SC:บทที่514 เธอต้องมีเส้นทางเป็นของตัวเอง
ได้ยินคำโบราณเช่นนี้ความรู้สึกรังเกียจก็ผุดขึ้นมาภายในตัวหลินเฉิงทันที เขาเหมือนโดนตบหน้ากลางอากาศที่ซึ่งมันเจ็บแล้วเจ็บอีก
ผมขอโทษป้าฉิน ผม…
มันอึดอัดที่จะพยักหน้าหลินเฉิงนั้นกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉินซูยี่ก็โบกมือหยุดเขาไว้ก่อน แต่คำโบราณนั้นก็ถูกแบ่งไว้สองส่วน มันคือ เธอต้องออกเดินตามทางของตัวเอง! หลินเฉิง…อ่า.. ถึงแม้ว่าป้าจะอยู่กับเธอไม่ได้ตลอด แต่ป้าก็เข้าใจถึงตัวเธอนะ ด้วยนิสัยใจคอของเธอเอง เรื่องนี้น่ะคงจะมีเหตุผลกับเป้าหมายไว้แล้วสินะ ถูกมั้ย?
ใช่เลย! หลินเฉิงรีบพยักหน้าเขารู้สึกมีกำลังขึ้นมา เขาคิดว่าป้าฉินนั้นจะระเบิดลงเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ซะอีก แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าป้าฉินจะมีเหตุผลขนาดนี้ หลังจากที่รู้แล้วว่าเหตุผลของป้าคืออะไร เพราะงั้นเขาจึงเริ่มไม่รู้สึกอึดอัดอีกต่อไป
เมื่อเห็นหลินเฉิงพยักหน้าฉินซูยี่ก็ถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะลูบฝ่ามือของเขาเบาๆและพูด ถึงแม้ว่าป้าจะไม่รู้ว่าเธอตั้งใจจะไปทำอะไร แต่ในเมื่อเธอพูดออกมาแล้ว ป้าคงจะห้ามเธอเพียงเพราะโลกข้างมันวุ่นวายไม่ได้ แล้วว่าแต่เธอจะทิ้งให้หยูซานกับโคล่าไว้ที่นี่เหรอ? ยังไงถ้า..
ไม่จำเป็นๆ
ก่อนที่ฉินซูยี่จะพูดจบหลินเฉิงที่วางแผนไว้แล้วก็รีบโบกมือไว้ก่อน ไม่ว่าจะเพราะประสบการณ์ ความแข็งแกร่ง หรือความเห็นแก่ตัวใดๆก็ตาม ผมไม่สามารถพาเสี่ยวเตี๋ยไปด้วยได้ เธอนั้นเหมาะกับการอยู่ประจำฐานนี้และช่วยคนเจ็บมากกว่า เพราะข้างนอกนั่นไม่ใช่แค่อันตราย แต่มันเสียเวลาเปล่าถ้าจะตามผมด้วย! ยิ่งไปกว่านั้น ผมจะฝากหยูซาน โคล่า แล้วก็เทียนซือไว้กับป้า ส่วนเหตุผล ผมคิดว่าไม่บอกป้าก็น่าจะเดาได้ ใช่มั้ย?
