหมายความว่าข้อมูลที่ได้มานั้นยากเกินกว่าที่จะรับมือคนเดียวใช่หรือไม่?!”
“จุ๊จุ๊ ความแก่ไม่ได้ทำให้หลังแหลมน้อยลงไปเลยนะ!”
หลินเฉิงยังไม่ได้บอกอะไรไปเลยแต่ผู้เฒ่ากับคาดเดาได้ถึงขนาดนี้แล้ว หลินเฉิงกอึ้งไปเลยที่ชายแก่คนนี้พยายามหาเหตุผลในการมาของเขาอย่างมีหลักการ!
“งั้นอย่าพูดไร้สาระเลยบอกมาก่อสิว่า นายไปรู้อะไรมากันแน่?”
ตาเฒ่าไม่ได้แคร์เรื่องความสุภาพอะไรมาตั้งแต่แรกแล้วเขาถามตรงๆ พร้อมกับโบกมือขวาไปมา
หลินเฉิงได้แต่ยิ้มและส่ายหน้าเขาพูดต่อไปด้วยสีหน้าที่นิ่งสนิท “ผู้เฒ่าเหลียง ทุกคนก็เป็นผู้ใหญ่กันทั้งนั้น ผู้เฒ่าคิดว่าฉันมาเพื่อบอกข้อมูลนั้นเฉยๆ จริงๆ หรอ?”
เหลียงก็คิดขึ้นได้ด้วยพลังและความสามารถของหลินเฉิง เขาอาจจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวคนเดียวได้จริงๆ ไม่ต้องมาหาเขาก็ได้ แต่ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างทำให้เขามาขอความร่วมมือในวันนี้!
หัวใจของตาเฒ่าเต้นรัวเมื่อพยายามหาเหตุผลของหลินเฉิงอย่างต่อเนื่อง!
เห็นชายแก่กำลังใช้ความคิดอย่างมากหลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูดหลินเฉิงก็ไม่เข้าไปขัดจังหวะ การปล่อยให้อีกฝ่ายคิดอย่างนี้นั้น แสดงให้เห็นได้เลยว่า เขาให้ความสนใจกับการมาครั้งนี้และตัวของฉางเหวินฉวนขนาดไหน!
หลังจากผ่านไปสักพักหลินเฉิงที่นั่งเบื่ออยู่บนเก้าอี้ก็พุ่นควันออกมาเหลียงที่นั่งนิ่งอยู่นานก็เปร่งเสียงออกมาจนได้ในที่สุด “ฉันเข้าใจความหมายของนายแล้ว ฉันจะส่งทีมไปคุ้มกันความปลอดภัยของครอบครัวหลีเฉิงหยีทันทีเลย!”
“เยี่ยมไปเลยผู้เฒ่า!”
เอาจริงๆใช้เวลาไม่นานมาในทีสุดตาเฒ่าก็เข้าใจเหตุผลทุกอย่างแล้ว หลินเฉิงจึงยกนิ้วโป้งให้อย่างช่วยไม่ได้!
เหลียงไม่ใส่ใจการเยินยอนั้นนักเขาโบกปัด ก่อนทีจะพูดต่อ “ฉันสมองช้าไปหน่อย ถ้านายมาเพื่อให้ข้อมูลเรื่องฉางเหวินฉวน ฉันควรจะรู้ตัวให้เร็วกว่านี้…”
พูดจบชายแก่ก็กลับไปนั่งที่และหยิบไปพ์ขึ้นมาสูบบ้าง “อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่อยู่ภายใต้การคุ้มกันของดาบรัตติการ ต่อให้เป็นฉางเหวินฉวน ก็ทำอะไรไม่ได้ง่ายๆ เอ็งสบายใจได้เลยเรื่องนี้!”
“ผมไม่สงสัยเรื่องการปฏิบัติงานขอผู้เฒ่าอยู่แล้วหละ!”
ได้เห็นความมั่นใจของชายชราแล้วหลินเฉิงก็พยักหน้างึกๆ แม้เขาจะให้โคล่ากับเทียนซือคอยคุ้มกันไว้แล้ว แต่ยังไงๆ พวกมันก็ไม่ใช่มนุษย์ ในกรณีฉุกเฉินแล้วโอกาสที่ทุกอย่างจะผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้ง่ายมาก ไหนๆ พวกมันก็คุ้มกันได้ไม่เก่งนักอีก เขาจึงต้องการทีมคุ้มกันจริงๆ จังๆ ของทีมดาบรัตติการ!ก็เข้าใจเหตุผลทุกอย่างแล้ว หลินเฉิงจึงยกนิ้วโป้งให้อย่างช่วยไม่ได้!
