SC:บทที่525 ออฟฟิศของเฒ่าเหลียง
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะคิดอะไร มันมีอะไรเล็กๆน้อยๆที่ต้องทำด้วยตัวเอง และในเมื่อเหลียงกล้าที่จะทำเช่นนั้น ยึดตาม IQ ของคนเฒ่าคนแก่ เขาต้องโกงอะไรอยู่แน่ๆ
เข้ามา
คิดถึงเรื่องพวกนี้มาตลอดทางโดยที่ไม่รู้ตัว หลินเฉิงนั้นได้เดินตามทหารคนดังกล่าวจนกระทั่งมายืนอยู่หน้าประตูออฟฟิศเสียแล้ว เขาเคาะประตู 2 ครั้งก่อนจะได้ยินเสียงตาเฒ่าเหลียงดังขึ้นมา ทหารคนเดิมให้สัญญาณหลินเฉิงก่อนจะเดินออกไป
ประตูตรงหน้าถูกผลักให้เปิดหลินเฉิงเดินเข้าไปภายในออฟฟิศนั้นและพบว่าเฒ่าเหลียงนั่งอยู่บนโต๊ะในเวลานี้ มือก็กำลังเขียนอะไรอยู่ เขาไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังวุ่นอยู่กับอะไร เขามาแล้วเหรอ?
มือข้างหนึ่งยังคงเขียนเนื้อความลงไปในกระดาษเหลียงใช้เวลาที่จะมองไปยังหลินเฉิงจากนั้นก่อนจะหันหน้าไปที่อื่นแล้วพูดขึ้น นั่งลงก่อน แล้วก็ดื่มชารอซักพัก ฉันกำลังยุ่งสุดๆเลยตอนนี้
หลังจากนั้นเขาก็ก้มหัวลงต่ำนิดหน่อยก่อนจะตรวจสอบเอกสารและเซ็นอนุมัติอย่างรวดเร็ว
โดยไม่รบกวนเขาหลินเฉิงเดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟา รินชาร้อนให้ตัวเองและสังเกตรอบๆออฟฟิซขณะที่กำลังจิบชาให้ชื่นคอไปด้วย
นิสัยใจคอคนสามารถเห็นได้วิธีการจัดห้องส่วนตัวของพวกเขาเขาเคยไปออฟฟิศของชูฉิงมาก่อน ถึงแม้ว่าออฟฟิศของหญิงสาวนั้นจะมีเครื่องประดับอยู่น้อยชิ้น แต่เขาก็ยังพอจะเห็นตุ๊กตาอยู่บ้างบนโต๊ะทำงานของเธอ นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรเลยภายในพื้นที่ 50-60 ตารางเมตร ไม่มีอะไรปรากฏให้เห็นเลย นี่คือออฟฟิศของรองผู้บังคับบัญชาการแห่งฐานสมุทรสีครามที่แท้จริง
อย่างไรก็ตามจากมุมมองของเขา เขาจะเห็นได้ว่าเฒ่าเหลียงนั้นน่าจะเป็นชายที่ทำงานหนักอยู่ตลอดเวลาและยังมีอิทธิพลในวงกว้างอีกด้วย ถ้าหากคนแบบนี้เข้าไปเล่นการเมือง เขาสามารถสร้างผลงานที่โดดเด่นได้อย่างง่ายได้ และสามารถทำสิ่งยากๆได้มากกว่าคนธรรมดาทั่วไปเสียอีก!
หลินเฉิงเริ่มเดินไปรอบๆโซฟาเพราะความเบื่อขณะที่เฒ่าเหลียงยังคงจัดการเอกสารรวมถึงเซ็นอนุมัติต่างๆ หลังจากที่ผ่านมานานกว่า 10 นาที เฒ่าเหลียงก็วางปากกาลง งานที่คั่งค้างในมือมายาวนานนั้นสิ้นสุดที่การเซ็นอนุมัติโดยเขา
หลังจากจัดการเอกสารสำคัญทั้งหมดนี้แล้วเหลียงก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เขาว่างแล้วและจึงได้เอ่ยถามหลินเฉิงด้วยรอยยิ้ม เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ พ่อหนุ่มหลิน? มีอะไรให้ฉันช่วยไหม? หลินเฉิงเลิกมองพื้นก่อนจะหันหน้ากลับไปคุยกับอีกฝ่าย คุณไม่ได้สร้างปัญหา แต่คุณดันทำให้ที่ๆฉันอยู่ในฐานแห่งนี้เกิดเรื่องไม่ยุติธรรมขึ้นซะได้เนี่ยสิ? ต่อให้ไม่ใช่เพราะเป็นฉัน แต่คุณก็ยังเป็นหัวหน้าดาบรัตติกาลอยู่นะ!
