SC:บทที่518 เยี่ยมเยียนหงเหมาซวนอีกครั้ง
มองไปยังหลินเฉิงที่ทำหน้างุนงงอยู่เฉียนฉีก็ส่ายหน้าช้าๆ นายพูดถูก ถ้าฉันต้องการหาสาวๆมาม้วนกระดาษ ฉันนั้นสามารถหาได้ง่ายๆ แต่…
ขณะที่พูดถึงสิ่งนี้ใบหน้าของเฉินฉีก็แสดงออกถึงความเศร้านิดหน่อย แม้แต่คิดถึงเรื่องจุดจบของโลก มันก็ยังจำเป็นที่ต้องใช้เงินเพื่อหาสาวๆในฐานแห่งนี้ และด้วยรายได้ปัจจุบันแล้ว มันไม่พอ..
เป็นไปไม่ได้น่า…
ได้ฟังแบบนั้นหลินเฉิงก็ขมวดคิ้ว ถึงแม้ว่านี่จะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมต่อสู้ก็จริง แต่ที่นายบอกนั่นน่ะ คนที่เป็นถึงหัวหน้าของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบช่วยเหลือผู้คนของกองเรือที่ 1 หน้าที่ที่สำคัญขนาดนี้ นายยังบอกว่าเงินนายน้อยจนไม่พอที่จะใช้หาผู้หญิงอีกเหรอ?
ให้ฉันอธิบายเรื่องนี้เอง!
เมื่อเฉินฉีนั้นเหมือนหนีเสือปะจรเข้เขาไม่รู้ว่าจะตอบคำถามหลินเฉิงยังไงดี ซึ่งเป็นขณะเดียวกันกับที่ผู้อาวุโสฟ่างนั้นออกมาจากบ้านพอดี เขาได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่ก็เลยยืนฟังเงียบๆมาจนถึงตอนนี้ เจ้านี่น่ะ จะให้พูดยังไงดี มันยากที่จะฟังนะ แต่หมอนี่น่ะมันขาดความรัก! ถึงจะได้เงินครั้งละพันตั๋วอาหารที่ถือว่าสูงสุดแล้วก็ตาม ผลลัพธ์ที่ออกมาเจ้านี่ก็ยังใช้เงินไปกับเด็กกำพร้าที่ไม่มีพอมีแม่ในฐานเหมือนเดิม ไม่เคยเก็บเงินอะไรทั้งสิ้น ถ้ายังเป็นงี้ก็ปล่อยให้วิ่งตามผู้หญิงต่อไปเถอะ…
จริงเหรอเนี่ย!?
หลังจากที่ได้ฟังผู้อาวุโสฟ่างอธิบายหลินเฉิงก็มองไปยังเฉินฉีผู้ที่กำลังเขินอายเล็กน้อยและแสดงสีหน้าที่เขาไม่คาดคิดออกมา แล้วว่าแต่ทำไปทำไมล่ะ? มีเหตุผลหรือเปล่า? มี…
ฟังหลินเฉิงถามเฉินฉีก็เกาหัวเล็กน้อยด้วยความเขินอาย จริงอย่างที่พูดนั่นแหละ ไม่มีอะไรมากหรอก เพราะตัวฉันเองนั้นก็เป็นเด็กกำพร้า พอได้คิดถึงเรื่องที่ฉันนั้นยังเด็ก ตอนที่ยังไม่ได้อยู่ในช่วงวันสิ้นโลกแบบนี้ นายคิดว่าพวกเด็กที่ต้องอยู่คนเดียวโดยที่ช่วยอะไรไม่ได้ ท่ามกลางความหนาวเย็นมันหนักหนาขนาดไหนล่ะ? มันยากมากที่จะต้องคิดแบบนั้นซ้ำๆ เพราะงั้น…
หลินเฉิงพยักหน้าหลังฟังเฉินฉีอธิบายสิ่งนี้มันทำให้เขารู้สึกตกใจไม่น้อยกับชายที่อายุแก่กว่าเขาเพียงไม่กี่ปี!