เหลียงไม่ใส่ใจการเยินยอนั้นนักเขาโบกปัด ก่อนทีจะพูดต่อ “ฉันสมองช้าไปหน่อย ถ้านายมาเพื่อให้ข้อมูลเรื่องฉางเหวินฉวน ฉันควรจะรู้ตัวให้เร็วกว่านี้…”
พูดจบชายแก่ก็กลับไปนั่งที่และหยิบไปพ์ขึ้นมาสูบบ้าง “อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่อยู่ภายใต้การคุ้มกันของดาบรัตติการ ต่อให้เป็นฉางเหวินฉวน ก็ทำอะไรไม่ได้ง่ายๆ เอ็งสบายใจได้เลยเรื่องนี้!”
“ผมไม่สงสัยเรื่องการปฏิบัติงานขอผู้เฒ่าอยู่แล้วหละ!”
ได้เห็นความมั่นใจของชายชราแล้วหลินเฉิงก็พยักหน้างึกๆ แม้เขาจะให้โคล่ากับเทียนซือคอยคุ้มกันไว้แล้ว แต่ยังไงๆ พวกมันก็ไม่ใช่มนุษย์ ในกรณีฉุกเฉินแล้วโอกาสที่ทุกอย่างจะผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้ง่ายมาก ไหนๆ พวกมันก็คุ้มกันได้ไม่เก่งนักอีก เขาจึงต้องการทีมคุ้มกันจริงๆ จังๆ ของทีมดาบรัตติการ! “นั้นแหละที่ผมต้องการผมพอจะรู้ถึงพลังของฉางเหวินฉวนแล้ว ผมบอกกับทีมของผู้เฒ่าได้ แต่ผมก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วยซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่โตมาก!”
เมื่อความปลอดภัยของครอบครัวได้รับการการันตรีแล้วตอนนี้ก็เท่ากับว่าไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องห่วงแล้ว หลินเฉิงจึงพร้อมที่จะอธิบายทุกอย่าง เขาพูดกับเหลียงด้วยเสียงที่ดังฟังชัด “ผมไม่รู้หรอกนะว่าฉางเหวินฉวนทำอะไรไว้บ้าง ตอนที่ทีมของผู้เฒ่าไม่ได้สนใจอะไรนัก บอกได้เลยว่าที่ทีมดาบรัตติการทำอยู่นั้นมาถูกทางแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดสามารถหาจังหวะในการได้ข้อมูลนั้นมาเลย…”
พูดถึงตรงนี้หลินเฉิงก็ยิ้ม“ไหนๆ พวกเราก็ร่วมมือกันอย่างจริงใจแล้ว ผมจะบอกข่าวที่น่าสนใจที่สุดให้ฟังก่อนเลย!”
“เรื่องอะไรกันหละ?”
ได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความลับของหลินเฉิงผู้เฒ่าก็ได้แต่ขมวดคิ้วแน่น
เห็นท่าทีที่เต็มไปด้วยความตั้งใจของเหลียง หลินเฉิงก็ยิ้มอีกครั้ง “ตอนที่ผมถามเรื่องนั้นก็เซี่ยวฮัน เธอบอกว่าดาบรัตติการยังไม่รู้เรื่องพลังของฉางเหวินฉวนจนถึงตอนนี้ใช่ไหม?”
“ถูกต้องแล้ว”
เหลียงพยักหน้ายอมรับอย่างโดยดีเขานิ่งอยู่แปปนึงก่อนที่จะพูดอย่างตกใจ “หมะ…หมายความว่านาย…?”
“ใช่แล้วผมเข้าใจถึงพลังของฉางเหวินฉวนแล้วหละ!”
เมื่อเห็นการตอบโต้ของผู้เฒ่าหลินเฉิงก็ไม่เก็บอะไรไว้อีกต่อไป “พลังของเขาคือการควบคุมสายฟ้า! และพูดได้เลยว่าอยู่ในระดับที่ 5 แล้ว!”
เมื่อหลินเฉิงบอกว่าพลังของไอหมอนั้นคือการควบคุมสายฟ้าที่หาได้ยากมากๆ แล้ว พลังของฉางเหวินฉวนยังถึงระดับที่ 5 อีก นั้นทำให้เขาซูดหายใจลึกๆ อย่างไม่รู้ตัว!