ฉินซูยี่นั้นรู้สึกหดหู่ขึ้นมาเลยเมื่อหลินเฉิงนั้นปฏิเสธของเสนอของเธอแทบจะทันที แต่ถ้าเป็นแบบนั้นมันก็หมายถึงสถานการณ์ทางเธอมันจะอันตรายมากขึ้นไปอีกไม่ใช่เหรอ? ไม่ ไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นป้าจะให้เธออยู่ที่นี่! ยังไงก็ตาม ภายในความคิดเห็นของป้า โลกนี้จะยิ่งซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น ครอบครัวของพวกเราจะอยู่กันพร้อมหน้า แม้ในท้ายสุดจะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยก็ตาม แบบนี้มันยังดีกว่าที่จะปล่อยให้เธอออกไปผจญโลกภายนอกเสียอีก…
สถานการณ์นั้นเกือบจะไปได้สวยแล้วแต่จู่ๆเขาก็ต้องกลับมาจนมุมเพราะหยูซาน หลินเฉิงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่น อย่างไรก็ตาม เขานั้นก็เข้าใจดีว่าป้าฉินห่วงเขา กลัวว่าถ้าเขาทำอะไรคนเดียวแล้วจะเจออันตรายหนักกว่าเดิม เมื่อใดก็ตามที่เขาพิสูจน์ได้ว่าเขาจะยังโอเคเมื่อปราศจากหยูซานแล้ว เธอก็คงจะโอเคด้วย
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ด้วยความที่ติดบุหรี่เป็นนิสัย เขาก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบ แต่เมื่อกำลังจะจุดไฟ เขาก็นึกได้ว่าป้าฉินนั้นนั่งอยู่ข้างๆเขา เขาจำเป็นต้องอดอยากเจ้าสิ่งนี้และแก้ปัญหาตรงหน้าให้ได้ก่อน
ไม่สูบล่ะ?ทำไมจู่ๆก็สุภาพขึ้นมา?
ท่าทีของหลินเฉิงนั้นทำเอาป้าฉินโบกมือแบบไม่ใส่ใจเลย ถึงแม้ว่าป้าจะไม่ชอบที่เธอกับลุงหลี่ขยันสูบบุหรี่กัน แต่จุกจิกไปซะทุกเรื่องบนโลกก็คงไม่ได้ เพราะงั้นเธอก็ทำอะไรที่ทำแล้วมีความสุขเถอะ
หลินเฉิงส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มเขาไม่ได้พูดอะไรมากแต่ก็รีบกลับมาคิดถึงวิธีที่จะโน้มน้าวป้าฉินเพื่อให้ตัวเองออกจากที่นี่ได้ต่อ
อย่าคิดเองเออเองสิ ยังไงก็แล้วแต่เหมือนจะมีคำโบราณเคยพูดไว้ว่า ไม่มีใครรู้จักลูกดีเท่าแม่ ถึงแม้ว่าจะไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ฉินซูยี่ก็มองขาดเกี่ยวกับสิ่งที่หลินเฉิงคิดอยู่ เพราะงั้นเธอจึงพูดขึ้นมา ป้ารู้ว่าถ้าเธอไม่อยากจะอยู่แล้ว ต่อให้มัดเธอไว้แบบไหน หรือจะขังไว้ยังไง ถ้าเธอจะไป ยังไงเธอก็หาทางไปได้ เพราะงั้นไม่ต้องคิดจะหลอกป้าเลย แค่บอกมาตรงๆว่าจะไปไหนและไปยังไงก็พอ!
แค่ก—
เมื่อเห็นว่าฉินซูยี่นั้นมองเขาออกทะลุปรุโปร่งหลินเฉิงก็ทำได้แค่ยิ้มแบบตื่นๆ แต่เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เขาไอสองครั้งก่อนจะพูดต่อ โอเค สมแล้วที่เป็นป้าฉิน คนที่ทำให้ผมไม่กล้าพูดเล่นราวกับอยู่ต่อหน้าง้าวของกวนอู…
พูดจบหลินเฉิงก็เริ่มจริงจังขึ้นมา ถ้าไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น ผมจะไปหยางจิงเป็นที่ต่อไป
หยางจิง!? ได้ยินถึงปลายทางของหลินเฉิงฉินซูยี่ก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองเขาและถามกลับไปด้วยสีหน้างุนงง เธอจะไปทำอะไรที่นั่นน่ะ? แถมที่นั่นก็ยังห่างออกไปตั้งสองถึงสามพันกิโลเมตรเลยไม่ใช่เหรอ? ถึงเธออยากจะไปจริงๆก็เถอะ เธอจะไปยังไงล่ะ?
