I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก – บทที่ 533 บุคคลสำคัญในหยางจิง!

บทที่ 533 บุคคลสำคัญในหยางจิง!

  SC:บทที่533 บุคคลสำคัญในหยางจิง!

   ก็อย่างที่ว่าแหละว่ามูลค่าของงานวิจัยชิ้นนี้มันมีค่ามากที่สุดในโลกที่ล่มสลายแล้ว นายควรจะรู้เรื่องนี้ไว้ เมื่อนายไปถึงหยางจิง คนในเขตทหารของหยางจิงน่าจะตายกันไปเยอะแล้วกว่าที่ศาสตราจารย์ฟางจะออกไป นายคิดว่าพวกเขาทำสิ่งนี้เพื่อคนทั่วไปหรือเปล่า? 

   เขตทหารของหยางจิงนั้นมีนักวิจัยแบบศาสตราจารย์ฟางเป็นจำนวนมากเพราะงั้นพวกเราก็พอจะนึกสภาพความแข็งแกร่งของเขตนั้นได้อยู่ นี่ไม่ได้อยากจะพูดเวอร์เกินหรอกนะ แต่ถ้าพวกเราที่อยู่ในฐานสมุทรสีครามเป็นหมาพันธุ์ทิเบเตียนมัสติฟ พวกหยางจิงนั่นก็คือมังกรที่ตื่นจากการหลับไหลนั่นแหละ! นายคิดว่าแบบนี้แล้วจะมีทหารของฝ่ายไหนที่จะกล้าแตะต้องพวกเขาหรือเปล่าล่ะ?    หลังจากที่ได้ฟังชูฉิงวิเคราะห์เกี่ยวกับเขตทหารของหยางจิงแล้วหลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะหายใจออกมาแบบหนาวเย็น เพราะว่าก่อนหน้านี้เขานั้นยุ่งมากๆ จนทำให้เขาไม่ได้คิดถึงสถานการณ์ในหยางจิงแบบรอบคอบ ตอนนี้พอได้ยินชูฉิงพูด เขาก็ตระหนักได้ถึงความซับซ้อนของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ปลายทางที่เขาต้องไป!

  เมื่อเห็นหลินเฉิงดูจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆชูฉิงก็พยักหน้าช้าๆจากนั้นก็พูด  ถึงนายจะแข็งแกร่งมากๆในตอนนี้ นายก็คงจะจัดการเรื่องนี้ง่ายๆไม่ได้หรอก โดยเฉพาะในที่ที่นายจะไปนั้นคือรังมังกรและถ้ำเสือ ถ้านายยังอยากจะอาละวาดเหมือนที่อยู่ในฐานสมุทรสีคราม ฉันคิดว่านายน่าจะเจอปัญหาใหญ่แน่ๆ! แล้วไหนจะการที่เราไม่สามารถระบุจำนวนของพวกคนที่มีพรสวรรค์ระดับสูงได้อีก… 

   ฉันเข้าใจ… 

  ความเป็นห่วงของชูฉิงทำให้หลินเฉิงพยักหน้ารับด้วยความเคร่งขรึม ถึงแม้ว่าฉันไม่ได้อยากจะรบกวนนายหรอกนะ เพราะงั้นจะเตือนนายอย่างระวังละกัน 

   อืม… 

  เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงนั้นยอมฟังที่เธอพูดชูฉิงก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนจะพูดต่อ  สถานการณ์ที่หยางจิงก็ราวๆนี้แหละ ฉันไม่มั่นใจนักเกี่ยวกับสิ่งนี้ แต่ฉันพอจะแนะนำชื่อของคน 2 คนที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงภายในหยางจิงได้ ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งขนาดไหน แต่เพราะไม่ได้เป็นพวกคนทั่วไป ถ้านายเจอพวกเขา เป็นไปได้อย่าสู้กันในทันทีจะดีกว่า! 

  ในตอนนี้หลินเฉิงนั้นไม่กล้าที่จะมองชูฉิงแบบเยาะเย้ยเลยเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มาก่อน แต่หลังจากที่เธอพูดออกมา หลินเฉิงก็แสดงท่าทีแบบตรงไปตรงมา ดังนั้นเขาจึงพยักหน้ารับและพูด  เข้าใจแล้ว พูดมาได้เลย ฉันจะจำเอาไว้! 