เขาตกใจไม่ใช้เพราะว่าพลังควบคุมสายฟ้านั้นหายาก หรือระดับขั้นนั้นสูงมาก แต่เป็นเพราะความสามรถที่ชายคนนั้นสามารถปกปิดพลังนี้จากทุกคนได้ แต่ไม่สามารถปกปิดหลินเฉิงได้ต่างหาก!
“แปลกใจหรอ?”
เห็นสีหน้าของตาเฒ่าเหลียงหลินเฉิงก็ถอนหายใจออกมา “ลองคิดดูสิ ถ้ามีผู้ใชเพลังควบคุมจิตใจระดับ 5 ที่คอยปกปิดเรื่องนี้จากทุกคนมานานขนาดนี้ สิ่งที่หน้าสงสัยที่สุดไม่ใช้เรื่องพลัง แต่เป็นเรื่องจิตใจของเขาต่างหาก!”
———————–SC: บทที่ 406 วัสดุของหลินเฉิง!
เห็นฉีเซี่ยวฮันหญิงที่ไม่กลัวอะไรถูกหักเงินเดือนครึ่งปีไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้ หลินเฉิงก็พูดอะไรไม่ออก เขาได้แต่สงสัย อะไรบางอย่างที่อยู่ในใจของเขาก็หายไปเรื่องนึง
หลังจากที่เขาอารมณ์หลุดไปผู้เฒ่าก็หันกลับมาหาหลินเฉิง “ถ้าเราไม่มีข้อมูลอะไรเลยที่สำคัญของไอฉางเหวินฉวน นายก็มีพลังของนายหนิ ทำไมนายไม่ออกไปหาเองเลยหละ? จะมาหวังอะไรกับทีมดาบรัตติการ?”
“ก็นะ”
ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็พยักหน้าไปตรงๆ“ตามที่ผู้เฒ่าบอก เพราะผมไม่ได้ข้อมูลจากทีมดาบรัตติการ ผมไปที่กองพันที่หนึ่งมาเมื่อวานเพื่อทำการสอบสวนเองแล้ว จะอย่างไรก็ตาม ผมก็ได้ข้อมูลสำคัญมาด้วย…”
“นายพูดว่าอะไรนะ!?”
ได้ยินประโยคหลังปุ๊บเหลียงก็หันควับมาหาหลินเฉิงอย่างเร็ว หร้อมกับดึงคอเสื้อของหลินเฉิง “นายคิดว่านายพบข้อมูลใหม่ๆ จากการสังเกตุการณ์ ฉางเหวินฉวนจริงๆ รึ?”
“ปล่อยผมก่อนได้ไหมหละผมหายใจไม่ออก!”
หลังจากที่ชายแก่ปล่อยหลินเฉิงก็ไอสองสามครั้งก่อนที่จะส่งยิ้มแห้งๆ มาให้
“ฮึ่ม…!”
เห็นอย่างงั้นตาเฒ่าเหลียงก็กลับไปวางมาดเหมือนเดิมแต่หน้าของเขาก้ยังแดงด้วยความโกรธ แทนที่จะกลับไปนั่งที่เขากลับยืนเท้าโต๊ะทำงานของตัวเอง เขามองมายังหลินเฉิงด้วยความเงียบสงัด “หลินเฉิง ที่นี่ไม่มีคนนอก ถ้ามีอะไรจะบอกก็บอกมาได้แล้ว ไม่ต้องปิดบังกัน! ถ้าเอ็งได้ข้อมูลที่น่าสนใจมาจริงๆ แต่ยังเลือกที่จะมาหาพวกเรา นั้นหมายความว่าข้อมูลที่ได้มานั้นยากเกินกว่าที่จะรับมือคนเดียวใช่หรือไม่?!”
“จุ๊จุ๊ ความแก่ไม่ได้ทำให้หลังแหลมน้อยลงไปเลยนะ!”
หลินเฉิงยังไม่ได้บอกอะไรไปเลยแต่ผู้เฒ่ากับคาดเดาได้ถึงขนาดนี้แล้ว หลินเฉิงกอึ้งไปเลยที่ชายแก่คนนี้พยายามหาเหตุผลในการมาของเขาอย่างมีหลักการ!
“งั้นอย่าพูดไร้สาระเลยบอกมาก่อสิว่า นายไปรู้อะไรมากันแน่?”
