SC:บทที่461: การเผชิญหน้าของสำนักงานใหญ่!
เปล่า!
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของหลินเฉิงทันใดนั้นฉีเซี่ยวฮันก็รู้สึกหนาวขึ้นมาในใจและรีบส่ายมือ ฉันจะกล้าขู่นายได้ยังไง? ฉันก็แค่อยากบอกนายว่าถ้าเทียบกับหน่วยอื่นแล้ว ดาบรัตติกาลของพวกเราเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนายตอนนี้ ทั้งในด้านของความมั่นใจและรากฐาน!
หึ!
เมื่อเห็นสีหน้าตื่นตกใจของฉีเซี่ยวฮันหลินเฉิงก็พึมพำออกมา ฉันยอมรับว่าสิ่งที่เธอพูดก็มีส่วนถูก แต่นี่มันไม่ใช่เหตุผลว่าทำไมฉันถึงต้องช่วยเธอ!
ไอ้…ไอ้… ไอ้เวร! เมื่อเห็นว่าไม่ว่าเธอจะพูดยังไงหลินเฉิงก็ไม่ยอมช่วยฉีเซี่ยวฮันจึงทนไม่ไหวในที่สุด ดวงตาของเธอแดงก่ำ ฮื่อ เธอเริ่มร้องไห้ ชี้ไปที่หลินเฉิงขณะที่ร้องไห้และพูดเสียงดัง ไอ้คนเนรคุณ! เมื่อวานฉันอุตส่าห์ช่วยนายอย่างสุดความสามารถ ถึงแม้ว่านายไม่อยากช่วยเหลียง แต่อย่างน้อยนายก็ควรไปที่ศาลากลางเพื่อเห็นแก่หน้าฉันไม่ใช่รึไง? ฉันไม่คิด ฉันไม่คิดเลย….
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ฉีเซี่ยวฮันที่ยิ่งพูดมากขึ้นก็ยิ่งเสียใจมากขึ้นจนไม่สามารถพูดอะไรได้อีก เธอลงไปนั่งบนพื้นและเอามือปิดหน้าร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้จะทำยังไง
เมื่อเห็นว่าเด็กสาวเสียใจเพราะตนหลินเฉิงก็หน้าเจื่อน เขาคิดว่าตลอดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นแค่เด็กแก่แดดที่ไม่มีหัวใจ และเธอจะไม่มีทางโกรธ ต่อให้เขาจะแกล้งเธอแรงกว่านี้ก็ตาม แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะมีด้านที่หมดหนทางแบบนี้ จากนั้นเขาก็คิดว่าเธอยอมแม้กระทั่งช่วยเขาจับตัวฉางเหวินฉวนและหลิงเหมิงทั้งก่อนและหลังจากที่เขาหายไปเมื่อวานนี้ และมันทำให้เขารู้สึกผิดทันที
ไม่เอาน่าเธอจะร้องไห้ทำไม? ฉันไม่รู้สึกผิดหรอกนะ….
เขาถอนหายใจหลินเฉิงสะกิดเธออย่างทนไม่ไหว จากนั้นจึงพูดต่อ ก็ได้ ฉันจะไปที่สำนักงานใหญ่ทันทีที่ฉันเตรียมพร้อมเสร็จ
นายพูดจริงหรอ?
เมื่อได้ยินแบบนั้นฉีเซี่ยวฮันก็ปาดน้ำตาบนหน้าของเธอ เธอไม่สนใจแม้ว่าหลินเฉิงจะบอกว่าเธอเหมือนคนแก่ก็ตาม เธอยืนขึ้นและคว้าแขนของหลินเฉิงไปจับแน่นและถาม แต่นายต้องเตรียมพร้อมอะไรอีก? การช่วยคนก็เหมือนกับไฟ เวลาไม่เคยรอใครหรอกนะ!
เวรละฉันต้องไปล้างหน้า!!
เมื่อเห็นว่าเด็กสาวงุนงงหลินเฉิงก็กลอกตา กลับไปก่อน แต่พอกลับไปที่สำนักงานใหญ่อย่ารีบร้อนล่ะ ไปรอฉันที่ประตู เดี๋ยวฉันจะไปที่นั่นแล้วอธิบายบางอย่างให้เธอฟัง! แต่…ก็ได้!