   คนแรกเป็น เจ้าพนักงาน  ผู้ที่เรียกติดต่อมาหาฉันอยู่หลายครั้ง ชื่อของเขาคือเฉิงหมิง พวกเราติดต่อกันด้วยเครือข่ายดาวเทียมของโทรศัพท์ ฉันคิดว่าเขาน่าจะเป็นเขาของทางกองทัพของหยางจิง ตำแหน่งเหมือนกับฉัน เขาน่าจะรู้ความลับหลายๆอย่างมากกว่าที่ฉันรู้ นายน่าจะสามารถสำรวจรายละเอียดพวกนี้ได้ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า นายต้องปลอดภัย… 

  หลินเฉิงตระหนักได้ถึงความสำคัญของเธอชูฉิงเองก็รู้สึกได้ปลดปล่อย หลังจากที่กระดกเบียร์ไปอึกใหญ่ เธอก็รีบอธิบายต่อ  คนที่สองคือ  เจ้านาย  ที่อยู่ภายในกองทหารของหยางจิงเหมือนกัน เซี่ยซินไป่ เขาเป็นเจ้านายน้อย ฉันได้เคยได้ยินมาว่าดิงไฮหยวนพูดว่ามันยังมีคนใหญ่คนโตที่ไม่สามารถรู้ชื่อได้อีกมากมาย อยู่ในจดหมายที่มาจากเซี่ยซินไป่ แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นแค่เจ้านายน้อย แต่ตัวเขาเองก็มีความสำคัญอยู่ในระดับสูงเลย ถ้าไม่จำเป็นฉันก็ไม่อยากให้นายไปยั่วยุเขาหรอกนะ แน่นอนว่ามันยากสำหรับฉันที่จะเชื่อว่านายจะไม่ไปยั่วเขาเพราะความเจ้าอารมณ์ของนาย เพราะงั้น นายต้องจำเอาไว้อย่างหนึ่งเลยนะ ว่า ถ้าเมื่อไหร่นายมีปัญหาอะไรกับเซี่ยซินไป่แบบชัดเจน นายต้องแทงเขาให้ตาย! อย่าปล่อยให้เขากลับมาสร้างปัญหาได้! นั่นเพราะหยางจิงเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าที่นี่เสียเท่าไหร่ ถ้านายไม่สามารถฆ่าเซี่ยซินไป่ได้ด้วยการแทงในครั้งเดียว ปัญหาที่ตามมานั้นมันมากเกินกว่าที่นายคิดแน่ๆ! 

   เข้าใจแล้วไม่ต้องห่วง ฉันไม่เคยเมตตาศัตรูอยู่แล้ว! 

  ฟังชูฉิงอธิบายเรื่องนี้หลินเฉิงก็ดูจะจริงจังมากๆ เขาพยักหน้าและตีอกตัวเองเพื่อให้อีกฝ่ายมั่นใจ

   อืมฉันเชื่อ เพราะจากเรื่องที่นายทำไว้ก่อนหน้านี้ ไม่มีใครที่ยั่วยุนายได้แล้วจะมีชีวิตที่ที่อยู่ดีกินดี…. 

  ได้ยินหลินเฉิงให้สัญญาชูฉิงก็มองไปที่เขาแบบประหลาดใจนิดหน่อย  ฉันไม่รู้ว่านายจะอยู่ดีหรือไม่ แต่ในโลกที่กำลังอยู่ในช่วงจุดจบเช่นนี้ ฉันคิดว่านายน่าจะอยู่ได้อีกนาน แต่ฉันก็ยังรู้สึกด้วยว่า นี่ไม่ใช่แผนการที่ดีเสียเท่าไหร่… 

   ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกเลขาชู 

  หลินเฉิงส่ายหน้าช้าๆ ยังไงซะสถานการณ์ในวันสิ้นโลกนี่ก็ซับซ้อนอยู่แล้ว ฉันไม่ได้จะฆ่าทุกอย่างที่ขวางหน้าแบบนี้ เพียงแค่บางครั้งสถานการณ์มันพาไปเฉยๆ เพราะงั้นไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เลย เรื่องวางแผนชั่วร้ายฉันสู้เธอไม่ได้จริงๆ แต่ถ้าถึงเวลาที่ต้องเอาตัวรอด ยังไงเธอก็ยังแพ้แม่สาวที่อยู่ข้างๆฉันอยู่ดี! 

  ชูฉิงมองหลินเฉิงเมื่อรู้สึกว่าเขากำลังยั่วยุเธอ ฮึ่ม! โลกในตอนนี้น่ะ ใครๆก็ต้องทำเพื่อให้ตัวเองรอด ณ สถานการณ์นั้นๆก่อนทั้งนั้นแหละ! ศาสตราจารญ์ฟางเองก็ยังด้อยกว่าฉันในแง่การเอาตัวรอดเลย! เอาจริงๆนะ ฉันคิดว่าพวกลูกหลานที่ไปเป็นแขกอยู่ที่หยางจิง น่าจะยังมีชีวิตที่ดีกว่าทั้งฉันแล้วก็นายตั้งเยอะ! 