เขาถูกขู่โดยหลินเฉิง
เฒ่าเหลียงยิ้มอย่างไม่สนใจ ถ้างั้นแล้วนายจะมาที่นี่เพื่ออะไรกันล่ะ?
ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็คือไม่สามารถมาเจอคุณได้งั้นเหรอ?
หลังจากที่จุดบุหรี่แล้วหลินเฉิงก็กลืนควันลงไปและพ่นมันออกมาเหมือนกับหมอก
ได้ฟังถ้อยคำของหลินเฉิงเฒ่าเหลียงก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าแล้วหัวเราะออกมา โอเคๆ มีเรื่องอะไรของนายบ้างที่ฉันไม่รู้? ถ้ามันไม่มีอะไรจริง ต่อให้ฉันแก่จนตาย นายก็คงจำฉันไม่ได้และไม่มาเจอฉันหรอก!
ฉันมีความหมายอะไรบ้าง? คำขู่ของเฒ่าเหลียงทำเอาหลินเฉิงรู้สึกไม่มีความสุขขึ้นมาทันทีเลย นั่นมันก็เพราะคุณก็ยุ่งฉันก็ยุ่งไม่ใช่รึไง? พวกเราต่างคนต่างก็ไม่มีเวลาว่างมากนักที่จะมาเจอกันและกัน ทำไมฉันถึงกลายเป็นพวกไม่เห็นหัวผู้ใหญ่ในสายตาคุณไปได้กันน่ะ?
โอเคโอเค…
หลังจากที่โบกไม้โบกมือเฒ่าเหลียงก็หยุดยั่วยุกับหลินเฉิงและพูดไปตรงๆ ถ้านายมีเรื่องอะไรก็พูดออกมา ถ้ามันเป็นเรื่องที่ฉันทำได้ มันจะได้ไม่มีอะไรติดค้างกัน
เมื่อเหลียงพูดเช่นนั้นหลินเฉิงก็ส่ายหน้า มันไม่มีอะไรที่คุณทำได้จริงๆ ฉันก็แค่อยากจะบอกคุณในตอนนี้ ว่าฉันกำลังจะออกไปจากฐานสมุทรสีครามนี้!
ออกไป!?
เหลียงจ้องมองไปยังเขาทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ทำไมกันล่ะ? นายต้องการอะไรจากฐานนี้? แม้แต่ศูนย์บัญชาการยังไม่กล้าสั่งให้นายทำอะไร แล้วทำไมนายยังจะต้องการออกไปจากที่นี่อีก?
โอ้?
หลินเฉิงเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะพูด ก็อย่างที่คุณพูดนั่นแหละ ถ้าฉันยังอยู่ที่นี่ แม้แต่ศูนย์บัญชาการก็ไม่กล้าสั่งฉัน เพราะงั้นแบบนี้มันจะไม่ทำให้นายสบายใจกว่าเหรอ?
คิดอยู่แล้วว่าจะต้องถามแบบนี้!
คำถามของหลินเฉินนั้นทำให้เหลียงอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าและพูด บางทีนายน่าจะลองเปลี่ยนไปอยู่ฐานอื่นดู แต่การมีตัวตนอยู่ของนายก็จะทำให้พวกชนชั้นสูงทั้งหลายรู้สึกมีภัยคุกคาม แต่ฉันไม่คิดอย่างงั้นหรอกนะ เพราะว่าความมั่นคงและสถานการณ์ปัจจุบันของฐานนี้น่ะ มันคงจะเป็นไปไม่ได้ถ้าขาดนายไป บางทีมันอาจจะถูกขายให้กับพวกเผ่ารัตติกาลโดยฉางเหวินฉวนไปแล้วก็ได้ คิดง่ายๆเลยก็คงพูดได้ว่า ดูจากศัตรูและสิ่งต่างๆที่ผู้รอดชีวิตในฐานนี้จะต้องเจอก็น่าจะรู้ว่ายุ่งยากขนาดไหน
ยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้ว่านายจะค่อนข้างดื้อแต่นายเองก็เป็นคนที่จิตใจดี แถมยังไม่มีความทะเยอะทะยานด้วย คิดว่าฉันโง่ขนาดไหนที่ช่วยนายในการต่อสู้ ที่ซึ่งมีระดับภัยคุกคามแทบจะเป็น 0 แล้วยังสามารถยืนขึ้นได้ในสภาวะที่ฐานอยู่ในอันตรายเช่นนี้?