เมื่อได้ยินที่หลินเฉิงพูดถึงแม้ว่าฉีเซี่ยวฮันจะอยากให้เขาไปที่นั่นตอนนี้เลย แต่เธอก็เข้าใจว่าแค่หลินเฉิงสัญญากับเธอก็มากพอแล้ว ดังนั้นเธอจึงเลิกพูดไร้สาระแล้วพยักหน้า จ้องมองด้วยดวงตาที่บวมเป่งและรีบวิ่งออกไป
เมื่อมองไปที่ร่างของฉีเซี่ยวฮันที่หายไปจากธารสายตาของตนหลินเฉิงก็หรี่ตาลงอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็รีบหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่ออาบน้ำ
ฉีเซี่ยวฮันบอกว่าสถานการณ์เร่งรีบเพราะฉะนั้นเขาเลยไม่กล้าลีลามากนัก หลังจากที่อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เขาก็รีบเดินไปดูที่ห้องของหยูซาน เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังหลับสนิท เขาก็ไม่ปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมาและเดินลงไปด้านล่างทันที
…
คุณเหลียงผมนับถือคุณสำหรับคุณปโยชน์ที่คุณทำให้ฐานทัพสมุทรสีครามของพวกเรา แล้วทำไมคุณถึงปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือในการตรวจสอบล่ะครับ?
ฐานทัพสมุทรสีคราม
ตอนนี้ที่สำนักงานหลักได้ถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มทหารกลุ่มใหญ่ภายใต้ความกดดันแห่งความมืด การป้องกันแน่นหนาขนาดที่ว่าแม้แมลงวันสักตัวก็ไม่สามารถบินผ่านเข้าไปได้ ภายในห้องประชุมของสำนักงานหลังที่อยู่ชั้นที่สาม ชายร่างใหญ่ที่สวมใส่เครื่องแบบทหารมากกว่าสิบคนนั่งอยู่ประจำที่ของพวกเขา ถือถ้วยน้ำชาไว้ในมือ เงียบ เจ้าหน้าที่วัยกลางคนที่ดูเด็กสุดคนหนึ่งกำลังขมวดคิ้วเผชิญหน้ากับผู้เฒ่าเหลียง!
แต่ชายชราถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้หลังจากที่ได้ยินคำของชายวัยกลางคนเขามองไปที่ผู้ชายสูงอายุผมเทาและสวมแว่นสายตาอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ และหันไปพูดกับชายวัยกลางคน ทำไมฉันถึงไม่ร่วมมือในการตรวจสอบ? ฉันคิดว่าทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่คงรู้ดี! พวกเราทั้งหมดต่างเสียใจกับการตายของผู้บัญชาการ แต่ถ้าหากพวกคุณยังยืนยันที่จะเอาความตายของเขามาใส่พวกเรา ขอโทษทีเถอะ แต่ผมไม่เห็นด้วย!
ตอนนี้ท่านผู้บัญชาการหมิงแค่เรียกประชุมสำนักงานใหญ่ดาบรัตติกาลของคุณกับกลุ่มเห่ยซาน คนของกลุ่มเห่ยซานหลายคนถูกฆ่าและบาดเจ็บอย่างหนักกับการต่อสู้ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน พวกเขาเริ่มฝังศพคนทั้งหมดทีละคนตั้งแต่ก่อนรุ่งสางของวันนี้ ทั้งๆที่คุณที่อยู่ในการต่อสู้เมื่อวานเหมือนกัน กลับไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยแถมยังคนของคุณอีก? ในกรณีนี้ คุณกล้าพูดรึเปล่าล่ะว่าคุณไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฆาตกรที่ชื่อว่าหลินเฉิง?
เมื่อได้ยินคำตอบที่หนักแน่นของเหลียงชายวัยกลางคนก็โมโหทันที เขาถามอีกฝ่ายอย่างโมโหแต่ก็รักษาความสุภาพไว้!