   เธอเคยไปเป็นแขกที่นั่นแล้วหรือไง?นี่กลายเป็นคนขี้โกหกไปแล้วเหรอเธอน่ะ? 

  ได้ฟังชูฉิงพูดหลินเฉิงก็รู้สึกเป็นสุขขึ้นมาทันที ฉันไม่รู้หรอกนะว่าตาเฒ่าฟางที่อยู่หยางจิงในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง แต่ถ้ายึดเอาจากสไตล์ของพวกทหารที่ฉันเจอระหว่างทางล่ะก็ ฉันกล้ายืนยันให้เธอเลยว่าชีวิตของตาเฒ่านั้นตอนนี้ก็ไม่ได้มีความสุขดีเหมือนพวกผู้รอดชีวิตที่นอนอยู่ด้านนอกนักหรอก! ถ้าเธออยากจะข่มฉันล่ะก็นะ ช่วยยกตัวอย่างที่มันดีกว่านี้หน่อย แล้วก็เลิกเอาศาสตราจารย์ฟางผู้น่าสงสารมาตอกย้ำได้แล้ว… 

   นายนั่นแหละตัวเปิดเลย! 

  ชูฉิงนั้นอยากจะเกทับแต่ว่าในหัวใจที่เข้าใจทุกอย่างของเธอนั้นก็รู้ดีว่าหลินเฉิงนั้นพูดถูกฟางซิ่วเฉิงนั้นคือ 1 ในการทดลองที่ไร้สมองที่ซึ่งไม่มีใครเศร้ากับผลลัพธ์ เขานั้นเป็นได้แค่เพียงคนที่ถูกกักบริเวณไว้ในบ้าน หรือบางทีก็อาจจะกลายเป็นสมบัติของใครซักคน!

  มองไปยังใบหน้าโกรธของชูฉิงหลินเฉิงก็หัวเราะและโบกมือให้เธอใจเย็นลง จากนั้นเขาก็ถามเธอ  นอกจาก 2 คนที่ว่ามานี้ยังมีคนอื่นในหยางจิงที่ฉันต้องใส่ใจอีกไหม? 

   ไม่มี! 

  เห็นใบหน้ายิ้มของหลินเฉิงแล้วชูฉิงก็อดไม่ได้ที่จะขบฟันเสียงดังก่อนจะพูด  ฉันเป็นแค่ลาขาของผู้บังคับบัญชาสูงสุด เพราะงั้นเลยจะไม่ได้รู้เรื่องพวกนี้มากนัก ถ้านายอยากรู้เรื่องมากกว่านี้ นายต้องไปถามเอาจากผีดิงไฮหยวนเองเกี่ยวกับสถานการณ์ในหยางจิง แต่ถึงนายจะพาเขากลับมาจากความตายได้ ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะสามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์หรือเบาะแสอะไรกับนายได้หรอกนะ พูดอย่างจริงจังเลยจะบอกว่าฐานสมุทรสีครามของพวกเรากับหยางจิงนั้นเป็นพวกที่มีความสัมพันธ์กันแปลกๆ มันเหมือนกับพวกผู้ดูแลกับผู้ติดตาม แถมพวกเรายังมีคุณสมบัติไม่พอที่จะถามหลายๆเรื่องเกี่ยวกับฐานหยางจิงด้วย… 

   เพราะงั้น…    เขาไม่สามารถหารายละเอียดอื่นเพิ่มเติมได้จากปากของชูฉิงถึงแม้ว่าหลินเฉิงจะผิดหวังนิดหน่อยแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เพราะข้อมูลทั้งหมดที่ไม่คาดคิดจากเธอเปรียบเทียบกับการสำรวจแบบไม่ได้เตรียมพร้อมของเขา มันสามารถช่วยเปิดเผยมุมมองเล็กๆสำหรับเขาได้ ซึ่งนั่นไม่เพียงช่วยทำให้เขาสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายได้มากมาย แต่ยังสามารถหาทางแก้ในกรณีเจอจุดที่ยุ่งยากของเกมนี้ด้วย!

 

I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก

I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing

末世胶囊系统 เรื่องย่อ : หลินเฉิงได้ผูกมัดกับระบบแคปซูล ตราบใดที่เขามีค่าพลังงานเพียงพอ เขาสามารถแลกเปลี่ยนกับของเหล่านี้ได้ เช่น แคปซูลอาวุธ เครื่องป้องกัน  รถ  บ้าน หรือแคปซูลที่เพิ่มความสามารถต่างๆ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้หลินเฉิงดีใจ เพราะมันหมายความว่า เขาจะต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ ในวันสิ้นโลกที่จะมาถึง….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท