SC:บทที่475: ลำดับชั้น
ที่จริงแล้วพวกเราก็ยังไม่แน่ใจว่าทำไมผู้ที่มีสายเลือดของหลิงถึงมีพลังในการ ควบคุมสัตว์ ถ้ามันไม่ใช่เพราะครั้งแรกที่พวกเราออกจากโพรงและเข้าไปในป่าที่อยู่ด้านบน แล้วเจอเข้ากับหมีกลายพันธ์สีดำ บางที จนถึงตอนนี้พวกเราก็อาจจะไม่รู้ว่ามีพลังแบบนี้ด้วย….
บางทีมันอาจจะเป็นเพราะท่าทางสนใจของหลินเฉิง และหยุนเฟิงเองก็ไม่ได้ปิดบังอะไร ดังนั้นเธอจึงอธิบายให้อีกฝ่ายฟังต่อ แต่หลังจากการตรวจสอบมากมาย พวกเราก็พบว่าบุคคลธรรมดาในกลุ่มของพวกเราไม่มีความสามารถแบบนั้นได้ มีเพียงแค่คนของตระกูลหลิงเท่านั้น มันจึงเป็นที่มาของ สายเลือดของหลิง ด้วยเหมือนกัน เพราะตระกูล หลิง แต่เดิมเป็นเพียงบุคคลธรรมดาที่รับใช้คนตระกูลหวังและกลุ่มราชวงศ์ อันที่จริง ในเผ่ารัตติกาล เรามีระดับความแข็งแกร่งที่ชัดเจนมาก…
เพราะแบบนั้นมันถึง…
หลังจากฟังอธิบายของหยุนเฟิงหลินเฉิงก็ได้รู้ความลับบางอย่างที่คนภายนอกไม่รู้ในที่สุด ขณะที่พยักหน้า ทันใดนั้นเขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ เขาขมวดคิ้วและถาม แล้วฉางเหวินฉวนใช้พลัง ควบคุมสัตว์ ได้ยังไง? เขาเป็นมนุษย์นี่!
นั่นเป็นเพราะว่าท่านผู้อาวุโสของตระกูลหลิงเป็นคนช่วยฉางเหวินฉวนแสดง เวทย์รัตติกาล อันที่จริงแล้ว เวทย์รัตติกาลสามารถมองได้ว่าเป็นการหาผู้สืบทอดของตัวท่านเอง และในฐานะผู้สืบทอด ฉางเหวินฉวนจึงมีพลัง จอมอสูร ของคนตระกูลหลิงไปโดยปริยาย!
ไม่รอให้หยุนเฟิงตอบหลิงฉงถอนหายใจเบาๆ จากนั้นเขาเดินไปหาหลินเฉิงและอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง
อ๋อ… เมื่อได้ยินคำแธิบายของหลิงฉงหลินเฉิงก็เบะปาก ฟังจากที่คุณพูด ผมก็พบว่ามันไม่ง่ายเหมือนที่ผมคิดไว้ตอนแรก? ผมเกรงว่าพวกเราไม่จำเป็นต้องพูดถึงมันก็ได้?
นั่นไม่จริงเลย!
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลิงฉงกำลังจะตอบกลับไปแต่หยุนเฟิงพูดขึ้นก่อน คำขอของนายไม่ได้มากเกินไปเลย เพราะอย่างไรแล้ว มันก็เกี่ยวกับความเป็นความตายของผู้คนจำนวนมาก ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเราจะเป็นแบบใช้ประโยชน์ร่วมกัน แต่พวกเราก็จะไม่ยอมให้โศกนาฏกรรมนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด! และ….
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้จู่ๆเสียงของหยุนเฟิงก็หยุดลง มองไปที่หลินเฉิงที่นั่งฟัง และพูดต่อ ถ้าหากเราจะไม่ตอบตกลงเรื่องนี้ ฉันเกรงว่าพวกเราจะทำแบบนั้นไม่ได้ใช่รึเปล่า?
ก็ไม่เชิง!
เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่รู้จะทำยังไงของหยุนเฟิงตอนที่เธอพูดประโยคนี้ถึงแม้ว่าหลินเฉิงจะประทับใจที่ผู้หญิงคนนี้สามารถเก็บอารมณ์ใต้ใบหน้าได้ดี แต่เขาก็ไม่อยากจะแข็งกระด้างเกินไป ผมมาที่นี่วันนี้พร้อมกับปากที่พร้อมใช้งานและไม่ได้อยากทำอย่างอื่น ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะพยายามห้ามตัวเองและใช้การสื่อสารที่ดูมีอารยะธรรมแทน เพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่ใช่เสือ ผมไม่กินคน
เอ่อ…
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงฆาตกรผู้โด่งดังที่ตอนนี้อยู่ในฐานของเผ่ารัตติกาล บอกว่าตัวเองเป็นคนสุภาพอย่างหน้าตาเฉย หยุนเฟิงและคนอีกสองคนก็พูดอะไรไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาทำได้แค่พยักหน้าตามโง่ๆและเห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจ
แค่ก…
เมื่อรู้สึกว่าคำพูดของตัวเองทำให้บรรยากาศรอบๆตัวดูอึดอัดหลินเฉิงก็หัวเราะออกมาและกระแอมสองครั้ง ก็ในเมื่อคุณนายหลิงเป็นคนที่มีเหตุผล นั่นหมายความว่าตกลงใช่รึเปล่า?
ใช่!