อืม…
เมื่อได้ยินแบบนั้นชายชราที่นั่งอยู่ข้างๆเหลียงก็หัวเราะออกมา เขาจัดแว่นสายตาของตัวเองให้เข้าที่และมองไปรอบห้อง จากนั้นเขาจึงมองไปที่เจ้าหน้าที่วัยกลางคนอย่างใช้ความคิดและถาม เมื่อวานนี้ข้างนอกฐานทัพเกิดอะไรขึ้น? ผมคิดว่ากลุ่มดาบรัตติกาลที่นำโดยเหลียงเลามีสิทธิ์ที่จะพูดมากกว่าพวกนายทุกคนที่อยู่ที่นี่นะ? และถ้าผมจำไม่ผิด ในช่วงเวลาของการต่อสู้ที่รุนแรงที่สุดนอกฐานทัพเมื่อวาน พวกคุณทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ให้ความสนับสนุนหน่วยงานและฆาตกรที่ชื่อหลินเฉิงเท่ากับวันนี้ด้วย พวกเขาสั่งให้ทหารทุกคนรักษาฐานทัพอย่างเคร่งครัดนี่ ถูกรึเปล่า?
ท่านผู้บัญชาการดิงบอกพวกเราก่อนหายไปว่าพวกเราต้องปกป้องความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยภายของฐานทัพพวกเราถูกสั่งให้ทำ!
เมื่อได้ยินคำถามของเจ้าหน้าที่ชราที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาผู้ที่สวมเครื่องแบบเก่าและมีเหรียญตราบนหน้าอก
เมื่อได้ยินคำอธิบายของเจ้าหน้าที่วัยกลางคนชายชราก็ยิ้มและเอ่ย แต่คุณก็เห็นว่าตั้งแต่ต้นจนจบ การต่อสู้เมื่อวานไม่ได้แพร่เข้าไปถึงด้านในของฐานทัพ ในขณะที่สำนักงานใหญ่ กลุ่มเห่ยซานและหน่วยดาบรัตติกาลต่างก็ต่อสู้ในแนวหน้า พวกเขาแต่ละคนได้รับบาดเจ็บสาหัส และผู้บัญชาการเองก็ถูกฆ่า! ตามที่เหลียงเลาบอกมา หลินเฉิงที่ทำทุกอย่างนี้ดูเหมือนจะมีความแตกต่างกับสำนักงานใหญ่อยู่ การที่จะลดกำลังลง เขาจึงจ้องที่จะสังหารผู้มีพลังของสำนักงานใหญ่ แล้วเขาจะทำร้ายหน่วยดาบรัตติกาลไปเพื่ออะไร? ความแข็งแกร่งของหลินเฉิงจากสายที่ส่งไปนั้นชัดเจน ไม่ว่าเขาต้องการจะฆ่าคนจำนวนมากขนาดไหน มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องมานั่งปกป้องเขา! แล้วตอนนี้คุณยังไม่รวมกลุ่มกันและตามหาหลินเฉิงที่หายตัวไปหลังจากการต่อสู้ แต่คุณกลับพาผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณมาล้อมรอบสำนักงานหลักเพื่อที่จะจับตัวเหลียงเลา วีรบุรุษผู้ที่ปกป้องฐานทัพ โง่สิ้นดี!
พูดบ้าอะไรน่ะ! เมื่อรู้สึกว่าการเถียงกับชายชราไปก็ไม่มีประโยชน์เจ้าหน้าที่วัยกลางคนตรงหน้าก็ทำหน้าโกรธและฉีกหน้าอีกฝ่าย และจ้องหน้าชายชราและถาม คุณฉี คุณจะมาเสียเวลากับการกวนน้ำให้ขุ่นแบบนี้น่ะหรอ? ผมขอบอกคุณไว้เลยว่าไม่ว่าคุณกับคุณเหลียงจะใช้คำพูดสวยหรูแค่ไหน แต่มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนการละทิ้งหน้าที่ของเขาในการต่อสู้เมื่อวานได้! นักกฎหมายของรัฐมีกฎครอบครัว และฐานทัพสมุทรสีครามของพวกเราก็มีกฎที่ชัดเจนเช่นกัน ผู้ที่ละเลยไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตนจะต้องได้รับการจัดการตามกฎหมายของทหาร! ถึงแม้ว่าธรรมชาติของหน่วยดาบรัตติกาลจะเป็นของหน่วยงานนอกคณะบรรณาธิการ แต่ก็ต้องยอมรับการลงโทษภายในของฐานทัพเมื่อทำผิดกฎ! มันไม่มีอะไรจะต้องมาสาธยาย ถ้าหากคุณไม่อยากเสียชื่อเสียงของตัวเอง ผมขอแนะนำให้คุณคิดมันอีกรอบ!
———————————–