ตาเฒ่าไม่ได้แคร์เรื่องความสุภาพอะไรมาตั้งแต่แรกแล้วเขาถามตรงๆ พร้อมกับโบกมือขวาไปมา
หลินเฉิงได้แต่ยิ้มและส่ายหน้าเขาพูดต่อไปด้วยสีหน้าที่นิ่งสนิท “ผู้เฒ่าเหลียง ทุกคนก็เป็นผู้ใหญ่กันทั้งนั้น ผู้เฒ่าคิดว่าฉันมาเพื่อบอกข้อมูลนั้นเฉยๆ จริงๆ หรอ?”
เหลียงก็คิดขึ้นได้ด้วยพลังและความสามารถของหลินเฉิง เขาอาจจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวคนเดียวได้จริงๆ ไม่ต้องมาหาเขาก็ได้ แต่ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างทำให้เขามาขอความร่วมมือในวันนี้!
หัวใจของตาเฒ่าเต้นรัวเมื่อพยายามหาเหตุผลของหลินเฉิงอย่างต่อเนื่อง!
เห็นชายแก่กำลังใช้ความคิดอย่างมากหลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูดหลินเฉิงก็ไม่เข้าไปขัดจังหวะ การปล่อยให้อีกฝ่ายคิดอย่างนี้นั้น แสดงให้เห็นได้เลยว่า เขาให้ความสนใจกับการมาครั้งนี้และตัวของฉางเหวินฉวนขนาดไหน!
หลังจากผ่านไปสักพักหลินเฉิงที่นั่งเบื่ออยู่บนเก้าอี้ก็พุ่นควันออกมาเหลียงที่นั่งนิ่งอยู่นานก็เปร่งเสียงออกมาจนได้ในที่สุด “ฉันเข้าใจความหมายของนายแล้ว ฉันจะส่งทีมไปคุ้มกันความปลอดภัยของครอบครัวหลีเฉิงหยีทันทีเลย!”
“เยี่ยมไปเลยผู้เฒ่า!”
เอาจริงๆใช้เวลาไม่นานมาในทีสุดตาเฒ่าก็เข้าใจเหตุผลทุกอย่างแล้ว หลินเฉิงจึงยกนิ้วโป้งให้อย่างช่วยไม่ได้!
เหลียงไม่ใส่ใจการเยินยอนั้นนักเขาโบกปัด ก่อนทีจะพูดต่อ “ฉันสมองช้าไปหน่อย ถ้านายมาเพื่อให้ข้อมูลเรื่องฉางเหวินฉวน ฉันควรจะรู้ตัวให้เร็วกว่านี้…”
พูดจบชายแก่ก็กลับไปนั่งที่และหยิบไปพ์ขึ้นมาสูบบ้าง “อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่อยู่ภายใต้การคุ้มกันของดาบรัตติการ ต่อให้เป็นฉางเหวินฉวน ก็ทำอะไรไม่ได้ง่ายๆ เอ็งสบายใจได้เลยเรื่องนี้!”
“ผมไม่สงสัยเรื่องการปฏิบัติงานขอผู้เฒ่าอยู่แล้วหละ!”
ได้เห็นความมั่นใจของชายชราแล้วหลินเฉิงก็พยักหน้างึกๆ แม้เขาจะให้โคล่ากับเทียนซือคอยคุ้มกันไว้แล้ว แต่ยังไงๆ พวกมันก็ไม่ใช่มนุษย์ ในกรณีฉุกเฉินแล้วโอกาสที่ทุกอย่างจะผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้ง่ายมาก ไหนๆ พวกมันก็คุ้มกันได้ไม่เก่งนักอีก เขาจึงต้องการทีมคุ้มกันจริงๆ จังๆ ของทีมดาบรัตติการ!ก็เข้าใจเหตุผลทุกอย่างแล้ว หลินเฉิงจึงยกนิ้วโป้งให้อย่างช่วยไม่ได้!
เหลียงไม่ใส่ใจการเยินยอนั้นนักเขาโบกปัด ก่อนทีจะพูดต่อ “ฉันสมองช้าไปหน่อย ถ้านายมาเพื่อให้ข้อมูลเรื่องฉางเหวินฉวน ฉันควรจะรู้ตัวให้เร็วกว่านี้…”
พูดจบชายแก่ก็กลับไปนั่งที่และหยิบไปพ์ขึ้นมาสูบบ้าง “อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่อยู่ภายใต้การคุ้มกันของดาบรัตติการ ต่อให้เป็นฉางเหวินฉวน ก็ทำอะไรไม่ได้ง่ายๆ เอ็งสบายใจได้เลยเรื่องนี้!”