สีหน้าที่คาดไม่ถึงของฉินซูยี่นั้นทำให้หลินเฉิงตอบด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าซงโจวก็ไกลจากที่นี่ไปกว่าสองพันกิโลเมตรเหรอ? แต่ผมก็มาไปถึงไม่ใช่รึไง? อีกอย่างถ้าจะให้บินไป ผมก็น่าจะหานักบินในฐานนี้ที่เรียนรู้วิธีขับเครื่องบินมาดีแล้วค่อยให้เขาพาไปก็ได้!
พูดบ้าๆน่า!
เมื่อเห็นท่าทีที่ไม่ใส่ใจอะไรของหลินเฉิงแล้วฉินซูยี่ก็ดุเขาขึ้นมาทันทีเลย เธอคิดว่านักบินจะเป็นกันได้ง่ายๆเหมือนไปเรียนขับรถที่โรงเรียนแล้วจะได้ใบขับขี่มาในเวลา 2-3 เดือนเหรอ? นักบินน่ะต้องเริ่มต้นจากการเป็นมือใหม่ก่อนจะไต่เต้าขึ้นไปจนกระทั่งขับเครื่องบินได้ด้วยตัวเอง มันต้องใช้ทั้งความพยายามแล้วก็เวลาอย่างมากแบบที่เรียนขับรถเทียบกันไม่ติดเลย! แล้วถึงแม้มันจะเป็นพรสวรรค์ที่จะสามารถเป็นนักบินได้ในเวลาอันรวดเร็วก็จริง เธอจะเอาเครื่องบินจากไหน? เธอมีน้ำมันเครื่องบินที่จะเอาไว้ใช้บินแล้วเหรอ? แล้วถึงจะมีพวกนี้แล้ว เธอจะมั่นใจได้ยังไงว่าสามารถลงจอดได้นุ่มนวลบนโลกที่ไม่นุ่มนวลแบบนี้? เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดกันง่ายๆ มันมีหลายปัจจัยให้พิจารณา ถ้าเป็นอย่างนั้นป้าให้เธอขับรถไปหยางจิงยังจะดีกว่า ถึงจะใช้เวลาครึ่งปีแต่ก็น่าจะดีกว่าต้องเผชิญอันตรายกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงขณะที่เธออยู่บนเครื่องบินเป็นไหนๆ!
โอเคๆผมก็แค่พูดเหมือนทั่วๆไป ทำไมป้าต้องตกใจขนาดนั้น?
ฉินซูยี่รีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว เพราะว่าป้าคิดทุกเรื่องที่ป้าจำเป็นต้องใส่ใจยังไงล่ะ เพราะงั้นไม่ต้องเป็นห่วงป้าหรอก โอเคนะ?
ถ้าผมไม่ห่วงป้าแล้วใครจะห่วง!? ใครจะไปคิดว่าหลินเฉิงจู่ๆก็ดูเลือดร้อนขึ้นมาฉินซูยี่เองก็เริ่มโกรธขึ้นมาแล้ว ป้ารู้ว่ามันยากที่จะบินด้วยปีกของตัวเอง อะไรก็เกิดขึ้นได้เพียงแค่เธอละสายตา ใช่ เธอแข็งแกร่งก็จริง แต่ถ้าอยู่บนเครื่องบิน เธอจะต้องสู้กับความสูงหลายพันเมตรนั้น อย่าลืมว่าเมื่อไหร่ที่เครื่องบินเกิดมีปัญหา เธอไม่สามารถบินได้ด้วยตัวเองนะ!
ฟังแบบนั้นหลินเฉิงก็เกิดหัวเราะขึ้นมา เราเลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่าป้าฉิน ผมไม่กล้าพูดอะไรแล้ว แต่ผมเชื่อว่าผมทำได้ทุกอย่างแม้จะกำลังบินอยู่!