ทุกๆคนต่างก็มีความคิดเป็นของตัวเองตัวอย่างเช่น ในช่วงที่เขานั้นเข้าสู่ช่วงวันสิ้นโลก สิ่งที่เขาคิดก็คือจะได้เป็นอิสระเพื่อที่จะได้ดูแลครอบครัวป้าฉิน จะไม่ให้คนอื่นหรือสิ่งใดก็ตามสามารถมาทำอันตราย
คนเหล่านี้ได้
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าความคิดของเฉินฉีนั้นผิดพลาดแต่อย่างใดเขานั้นปฏิบัติตามหลักการมาเสมอโดยความคิดที่ว่า ธรรมชาติของมนุษย์นั้นก็คือปีศาจ แต่หลังจากเรื่องที่เกิดนี้มันทำให้เขาคิดว่า บางทีสิ่งที่เป็นบรรทัดฐานที่เขาคิดและเดินตามมาตลอดอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง
เฉินฉีค่อนข้างจะใช้ชีวิตเรียบง่ายแต่ก็ยังทำสิ่งที่ดีที่สุดอย่างการช่วยเหลือเด็กกำพร้าผู้ที่ซึ่งตามจริงต้องหมดหนทางที่จะดิ้นรนในวันสิ้นโลกแบบนี้ไปแล้ว การกระทำเช่นนี้ทำให้หลินเฉิงผู้ที่เฝ้าดิ้นรนบนโลกที่โหดร้ายและมีแต่ความเป็นและความตายอยู่ทั้งสองฝั่งทาง ได้มองเห็นความหวังครั้งใหม่ของมวลมนุษยชาติขึ้นมาแล้ว!
ฟู่…
เขาส่ายหน้าด้วยความรู้สึกลึกซึ้งหลินเฉิงนั้นตีลงไปที่ไหล่ของเฉินฉีทันทีและพูดขึ้น ดูเหมือนว่าฉันมีเหตุผลอื่นที่จะชวนนายไปดื่มวันนี้แล้ว! เพราะงั้นแล้ว วันนี้จะให้นายเป็นคนพาไป พวกเราจะไปดื่มกันที่ๆนายแนะนำ! เฉินฉีรีบโบกไม้โบกมือและพูดพร้อมกับรอยยิ้มแหยๆเลย ลืมมันไปซะ น้องหลิน นายจะให้ฉันเดินไปถึงไหน? คือฉันจะบอกว่า ฉันเองก็ไม่ได้ช่ำชองเรื่องนี้นักหรอก ไอ้เรื่องที่ๆจะให้พาไปดื่มเนี่ย…
โอ้?
หลินเฉิงอดไม่ได้ที่จะตาโต แต่ถ้าฉันจำไม่ผิด เมื่อครั้งสุดท้าย นายมีที่ที่อยากจะไปในเขตแรกอยู่ไม่ใช่หรือไง?
เมื่อโดนหลินเฉิงหยอกล้อเฉินฉีก็รีบส่ายหน้า นี่มันใช่เวลามาดูดวงหรือไง? ตอนนี้ทุกคนไปสนุกกันดีกว่า ที่แบบนั้นจะไปเมื่อไหร่ก็ได้!
มาเถอะน่าไม่ต้องพูดไร้สาระหรอก ในเมื่อนายไม่ยอมเลือกก็จงฟังฉันซะ!
หลังจากที่เห็นว่าเฉินฉีน่าจะไม่รู้จักที่สนุกๆในฐานนี้จริงๆหลินเฉิงเลยโบกมือแบบง่ายๆ ไปเขต 1 กัน! ไปเร็ว!!
พูดปุ๊ปเขาก็ยกเท้าก้าวเดินไปยังที่อยู่อาศัยเขต1 เลย
ไม่ไม่ ไม่!!
แต่ก่อนที่หลินเฉิงจะได้ก้าวเดินผู้อาวุโสฟ่างก็รีบหยุดเขาไว้ก่อนพร้อมกับยิ้มให้ด้วย นี่น้องหลิน จะไปเขต 1 เหรอ? ถ้าอยากจะหาที่ดื่มดีๆ พี่ชายมีที่แนะนำได้เต็มไปหมดเลย ทำไมเราไม่ไปถ้ำค้าทองเพื่อละลายเงินกัน…
เอ่อ…เอ่อ…
เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสฟ่างนั้นกำลังหาประโยชน์ให้ตัวเองหลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะหันไปหยิกแก้มอีกฝ่ายแล้วดึงให้ยืดไปมาเลย ก่อนหน้านี้ฉันก็ประหลาดใจแล้วที่คนอย่างเฉินฉีไม่มีเงินที่จะไปที่แบบนั้น ตอนนี้ตาเฒ่าฟ่างผู้ที่ชอบใช้เงินสุรุ่นสุร่ายก็ยังมาพูดแบบนี้อีก นี่นายตั้งใจจะเป็นคนดีจริงๆหรือเปล่าเนี่ย? ดูเหมือนว่าเสี่ยวเหว่ยคงจะต้องมีทักษะในการควบคุมสามีของเธอเองหน่อยแล้วมั้ง…
ได้ยินหลินเฉิงหยอกล้อตาเฒ่าฟ่างที่ซึ่งไม่ได้มีใจบริสุทธิ์ตั้งแต่แรกก็หน้ามืดพร้อมบ่นงุบงิบเลย อะไรน่ะ—ใครชักชวนกัน! ฉันไม่ได้หวังอะไรจากกระเป๋าเงินของน้องหลินเลยนะ!!
มานี่เลยอะไรที่นายคิดอยู่ในใจ คิดว่าฉันไม่รู้ใช่มั้ย? ยังไงก็แล้วแต่ ในเมื่อพวกนายไม่ยินดีที่จะไปยังเขต 1 เพราะงั้นฉันจะให้โอกาสผู้อาวุโสฟ่างเป็นคนเลือกสถานที่อีกครั้ง!
ดูเหมือนว่าทั้งสองจะมีความขัดแย้งอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้กับเขต1 เพราะงั้นหลินเฉิงเลยเลิกล้มความพยายามและปล่อยให้ตาเฒ่าเป็นฝ่ายเลือกร้านแทน
ได้ยินแบบนั้นผู้อาวุโสฟ่างก็มีความสุขขึ้นมาเลยแถมตอนนี้เขายังไม่มีเรื่องอะไรให้กังวลแล้ว ทันใดนั้นเขาก็ทำหน้าที่เป็นไกส์ที่เดินนำทางไปโดยอัตโนมิตเลย ด้วยการโบกมือ เขาเรียกหลินเฉิงและเฉินฉีไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เขาไปดื่มบ่อยๆ
หลังจากที่ผู้อาวุโสฟ่างหลินเฉิง และเฉินฉีเดินเข้าไปช้าๆภายในป่าไม้ไผ่แล้ว ยิ่งเดินเข้าไปเรื่อยๆ หลินเฉิงก็เริ่มเลิกคิ้วมองพร้อมกับความรู้สึกที่ว่า ที่แห่งนี้มันคุ้นเคยเสียเหลือเกิน!
หลังจากที่จำได้หลินเฉิงก็ปรบมือและชี้ไปยังที่ๆอยู่ใกล้ๆกับหอคอยไม้ไผ่ก่อนจะถามผู้อาวุโสฟ่าง นี่ใช่ร้านอาหารที่นายบอกว่าอาหารอร่อยมากหรือเปล่า?
ใช่แล้ว!หงเหมาซวน เป็นชื่อที่ดีเลยใช่มั้ยล่ะ?
ผู้อาวุโสฟ่างนั้นนั้นอิ่มเอมใจมากๆพร้อมพยักหน้ารัวๆทำอย่างกับเป็นร้านอาหารที่เปิดด้วยตัวเอง
หลินเฉิงนั้นยิ้มออกมาทันทีกับคำพูดของฟ่าง ก็ไม่เลว จริงๆแล้วฉันเองก็เคยมาที่นี่เมื่อนานมาแล้ว อาหารที่นี่มันอร่อยจริงๆนั่นแหละ…
เมื่อพูดไปแล้วในใจของชายผู้ที่ปฏิเสธทุกอย่างอย่างเฉินฉีนั้นก็ไม่ได้รู้สึกถึงรสชาติอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ กะไว้แล้วว่านายต้องเคยมา!
เมื่อเห็นดังนั้นหลินเฉิงผู้ที่ซึ่งนานๆทีจะกลับมายังฐานแห่งนี้ก็ตื่นเต้นสุดๆเมื่อได้กลับมาที่แห่งนี้อีกแต่ความคิดอีกส่วนก็กำลังคิดว่า ชายคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ บางทีตัวตนของชายคนนี้ผู้ที่วึ่งมาเจอกับเขาในครั้งนี้ คงจะไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไปแล้ว เห็นได้จากความสนอกสนใจมากๆนั่น เขาไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเดิม เพียงแค่พยักหน้าและเดินตรงไปยังร้านตรงหน้าพร้อมกับอีก 2 คน
3คน สั่งอาหารทีหลัง เอาเบียร์มา 2 ลังก่อน!