“ผมไม่สงสัยเรื่องการปฏิบัติงานขอผู้เฒ่าอยู่แล้วหละ!”
ได้เห็นความมั่นใจของชายชราแล้วหลินเฉิงก็พยักหน้างึกๆ แม้เขาจะให้โคล่ากับเทียนซือคอยคุ้มกันไว้แล้ว แต่ยังไงๆ พวกมันก็ไม่ใช่มนุษย์ ในกรณีฉุกเฉินแล้วโอกาสที่ทุกอย่างจะผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้ง่ายมาก ไหนๆ พวกมันก็คุ้มกันได้ไม่เก่งนักอีก เขาจึงต้องการทีมคุ้มกันจริงๆ จังๆ ของทีมดาบรัตติการ! “นั้นแหละที่ผมต้องการผมพอจะรู้ถึงพลังของฉางเหวินฉวนแล้ว ผมบอกกับทีมของผู้เฒ่าได้ แต่ผมก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วยซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่โตมาก!”
เมื่อความปลอดภัยของครอบครัวได้รับการการันตรีแล้วตอนนี้ก็เท่ากับว่าไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องห่วงแล้ว หลินเฉิงจึงพร้อมที่จะอธิบายทุกอย่าง เขาพูดกับเหลียงด้วยเสียงที่ดังฟังชัด “ผมไม่รู้หรอกนะว่าฉางเหวินฉวนทำอะไรไว้บ้าง ตอนที่ทีมของผู้เฒ่าไม่ได้สนใจอะไรนัก บอกได้เลยว่าที่ทีมดาบรัตติการทำอยู่นั้นมาถูกทางแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดสามารถหาจังหวะในการได้ข้อมูลนั้นมาเลย…”
พูดถึงตรงนี้หลินเฉิงก็ยิ้ม“ไหนๆ พวกเราก็ร่วมมือกันอย่างจริงใจแล้ว ผมจะบอกข่าวที่น่าสนใจที่สุดให้ฟังก่อนเลย!”
“เรื่องอะไรกันหละ?”
ได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความลับของหลินเฉิงผู้เฒ่าก็ได้แต่ขมวดคิ้วแน่น
เห็นท่าทีที่เต็มไปด้วยความตั้งใจของเหลียง หลินเฉิงก็ยิ้มอีกครั้ง “ตอนที่ผมถามเรื่องนั้นก็เซี่ยวฮัน เธอบอกว่าดาบรัตติการยังไม่รู้เรื่องพลังของฉางเหวินฉวนจนถึงตอนนี้ใช่ไหม?”
“ถูกต้องแล้ว”
เหลียงพยักหน้ายอมรับอย่างโดยดีเขานิ่งอยู่แปปนึงก่อนที่จะพูดอย่างตกใจ “หมะ…หมายความว่านาย…?”
“ใช่แล้วผมเข้าใจถึงพลังของฉางเหวินฉวนแล้วหละ!”
เมื่อเห็นการตอบโต้ของผู้เฒ่าหลินเฉิงก็ไม่เก็บอะไรไว้อีกต่อไป “พลังของเขาคือการควบคุมสายฟ้า! และพูดได้เลยว่าอยู่ในระดับที่ 5 แล้ว!”
เมื่อหลินเฉิงบอกว่าพลังของไอหมอนั้นคือการควบคุมสายฟ้าที่หาได้ยากมากๆ แล้ว พลังของฉางเหวินฉวนยังถึงระดับที่ 5 อีก นั้นทำให้เขาซูดหายใจลึกๆ อย่างไม่รู้ตัว!
เขาตกใจไม่ใช้เพราะว่าพลังควบคุมสายฟ้านั้นหายาก หรือระดับขั้นนั้นสูงมาก แต่เป็นเพราะความสามรถที่ชายคนนั้นสามารถปกปิดพลังนี้จากทุกคนได้ แต่ไม่สามารถปกปิดหลินเฉิงได้ต่างหาก!
“แปลกใจหรอ?”
เห็นสีหน้าของตาเฒ่าเหลียงหลินเฉิงก็ถอนหายใจออกมา “ลองคิดดูสิ ถ้ามีผู้ใชเพลังควบคุมจิตใจระดับ 5 ที่คอยปกปิดเรื่องนี้จากทุกคนมานานขนาดนี้ สิ่งที่หน้าสงสัยที่สุดไม่ใช้เรื่องพลัง แต่เป็นเรื่องจิตใจของเขาต่างหาก!”
———————–SC: บทที่ 406 วัสดุของหลินเฉิง!
