SC:บทที่468: เจอกันในถ้ำ!
เฮอะ!
เมื่อได้ยินคำพูดเสียดสีอย่างไม่ปิดบังของหลินเฉิงหลิงเหมิงก็พึมพำ แต่เธอไม่รู้ว่าจะพูดตอกกลับไปว่าอะไร เธอจึงทำแค่ก้มหน้าลงด้วยสีหน้ามืดมน
หลังจากเถียงกับหญิงสาวที่ปากไม่ค่อยดีหลินเฉิงก็กำลังจะพูดบางอย่างกับหยูซาน แต่เมื่อเขาเห็นว่าหยูซานจับแขนเขาด้วยสีหน้ากังวลและกระซิบ ในเมื่อมันอันตราย พี่หลิน ทำไมพี่ไม่พาฉันไปด้วย? พี่สบายใจได้ว่าร่างกายของฉันดีขึ้นแล้วและไม่ส่งผลกับการทำงานของฉันแน่นอน!
ไม่มีทาง!
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็เอ่ยปฏิเสธออกไปทันที ถึงแม้ว่าสถานการณ์ที่ฐานทัพจะเข้าที่แล้ว แต่พี่ก็ยังอยากให้เธออยู่ดูเหตุการณ์ที่นี่ ถ้าเกิดอะไรขึ้น? หลังจากพี่ไปแล้ว ให้เธอไปหาเลขาชูฉิงทันทีแล้วทางนั้นจะบอกเธอว่าต้องทำอะไร
นี่…ก็ได้!
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงไม่คิดที่จะให้เธอไปด้วยถึงแม้ว่าหยูซานจะอยากตามไป แต่เธอแย้งไม่เก่งนัก ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่พยักหน้าโดยที่เธอไม่เต็มใจ
เมื่อเห็นว่าในที่สุดหญิงสาวก็ตกลงหลินเฉิงก็พยักหน้า จากนั้นก็เลิกพูดเรื่องไร้สาระ หลิงเหมิงที่นั้งอยู่ที่โซฟากระพริบตาให้เธอ อีกฝ่ายลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องของเธอพร้อมกับหลินเฉิง
เรียบร้อยดีรึเปล่า?ไปกันได้แล้ว!
เมื่อเห็นว่าในที่สุดพวกหลินเฉิงก็เดินลงมาหลิงฉงที่นั่งรอเป็นเวลานานในห้องนั่งเล่นชั้นหนึ่งก็รีบลุกขึ้นและเอ่ยอย่างโล่งอก
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็พยักหน้าและเอ่ย เรียบร้อยดี ไปกันเถอะ! ท้ายที่สุดเขาก็หันกลับไปมองคฤหาสน์ที่ว่างเปล่าอีกครั้ง จากนั้นจึงหมุนตัวและเดินตามหลังหลิงฉงออกไป
…
ถึงแม้ว่าการต่อสู้ด้านนอกเมืองนั้นจะรุนแรงมากแต่ผู้อยู่อาศัยในฐานทัพสมุทรสีครามก็ดูไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากมาย พวกเขายังคงไปทำงาน พูดคุยและหัวเราะราวกับว่าพวกเขาไม่รู้ว่าเมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้น อย่าว่าแต่ผู้บัญชาการดิงเฮาหยวนเลย แม้แต่ฐานทัพสมุทรสีครามเองก็ถูกทำลายทั้งหมด
หลินเฉิงไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับการตอบสนองของคนที่อาศัยอยู่ในฐานทัพมากนักไม่ว่าจะเวลาไหน การเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงก็อาจจะส่งผลกับการดำเนินชีวิตของคนธรรมดา แต่ไม่ว่าเพื่อการรักษาหน้าหรืออะไรก็ตาม เรื่องของการเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงจะไม่เล็ดลอดให้คนธรรมดาๆรู้มากเกินไป สำหรับผู้อยู่อาศัยแล้ว พวกเขาก็แค่ต้องซื่อสัตย์และจัดข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างให้ฐานทัพ นอกเหนือจากนี้มันไม่ใช่เรื่องของพวกเขา แล้วจะนับประสาอะไรกับการมีส่วนร่วม
แต่ถึงแม้มันอาจะดูเหมือนว่าการต่อสู้เมื่อวานจะไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงให้กับฐานทัพสมุทรสีครามหลินเฉิงก็ยังกังวลอยู่ ถึงแม้ว่าฉางเหวินฉวนจะสมควรตายจริงๆ แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาสำคัญต่อฐานทัพสมุทรสีครามมาก เป็นเหมือนกับกองทัพหลัก หากไม่มี สายลับสองหน้า ของเขา มันก็อาจจะทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในฐานทัพมีอาหารไม่เพียงพอ ซึ่งพอคิดถึงปฏิกิริยาลูกโซ่แล้ว มันก็จะส่งผลให้ฐานทัพไปสู่การล่มสลายอีกครั้ง
ถึงว่าเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับหลินเฉิงแต่เมื่อคิดว่าครอบครัวของลุงเขาจะต้องมาอาศัยอยู่ที่นี่ในอนาคต เขาก็ไม่อยากที่จะทำลายฐานทัพเลยจริงๆ นอกจากครอบครัวของลุงเขาแล้ว มันยังมีผู้อยู่อาศัยอีกเกือบ100000คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ถ้าหากผู้คนทั้งหมดอาจจะเสียชีวิตจากการกระทำของเขา ถึงแม้ว่าหลินเฉิงจะไม่ได้รู้สึกอะไร แต่มันก็ยากที่จะให้อภัยตัวเอง
เพราะฉะนั้นเหตุผลหนึ่งที่ทำไมเขาถึงอยากจะไปที่ฐานของเผ่ารัตติกาลครั้งนี้ก็คือเขาต้องการที่จะ ย้ายเผ่ารัตติกาลให้ไปอาศัยในฐานทัพสมุทรสีคราม แน่นอนว่าเผ่ารัตติกาลจะต้องมีความสามารถในการสื่อสารกับพวกสัตว์ทะเลเหมือนกับฉางเหวินฉวน ดังนั้นต่อให้เขาจะฆ่าฉางเหวินฉวนและออกมาจากฐานทัพ มันก็จะไม่ส่งผลอะไรต่อการใช้ชีวิตอยู่ของผู้คนที่อาศัยอยู่ในฐานทัพ!
เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้หลินเฉิงก็ตามหลิงฉงและหลิงเหมิงเพื่อที่จะออกจากประตูของฐานทัพสมุทรสีครามอย่างเหม่อลอย หลังจากที่ลงทะเบียนกับยามเฝ้าประตู ทั้งสามคนก็ออกจากประตูของฐานทัพในที่สุด
ลึกเข้าไปในป่าอันกว้างใหญ่
ตอนที่คุณลืมตาตื่นคุณก็เห็นฐานทัพสมุทรสีคราม นั่นหมายความว่าฐานของคุณอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ถูกรึเปล่า? เมื่อออกมาจากฐานทัพสมุทีสีครามและมุ่งหน้าสู่ป่าที่เขียวชอุ่มหลินเฉิงที่คีบบุหรี่อยู่ในมือก็หรี่ตาลงและสังเกตสถานการณ์โดยรอบและทำเครื่องหมายนำทาง ขณะที่ถามหลิงฉงไปด้วย
เมื่อได้ยินคำถามร่างของหลิงฉงก็ชะงักไปเล็กน้อย เขาดูประหลาดใจกับข้อสันนิษฐานของหลินเฉิง แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปฏิเสธออกไป เขาพยักหน้าและเอ่ย นายเดาถูก หากเทียบกับหน่วยระยะทางของมนุษย์แล้ว ฐานของพวกเรากับฐานทัพสมุทรสีครามห่างกันออกไปไม่ถึงสิบกิโลเมตร….
อ๋อ…
เมื่อได้ยินคำตอบของหลิงฉงหลินเฉิงก็พยักหน้าเบาๆ ดี มันไม่ไกลมาก แต่ถ้าเดินไป มันจะช้าไปหน่อยรึเปล่า?
มันช้าไปหน่อยเพราะฉะนั้น…
เมื่อเห็นว่าในที่สุดหลินเฉิงก็พูดออกมาหลิงฉงก็ยิ้มพึลึกออกมา เขามองไปที่หลิงเหมิงที่อยู่ข้างๆกับหลินเฉิง ราวกับจะบอกเธอว่าถ้าเธอไม่พูดอะไรออกมา เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้
เมื่อเห็นแบบนั้นหลินเฉิงก็ส่ายหน้า จากนั้นก็พูดออกไป โอเค ผมจะต้องรีบไปรีบกลับ คุณไปเร็วๆได้เลย ผมกับเจ้าหญิงหลิงจะตามไป!
ก็ได้
เมื่อได้ยินที่หลินเฉิงบอกหลิงฉงก็ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ ทันทีที่กระทืบเท้าลงพื้น ก็ได้ยินเสียง ฟึ่บ และร่างของหลิงฉงก็หายไปตรงหน้าของหลินเฉิง!
หลินเฉิงประหลาดใจเมื่อพบว่าความเร็วของหลิงฉงนั้นเร็วมากแต่เขาก็ไม่เอื่อยเฉื่อนไปมากกว่านี้ กลับกัน เขาสร้างปีกน้ำแข็ง จากนั้นจึงคว้าเข้าที่แขนของหลิงเหมิง ขณะที่เธอพยายามดิ้นให้หลุด ปีกของเขาก็กระพือและบินไปทางที่หลิงฉงหายตัวไป!
…
ตุ้บ! ตุ้บ!
เสียงกระโดดลงพื้นสองเสียงดังขึ้นติดต่อกันหลินเฉิงและหลิงเหมิงก็ปรากฏขึ้นข้างๆกับหลุมดินที่ล้อมรอบด้วยวัชพืชมากมาย หลังจากที่รอประมาณครึ่งนาที หลิงฉงก็พุ่งมาอย่างรวดเร็ว
ฟึ่บ…
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงมาถึงก่อนตนหลิงฉงที่กำลังหอบอยู่ก็ชี้ไปที่หลินเฉิงแต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา เขาทำเพียงแค่นั่งลงบนพื้นและหายใจหอบ
คุณเป็น กลุ่มผู้อาวุโส ของเผ่ารัตติกาลของ แล้วมันไม่ลำบากหรอที่จะออกมาจากโพรงเล็กๆแบบนี้เวลาคุณจะเข้าออก?
เมื่อเห็นว่าหลิงฉงไม่พอใจกับการที่มาถึงช้ากว่าเขาอย่างเห็นได้ชัดหลินเฉิงก็เลิกแหย่อีกฝ่ายทันที เขาเปลี่ยนเรื่องด้วยการชี้ไปที่ช่องโหว่ตรงหน้าของคนทั้งสามและถาม
—————————