ในเมื่อหลินเฉิงต้องการจะปิดหัวข้อสนทนาหยุนเฟิงก็ไม่พูดเรื่องนี้กับอีกฝ่ายไปมากกว่านี้และพูดขึ้น ถึงแม้ว่ามันจำเป็นที่จะต้องเป็นคนที่ใช้นามสกุลหลิงที่มีพลัง ควบคุมสัตว์ แต่จริงๆแล้ว ในกลุ่มของพวกเรามีคนที่ใช้นามสกุลหลิงอยู่น้อยมาก จากมุมมองของคนอย่างพวกนาย พวกเราเป็นหมู่บ้านที่อยู่ล่างสุดของโลกจริงๆ ทุกครอบครัวต่างรู้จักกัน เพราะฉะนั้นคนอย่างพวกเรามีไม่มากนัก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรถ้าหากนายจะพาเขากลับไปด้วยสักคนนึง
หือ?
หลังจากที่ได้ยินทำตอบของหยุนเฟิงทันใดนั้นหลินเฉิงก็รู้สึกเหมือนกับเห็นแสงสว่าง คุณพูดแล้วนะ! ผมคิดว่าสายเลือดของหลิงหายากเสียอีก มาเร็ว คุณต้องพาผมไปเจอสักคน ผมต้องการเจอเขาด่วนมาก! คุณไม่ต้องเป็นห่วง แค่ผมบอกฐานทัพสมุทรสีคราม การบริการของเขาจะอยู่ระดับสูงสุดทันที ซึ่งนั้นดีว่าคนในกลุ่มอย่างพวกคุณที่เล่นกับลมของฤดูใบไม้ร่วงอยู่ใต้ดินประมาณ100เท่า!
ฉันก็เชื่อว่ามันจะเป็นแบบนั้นแต่นายไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลเกินไปก็ได้….
แต่ก็ดูเหมือนว่าหยุนเฟิงจะสังเกตเห็นถึงความกังวลของหลินเฉิงเธอวางมือลงเพื่อให้อีกฝ่ายใจเย็นลง จากนั้นจึงถาม ไม่ใช่ว่านายบอกว่านายมีข้อกำหนดเฉพาะที่จะให้ฉันหาคนที่ตรงตามที่นายต้องการหรอกหรอ? อ้อ มีอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันจะต้องบอกนาย ถึงแม้ว่านายจะแข็งแกร่งมาก แต่ฉันก็หวังว่านายจะเคารพการตัดสินใจของพวกเรา ถ้าหากคนที่นายเลือกเขาไม่เต็มใจที่จะไปกันนาย ฉันก็หวังว่านายจะไม่ฝืนใจเขาให้….
ชิ…..ทำไมปัญหาเยอะจริง!
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็ทำมือให้อีกฝ่ายหยุดอย่างทนไม่ไหว และเอ่ย ผมไม่มีข้อกำหนดอะไรทั้งนั้น ตราบใดที่เขายังเป็นคนเป็นๆ! แน่นอนว่ามันเป็นการดีกว่าที่จะไม่เลือกคนที่แก่จนเกินไป เพราะอย่างไรแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะให้ผู้สูงอายุไปที่ทะเลทุกวัน!
เอ่อ….ได้สิ!
เมื่อเห็นท่าทางของหลินเฉิงหยุนเฟิงก็ไม่อยากที่จะถามอะไรต่อ เธอพยักหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน จากนั้นก็ยืนขึ้นและเอ่ย ในกรณีนี้ ฉันจะให้ลูกสาวฉันอยู่ที่นี่ เผื่อเธออาจจะช่วยอะไรได้บ้าง? แต่นายวางใจได้ว่าในที่นี้ มันจะไม่มีปัญหาอะไรที่เธอจัดการไม่ได้!
เธอเอ่ยจากนั้นก็หมุนตัวและพูดขึ้น จากนั้นจึงมองดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตั้งแต่เธอมาที่นี่ ดูเหมือนว่าท่านพ่อกำลังจะออกไปข้างนอก ท่านจะไปทำอะไร?
เมื่อได้ยินคำถามหลิงก็หันไปมอง ใช่ แต่มันไม่ใช่ธุระอะไรสำคัญหรอก พ่อแค่จะช่วยหาคนที่จะทำแผ่นป้ายหินให้เขา!
ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันจัดการเอง เมื่อเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหยุนเฟิงก็โบกมือให้หลินเฉิงและเอ่ย อันที่จริง ตราบใดที่เขาทำงานกับเหมิงเอ๋อ แผ่นป้ายหินนี่ก็เป็นแค่ของประดับเท่านั้น ถ้าหากฉันเดาไม่ผิด นายจะไม่กลับมาที่นี่อีกใช่มั้ย?
เอ่อ….ถ้ามันไม่มีเรื่องพิเศษอะไรผมจะไม่มาที่นี่อีก
เมื่อได้ยินคำของหยุนเหมิงหลินเฉิงก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะเหมือนว่าพวกเราจะเป็นเพื่อนกันได้ แต่พวกเราก็มีความขัดแย้งกันหลายเรื่องก่อนหน้านี้ มันคงไม่ดีถ้าหากพวกเราสนิทกันเกินไป คุณน่าจะเข้าใจ
ฉันเข้าใจ
หยุนเฟิงรู้ถึงความระมัดระวังของหลินเฉิงในฐานะของฝ่ายที่ชนะ หลินเฉิงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะอยู่ร่วมกับเผ่ารัตติกาลอย่างสงบสุข ถ้าหากเขาอยากได้อะไรจากกลุ่มของเธอ เขาสามารถใช้วิธีการรุนแรงได้เลย!
———————————–