เมื่อเห็นแล้วว่าตาเฒ่าเหลียงนี้น่าจะไม่มีความลังเลใจอะไรหลินเฉิงก็มองไปยังเขาทันทีด้วยความชื่นชม เขาพบเจอคนไม่จริงใจมากมายนับไม่ถ้วน แต่มีส่วนน้อยเท่านั้นที่จะเป็นเหมือนคนตรงหน้า ผู้ที่ซึ่งสามารถแยกแยะข้อดีข้อเสียของการมีอยู่ของเขาได้ หลินเฉิงคิดว่าบางทีนี่อาจจะเป็น 1 ในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตัวเขาเองและตาเฒ่าเหลียงสามารถลืมเรื่องที่เกิดเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนได้
หลังจากที่โบกมือแล้วหลินเฉิงก็โยนก้นบุหรี่ทิ้งไปในที่เขี่ยบุหรี่และพูดขึ้น โอเค หายากนะที่คุณจะมองฉันออกมากขนาดนี้ แต่การที่ฉันจะออกไปนั่นก็มีเหตุผลอยู่ เวลานี้ฉันมาเพื่อจะบอกลา ไม่มีเรื่องอะไรนอกจากนี้…
*ปัง* ตาเฒ่าเหลียงทำหน้าเย้ยหยั่นขึ้นมาทันที ไม่มีเหตุผลอื่นงั้นเหรอ? นี่ใครกันแน่ที่เป็นตาแก่น่ะ? คิดว่าฉันโง่เหรอ? แต่ไม่ต้องกังวล ฉันไม่เอาเรื่องของนายไปพูดหรอกนะ ขอให้นายจงจำไว้ว่า ตราบใดที่ฉันยังอยู่ที่นี่ ครอบครัวของนายจะไม่เจอปัญหาอะไรทั้งนั้น!
งั้นรึ?
ได้ยินเหลียงให้สัญญาหลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะพูด ฉันได้ยินมาว่าผู้บัญชาการสูงสุดของฐานสมุทรสีครามไม่ใช่นายแต่เป็นตาเฒ่าฉี เรื่องนี้มันยังไงกันน่ะ?
แล้วมันจะทำไมกันล่ะเป็นคนแก่ไม่ได้หรือไง? ฉันเป็นผู้บัญชาการสูงสุดเองแหละ นายคิดว่ายังไงบ้างล่ะ?
ในตอนนั้นเองประตูห้องของตาเฒ่าเหลียงก็เปิดออกมาจากด้านนอก แล้วทันใดนั้นเจ้าของเสียงก็เข้ามาพร้อมกับฉีเซียวฮั่นที่หน้าตาบูดบึ้ง เธอจ้องมองมายังหลินเฉิง!
มองทั้ง2 คนที่ปรากฏขึ้นมา ณ ที่แห่งนี้หลินเฉิงก็ไม่ได้หันไปมองตาเฒ่าเหลียงเลย แต่ก็เห็นอยู่ว่าตาเฒ่าเหลียงนั้นยืนขึ้นโดยอัตโนมัติ เขาให้สัญญาณตาเฒ่าฉีให้นั่งลงก่อน จากนั้นเขาจึงไปนั่งที่โซฟาที่อยู่ตรงข้ามกับหลินเฉิง
จริงๆถึงนายจะไม่มาที่นี่ฉันก็ตั้งใจจะไปหานายอยู่แล้ว…
หลังจากที่เทชาเพื่อที่จะไปนั่งคุยกับพวกนั้นเหลียงก็จิบเพื่อให้ชุ่มคอเสียก่อนจะเริ่มพูด ฉันรู้ว่านายสงสัยว่าทำไมฉันถึงยกตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดให้กับผู้อาวุโสฉีแต่…